ทริปนั่งชมดาวห่มลมหนาวกับเตาหมูกระทะ EP.3 (อุทยานแห่งชาติแม่วะ)

ถึงแล้วววว “อุทยานแห่งชาติแม่วะ” เลี้ยวจากถนนใหญ่มาไกลอยู่ ผ่านหมู่บ้านเข้ามาเรื่อยๆ ในที่สุดก็ถึง จัดการเรื่องค่าเข้าเรียบร้อย ขับต่อมาอีกหน่อยก็ถึงที่กางเต็นท์ ว้าววว วันนี้เราได้นอนริมน้ำตกเลย นอนไปฟังเสียงน้ำไหลไป มันต้องฟินมากแน่ๆ ว่าแล้วก็จัดการกางเต็นท์อย่างชำนาญการ แปปเดียวก็เสร็จ (ก็เรามันมืออาชีพนี่นา) เมื่อจัดการของเสร็จ ท้องเราก็เริ่มประท้วง และเริ่มส่งเสียงมาบ้างเป็นระยะๆ เราเลยต้องรีบไปหาที่ฝากท้องก่อน แน่นอนที่มีร้านอาหารสวัสดีการอยู่ สั่งอาหารจานเดียวมาคนละจาน เดี๋ยวเย็นนี้ว่ากันใหม่ 

หลังจากเรากินอิ่มก็เดินกลับเต็นท์ไปนั่งริมน้ำตก และก็นึกขึ้นได้ว่าเย็นนี้เราไม่มีวัตถุดิบอะไรที่จะมาประกอบอาหารได้เลยนอกจากมาม่าที่เหลือติดมาเท่านั้น เลยไปถามเพี่เต็นท์ข้างๆ พี่เค้าก็ไม่มี และไม่รู้แหล่งซื้อเช่นกัน พอดีมีน้องเจ้าหน้าที่เดินเอาถึงขยะมาแจก เลยถามน้องเค้า และได้ความว่า เดี๋ยวเย็นๆ จะมีรถแม่ค้าวิ่งเอาของสดมาขาย(เย็นนี้ไม่ต้องกินมาม่าแล้ว)  
จากนั้นเราก็เดินลงไปเล่นที่น้ำตก แต่ก็ได้เพียงแค่นั่งเล่นและหย่อนขาลงไปเท่านั้น เพราะว่าน้ำเย็นมากกก บรรยากาศดี บวกกับอากาศที่เย็นสบาย มีเสียงน้ำไหล ทำให้เราฟินจนลืมเวลา รู้ตัวอีกทีก็เริ่มเย็นแล้ว และคิดว่ารถกับข้าวจะมาหรือยัง เลยรีบเดินกลับมาที่เต็นท์ สิ่งที่เห็นคือ รถกับข้าวกำลังขับออกไป วิญญานนักวิ่งที่อยู่ในตัวจึงตื่นขึ้นมาวิ่งตามรถกับข้าวพร้อมตะโกนเรียก โชคดีที่แม่ค้าได้ยิน และหันมาดู เลยวนรถกลับมาหาเรา มื้อนี้เราได้กุ้ง และหมูที่หมักมาแล้วสำหรับทำหมูกระทะโดยเฉพาะ หมูกระทะอีกแล้ว 555+ (ก็มันชอบอะ) 

มู๋ทะหน้าเต็นท์ ริมน้ำตก ท่ามกลางอากาศเย็น บรรยากาศดีๆ ดนตรีเบาๆ (คำบรรยายนี้ไม่ได้เกินจริง แต่ความจริงมันฟินมากกว่านี้) 
เมื่ออิ่มแล้วคืนนี้เราก็นั่งคุยกันไปเรื่อยๆ ท่ามกลางธารน้ำตกอยู่เบื้องหน้า ใช้เวลาในคืนสุดท้ายก่อนกลับเข้าเมืองที่วุ่นวายให้เต็มที่ ความจริงเราอยากนั่งเก็บบรรยากาศดีๆ ให้นานกว่านี้ แต่หนังตาเราไม่ให้ความร่วมมือ มันพยายามทำตัวหนักขึ้นเรื่อยๆ ตลอดเวลา จนสุดท้ายเราก็ไม่สามารถสู้กับมันได้อีก

คืนนี้ที่นอนเป็นพื้นไม้เรียบๆ ซึ่งดูตอนแรกคิดว่าดีแน่นอน แต่พอนอนจริงๆ มันเจ็บตัวมาก ไม่สามารถนอนตะแคงได้เลย ต้องนอนหงายตลอดเวลา ทำให้คืนนี้เราหลับๆ ตื่นๆ ด้วยเหตุนี้เช้าตื่นมาทำให้ผมหูอื้อโดยไม่รู้ตัว เพราะคุณผู้หญิงบ่นไม่หยุดเลย เราจึงตั้งใจว่าทริปหน้าต้องมีที่นอนเป่าลมเพิ่มาอย่างแน่นอน

และเมื่อเก็บของเรียบร้อย จึงเตรียมตัวอาบน้ำก่อนเดินทางกลับ เราก็ได้พบกับเซอร์ไพรส์สุดท้าย เหมือนเป็นของฝากจากที่นี่ นั่นก็คือคุณแฟนผมโดนเห็บกัดเข้าที่รักแร้ 1 ตัว ซึ่งเธอบอกว่าเจ็บมากตอนดึงออก และเรื่องนี้เองทำให้เธอมีเรื่องบ่นไปได้ตลอดการเดินทาง ขับรถไปสักพักเสียงบ่นก็เริ่มเบาลง ความโกรธเธอคงค่อยๆ ลดลง เลยแวะหาอาหารทานในปั๊ม และเข้าห้องน้ำก่อนออกมา ทำให้เธอเจอเห็บอีก 1 ตัวที่ขาเธอ ทำให้บรรยากาศมาคุอีกแล้ว เธอเลยมีเรื่องบ่นไปอีกนาน และตอนนี้เธอก็ยังไม่รอยจากแผลที่เห็บกันอยู่อย่างเห็นได้ชัด จากที่ลองหาข้อมูลเค้าบอกว่าแผลนี้จะอยู่ถึง 2 ปีเลยทีเดียว ทุกวันนี้เมื่อเธอเห็นรอยแผลที่ขาหูผมก็ชาขึ้นมาทันที



ทริปนี้ต้องบอกเลยว่าเราได้ประสบการณ์ใหม่ เพื่อนใหม่ มิตรภาพใหม่ มามากมายจากการแคมป์ปิ้ง มันเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่า และเราไม่เคยได้รับมันมาก่อน ถึงคุณแฟนผมจะอารมณ์เสียเอามากๆ จากที่เธอโดนเห็บกัดและมีรอบแผล แต่ทริปหน้าเธอก็ยังชวนไปอีก และแน่นอนว่ารอบหน้าเราคงเตรียมตัวได้ดีกว่านี้

แล้วพบกันทริปหน้าหน้าครับ เราจะเก็บเรื่องราว และประสบการณ์ต่างๆ มาเล่าให้ฟังเหมือนเดิมครับ LIFE FOR FUN ไปมันส์กันเลยยย

ทริปนั่งชมดาวห่มลมหนาวกับเตาหมูกระทะ EP.1 (อุทยานแห่งชาติแม่ปิง)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ทริปนั่งชมดาวห่มลมหนาวกับเตาหมูกระทะ EP.2 (อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่