จากข่าวที่ผู้เช่าบ้าน ไม่จ่าย ไม่ย้าย อยู่เป็นปีจ่ายแค่เดือนเดียว ตกลงกันที่ส.น.แล้ว ยังบิดพลิ้ว ต้องได้เงินถึงจะย้ายออก กฎหมายก็ให้ท้ายผู้โกง ทำอะไรไม่ได้เลย เจ้าของบ้านเองต้องเป็นฝ่ายเจ็บช้ำ ต้องเสียทั้งเงินและสุขภาพจิต
เลยคิดว่า ถ้ามีบริษัทเป็นตัวกลางคัดเลือกผู้เช่าที่ดี มีการทำประกันความเสียหาย มีฝ่ายกฎหมายของตนเอง มีการทำสัญญาที่สามารถใช้กับผู้ที่มาทำสัญญาให้มีผลเหนือกว่าการทำสัญญาเช่าบ่าน เหมือนตัดการทำสัญญาเช่าบ้านปกติออกไป
ปกติ นายเอ อยากเช่าบ้านนายบี ต้องทำสัญญาเช่าบ้านนายบี จ่ายค่าประกันการเช่า 1 เดือนค่าเช่าล่วงหน้า 1 เดือน สุดท้ายนายเอ เบี้ยวไม่จ่ายค่าเช่าบ้านก็อยู่ได้ตลอด นายบีต้องรอให้นายเอเบื่อบ้านไปเองย้ายไปที่อื่น หรือต้องรอให้ติดค้างมากๆ จนพอที่จะฟ้องแล้วคุ้ม เท่าที่อ่านเจอ เมื่อศาลพิพากษาจะไม่ให้รวมจ่ายค่าทนายด้วย
แต่ถ้ามีบริษัทนายหน้า ทำสัญญากับนายเอ บริษัทมีการคัดกรองคล้ายๆกับการพิจารณาสินเชื่อว่าจะเป็นผู้เช่าที่ดี นายบีก็มาติดต่อบริษัทอยากได้ผู้เช่าที่จะไม่มีปัญหา ห้องหรือบ้านเสียหายก็เคลมประกันภัยได้
สมมติว่าค่าห้องปกติราคาตลาด 10,000 บาท ผู้เช่าบ้านถ้าเลือกเช่าจากบริษัทจะได้ในราคา 9,500 บาท เจ้าของบ้านได้เงินค่าเช่า 8,000 บาท เท่ากับบริษัทจะได้ส่วนต่างอยู่ 1,500 บาทต่อเดือน แบบนี้จะยังพอเป็นไปได้ในทางธุรกิจไหมครับ อ้อ ค่าธรรมเนียมยังจะได้ 2 เดือนเหมือนเดิมด้วยแต่ต้องรับประกันรายได้ให้ฝั่งเจ้าของบ้านเช่นกัน
ป.ล. ส่วนตัวมีคอนโดฯห้องสวยทำเลดีว่างอยู่ แต่ไม่กล้าให้เช่า กลัวต้องปวดหัวกับผู้เช่าและความเสียหายที่จะเกิดมากกว่า
มีไอเดีย บริษัทนายหน้าหาผู้เช่าบ้าน ที่เหนือกว่า ล้ำกว่าปัจจุบัน สาเหตุมาจากข่าวผู้เช่าบ้านโกงโดยอาศัยกฎหมาย
เลยคิดว่า ถ้ามีบริษัทเป็นตัวกลางคัดเลือกผู้เช่าที่ดี มีการทำประกันความเสียหาย มีฝ่ายกฎหมายของตนเอง มีการทำสัญญาที่สามารถใช้กับผู้ที่มาทำสัญญาให้มีผลเหนือกว่าการทำสัญญาเช่าบ่าน เหมือนตัดการทำสัญญาเช่าบ้านปกติออกไป
ปกติ นายเอ อยากเช่าบ้านนายบี ต้องทำสัญญาเช่าบ้านนายบี จ่ายค่าประกันการเช่า 1 เดือนค่าเช่าล่วงหน้า 1 เดือน สุดท้ายนายเอ เบี้ยวไม่จ่ายค่าเช่าบ้านก็อยู่ได้ตลอด นายบีต้องรอให้นายเอเบื่อบ้านไปเองย้ายไปที่อื่น หรือต้องรอให้ติดค้างมากๆ จนพอที่จะฟ้องแล้วคุ้ม เท่าที่อ่านเจอ เมื่อศาลพิพากษาจะไม่ให้รวมจ่ายค่าทนายด้วย
แต่ถ้ามีบริษัทนายหน้า ทำสัญญากับนายเอ บริษัทมีการคัดกรองคล้ายๆกับการพิจารณาสินเชื่อว่าจะเป็นผู้เช่าที่ดี นายบีก็มาติดต่อบริษัทอยากได้ผู้เช่าที่จะไม่มีปัญหา ห้องหรือบ้านเสียหายก็เคลมประกันภัยได้
สมมติว่าค่าห้องปกติราคาตลาด 10,000 บาท ผู้เช่าบ้านถ้าเลือกเช่าจากบริษัทจะได้ในราคา 9,500 บาท เจ้าของบ้านได้เงินค่าเช่า 8,000 บาท เท่ากับบริษัทจะได้ส่วนต่างอยู่ 1,500 บาทต่อเดือน แบบนี้จะยังพอเป็นไปได้ในทางธุรกิจไหมครับ อ้อ ค่าธรรมเนียมยังจะได้ 2 เดือนเหมือนเดิมด้วยแต่ต้องรับประกันรายได้ให้ฝั่งเจ้าของบ้านเช่นกัน
ป.ล. ส่วนตัวมีคอนโดฯห้องสวยทำเลดีว่างอยู่ แต่ไม่กล้าให้เช่า กลัวต้องปวดหัวกับผู้เช่าและความเสียหายที่จะเกิดมากกว่า