JJNY : 5in1 สอบร.ต.อ.ดูแลสาวจีน│พท.ฟันธง นายกฯไม่กล้ายุบ│'ก้าวไกล'โต้รบ.│โต๊ะจีนนครปฐมกำลังซื้อต่ำ│ขึ้นบัญชี “แวกเนอร์”

สอบร.ต.อ. ดูแลสาวจีนแล้ว หากพบทำหลายครั้ง ลงโทษขั้นเด็ดขาด
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7470453
 
 
สั่งตั้งกก.สอบ ร.ต.อ.ดูแลสาวจีน จัดรถขบวนมารับแลกเงิน สงสัยทำเป็นขบวนการ ก่อเหตุกี่ครั้ง หากพบข้อเท็จจริง จะลงโทษขั้นเด็ดขาด ไม่ให้ใครเอาเยี่ยงอย่าง
 
วันที่ 21 ม.ค.2566 พล.ต.ต.อภิชาติ สุริบุญญา โฆษกกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เผยว่าทางหน่วยงานได้ตั้งกก.สอบ ร.ต.อ.ในสังกัด หลังปรากฏตัวในคลิปสาวจีนจ่ายเงินตำรวจแลกกับการดูแลแบบวีไอพี จัดรถขบวนมาดูแล เป็นกระแสฮือฮาอย่างมาก ทั้งนี้ตำรวจนายดังกล่าว สังกัดกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 1 ตำแหน่งรองสารวัตร รับผิดชอบดูแลสนามบินสุวรรณภูมิ
 
สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อกลางดึกวันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยนักท่องเที่ยวรายนี้เดินทางมาไทย พร้อมแม่ โดยทางตำรวจไม่มีนโยบายอำนวยความสะดวกดูแลนักท่องเที่ยวรายใดเป็นพิเศษ
  
ขณะนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยด่วนแล้วรีบรายงานให้ทราบ เพื่อจะได้สนับสนุนข้อมูลทางจเรตำรวจแห่งชาติที่จะมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงไปด้วย โดยกำชับให้ร.ต.อ.นายดังกล่าวให้ความร่วมมือในการตรวจสอบอย่างเต็มที่
 
สำหรับการตรวจสอบนี้ เพื่อมุ่งเน้นว่าการกระทำของร.ต.อ.และลูกน้องนั้น ก่อเหตุมากี่ครั้งแล้วทำเป็นกระบวนการหรือไม่ โดยจะมีการพิจารณาโทษอย่างเด็ดขาด เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างเสื่อมเสียแก่หน่วยงานอีก
 
อย่างไรก็ดีทางพล.ต.ต.อภิชาติ ได้ขอขอบคุณสื่อมวลชนและประชาชนที่ร่วมตรวจสอบพฤติกรรมของข้าราชการตำรวจที่ไม่เหมาะสม อันนำไปสู่การทำให้การท่องเที่ยวไทยโปร่งใส
 


เพื่อไทยฟันธง นายกฯไม่กล้ายุบสภาหนีซักฟอก ขืนทำเหมือนฆ่าตัวตาย
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7470481
 
เมื่อวันที่ 21 ม.ค.2566 นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย(พท.) กล่าวถึงความคืบหน้าการเตรียมอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามมาตรา 152 ซึ่งรัฐบาลยืนกรานให้เวลาแค่ 2 วันว่า ในวันที่ 25 ม.ค.เวลา 15.00 น. คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิป) 3 ฝ่ายจะประชุมกัน โดยมีนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภา คนที่หนึ่ง เป็นประธานการประชุม เราจะพูดถึงเรื่องนี้กับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ด้วย ยืนยันที่จะขอ แต่คงไม่พูดถึงจำนวนวัน จะพูดถึงจำนวนชั่วโมงมากกว่า ซึ่งเราต้องได้ไม่น้อยกว่าเดิม
 
