‘ทัศนีย์’ แนะ ‘ประยุทธ์’ เลิกบ้าอำนาจ ยอมรับความจริง ปชช.เบื่อรบ.นานแล้ว ลั่น ไร้มารยาทตั้งที่ปรึกษามีอำนาจรัฐ
https://www.matichon.co.th/politics/news_3767792
 
 
‘ทัศนีย์’ แนะ ‘ประยุทธ์’ เลิกบ้าอำนาจ ยอมรับความจริง ปชช.เบื่อรบ.นานแล้ว ลั่น ไร้มารยาทตั้งที่ปรึกษามีอำนาจรัฐ เจตนาเอื้อประโยชน์พรรคนั่งร้าน
 
เมื่อวันที่ 12 มกราคม น.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่ากรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงนามแต่งตั้งนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี, นายชัชวาลล์ คงอุดม, นายชุมพล กาญจนะ และนายเสกสกล อัตถาวงศ์ เป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี หลังจากที่ก่อนหน้านี้แต่งตั้งนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ในตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และทั้งนี้คนที่ได้รับการแต่งตั้งทั้งหมดเป็นนักการเมืองในสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติที่พล.อ.ประยุทธ์ ไปร่วมงานการเมืองด้วย
  
น.ส.ทัศนีย์ กล่าวต่อว่า การกระทำของพล.อ.ประยุทธ์เป็นการแสดงเจตนาอย่างชัดเจนว่าต้องการให้พรรครทสช. เป็นนั่งร้านค้ำยันอำนาจให้กับตัวเองในการเลือกตั้งครั้งหน้า ตั้งคนเหล่านี้ให้มีอำนาจทางการเมืองเพื่อเอื้อประโยชน์ต่อการเลือกตั้ง การกระทำดังกล่าวของพล.อ.ประยุทธ์ เป็นการกระทำที่ไร้มารยาททางการเมืองอย่างรุนแรง การกระทำของพล.อ.ประยุทธ์ หวังสร้างอำนาจในหมู่ข้าราชการ และคนที่แต่งตั้งเข้ามาสามารถแทรกแซงอำนาจทางการเมืองได้ ประชาชนทั้งประเทศกังขาว่าพล.อ.ประยุทธ์ กลัวแพ้เลือกตั้งถึงต้องตั้งคนของตัวเองคุมกลไกภาครัฐอย่างที่เห็นอยู่
 
น.ส.ทัศนีย์ กล่าวด้วยว่า ส่วนที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ออกมาปกป้องว่าการแต่งตั้งที่ปรึกษาดังกล่าวไม่ได้เอื้อประโยชน์ เพราะไม่มีเงินตอบแทน การพูดของนายวิษณุ เป็นการพูดเอาแต่ได้ แก้ตัวเพื่อหาทางออก แต่ไม่ได้พูดในสิ่งที่ประชาชนอยากรู้ แต่พูดในสิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์ จะได้ประโยชน์ เพราะที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีเป็นตำแหน่งที่มีอำนาจเหนือข้าราชการ สามารถสั่งการหน่วยงานราชการได้
  
“นอกจากนี้พล.อ.ประยุทธ์ ยึดอำนาจเข้ามาอ้างว่าต้องการเข้ามาปราบโกง แต่ 8 ปีที่ผ่านมามีแต่ข่าวเรื่องการคอรัปชั่นทุกพื้นที่เหมือนอภิมหาโกง ส่วนที่พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า 8 ปีที่ผ่านมายังทำไม่เสร็จ อะไรที่ยังทำไม่เสร็จ นโยบายที่พล.อ.ประยุทธ์ แถลงไว้ต่อประชาชนไม่เคยทำได้ ถึงเวลานี้อยากให้พล.อ.ประยุทธ์ เลิกบ้าอำนาจ แล้วยอมรับความจริงว่าประชาชนเบื่อรัฐบาลมานานแล้ว เพราะยิ่งอยู่นานประชาชนยิ่งลำบากมากขึ้น หากยังรั้งอำนาจต่อไปเชื่อว่าประชาชนคงลำบากมากกว่านี้” น.ส.ทัศนีย์ กล่าว

---

ส.ส.ก้าวไกล ลุกอภิปราย ‘หลานประยุทธ์’ อายุน้อยพันล้าน รับงานรัฐล้วนๆ ไร้ตรวจสอบ
https://www.matichon.co.th/politics/news_3767810
 
‘ปดิพัทธ์’ ซัด ‘ป.ป.ช.’ ไม่กล้าแตะ บ.ทัวร์เถื่อนของ ‘หลานประยุทธ์’ เอี่ยว ‘ตู้ห่าว’ ชี้ ทหารถือปืนโชว์งานวันเด็ก มีแค่ ‘ไทย-เมียนมา-เกาหลีเหนือ’
 
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 12 มกราคม ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม โดย นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล (ก.ก.) หารือถึงกรณีการจับกุมนายตู้ ห่าว ที่พบเกี่ยวพันกับการใช้รถบัสทำบริษัททัวร์เถื่อน ปรากฏว่าบริษัทนั้นเป็นของคนพิษณุโลก หรือเป็นของหลาน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นบริษัท ค. ที่อยู่ในการตรวจสอบของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยในปี 2558 บริษัทนี้มีทุนจดทะเบียนเพียง 3 ล้านบาท แต่ตอนนี้มีมูลค่ากว่าพันล้านบาท เรามีอายุน้อยร้อยล้าน แต่อันนี้พันล้านแล้ว เพราะรับงานรัฐล้วนๆ เมื่อปี 2561 ป.ป.ช. ตรวจสอบเรื่องนี้ จนถึงวันนี้ ป.ป.ช. ยังตรวจสอบแค่ขั้นต้น สงสัยว่าที่ตรวจสอบไม่ได้เพราะเจ้าของบริษัทนามสกุลเดียวกับนายกฯ ใช่หรือไม่
 
