JJNY : 5in1 เปิด 8 รายชื่อผู้เสียชีวิต│‘โรม’จี้‘สมศักดิ์’│‘พิจารณ์’แนะ ทร.│‘ตู่’ยิ้มแห้งๆ ข่มอารมณ์│แฉอีกข้อมูลการประชุม

เปิด 8 รายชื่อ ผู้เสียชีวิต เหตุเรือสุโขทัยล่ม เตรียมนำกลับสัตหีบ พรุ่งนี้
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7432401
 
  
เปิด 8 รายชื่อ ผู้เสียชีวิต เหตุเรือสุโขทัยล่ม เตรียมนำร่างกลับสัตหีบ พรุ่งนี้ ย้ำยังลาดตระเวนค้นหาอย่างต่อเนื่อง หวังมีชีวิตทุกคน

วันที่ 26 ธ.ค.2565 พล.ร.ท. พิชัย ล้อชูสกุล ผบ.ทรภ.1 ผอ.ศรชล.ภาค 1 แถลงผลการค้นหาผู้สูญหายจากเหตุเรือหลวงสุโขทัยล่มที่อ่าวไทย จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยผลการตรวจสอบอัตลักษณ์ผู้เสียชีวิต 8 ราย ประกอบด้วย 
1. พลทหาร ปรีชา รักษาภักดี 
2. จ่าตรี สถาพร สมเนื้อ 
3. จ่าเอก บุญเลิศ ทองทิพย์ 
4. จ่าตรี นพณัฐ คำวงศ์ 
5. จ่าตรี ศุภกิจ ทิวาลัย 
6. จ่าโท ธวัชชัย สาพิราช 
7. พลทหาร จำลอง แสนแก 
8. จ่าเอก ชูชัย เชิดชิด
 
สำหรับผู้เสียชีวิต 8 รายนี้ ถือเป็นกำลังพลเรือหลวงสุโขทัยทั้งหมด โดยจะนำกลับไปที่สัตหีบพรุ่งนี้ (27 ธ.ค.) เพื่อทำพิธีตามขั้นตอนต่อไป ส่วนการค้นหาผู้สูญหายนั้น ก็ยังดำเนินการต่อเนื่อง ระดมทรัพยากรลาดตระเวนเต็มที่
 
ทั้งนี้ตนหวังว่าผู้สูญหายที่ยังไม่พบนั้น ก็หวังว่าจะมีชีวิตทุกคน โดยพรุ่งนี้จะให้เรือหลวงบางระจันออกตอนตี 5 และส่งเรือหลวงราวีส่งนักประดาน้ำดับค้นหาเพิ่มด้วย
  

 
‘โรม’ จี้ ‘สมศักดิ์’ เอาผิดจนท.ช่วย ‘ประสิทธิ์ เจียวก๊ก’ หลบหนี หวั่นเรื่องเงียบช่วงปีใหม่
https://www.matichon.co.th/politics/news_3744582
 
‘โรม’ จี้ ‘สมศักดิ์’ เอาผิดจนท.ช่วย ‘ประสิทธิ์ เจียวก๊ก’ หลบหนี หวั่นเรื่องเงียบช่วงปีใหม่
 
เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวถึงกรณีประสิทธิ์ เจียวก๊ก ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกง ก่อเหตุพยายามหลบหนีระหว่างเข้าพิจารณาคดีที่ศาลอาญา ว่า กรณีนี้ร้ายแรงและต้องติดตามอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นที่ชัดเจนว่าการจะกระทำเช่นนี้ได้ต้องมีผู้ให้การช่วยเหลือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ผู้ก่อเหตุได้รับกุญแจให้ไขโซ่ข้อเท้าออกไปได้
 
ซึ่งทางกรมราชทัณฑ์อ้างว่ากุญแจนี้มีแค่ 2 ชุดเท่านั้น ชุดหนึ่งอยู่กับเรือนจำ อีกชุดหนึ่งอยู่กับเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมตัว ดังนั้นจะต้องมีเจ้าหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์เข้าไปเกี่ยวข้อง และเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดอย่างแน่นอน ทั้งนี้ตามรายงานข่าว ทางอธิบดีกรมราชทัณฑ์ได้กล่าวไว้ตั้งแต่วันที่เกิดเหตุว่าจะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน นับดูแล้วก็คือภายในวันพฤหัสบดีที่ 29 ธันวาคม 2565 ก่อนหยุดยาวปีใหม่พอดี
  
