ตำแหน่งเดียวกันและค่าตอบแทนสูงกว่า แต่ต้องเข้ากรุงเทพ เป็นคุณจะตัดสินใจอย่างไรครับ

ผมอายุ 32 ย่าง 33 ตอนนี้ทำที่ปัจจุบันมา 6 ปีกว่าแล้ว ได้เงินเดือน 42K นิดๆครับ 
ตำแหน่งโปรแกรมเมอร์งานหลัก กราฟฟิกดีไซต์งานรอง แบบว่าแบกส่วนนี้ให้บริษัทอยู่ เพราะส่วนมากอยู่กันไม่นานเจ้านายเลยไม่รับอีก
ตอนที่ยังอยู่แค่โปรแกรมเมอร์ เงินเดือนได้แค่เลขสาม พอเจ้านายให้ทำตำแหน่งนี้ด้วยแกมขอร้อง ผมเองก็ไม่ติดถือเพราะงานไม่ยากอะไร 

ทีนี้ลองหาเว็บสมัครงานเล่นๆ ลองยื่นเรซูเม่ไป 3 ที่ ในกรุงเทพเมื่ออาทิตย์ก่อน 
พร้อมเรทเงินเดือนที่อยากได้ พร้อมแนบผลงานไว้คร่าวๆ อย่างละ 1 ที่ ผลปรากฎคือ เรียกสัมภาษณ์สองที่ โชคดีที่เป็นแบบออนไลน์

ถามใจผมว่า มีใจจะลาออกหรอ ผมไม่มีนะ ที่ทำงานปัจจุบันดี เจ้านายดีกับผมมาก จนไม่อยากไปไหน
แต่ในกรุงเทพ ค่าตอบแทนสูงมาก แต่ที่โผล่มาเยอะแยะมากมายคือ หน้าที่และความรับผิดชอบที่ยาวเป็นหางว่าว ฮ่าๆ

ที่แรก ลองเรียก 55K เขาก็รับข้อเสนอและขอพิจารณาดูก่อน
ที่สอง ลองเรียก 57K ทางนั้นก็ฟีดแบคมาว่า ขอพิจารณาดูก่อน
ที่สาม เรียก 65K ยังไม่มีการตอบรับจากบริษัทนั้น

สองที่แรก ผมยังไม่ตอบตกลงเขานะ แค่สัมภาษณ์เฉยๆ แต่ข้อเสนอน่าสนใจมาก
มีสิ่งเดียวที่ผมว้าวคือ เขาสามารถจ่ายเรทเท่านี้ได้ เพราะเขาพอใจกับผลงานที่ผมทำให้เขาได้ 

แต่หลายๆสิ่ง ผมกลับมองว่าไม่คุ้มเลย 
ไปอยู่ กทม อย่างแรกเลยคือ

1. ผมต้องไปเช่าหอพัก ผมดูทำเลและเรทค่าหอพักที่ใกล้ที่ทำงาน ทั้ง 2 ที่ที่เรียกสัมมาแล้ว ไม่ต่ำกว่า 5500/เดือน เงินเดือนหายไปประมาณ 5500-6000 บาทต่อเดือนเลย ยังไม่รวม ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าจอดรถ อีกนะ (ผมขับรถยนต์)

2. การเดินทางไปกลับที่ทำงาน ผมต้องนั่งวิน หรือแท็กซี่แน่ๆถ้าวันนั้นรถติดเยอะมากๆ หรือไม่ก็ต้องเอารถมอเตอร์ไซต์ไปด้วยคันนึง ถ้าไม่อยากรถติด แต่ผมว่าในกรุงเทพ ขับมอไซต์ไปเองดูวัดใจไปหน่อย เนื่องจากเราไม่คุ้นเคยถนนและเส้นทาง แต่ถ้าจะขับรถยนต์และขนจักรยานยนต์ไปด้วยก็ยังไงอยู่ ดูพะลุงพะลังสุดๆ

3. ผมไม่เคยเข้ากรุงเทพสักครั้ง ไปไหนก็คงพึ่งพา GPS แต่เคยเปิดดูแผนที่ ซอกซอยเยอะมาก กลัวหลงเหมือนกัน ฮ่าๆ 

