จขกท.เป็นผู้หญิงนะคะ
เราคบกับแฟนมา 5 ปี แฟนอายุ 30 เราอายุ 29 ระยะยเวลาที่คบกันเวาไปไหนมาไหนส่วนมากเราจะจ่าย แต่พอช่วงโควิดมาแฟนก็ตกงานและยังไม่ได้หาอะไรทำ ช่วงนั้นแฟนลำบาค เราก็เลยให้แฟนใช้เงินกระเป๋าเดียวกับเรา ค่ากิน ค่าของใช้ส่วนตัว ค่าไปเที่ยวด้วยกันเราจ่ายหมด หลังจากนั้นแฟนได้ทำธุรกิจอย่างนึงกับเพื่อน นำเครื่องใช้ไฟฟ้าจากจีนมาขาย
นามสมมุติเพื่อนแฟนว่า B นามสมมุติรุ่นพี่ของเพื่อนแฟนว่า D
B ทำธุรกิจนี้กับ D มาประมาน 1 ปีกว่าๆ เวลา B จ่ายเงินหรือสั่งของพรีออเดอร์ก็จะไปวางเงินที่บ้านของ D พอของมาก็จะไปรับที่บ้าน ได้รู้เห็นที่บ้านว่าบ้านรวย มีเงิน บ้านหลังใหญ่ รถหรูหลายคัน ของใช้แบรนด์เนมต่างๆ
แฟนเราก็เลยเห็นว่าช่วงนี้ไม่ได้มีรายได้อะไรก็เลยอยากจะทำกับ B บ้างแฟนเราเลยไปปรึกษาแม่ของเขาแล้วได้ยืมเงินแม่เขามาจำนวน 600,000 ก็ได้ไปลงทุนกับ D ได้ไปรู้จักที่บ้าน และเห็นว่ามีธุรกิจจริงๆ เลยได้ลงทุนด้วย 1-5 เดือนแรกแฟนได้ของและกำไรตรงทุกเดือน เดือนละ 2-3 หมื่นบาท จากนั้นเราเลยเห็นว่ารายได้ดี เราก็เลยอยากจะทำบ้างแต่เราก็ไม่ได้มีทุนมากมาย แต่เรามีพื้นฐานตัวแทนจำหน่าย เพราะแต่ก่อนเราเคย ขายเสื้อผ้าออนไลน์ เราก็ได้ไปโพสรายละเอียด หลังจากนั้นมีลูกค้าที่เคยซื้อของกับเราคนนึงเขาสนใจ เลยอยากจะสั่งของแบบเหมาตู้คอนเทรนเนอร์เป็นจำนวนเงิน 2 ล้านบาท ลูกค้าบอกเราว่าพร้อมวางเงิน แต่เดี๋ยวจะโอนเงินให้เราอาทิตย์หน้า เราก็เลยไปบอกแฟนเราว่า มีลูกค้าเราสนใจอยากจะสั่งของเหมาตู้ และลูกค้าจะโอนเงินให้อาทิตย์หน้าก่อนจะปิดรอบสั่งของ แฟนเราเลยได้บอก D ว่าเราหาลูกค้ามาได้เขาสั่งของเป็นจำนวนเงิน 2 ล้านบาท ทาง D ก็บอกแฟนเราว่าสั่งให้ได้แต่ไปปิดยอดทางลูกค้าเรามาให้ได้จริงๆแล้วกัน พอถึงวันนัดให้เงินจริงๆ ทางลูกค้าเราแจ้งว่ายังไม่ได้เงินนู้นนี้นั่นเลยจะขอยกเลิกก่อน เราก็มาบอกแฟน แฟนได้ไปบอกทาง D แต่ทาง D ไม่ยอมเพราะเขาบอกว่าเขาสั่งของไปให้แล้วออกเงินไปให้ก่อนแล้ว ทีนี้ความซวยก็ตกมาถึงแฟนเราค่ะ D บอกแฟนเราว่าถ้าทางนั้นไม่โอนเงินมา แฟนเราก็ต้องรับผิดชอบในส่วนนี้ ครึ่งนึง ให้รับของไว้เอง ถ้าไม่รับผิดชอบ ก็จะทำให้ธุรกิจของ D พังไปหมด ทั้งของที่แฟนลงทุน 