หากได้แค่ 2 วันแต่จำนวนชั่วโมงต้องไม่น้อยกว่าเดิม เราจะสามารถจัดสรรได้ เพราะเคยทำมาแล้ว โดยอาจอภิปรายดึกหน่อย แต่หากจะให้สบายๆ เช้าเลิกเย็น ก็ควรให้ 3 วัน ไม่ต้องไปเลิกตีหนึ่ง ตีสอง ซึ่งจะเหนื่อยกันทุกฝ่าย และยืนยันว่าอยากได้วันอภิปรายก่อนวันที่ 15 ก.พ. แต่เท่าที่คุยกับนายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกฯ บอกว่ารัฐมนตรีบางท่านติดเดินทางไปต่างประเทศ ตนก็บอกให้ขอให้ท่านไปคุยกันใหม่ เจรจานอกรอบไปแล้ว แต่เขาแจ้งความจำนงว่าอยากได้หลังวันที่ 15 ก.พ.
 
เมื่อถามว่าจะมีการชิงยุบสภา เพื่อหนีการอภิปรายหรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า หากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ชิงยุบสภาก่อนซักฟอก ก็เหมือนฆ่าตัวตายไปในตัว คนเป็นนายกฯ ไม่ทำหรอก เพราะประกาศตลอดว่าไม่กลัวการอภิปราย หากชิงหนีไปก็แสดงว่าเขากลัวฝ่ายค้าน เขาจะเสียเอง ฉะนั้น ตนยังมั่นใจว่าพล.อ.ประยุทธ์อาจไม่กล้ายุบสภาในช่วงนี้
 


'ก้าวไกล' โต้รัฐบาลแถลงเศรษฐกิจดี ใช้ตัวเลขปีก่อนซึ่งมีฐานต่ำเนื่องจากฟื้นตัวจากโควิด
https://prachatai.com/journal/2023/01/102392

รองหัวหน้าพรรคก้าวไกลโต้รัฐบาล ที่แถลงเศรษฐกิจดีใช้ตัวเลขปีก่อนซึ่งมีฐานต่ำเนื่องจากฟื้นตัวจากโควิด-19 ช้าสุดกว่าทุกประเทศ เชื่อเศรษฐกิจครึ่งปีหลังจะดีถ้ามีรัฐบาลใหม่ 
 
21 ม.ค. 2566 ทีมสื่อพรรคก้าวไกล แจ้งข่าวว่า ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้ความเห็นต่อกรณีที่รัฐบาลออกมาแถลงข่าวที่ว่า นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าเศรษฐกิจไทยจะโตพุ่ง โดยอ้างอิงจากตัวเลขเศรษฐกิจของไตรมาส 3/2565 (เดือน มิ.ย.-ก.ย. 2565) ที่โต 4.5% เท่ากับเป็นจับแพะชนแกะว่าเศรษฐกิจในอนาคตจะดี เพราะนั่นเป็นการเติบโตจากฐานที่ต่ำจากปีก่อนหน้า เนื่องจากประเทศไทยฟื้นตัวจากโควิดช้าที่สุดเพราะรัฐบาลเยียวยาไม่ถูกจุด ทำเศรษฐกิจไทยโตฝืด
 
ส่วนสถานการณ์เศรษฐกิจในปีนี้ ต้องยอมรับว่าไม่น่าจะพุ่งเนื่องมาจากปัจจัยเศรษฐกิจโลก เพราะภาวะเงินเฟ้อทั่วโลก ทำให้ทุกประเทศขึ้นดอกเบี้ยเผื่อแตะเบรกเงินเฟ้อ
 
ส่วนภาคส่งออกของประเทศไทย ซบเซามามามากกว่าครึ่งปีแล้ว นายกรัฐมนตรีไปอยู่ที่ไหนมาถึงได้เอาตัวเลขของไตรมาส 3 ของปีที่แล้วมาพูด แทนที่จะหามาตรการประคับประคองไม่ให้ผลจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวกระทบกับการจ้างงาน และช่วยเหลือบรรเทาค่าครองชีพประชาชน แต่โดยส่วนตัวเชื่อว่าเศรษฐกิจในปีนี้จะดีขึ้นอย่างแน่นอนเพราะหลังเลือกตั้งเราจะได้รัฐบาลใหม่ และมีนายกคนใหม่ที่เข้าใจเศรษฐกิจดีกว่านี้” ศิริกัญญากล่าวทิ้งท้าย