4. ค่าอาหารแต่ละวัน ผมคงไม่มีเวลาทำกับข้าวกินเอง เหมือนที่ผมเคยทำงานอยู่ที่บ้านได้แน่ๆ อย่างน้อยหมดเงินค่าอาหารวันละ 350-400 บาทต่อวัน ไหนจะค่าจิปาถะอีกมาย ที่พอไปอยู่ที่กรุงเทพมันต้องใช้เงินแน่ๆ 

5. สมมติได้ 55K หักค่าที่พักค่าน้ำค่าไฟค่าอาหารต่อเดือน ค่าของใช้ส่วนตัว คงเหลือประมาณ 25K แบบประหยัดสุดๆแล้ว ซึ่งถ้าเทียบกับที่ทำงานที่ผมทำตอนนี้ ผมรับที่ 42K กว่าๆ แต่เงินเดือนแทบไม่ค่อยได้ใช้เลย มีเก็บเต็มเม็ดเต็มหน่วย เพราะเอาเงินที่จากค่าเช่าบ้านที่ปล่อยให้เช่าในตัวเมืองพิษณุโลกเช่า ได้ประมาณเดือนละ 5-6 พัน ก็เอาส่วนนั้นมาใช้ 

6. อยู่ กทม ผมต้องซื้ออาหารกินเอง แต่ อยู่บ้านเกิด ผม Work From Home มา 3 ปีแล้ว ทำอาหารกินเองได้ทุกเวลา ถ้างานไม่มี

7. ทำงานอยู่ที่บ้านมีเวลาดูแลตัวเองและได้ดูแล แม่ ตา ยาย แต่ถ้าผมไปทำงานที่กรุงเทพ ผมต้องห่างพวกเขา ผมก็อดเป็นห่วงพวกแกไม่ได้ เพราะที่บ้านอายุก็เยอะกันมากแล้ว แม่ก็แก่ตัวลงทุกวัน ตาและยายถึงจะมีเงินเดือนของตัวเองจากเงินบำนาญข้าราชการเกษียณเดือนละ 2-3 หมื่นต่อคน แต่เวลาแกเจ็บไข้ ก็ต้องไปโรงบาล ถ้าผมไม่อยู่ ใครไปจะส่งพวกแก ผมเป็นห่วงพวกแก

8. กลัวว่าถ้าทำงานที่ใหม่ แล้วไม่ผ่านโปรขึ้นมาด้วยเหตุผลบางประการ หากขอกลับมาทำงานที่เก่า เจ้านายคงจะมองเราไม่เหมือนเดิมอีก ทำงานมาด้วยกันค่อนสิบปี อยู่ดีๆขอลาออก เพียงเพราะเจอที่ที่ให้ค่าตอบแทนเยอะกว่า พอไปไม่รอดก็กลับมา เขาจะมองเราในทางที่ดีหรือไม่ดี ก็ไม่รู้

นั่นสิ ดูแล้ว ข้อเสีย ข้อกังวล เยอะกว่าข้อดีที่ผมจะได้ จากการย้ายถิ่นฐานหน้าที่การงานเลยแฮะ

คิดว่าอยู่ที่เก่าที่ลงตัวหมดแล้ว ทั้งงาน ความรับผิดชอบ รู้งานหมดแล้วจนบางวันก็เบื่อ
แต่ค่าตอบแทนไม่น่าเกลียดและสามารถเนรมิตรทุกอย่างได้ ไม่เร่งรีบ แต่ก็รู้ว่ามันเติบโตไปได้ไม่มากกว่านี้แล้ว
ตามสไตล์บริษัทต่างจังหวัด พูดง่ายๆก็คือมีเพดานเงินเดือนนั่นแหละ 

แต่ถ้าในกรุงเทพ เรทสูงมากเรื่องค่าตอบแทน แต่ข้อเสีย ก็ตั้งแต่ข้อ 1-8 ที่ผมกล่าวไป 

ถ้าเป็นเพื่อนๆ จะตัดสินใจอย่างไรครับ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 50
ขอบคุณสำหรับทุกๆท่าน ที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นครับ และมันทำให้ผมตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

ตอนนี้ผมได้คำตอบในใจแล้ว ขอบคุณสำหรับข้อคิดดีๆด้วยนะครับ

อมยิ้ม36
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่