มีสื่อเสี้ยมบางสำนักที่มักใช้วิธีตุกติกในการพาดหัวหรือนำเสนอข่าวเพื่อชี้นำให้คนเข้าใจว่า เป็นกฎหมายที่รัฐใช้ลิดรอนเสรีภาพและรังแกประชาชน
เนื้อความของข่าวพวกนี้ มักจะเสนอในลักษณะ เอาข้อเท็จจริง มาพูดไม่หมด
พูดแค่ครึ่งๆ กลางๆ แล้วชี้นำเบี่ยงประเด็นให้คนอ่านเกิดความรู้สึกว่า คนที่ออกมาเรียกร้องยกเลิก คือผู้ถูกกลั่นแกล้ง พวกเขาแค่ออกมาปราศรัยก็โดนฟ้อง อ่านแถลงการณ์ก็โดนฟ้อง พูดอะไรนิดๆ หน่อยๆ ก็โดน แม้แต่ใส่ชุดไทยก็ยังโดนคดี ใครที่เปราะบางหน่อย โดยเฉพาะคนที่ชอบคล้อยไปกับเรื่องต่างๆ ด้วยอคติ ก็จะตกเป็นเครื่องมือของสื่อพวกนี้ไปทันที
ถ้าจะพูดถึงคนที่โดนคดี สิ่งที่สำคัญคือ
เราต้องพูดคุยกันในประเด็นที่ว่า “มีการดูหมิ่น หมิ่นประมาท แสดงความอาฆาตมาดร้าย ด้วยพฤติการณ์อย่างไร บุคคลเหล่านั้นจึงถูกดำเนินคดี” ไม่ใช่ออกมาบิดเบือนว่า แค่ปราศรัย แค่อ่านแถลงการณ์ แค่พิมพ์หรือแจกหนังสือ หรือแค่แต่งชุดไทยก็โดน
และการที่ศาล จะพิจารณาว่าพฤติการณ์ของจำเลยเข้าข่ายองค์ประกอบความผิดหรือไม่นั้น เขาพิจารณาจากความรู้สึกนึกคิดของคนทั่วๆ ไป ไม่ได้พิจารณาจากความรู้สึกของคนที่ใส่ความหรือผู้ถูกใส่ความเพียงอย่างเดียว ซึ่งองค์ประกอบความผิดที่ว่านี้ก็ระบุเป็นตัวบทกฎหมายอยู่แล้ว
กฎหมายหมิ่นฯ บุคคลทั่วไป ข้อเท็จจริงพวกนี้จะว่าไปมันก็ไม่ได้ยากเย็นเกินทำความเข้าใจเลย เพียงแต่คนที่ไม่ยอมเข้าใจ และยังพยายามบิดเบือนความจริง ด้วยอคติส่วนตัว ก็เป็นเพราะคนพวกนี้หวังจะยกเลิก ด้วยจุดประสงค์บางอย่างมากกว่า
สำหรับคนที่โดนคดี ที่ผ่านมา มีพฤติการณ์อย่างไร ที่เรียกได้ว่าเข้าข่ายองค์ประกอบความผิด ภาพของการปราศรัยในที่ชุมนุม การอ่านแถลงการณ์ หรือแม้แต่งานอีเวนต์ชุดไทย ที่ถูกพูดถึงกันอยู่ช่วงหนึ่ง แท้จริงแล้ว กลับเต็มไปด้วยพฤติกรรมดูหมิ่น หมิ่นประมาท ขนาดไหน ไปค้นหาคำตอบกันได้ในคลิปวิดีโอนี้
ที่มา.
https://www.luehistory.com/
VIDEO เคลียร์ชัดๆ ผู้ชุมนุมประท้วงโดนคดีเพราะอะไร?
เนื้อความของข่าวพวกนี้ มักจะเสนอในลักษณะ เอาข้อเท็จจริง มาพูดไม่หมด
พูดแค่ครึ่งๆ กลางๆ แล้วชี้นำเบี่ยงประเด็นให้คนอ่านเกิดความรู้สึกว่า คนที่ออกมาเรียกร้องยกเลิก คือผู้ถูกกลั่นแกล้ง พวกเขาแค่ออกมาปราศรัยก็โดนฟ้อง อ่านแถลงการณ์ก็โดนฟ้อง พูดอะไรนิดๆ หน่อยๆ ก็โดน แม้แต่ใส่ชุดไทยก็ยังโดนคดี ใครที่เปราะบางหน่อย โดยเฉพาะคนที่ชอบคล้อยไปกับเรื่องต่างๆ ด้วยอคติ ก็จะตกเป็นเครื่องมือของสื่อพวกนี้ไปทันที
ถ้าจะพูดถึงคนที่โดนคดี สิ่งที่สำคัญคือ
เราต้องพูดคุยกันในประเด็นที่ว่า “มีการดูหมิ่น หมิ่นประมาท แสดงความอาฆาตมาดร้าย ด้วยพฤติการณ์อย่างไร บุคคลเหล่านั้นจึงถูกดำเนินคดี” ไม่ใช่ออกมาบิดเบือนว่า แค่ปราศรัย แค่อ่านแถลงการณ์ แค่พิมพ์หรือแจกหนังสือ หรือแค่แต่งชุดไทยก็โดน
และการที่ศาล จะพิจารณาว่าพฤติการณ์ของจำเลยเข้าข่ายองค์ประกอบความผิดหรือไม่นั้น เขาพิจารณาจากความรู้สึกนึกคิดของคนทั่วๆ ไป ไม่ได้พิจารณาจากความรู้สึกของคนที่ใส่ความหรือผู้ถูกใส่ความเพียงอย่างเดียว ซึ่งองค์ประกอบความผิดที่ว่านี้ก็ระบุเป็นตัวบทกฎหมายอยู่แล้ว
กฎหมายหมิ่นฯ บุคคลทั่วไป ข้อเท็จจริงพวกนี้จะว่าไปมันก็ไม่ได้ยากเย็นเกินทำความเข้าใจเลย เพียงแต่คนที่ไม่ยอมเข้าใจ และยังพยายามบิดเบือนความจริง ด้วยอคติส่วนตัว ก็เป็นเพราะคนพวกนี้หวังจะยกเลิก ด้วยจุดประสงค์บางอย่างมากกว่า
สำหรับคนที่โดนคดี ที่ผ่านมา มีพฤติการณ์อย่างไร ที่เรียกได้ว่าเข้าข่ายองค์ประกอบความผิด ภาพของการปราศรัยในที่ชุมนุม การอ่านแถลงการณ์ หรือแม้แต่งานอีเวนต์ชุดไทย ที่ถูกพูดถึงกันอยู่ช่วงหนึ่ง แท้จริงแล้ว กลับเต็มไปด้วยพฤติกรรมดูหมิ่น หมิ่นประมาท ขนาดไหน ไปค้นหาคำตอบกันได้ในคลิปวิดีโอนี้
ที่มา. https://www.luehistory.com/