เช้านี้เดินทางมุ่งหน้าสู่อุทยานแจ้ซ้อน ดูระยะทางจากแผนที่แล้วห่างกันแค่ไม่กี่ชั่วโมง รอบนี้ไม่ต้องรีบเท่าไรเพราะว่ากางเต็นท์เป็นแล้ว เลยคิดว่าไม่น่าใช้เวลานานเท่ารอบแรก โดยเรานัดพี่ที่ชวนกันไปว่าให้ไปเจอกันที่นั่นเลย เพราะเราชอบแวะ ถ้าเห็นเราก็แวะดูกันไปเรื่อยเปื่อย เมื่อนัดหมายกันเรียบร้อยก็ออกเดินทาง
ระหว่างทางเราก็แวะหาซื้อของสดเพื่อไปเตรียมทำกับข้าวสำหรับคืนนี้ด้วย ซึ่งก็คงหนีไม่พ้นหมูกระทะเหมือนเดิม กินยังไงก็ไม่เบื่อ ยิ่งบวกกับอากาศดีๆ บรรยากาศโดนๆ แบบนี้เข้าไปด้วย มันใช่เลย ฟินมากกกก
ขับรถไปเรื่อยๆ ดูวิวข้างทางไปเรื่อยๆ ไม่นานก็ถึงแล้ว “อุทยานแห่งชาติ แจ้ซ้อน” เมื่อเข้ามาถึงที่กางเต็นท์ ก็เห็นว่ามีเต็นท์ถูกกางอยู่เยอะแล้ว จากนั้นเราก็เดินหาสถานที่ เมื่อเจอสถานที่ที่เหมาะแล้ว เราก็เริ่มดำเนินการกางเต็นท์อย่างผู้ชำนาญการ เพราะมีประสบการณ์มาแล้ว 555+ รอบนี้ใช้เวลาไม่นานเท่าไร แต่ก็ยังแอบมีกางผิดกันอยู่
เมื่อเราจัดการทุกอย่างเสร็จ ก็เริ่มเย็นพอดี อากาศเริ่มเย็นลงเรื่อยๆ เลยรีบไปอาบน้ำก่อนที่จะหนาวไปกว่านี้ ต้องบอกว่าห้องน้ำที่นี่ดีมาก ถึงมากที่สุด สะอาด สวย แยกระหว่างห้องอาบน้ำกับห้องส้วมชัดเจน เมื่อธุระตอนเย็นกันเรียบร้อย สบายเนื้อสบายตัว ก็ได้เวลาอาหารค่ำพอดี
เตาหมูกระทะถูกจุดให้ร้อนขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับเสียงหมูที่วางลงบนกระทะร้อนดัง “ซ่าาาา” เตาวันนี้ร้อนสะใจ ต่างจากวันแรกมาก ทำให้หมูกระทะวันนี้อร่อยขึ้นอีกหลายเท่า กินกันไป คุยกันไป พร้อมเปิดเพลงคลอเบาๆ และปล่อยให้สายลมเย็นพัดผ่าน ประจวบกับความร้อนของหมูกระทะที่เรากินเข้าไป ทำให้ร่างกายไม่รู้สึกหนาวมาก กินไปเรื่อยๆ รู้ตัวอีกทีก็รู้สึกว่าท้องเริ่มจะอิ่มแล้ว เตาหมูกระทะจึงถูกปิดลง จากนั้นเราก็ทำการช่วยกันเก็บอุปกรณ์ และทำความสะอาดให้เรียบร้อย
และก็มานั่งคุย นั่งฟังเพลงกันไปเรื่อยๆ พยายามเก็บอากาศ เก็บบรรยากาศดีๆ เอ้าไว้ให้มากที่สุด น่าเสียดายที่อคืนนี้ไม่มีดาวให้มองเพราะตรงที่เรากางเต็นท์ไม่ใช่ลานโล่ง แต่จะมีต้นไม้ใหญ่อยู่เยอะ ทำให้มองท้องฟ้าได้ไม่ชัดเจน แต่ข้อดีก็คือต้อนเช้า และกลางวันไม่ร้อน เพราะมีเงาของร่มไม้ตลอดทั้งวัน