  
โต๊ะจีน นครปฐมกำลังซื้อต่ำ วอนรัฐพยุงต้นทุน-แรงงานขาด
https://www.prachachat.net/local-economy/news-1181725

เริ่มฟื้นตัวกลับมาแล้วสำหรับธุรกิจโต๊ะจีนจังหวัดนครปฐม ซึ่งถือเป็นศูนย์รวมธุรกิจโต๊ะจีนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ในยุคที่รุ่งเรืองเคยประเมินรายได้กว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี แต่หลังจากสถานการณ์โควิด-19 ระบาด ธุรกิจโต๊ะจีนเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ได้รับผลกระทบหนักหนาสาหัส
 
แม้หลังจากโควิด-19 คลี่คลายลูกค้าต่างเริ่มกลับมาจัดงานเลี้ยงต่าง ๆ นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2565 แต่ยังไม่เข้าสู่ภาวะปกติ สถานการณ์ก็ถือว่าดีต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

ขณะเดียวกันผู้ประกอบการเริ่มประสบปัญหาต้นทุนพลังงาน ทั้งราคาน้ำมัน แก๊ส และค่าไฟ ที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อค่าแรง การขนส่ง รวมถึงภาวะเงินเฟ้อที่ทำให้ต้นทุนวัตถุดิบทุกอย่างปรับตัวพุ่งทะลุ 100% สวนทางกับกำลังซื้อที่ลดน้อยลงเรื่อย ๆ
 
ลูกค้าจัดเลี้ยงสุดประหยัด
 
“ประพฤติ อรรฆธน” ประธานชมรมธุรกิจโต๊ะจีนจังหวัดนครปฐม และเจ้าของธุรกิจโต๊ะจีนยุทธพงษ์โภชนา เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า หลังจากรัฐบาลผ่อนปรนมาตรการควบคุมโควิด-19 ผู้ประกอบการก็เริ่มกลับมามีงานทำในงานเทศการและการจัดเลี้ยงต่าง ๆ ตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน แต่ยังคงเป็นงานเลี้ยงที่ไม่ใหญ่มากนัก ขั้นต่ำ 5-10 โต๊ะ/งาน เฉลี่ยมากสุดประมาณ 20-50 โต๊ะ/งาน งานใหญ่ระดับ 100 โต๊ะขึ้นไปแทบไม่มี

และที่เป็นปัญหาใหญ่ในตอนนี้ คือต้องสู้ราคากับวัตถุดิบที่แพงขึ้น 50-100% ย้ำว่าทุกประเภท และส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าเกรด A โดยเฉพาะอาหารทะเลที่ไม่เคยราคาสูงเท่านี้มาก่อน เช่น เนื้อปู กุ้ง ปลา ที่มาจากภาคใต้ นอกจากนี้ราคาหมู ราคาไก่ ก็สูงขึ้นไม่แพ้กัน ยกตัวอย่างราคาหมูที่เคยซื้อได้ 120 บาท/กก. เพิ่มขึ้นเป็น 200 กว่าบาท/กก.
 
ขณะที่ทุกอย่างแพงขึ้น เรากลับไม่สามารถอัพเดตราคาการขึ้นตามได้มากนัก เพราะลูกค้าจะบอกว่าแพงและไม่มีกำลังซื้อเพียงพอ ลูกค้าต้องคิดแล้วคิดอีกเพื่อจัดงานเลี้ยงให้ประหยัดที่สุด อย่างงานแต่งงานที่เคยเลี้ยงแขกช่วงเช้าช่วงเย็น
 