“เมื่อปี 2564 บริษัทแห่งนี้คว้างานรัฐไปอีก 3 งาน สรุปแล้วประเทศนี้จะตรวจสอบคอร์รัปชั่นไม่ได้ใช่หรือไม่ เพราะเมื่อส่งเรื่องไปยัง ป.ป.ช. ก็เป็นหน่วยงานที่พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งขึ้นมา บริษัทนี้ ก็เป็นของหลานพล.อ.ประยุทธ์ อธิบดีกรมอุทยานฯ ก็เป็นน้องเพื่อนพล.อ.ประยุทธ์” นายปดิพัทธ์ กล่าว
 
นายปดิพัทธ์ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องงานวันเด็กแห่งชาติ ผู้ปกครอง แพทย์ และนักสันติศึกษา มีความกังวล กรณีให้ทหารมาโชว์อาวุธ เอาอาวุธมาให้เด็กจับถ่ายรูป เอาทหารมาเป็นฮีโร่ แต่ประเทศที่ทำแบบนี้มีแค่ไทย เมียนมา เกาหลีเหนือ และเยอรมันยุคนาซี เท่านั้น ทั้งๆ ที่วันเด็กควรเป็นวันของเด็ก ความปลอดภัยของเด็ก และการศึกษา จึงอยากให้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้งานวันเด็กเป็นของเด็กจริงๆ

---

เสรีรวมไทย ข้องใจ ตู่ เปิดตัวรทสช. ผิดเงื่อนไข180วัน หรือไม่ บี้ตอบใช้เงินเท่าไหร่
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7455435
 
เด็กเสรีรวมไทย ข้องใจ “บิ๊กตู่” ลากิจ เปิดตัวรทสช. ถูกหลักจริยธรรม-ผิดเงื่อนไข 180 วัน จูงใจให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งหรือไม่ จี้ตอบใช้เงินจัดงานเท่าไหร่
 
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 12 ม.ค. 2566 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ คนที่ 2 ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม ในช่วงการหารือปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน โดยนายวิรัตน์ วรสิริน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย (สร.) หารือว่า จากกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ลากิจ ไปเปิดตัวทำกิจกรรมทางการเมือง เพื่อประโยชน์ของตนและเพื่อประโยชน์ของกลุ่มคณะตน เมื่อวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา เป็นการกระทำที่ถูกต้องตามระเบียบบริหารราชการแผ่นดินหรือไม่
 
นายวิรัตน์ กล่าวต่อว่า เป็นการกระทำที่ถูกต้องตามหลักธรรมาภิบาล และหลักจริยธรรมการบริหารบ้านเมืองที่ดีหรือไม่ เพราะขณะนี้มีการบังคับใช้กฎหมายเลือกตั้ง 180 วันก่อนสภาครบวาระ ที่กำหนดให้ผู้สมัครและพรรคการเมือง ต้องปฏิบัติเกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้งให้เป็นไปตามกฎหมาย และต้องมิให้มีผู้ใดกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งลงคะแนนให้กับตนเองและผู้อื่น
 
นายวิรัตน์ กล่าวว่า มีการใช้รถเป็นร้อยคันขนคนมาฟังพล.อ.ประยุทธ์ ปราศรัย มีการแจกเสื้อ แจกหมวก เป็นพันชุด การกระทำนี้ขัดต่อกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่อย่างไร ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ออกระเบียบสำหรับผู้สมัคร ส.ส. ในช่วงนี้สามารถทำได้แต่เท่าที่จำเป็น ต้องหลีกเลี่ยงการจัดงานใหญ่ๆ เพราะอาจเป็นเหตุให้ร้องคัดค้านได้ว่า จัดมหรสพและเข้าข่ายการเลือกตั้งที่ผิดกฎหมาย และบนเวทีมีทั้งนักร้อง พิธีกร รวมทั้งค่าเช่าสถานที่เป็นเงินเท่าไหร่ ราคาเป็นไปตามความเป็นจริงหรือไม่
 
“ท่านนายกฯ อุตส่าห์ทิ้งงานราชการ ลากิจ ไปเป็นสมาชิกพรรค เพื่อเพียงจะบอกว่าบ้านเมืองต้องไปต่อ แต่ลืมบอกว่าผมอยากไปต่อ ท่านไม่ได้พูด ทั้งนี้ รัฐมนตรีที่ลากิจไปต่างประเทศบ้างก็เป็นเรื่องธรรมดา เพราะทำงานต้องมีเวลาพักผ่อนกับครอบครัวบ้าง ก็เป็นเรื่องสมควร เพราะต้องมีความรับผิดชอบต่อครอบครัว
 
ผมจึงขอหารือไปยังท่านนายกฯ ว่า ความรับผิดชอบมีหลายด้าน เพราะด้านที่ท่านใช้อำนาจ ด้านที่ท่านไม่ใช้อำนาจ ท่านก็ต้องมีความรับผิดชอบด้วย แต่ผมไม่ขอหารือไปยังกกต. เพราะนายกฯ ไม่เคยผิดสักเรื่อง” นายวิรัตน์ กล่าว