ยิ่งดึกอากาศก็ยิ่งเย็นลงเรื่อยๆ ทำให้เราชวนกันเข้านอน เพื่อเก็บแรงไว้เดินทางต่อในวันพรุ่งนี้ ซึ่งเราวางแผนไว้ว่าไปขับรถไปเที่ยวที่หมู่บ้านแม่กำปอง ดูแล้วห่างจากที่นี่ไม่เท่าไร และก็เป็นที่ที่เราไม่เคยไปมาก่อนด้วย เลยอยากลองไปดูสักครั้ง
เช้านี้ตื่นมาพร้อมกับเสียงรถที่วิ่งผ่านกันไปมา กับเสียงแม่ค้าที่เดินมาขายอาหารเช้า ทำให้วันนี้เราได้ตื่นเช้าหน่อย มีเวลามานั่งโอ้เอ้เล่นก่อนจะทำอาหารเช้ากิน เช้าๆ แบบนี้อากาศก็เย็นใช้ได้เลย ตอนอาบน้ำนี่ไม่ต้องพูดถึงน้ำเย็นมากกก แต่พออาบเสร็จแล้วรู้สึกสบายตัวสุดๆ
วันนี้เรามีจุดหมายคือจะเดินทางขึ้นแม่กำปอง แต่พี่หลายๆ คนที่นี่เค้าก็บอกว่าทางค่อนข้างชัน และแคบนิดหน่อย ให้ขับรถระวังๆ หน่อย ระยะทางจากที่นี่ไปแม่กำปองไม่ไกลเท่าไร แต่ด้วยทางที่แคบและชัน ทำให้ใช้เวลาพอสมควรในการเดินทาง แต่ต้องบอกว่าระหว่างทางวิวดีมาก และมีน้ำไหลผ่านเส้นทางบ้างเป็นบางช่วง
เมื่อเข้าสู่เขตหมู่บ้านแม่กำปอง ก็รู้สึกได้เลยว่าคนเยอะแน่ๆ 555+ เพราะเริ่มมีรถจอดตามริมข้างทางเต็มไปหมด แต่เราก็ขับไปเรื่อยๆ จนผ่านวัดหนึ่ง ไม่แน่ใจว่าชื่อวัดอะไร ถือว่าเป็นโชคดีของเรามากๆ เพราะพึ่งมีรถออกไปก่อนหน้าเรา 1 คันพอดี
ที่นี่ก็จะเป็นคล้ายๆ ถนนในหมู่บ้านเล็กๆ หมู่บ้านหนึ่ง แต่ว่า 2 ข้างทางจะเต็มไปด้วยร้านค้า และร้านอาหาร แต่จะเป็นร้านอาหารซะส่วนใหญ่ และก็ยังมีที่พักด้วย วันนี้คนก็เยอะเหมือนกันครับ และก็มีรถวิ่งตลอดเวลา เวลาเดินก็ต้องระวังรถกันหน่อย
เราอยู่ที่นี่นานพอสมควร จากนั้นเราคิดว่าจะไปหาของกินสักหน่อย เพราะท้องเริ่มส่งสัญญาณมาแล้ว และคิดว่าจะไปหาอะไรกินระหว่างทางตอนกลับที่พัก สรุปว่าขับรถไปเรื่อยๆ จนเราเลยไปทุกร้าน ในที่สุดเราก็มาถึงที่พักเลย 555+ เพราะฉะนั้นที่เดียวที่เราจะฝากท้องในวันนี้คือร้านอาหารสวัสดิการของที่นี่ เราไปสั่งกับข้าวมา 2-3 อย่าง นำมาทานที่เต็นท์ อาหารที่นี่อร่อยทุกอย่าง รสชาติดีมาก โดยเฉพาะต้มยำไก่ที่เรายังติดใจถึงรสชาติ และบ่นอยากกินอีกจนถึงทุกวันนี้ แต่แนะนำว่าใครจะสั่งอาหารที่นี่ให้เผื่อเวลาไว้ 1-2 ชั่วโมง เพราะใช้เวลาค่อนข้างนานในการทำถึงแม่ว่าจะไม่มีคนก็ตาม 555+
เย็นนี้เราออกไปเดินที่บ่อน้ำพุร้อนซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับที่กางเต็นท์ สามารถเดินไปได้ ช่วงเย็นก็จะมีคนมาเล่นน้ำตก และแช่น้ำร้อน เพื่อผ่อนคลายความหนาวจากอากาศที่ค่อนข้างเย็น ยิ่นตอนเย็นๆ พระอาทิตย์ใกล้ๆ ตกที่นี่จะบรรยากาศดี และพี่ๆ หลายคนก็บอกว่ายิ่งตอนเช้าจะสวยเป็นพิเศษ แต่เราก็ไม่ได้ตื่นมาดุ
