ซิงเจียหยู่อี่ ซิงนี้ฮวกไช้  ตรุษจีนปีนี้ขอให้ทุกท่านสุขภาพดี มีแต่ความสุขนะคะ

"ชุงโจ่ย" วันขึ้นปีใหม่ของจีน ซิงเจียหยู่อี่ ซิงนี้ฮวกไช้ 
วันนี้ 21 มค. 66 ถือเป็นวันสิ้นปี (ก๊วยนี้โจ่ย) ลูกหลานเชื้อสายจีนจะจัดเตรียมอาหารคาว หวาน 
ผลไม้ กระดาษเงิน กระดาษทอง ไหว้บรรพบุรุษ ไหว้ฮอเฮียตี๋ ตกเที่ยงคืนหรือเช้ามืดของวันพรุ่งนี้ "ไฉ่สิ่งเอี๊ย" 
เทพเจ้าแห่งโชคลาภและความมั่นคง จะลงมาประทานพร ให้โชคให้ลาภแก่มนุษย์โลกแล้วค่ะ 
เป็นการต้อนรับปีใหม่ (ตรุษจีน) อย่างอุดมสมบูรณ์ และมั่งคั่งที่สุด
.
พูดถึงตรุษจีน ความทรงจำในวัยเด็กก็ผุดขึ้นมา ถ้ามี Time machine ย้อนเวลากลับไปได้ แม่นันอยากกลับไปเป็นเด็กน้อยในวันนั้น
เดินจูงแขนอาอึ้ม (คุณแม่) พากันขึ้นรถสามล้อ ออกไป "ไป๊เจีย" (สวัสดีปีใหม่) ญาติผู้ใหญ่ตามบ้านต่างๆ

คิดว่าหลายๆท่านก็คงคิดถึงวันนั้น .. 
"โน๊วอ่า..ไหล่ เซียวหู่ อาอึ้ม เปา ซี้ไก่กา คื้อ ไป๊เจี๊ย อาโกว"  (ลูกจ๋า..มาช่วยแม่ห่อส้มสี่ใบไปสวัสดีปีใหม่คุณป้ากัน") 