ตอนนี้ต้องการจัดแบบกระชับและเลี้ยงแขกช่วงเดียวจบ มีลูกค้าเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่ยอมจ่ายและเข้าใจถึงสถานการณ์ มีผู้ประกอบการบางรายที่รับเงินมัดจำเตรียมจัดโต๊ะล่วงหน้าจากลูกค้าไว้ก่อน พอสินค้าราคาพุ่งก็จัดโต๊ะให้ลูกค้าไม่ได้ เพราะรายรับไม่พอจ่าย อยู่ไม่ไหวต้องเลิกกิจการและถูกแจ้งความดำเนินดีก็มี
 
ค่าจ้างแพง-แรงงานขาด
 
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการธุรกิจโต๊ะจีนในจังหวัดนครปฐมที่เคยสำรวจไว้เพื่อขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลช่วงที่โควิด-19 ระบาดมีอยู่ประมาณ 228 ราย แต่ปัจจุบันไม่ทราบว่าเหลือเท่าไหร่แล้ว เท่าที่เห็นล้มกิจการไม่ต่ำกว่า 20% ขณะเดียวกันก็เริ่มฟื้นตัว แต่ต้องรอดูอนาคตว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป
ปัจจัยที่ทำให้วัตถุดิบราคาสูงมีทั้งราคาน้ำมันแพง เรือประมงออกจับสัตว์น้ำไม่ได้ เรือจากต่างประเทศที่เราต้องซื้อวัตถุดิบก็เข้าเทียบท่าน้อยลง และไปเทียบท่าที่ทวายมากกว่า คนไทยจึงต้องรับภาระขนส่งเองแล้วบวกค่าขนส่งเพิ่มขึ้น เมื่อนำมาปรุงเป็นวัตถุดิบค่าแก๊สหุงต้มค่าไฟก็แพงอีก
 
นอกจากนี้ค่าแรงพนักงานยังสูงขึ้นด้วย แรงงานบางส่วนหายไปช่วงโควิด-19 และยังไม่สามารถหาแรงงานมาทดแทนได้เต็มจำนวน โดยการจ่ายค่าแรงจะไม่คิดเหมาจ่ายเป็นรายวันตามค่าแรงขั้นต่ำเหมือนอดีต แต่จะคิดราคาที่ 120-150 บาท/โต๊ะ/งาน/วัน หรือแล้วแต่กรณีตามความยากง่าย เช่น จัดโต๊ะอยู่บนห้องโถงชั้น 2 ราคาบวกเพิ่มขึ้นอีก 20 บาท/โต๊ะ ชั้น 3 บวกเพิ่มอีก 40 บาท/โต๊ะ เป็นต้น
 
ยกตัวอย่างแรงงานที่เป็นพนักงานเสิร์ฟ 1 คน จะเสิร์ฟอาหารประมาณ 9-10 โต๊ะ หรือแล้วแต่กรณี หากต้องเดินทางไปต่างจังหวัดด้วยค่าแรงจะบวกเพิ่มขึ้นอีก 2 เท่า ผู้ประกอบการต้องจ่ายค่าเดินทางให้พนักงานด้วย คล้ายว่าอาชีพนี้เป็นอาชีพพิเศษที่ใครทำก็ได้ มีข้าว มีอาหารให้กินฟรี แต่พอส่งเรื่องไปยังจัดหางานจังหวัดกลับไม่มีคนทำ
 
วอนรัฐลดหย่อนภาษี
 
สำหรับยุทธพงษ์โภชนา ตอนนี้มักถูกจ้างจัดเลี้ยงส่วนใหญ่ไม่เกิน 50 โต๊ะ/งาน เนื่องจากช่วงโควิด-19 ลูกค้าก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน ตัวอย่างงานเลี้ยงบริษัท จะจัดเลี้ยงในราคาย่อมเยาหรือลดขนาดลงกว่าที่ผ่านมา ใช้จ่ายประหยัดมากขึ้น และลูกค้ารวมทั้งผู้ประกอบการจัดโต๊ะจีนก็ยังต้องป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด 100% เหมือนเดิม จึงไม่จัดงานเลี้ยงใหญ่โตเท่าไหร่ เฉลี่ยงานต่อเดือนยังไม่แน่นอน
 