ผมขอเป็นอีกหนึ่งเสียงคอยช่วยย้ำช่วยติดตาม ขอให้นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รวมถึงทางกรมราชทัณฑ์ เร่งติดตามหาตัวเจ้าหน้าที่ผู้ร่วมกระทำผิดและแถลงต่อสาธารณะให้ได้ภายในกรอบเวลาที่ตั้งไว้จริงๆ เพราะตอนนี้ผ่านมา 4 วันแล้ว เรายังไม่ได้เห็นความคืบหน้าการสอบสวนในส่วนของเจ้าหน้าที่รัฐแต่อย่างใด หวังว่าสุดท้ายแล้วเรื่องนี้จะไม่ใช่การเตะถ่วงแล้วปล่อยให้กระแสถูกกลบหายไปกับช่วงปีใหม่” โฆษกพรรค ก.ก. กล่าว
 

 
‘พิจารณ์’ แนะ ทร. ให้บุคคลที่สาม สอบเหตุเรือล่ม ชี้สังคมคาใจ ไม่ใช่ตั้งคนกันเอง
https://www.matichon.co.th/politics/news_3744559
 
เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) การทหาร สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีกองทัพเรือตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เหตุเรือหลวงสุโขทัยอับปาง โดยมี พลเรือเอก ชลธิศ นาวานุเคราะห์ เสนาธิการทหารเรือ เป็นประธานว่า เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่ทั้งสังคมให้ความสนใจ และต้องยอมรับว่าประชาชนจำนวนไม่น้อยขาดความเชื่อมั่นในการตรวจสอบกันเองของกองทัพ จึงเห็นว่า ควรใช้บุคคลที่สาม (Third Party Investigator) เข้ามาตรวจสอบคู่ขนาน โดยเสนอให้มีตัวแทนจากฝั่งรัฐสภาร่วมด้วย
 
การตั้งคณะกรรมการที่มีแต่ทหารตรวจสอบกันเอง จะทำให้สังคมตั้งคำถามถึงความโปร่งใสและความตรงไปตรงมาของกองทัพ ยิ่งเมื่อมีข้อสังเกตหนึ่งเกี่ยวกับสาเหตุที่ทำให้เรือหลวงสุโขทัยอับปางว่าอาจเกี่ยวข้องกับกระบวนการซ่อมบำรุงและการตรวจรับงานซ่อมต่างๆ ที่อยู่ในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ยิ่งทำให้ประชาชนมองว่าปัญหาการจัดซื้อที่ด้อยคุณภาพของกองทัพ ส่งผลกระทบต่อศักยภาพของเรือและความปลอดภัยของกำลังพล” นายพิจารณ์กล่าว
 
นายพิจารณ์กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ใน กมธ.การทหาร ได้สอบถามกองทัพเรือ ว่าสามารถดึงบุคคลภายนอกเข้าร่วมตรวจสอบสาเหตุของเหตุการณ์ครั้งนี้ได้หรือไม่ แต่กองทัพเรือไม่ได้ตอบคำถาม ภายหลังเพจ Thai Armed Forced (TAF) ซึ่งเป็นเพจที่เกาะติดเหตุเรือล่มนี้อย่างใกล้ชิด ได้เสนอให้มีผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและผู้เชี่ยวชาญด้านอื่นๆ จากภายนอกเข้าร่วมตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม หากกังวลว่าข้อเสนอของตนที่ให้มี ส.ส.ร่วมตรวจสอบด้วย อาจทำให้เกิดการแทรกแซงการทำงานของข้าราชการประจำ ก็สามารถให้ ส.ส.เป็นสักขีพยานหรือร่วมสังเกตการณ์ในการตรวจสอบได้