คืนนี้เรายังคงนอนที่นี่อีกหนึ่งคืน อาหารค่ำวันนี้ก็ยังคงเป็นผัดกระเพราจากหมูที่เหลือจากการทำหมูกระทะเหมือนเดิม เหตุผลท่ีเราทำผัดกระเพราบ่อยเพราะเรามีผงผัดกระเพราติดมาด้วย เลยเป็นอาหารที่สะดวกที่สุด และเราก็ยังมีต้มยำไก่ที่เหลือจากเมื่อช่วงบ่าย มาเป็นน้ำซุปร้อนๆ ให้เราได้ซดแก้หนาว
เช้านี้เราตื่นมาเก็บเต็นท์แต่เช้าเพื่อจะเดินทางกลับ กทม. แต่ก็คิดว่าจะหาโรงแรมดีๆ นอนสักคืนก่อนกลับ เช้านี้เราเลยซื้อปลาท่องโก๋กับโอวัลตินที่มีชาวบ้านมาเดินขายตามเต็นท์ในตอนเช้า เมื่อเราทำธุระทุกอย่างเสร็จ ก็ออกเดินทาง เพื่อหวังว่าจะไปหาโรงแรม และใช้เวลาชิวๆ อยู่ที่นั่นสักหน่อย
แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อเราขับรถผ่านป้าย “อุทยานแห่งชาติแม่วะ” เอาวะไหนๆ ก็มาแล้วเหลือเวลาอีกคืนขอนอนที่นี่แล้วกัน โรงแรมเอาไว้รอบหน้า 555+
แล้วพบกันที่อุทยานแห่งชาติแม่วะ...
ทริปนั่งชมดาวห่มลมหนาวกับเตาหมูกระทะ EP.1 (อุทยานแห่งชาติแม่ปิง)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://m.ppantip.com/topic/41830588?
ทริปนั่งชมดาวห่มลมหนาวกับเตาหมูกระทะ EP.3 (อุทยานแห่งชาติแม่วะ)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://ppantip.com/topic/41836524
ทริปนั่งชมดาวห่มลมหนาวกับเตาหมูกระทะ EP.2 (อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน)
ระหว่างทางเราก็แวะหาซื้อของสดเพื่อไปเตรียมทำกับข้าวสำหรับคืนนี้ด้วย ซึ่งก็คงหนีไม่พ้นหมูกระทะเหมือนเดิม กินยังไงก็ไม่เบื่อ ยิ่งบวกกับอากาศดีๆ บรรยากาศโดนๆ แบบนี้เข้าไปด้วย มันใช่เลย ฟินมากกกก
เช้านี้ตื่นมาพร้อมกับเสียงรถที่วิ่งผ่านกันไปมา กับเสียงแม่ค้าที่เดินมาขายอาหารเช้า ทำให้วันนี้เราได้ตื่นเช้าหน่อย มีเวลามานั่งโอ้เอ้เล่นก่อนจะทำอาหารเช้ากิน เช้าๆ แบบนี้อากาศก็เย็นใช้ได้เลย ตอนอาบน้ำนี่ไม่ต้องพูดถึงน้ำเย็นมากกก แต่พออาบเสร็จแล้วรู้สึกสบายตัวสุดๆ
วันนี้เรามีจุดหมายคือจะเดินทางขึ้นแม่กำปอง แต่พี่หลายๆ คนที่นี่เค้าก็บอกว่าทางค่อนข้างชัน และแคบนิดหน่อย ให้ขับรถระวังๆ หน่อย ระยะทางจากที่นี่ไปแม่กำปองไม่ไกลเท่าไร แต่ด้วยทางที่แคบและชัน ทำให้ใช้เวลาพอสมควรในการเดินทาง แต่ต้องบอกว่าระหว่างทางวิวดีมาก และมีน้ำไหลผ่านเส้นทางบ้างเป็นบางช่วง