ประพฤติ” กล่าวว่า ยุทธพงษ์โภชนารับจัดโต๊ะจีนทุกงานทุกขนาดตั้งแต่ 5 โต๊ะขึ้นไป ไม่ว่าจะเป็นงานแต่งงาน งานขึ้นบ้านใหม่ งานเลี้ยงสังสรรค์ งานบวช หรืองานศพ ราคาตามคุณภาพเริ่มต้นที่ 2,200 บาท/โต๊ะ แต่ถ้าระยะทางไกลต้องเพิ่มค่าขนส่งอีก บางงานกำไรน้อยหน่อยแต่ต้องทำเพื่อต่อเส้นเลือดธุรกิจเลี้ยงตัวเองให้ได้ก่อน
 
“2 ปีที่ผ่านมาแย่มาก ถ้ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นหรือโควิด-19 กลับมาอีกธุรกิจคงล่มสลาย เราทำธุรกิจรับจัดโต๊ะจีนร่วมกับพ่อครัวและทีมงานมานานกว่า 20-30 ปี ถ้าต้องหันมาทำดีลิเวอรี่หรือปรับเปลี่ยนเราไม่ถนัดและไม่มีความสามารถมากพอ แม้ตอนนี้วัตถุดิบจะแพงขึ้นก็เข้าใจว่าทุกอย่างเป็นไปตามกลไกตลาด เราผ่านวิกฤตมาแล้วและเรียกร้องหรือขออะไรก็ไม่ได้รับการตอบรับเลย แต่ตอนนี้แค่อยากให้รัฐบาลช่วยเก็บภาษีน้อยลงหน่อยให้อยู่ได้ก่อน ขอความกรุณาลดหย่อนให้เราบ้าง”
 
ผู้ประกอบการเริ่มฟื้น 60%
 
ด้าน “สุชาดา คำใหญ่” กรรมการผู้จัดการ บริษัท นครปฐมแคทเทอริ่ง แอนด์ ออร์กาไนเซอร์ จำกัด หรือแคทเทอริ่ง โต๊ะจีน หนึ่งในผู้ประกอบการโต๊ะจีนนครปฐม ให้สัมภาษณ์ “ประชาชาติธุรกิจ” สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันว่า ตอนนี้สถานการณ์ของผู้ประกอบการธุรกิจโต๊ะจีนดีขึ้น ลูกค้าเริ่มจัดงานแต่งงาน จัดเลี้ยงบริษัท

รวมถึงงานเลี้ยงหน่วยงานราชการ ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2565 เป็นต้นมา กระแสเดือนธันวาคม 2565 ค่อนข้างดีขึ้นต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ผู้ประกอบการโต๊ะจีนน่าจะฟื้นกลับมาได้แล้วประมาณ 60% ทุกคนล้วนมีงาน แต่ลูกค้าส่วนใหญ่จัดงานเพียง 40-80 โต๊ะ/งาน ซึ่งถือว่ายังน้อย

“แต่ก่อนนครปฐมแคทเทอริ่งจะได้ลูกค้ากลุ่มโรงงานเยอะมาก หลังจากโควิด-19 บริษัทบางแห่งที่ได้รับผลกระทบต่อเนื่องมานานนับปีก็มีข้อจำกัดในการจัดเลี้ยงพนักงาน เช่นเดียวกับงานแต่ง งานบวช ที่จัดเป็นงานขนาดเล็ก คนยังไม่มีเงินใช้จ่ายไปกับการจัดเลี้ยงมากนัก

โดยภาพรวมธุรกิจยังไม่เข้าสู่ภาวะปกติ แต่ในปี 2566 งานเลี้ยงที่เห็นได้ชัดว่ามีแนวโน้มจะถูกจัดมากที่สุดน่าจะเป็นงานแต่งงาน ลูกค้าบางคนเคยเลื่อนจัดไป 3-4 รอบเริ่มกลับมาและคาดว่าปลายปีนี้งานแต่งงานจะพีกที่สุด”
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่