ตังโจ่ย ประวัติเทศกาลขนมบัวลอย

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
เช้านี้ไหว้ขนมบัวลอยกันรึยังคะ  มาฟังประวัติการไหว้ขนมบัวลอยของคนจีนกันค่ะ

ตังโจ่ย" เทศกาลขนมบัวลอย มาถึงแล้วค่ะ 
การ "ซออี๊" หรือการปั้นขนมบัวลอยจากแป้งข้าวเหนียว  เพื่อนหลายๆคนเริ่มนึกถึงอดีตกันแล้วใช่มั้ยคะ 
อาม้า อาม่าจะพูดขณะนั่งล้อมวงซออี๊ว่า "เจียะอี๊ตั่วแกเจ็กนี้/ซออี๊เจ็กฉื่อ ตั่วแกเจ็กห่วย" กินขนมบัวลอย โตขึ้นอีกหนึ่งขวบปี 
แล้วพวกเราก็จะช่วยกันปั้นไปบ่นไป ไม่อยากโตเลย ไม่กินได้มั้ย... แล้วแป้งบัวลอยที่อาม้า อาม่าปั้นก็จะเป็นลูกกลมๆสีขาว สีชมพูสวยๆเรียงเต็มตั่งปั๊ว (ถาด) แต่พอหันมาทางพวกเราก็จะเห็นไดโนเสาร์ หมู หมา ช้าง ม้า วั่วควาย ยืนเรียงเต็มตั่งปั๊วเหมือนกัน ฮ่าฮ่า...
ชาวจีนให้ความสำคัญกับเทศกาล "ตังโจ่ย" ไม่แพ้วันตรุษจีน เพราะเสมือนเป็นวันสิ้นปีเก่าและเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของธรรมชาติ 
อากาศหนาวเย็นเริ่มมาแล้ว ผู้คนจะปิดร้านรวงแล้วทำบุญไหว้เทพเจ้าฟ้าดิน ปึงเถ่ากง ตี่จู๋เอี๊ย 
เพื่อขอบคุณที่ช่วยให้สมาชิกในครอบครัวดำรงชีวิตมาอย่าราบรื่นตลอดปีที่ผ่านมาด้วยขนม "อี๊" คืนก่อนวันไหว้ 
สมาชิกในครอบครัวก็จะนั่งล้อมวงเตรียมปั้นแป้งข้าวเหนียวทำขนมบัวลอย แสดงถึงความสามัคคีกลมเกลียวกัน
ถ้าอยู่ในชุมชนชาวจีนที่บ้านติดๆกัน "ชู้ปี" (เพื่อนบ้าน) ไม่ว่าจะเป็นอาอี๊ อาซ่อ อาโกว อาแจ้ พอเห็นบ้านไหนเริ่มซออี๊ 
ตัวเองก็จะเข้าบ้านถือถาดแป้งของตัวเองออกมาพร้อมยกเก้าอี้ส่วนตัว (เก้าอี้ตัวเล็กๆ) มานั่งล้อมวงร่วมปั้นอี๊ด้วย 
ปั้นไปคุยไป พอปั้นเสร็จก็แยกย้าย เช้ามาก็ต้มน้ำเชื่อมใส่ ไหว้เจ้ากัน

สมัยอาอึ้มยังอยู่ แม่นันยังได้ช่วยปั้นบ้าง ปั้นเสร็จก็โยนใส่ตั่งปั๊ว (ถาดกลมๆมีลายดอกไม้สวยๆตรงกลาง สมัยนี้ไม่ค่อยใช้กันแล้วค่ะ) 
ปั้นแป๊บเดียวก็เต็มถาด เป็นที่สนุกสนาน พอเช้าอาอึ้มก็นำมาต้มใส่น้ำเชื่อมหวานๆ ไหว้เจ้าที่ ไหว้เสร็จก็จะตักให้กินคนละถ้วย หวานซ้า.า 
แม่นันไม่ค่อยชอบหรอกค่ะ แต่พออาอึ้มบอกว่า "เจี้ยะเหลาะโน๊ว. เจียะตีตี ฮอ กากี่" "เจียะเลี่ยวตั่วแกเจ็กนี้" 
(กินซะลูก เจียะตีตี แล้วดีกับตัวเองนะ โตขึ้นอีกปีแล้วนะ) เจียะตีตี ในที่นี้หมายถึงให้กินเป็นธรรมเนียม ชีวิตจะได้ตีตีหวานๆสดชื่นไม่มีอะไรติดขัด 
กินแล้วโตขึ้นอีกขวบปีแล้วนะ "ไม่ได้อยากโตเลย" (แม่นันคิดในใจ)
อาตัวแจ้เล่าว่า สมัยก่อนบ้านเราเวลาไหว้ขนมบัวลอยที เป็นอะไรที่วุ่นวายแกมตลกมาก 
พอไหว้เจ้าเสร็จ อาป๊ะก็บอกให้พวกเราเอาเจ้าบัวลอยนี่ล่ะ ไปเสียบตรงหมึ่งซิ้ง (ที่ปักธูปข้างประตู้บ้าน) ข้างละเม็ด 
เสร็จแล้วก็ให้แปะโต๊ะ แปะเก้าอี้ แปะนู่นแปะนี่ แปะเต็มไปหมด อ้อ..ตอนลาเจ้าที่ต้องเอาเม็ดบัวลอยเสียบตรงข้างๆศาล (ตรงระเบียงด้านข้างน่ะค่ะ) 
ข้างละเม็ดด้วยนะคะ ประมาณว่าเจ้า "ตีอี๊" (ขนมบัวลอยหวานๆเหล่านี่ แทนความเป็นปึกแผ่น เหนียวแน่น สมัครสมาน 
"แจ้ยังคิดในใจตอนทำตามคำสั่งเลยว่า เดี๋ยวมดก็ขึ้นเต็มบ้านหรอก หวานซะขนาดนั้น" อาแจ้เล่าไปหัวเราะไป
"แล้วมดขึ้นมั้ย" แม่นันแกล้งถาม
"ไม่เห็นแฮะ เห็นตอนพอหลายๆวันเข้า ขนมบัวลอยแข็งโป๊กเลย"

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่