เมื่อเข้าสู่เขตหมู่บ้านแม่กำปอง ก็รู้สึกได้เลยว่าคนเยอะแน่ๆ 555+ เพราะเริ่มมีรถจอดตามริมข้างทางเต็มไปหมด แต่เราก็ขับไปเรื่อยๆ จนผ่านวัดหนึ่ง ไม่แน่ใจว่าชื่อวัดอะไร ถือว่าเป็นโชคดีของเรามากๆ เพราะพึ่งมีรถออกไปก่อนหน้าเรา 1 คันพอดี
ที่นี่ก็จะเป็นคล้ายๆ ถนนในหมู่บ้านเล็กๆ หมู่บ้านหนึ่ง แต่ว่า 2 ข้างทางจะเต็มไปด้วยร้านค้า และร้านอาหาร แต่จะเป็นร้านอาหารซะส่วนใหญ่ และก็ยังมีที่พักด้วย วันนี้คนก็เยอะเหมือนกันครับ และก็มีรถวิ่งตลอดเวลา เวลาเดินก็ต้องระวังรถกันหน่อย
เย็นนี้เราออกไปเดินที่บ่อน้ำพุร้อนซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับที่กางเต็นท์ สามารถเดินไปได้ ช่วงเย็นก็จะมีคนมาเล่นน้ำตก และแช่น้ำร้อน เพื่อผ่อนคลายความหนาวจากอากาศที่ค่อนข้างเย็น ยิ่นตอนเย็นๆ พระอาทิตย์ใกล้ๆ ตกที่นี่จะบรรยากาศดี และพี่ๆ หลายคนก็บอกว่ายิ่งตอนเช้าจะสวยเป็นพิเศษ แต่เราก็ไม่ได้ตื่นมาดุ
คืนนี้เรายังคงนอนที่นี่อีกหนึ่งคืน อาหารค่ำวันนี้ก็ยังคงเป็นผัดกระเพราจากหมูที่เหลือจากการทำหมูกระทะเหมือนเดิม เหตุผลท่ีเราทำผัดกระเพราบ่อยเพราะเรามีผงผัดกระเพราติดมาด้วย เลยเป็นอาหารที่สะดวกที่สุด และเราก็ยังมีต้มยำไก่ที่เหลือจากเมื่อช่วงบ่าย มาเป็นน้ำซุปร้อนๆ ให้เราได้ซดแก้หนาว
เช้านี้เราตื่นมาเก็บเต็นท์แต่เช้าเพื่อจะเดินทางกลับ กทม. แต่ก็คิดว่าจะหาโรงแรมดีๆ นอนสักคืนก่อนกลับ เช้านี้เราเลยซื้อปลาท่องโก๋กับโอวัลตินที่มีชาวบ้านมาเดินขายตามเต็นท์ในตอนเช้า เมื่อเราทำธุระทุกอย่างเสร็จ ก็ออกเดินทาง เพื่อหวังว่าจะไปหาโรงแรม และใช้เวลาชิวๆ อยู่ที่นั่นสักหน่อย
แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อเราขับรถผ่านป้าย “อุทยานแห่งชาติแม่วะ” เอาวะไหนๆ ก็มาแล้วเหลือเวลาอีกคืนขอนอนที่นี่แล้วกัน โรงแรมเอาไว้รอบหน้า 555+
แล้วพบกันที่อุทยานแห่งชาติแม่วะ...
ทริปนั่งชมดาวห่มลมหนาวกับเตาหมูกระทะ EP.1 (อุทยานแห่งชาติแม่ปิง)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ทริปนั่งชมดาวห่มลมหนาวกับเตาหมูกระทะ EP.3 (อุทยานแห่งชาติแม่วะ)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้