นายพิจารณ์กล่าวว่า การตั้งคณะกรรมการตรวจสอบที่มีบุคคลที่สาม ถือเป็นมาตรการเฉพาะหน้าเพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชนในการค้นหาสาเหตุที่แท้จริงของกรณีเรือหลวงสุโขทัยล่ม แต่ในระยะยาว แนวทางที่พรรค ก.ก.เสนอมาตลอดคือ การปฏิรูปกองทัพ และการปรับปรุงให้ราชการไทยก้าวหน้า ด้วยการจัดตั้ง ‘ผู้ตรวจการกองทัพ’ ซึ่งเป็นตัวแทนพลเรือนที่เป็นอิสระจากกองทัพและทำหน้าที่ตรวจสอบกองทัพแทนรัฐสภาหรือประชาชน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการดำเนินงานของกองทัพจะเป็นไปอย่างโปร่งใสและมีมาตรฐาน

นายพิจารณ์กล่าวว่า โดยบทบาทนี้อาจครอบคลุมไปถึงการตรวจสอบการใช้อำนาจอย่างไม่เป็นธรรม หรือการกระทำที่ขัดหลักกองทัพอยู่ใต้รัฐบาลพลเรือน การตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณของกองทัพ รายได้ของกองทัพ และโครงการจัดซื้อจัดจ้าง และการพิจารณาและสืบสวนข้อร้องเรียนเกี่ยวกับกรณีที่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนของทหาร นอกจากนี้ ต้องสร้างรัฐโปร่งใส เปิดเผยข้อมูลรัฐทั้งหมด เพราะข้อมูลของรัฐก็คือข้อมูลที่ประชาชนเป็นเจ้าของ หากจะปกปิด หน่วยงานต้องร้องขอว่าเป็นข้อมูลลับ โดยมีเหตุผลที่สมควรเท่านั้น รวมถึงเสริมตัวแทนจับโกงภาคประชาชน ซึ่งคือผู้เชี่ยวชาญในด้านนั้นๆ เข้าร่วมสังเกตการณ์ตลอดกระบวนการในงานที่มีมูลค่าสูงๆ


 
‘บิ๊กตู่’ ยิ้มแห้งๆ ข่มอารมณ์ ฉุนสื่อทำเนียบฯตั้งฉายา บ่นกลาง ‘สภากลาโหม’
https://www.matichon.co.th/politics/news_3744690

‘บิ๊กตู่’ยิ้มแห้งๆ ข่มอารมณ์ ฉุนสื่อทำเนียบฯตั้งฉายา บ่นกลาง ‘สภากลาโหม’ ตั้งอะไร ดิสเครดิต
 
เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังประชุมสภากลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้ใช้เวลาปฏิบัติงานต่อจนถึงเวลา 16.30 น. ก่อนเดินไปเปิดงานมหาธีรราชเจ้ารำลึก มหกรรมวัฒนธรรม จ.นครปฐม ที่องค์พระปฐมเจดีย์

ทั้งนี้ ระหว่างที่ พล.อ.ประยุทธ์เดินลงจากศาลาว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ยิ้มและโบกมือทักทายสื่อ โดยไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการประชุมสภากลาโหม พล.อ.ประยุทธ์กล่าวช่วงหนึ่งถึงการตั้งฉายาของสื่อทำเนียบรัฐบาล ว่า “ตั้งอะไร ดิสเครดิตน่าดู
 
โดยเมื่อช่วงสายในวันเดียวกัน ภายหลังจากที่นายกรัฐมนตรีทราบข่าวว่าสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล ได้ตั้งฉายารัฐบาลและนายกรัฐมนตรี ประจำปี 2565 ว่า รัฐบาลหน้ากากคนดี และนายกฯ “แปดเปื้อน” ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์แสดงอาการไม่พอใจ โดยผู้สื่อข่าวชี้แจงว่าเป็นประเพณีปฏิบัติของสื่อมวลชนทำเนียบรัฐบาล ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวทันทีว่า “ประเพณีบ้าๆ บอๆ อย่างนี้ไม่มี” พร้อมโบกมือไล่สื่อมวลชน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่