ได้ยินเรื่องเที่ยวเด็กน้อยในวันนั้นหูผึ่งขึ้นมาทันทีค่ะ โดยเฉพาะเวลาที่จะได้ใส่ชุดสวยไปนั่งรถสามล้อ 
เวลาคนขับบิดที..ใบหน้าเด็กน้อยก็จะได้โต้ลมสนุกสนานที่สุด ที่สนุกกว่าคือถ้าโชเฟอร์บิดแรงกว่านั้น..
ก้นเราก็จะกระเด้งลอยออกจากเบาะ จับไม่ดีมีโขกหลังคารถแน่ค่ะ
วันตรุษจีนถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ของคนจีน ตามประเพณีจีนจะต้องนำส้มสี่ผล มาห่อด้วยผ้าเช็ดหน้า 
จับปลายมุมผ้าเช็ดหน้าทั้งสี่มุมผูกเข้าด้วยกัน แล้วก็นำไปสวัสดีปีใหม่ พร้อมขอพรจากญาติผู้ใหญ่ 
แม่นันชอบตอนนี้ล่ะค่ะ เพราะเวลาญาติผู้ใหญ่ได้รับห่อส้มพร้อมคำสวัสดีปีใหม่จากเราแล้ว ก็จะแกะปลายผ้าออก 
หยิบส้มออกมาหนึ่งลูกหรือสองลูก แล้วใส่ผลใหม่กลับคืนในห่อผ้า ผูกให้เรียบร้อย ยื่นกลับพร้อมอวยพรให้พวกเรา 
ซึ่งก็มักจะขึ้นต้นด้วยคำกล่าวสวัสดีปีใหม่ (ซิงเจี่ย หยู่อี่ ซิงนี้ ฮวกไช้) 
แล้วก็ล้วงกระเป๋าหยิบเอาซองอั่งเปาสีแดง/ สีชมพูออกมาแต๊ะเอียให้อาหมวยน้อยคนนี้ 
ถ้าในบ้านที่เราไปเยี่ยมมีเด็กอยู่ด้วย อาอึ้มก็ต้องให้อั่งเปากับเด็กในบ้านด้วยเช่นกัน เป็นช่วงเวลาที่เด็กๆมีความสุขที่สุด 
ขากลับได้อั่งเปามาหลายซอง ได้ของเล่นเป็นดาบไม้ยาวๆปลายสีแดง ได้ป๋องแป๋งด้วย เดินหมุนป๋องแป๋งไปตลอดทาง
โตขึ้นมาถึงวัยเรียนหนังสือ พอถึงวันตรุษจีนที คุณครูก็จะให้หยุดทีละหลายๆวัน 
สมัยนั้นถือวันตรุษจีนเป็นวันหยุดพิเศษให้เหล่าอาตี๋อาหมวยในประเทศไทยทั้งหลายได้ไปกราบไหว้บรรพบุรุษ 
หยุดทีห้าหกวันเลยค่ะ วันจ่าย วันไหว้ วันเที่ยว และเที่ยวต่ออีกยาวๆ เหล่าเพื่อนคนไทยก็พลอยได้อานิสงข์ไปด้วย 
ได้กินเป็ดกินไก่หลังตรุษจีนของบ้านเพื่อนกันอิ่มแปร้
ตอนเด็กๆแม่นันเคยถามอาอึ้มว่า ผู้ใหญ่ต้องให้อั่งเปาเด็กๆทุกปีเลยเหรอคะ 
ถ้าหนูโตแล้ว เรียนจบแล้ว ทำงานแล้ว จนหนูแต่งงานแล้ว ก็ยังได้อั่งเปาเหมือนเดิมเหรอคะ 
(ถามเหมือนในโลกนี้มีนางคนเดียว เด็กคนอื่นๆทั้งโลกจะไม่ได้เกิด ฮ่าฮา)
อาอึ้มตอบว่า "บ๊อหน่อ อู่คังข่วยจ่อ, อู่กังจือ, จู่เตียะ แต้ะ อั่งเปา ไห่แป่ไอ๊. โหะซุงหม่วย" 
(ไม่ใช่อย่างนั้น พอหนูโต มีงานทำ มีเงินเดือน ก็ต้องให้อั่งเปาพ่อแม่ น้องๆหลานๆ เราเองก็จะไม่ได้อั่งเปาจากใครแล้ว 
เพราะถือว่าเราโตเป็นผู้ใหญ่อย่างสมบูรณ์แล้ว)
อาอึ้มพูดไว้ไม่ผิดเลยค่ะ ....ในวันตรุษจีนปีหนึ่ง แม่นันขับรถจากกทม.เพื่อจะนำอั่งเปาไปให้อาอึ้มที่บ้านสามพราน 
ขณะกำลังจะถึงหน้าบ้าน หลานๆได้ยินเสียงรถอาอี๊/อาโกวคนนี้ เด็กๆต่างวิ่งกรูออกมาหน้าบ้านพร้อมตะโกนให้ได้ยินแต่ไกล 
"ซิงเจี่ย หยู่อี่ ซิงนี้ ฮวกไช้ อั่งเปา ตั่วๆ ไก๊"
แม่นันเห็นแล้วก็อดชำเลืองซองในกระเป๋าตัวเองไม่ได้ ขำเด็กๆด้วย 
แม่นันจึงแกล้งเบรครถแล้วขับถอยหลังช้าๆ ประมาณว่า "ถอยดีกว่า"
เด็กๆวิ่งไล่ตาม..โบกไม้โบกมือไม่ให้กลับ อาอึ้มเดินตามหลานๆออกมา 
แม่นันเห็นใบหน้าเปื้อนยิ้มของอาอึ้ม.. เป็นช่วงเวลาหนึ่งที่น่าจดจำมากค่ะ
โห.หลานแม่นันเยอะมาก เยอะจริงๆ ตรุษจีนทียั้วเยี้ยไปหมดเลย ...ปีที่แล้วนั่งนับกับอาหลักแจ้ (พี่สาวคนที่หก) 
นับวนไปวนมาเรามีหลานเหลนถึง 46 คนแล้ว (ยังไม่รวมที่เกิดใหม่อีกปีนี้นะคะ) พระเจ้า...เยอะจริง
แม่นันมีพี่น้อง 10 คน แม่นันคนเล็กค่ะ หลานคนโตอายุเท่าแม่นัน ลูกแม่นันมีศักดิ์เป็นอากู๋/อาเจ็กตั้งแต่อยู่ในท้อง 
นึกแล้วก็ขำจริงๆค่ะ จริงๆแม่นันมีศักดิ์เป็นอาเหล่าอี๊แล้วนะคะ แต่ให้หยุดอยู่แค่ "อาอี๊" เท่านั้น ไม่งั้นเป็นลมค่ะ ฮ่าฮ่า

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่