600,000 และของเพื่อนแฟนอีก 200,000 เราเลยได้คุยกับ D แต่จากน้ำเสียงของ D ที่เร่งเอาเงินเราว่ามันแปลกๆ พูดกลับไปกลับมา เราเลยบอกแฟนว่า เขาออกเงินไปให้แล้วก่อนจริงๆหรือป่าว ขอดูหลักฐานได้ไหม เพราะเรา งง ว่า เราแค่แจ้งว่า จะมีลูกค้าเอา แต่เราไม่ได้บอกให้เขาจ่ายเงินไปก่อน แต่แฟนเลยไม่อยากเสียเพื่อน และไม่อยากทำให้คนอื่นๆเดือดร้อนไปด้วย แฟนเลยไปบอกแม่เขาและได้ช่วยรวบรวมเงิน 1 ล้านโอนไปให้ D ( ส่วนตัวเราไม่ได้มีเงินช่วยนะคะ เพราะเราไม่ได้มีเงินเก็บ ทางบ้านเราก็ไม่ได้มีเงิน เพราะเราหาเลี้ยงแม่ เพราะพ่อกับแม่เลิกกันคะ เราได้เงินเดือนมาเราใช้จ่ายที่บ้านเรา และแฟนจนหมด เงินเดือนเราแค่ 15,000 คะ) แม่แฟนก็ได้นำของไปจำนำ ยืมเพื่อนต่างๆ รวบรวมจนได้ 1 ล้านแล้วไปจ่าย D แต่พอถึงวันรับของที่ต้องได้ D เริ่มผลัดเริ่มเลื่อนวันเรื่อยๆ สุดท้ายมาจับได้ว่าเขาโกงคะ ความเริ่มแตกไปสืบประวัติมาว่า เขาทำแบบนี้มานาน ไปซื้อของที่แพง มาขายให้ถูกๆ เพื่อให้ได้กำไรก่อนแรกๆเพื่อล่อให้ลงทุน แล้วก็เอาเงินคนนั้นไปโป๊ะคนนี้ เอาคนนี้ไปโป๊ะคนนั้น บ้านก็ไม่ใช่ของตัวเอง เช่าเขามา รถหรูก็ยังผ่อนอยู่ เลยทำให้โดนโกงทั้งหมด ของแฟนที่ลงทุนตอนแรก 600,000 ของเพื่อนแฟน 200,000 และของยอดลูกค้าเรา 1,000,000 แฟนเครียดมากๆ หลังจากที่เกิดเรื่องนี้ขึ้น พ่อเราก็ได้ติดต่อมาหาเรา หลังจากไม่ได้คุยกัน 5 ปี ( พ่อเรามีเมียและลูกใหม่และเลิกกันกับแม่เรา ไม่ส่งเงินให้เราต้องหาเงินเลี้ยงแม่ ) พ่อได้ติดต่อมาหาเราและให้เราไปทำงานที่บริษัทของคุณพ่อเราเลยได้ไปทำงานที่บริษัทของคุณพ่อ เงินเดือนๆละ 30,000 บาท และเราได้ตกลงกับแฟนว่า เราจะช่วยรับผิดชอบหนี้ เราจะทยอยให้แฟน เดือนละ 10,000-15,000 ที่เหลือเราก็ต้องเก็บไว้กินไว้ใช้จ่ายในบ้าน แล้วไหนค่ากินนั้นนี้ของแฟนเราอีก แฟนเราก็เครียดมากเพราะแม่แฟนก็ไปยืมเงินคนอื่นมาเขาก็มาทวง ส่วนตัวแฟนเราตั้งแต่โดนโกงมา ตอนนี้เป็นระยะเวลา 8 เดือนแล้วคะแฟนไม่ได้หางานทำไม่ได้มีรายได้อะไรเลย ส่วนตัวเราก็มีเพื่อนเยอะ บางทีไปวันเกิดเพื่อนคนนั้นคนนี้บ้าง หรือเพื่อนชวนไปเที่ยวกลางคืนบ้าง แต่แฟนเราไปด้วยตลอด เวลาไปกับเพื่อนก็หารกัน เราก็จะจ่ายให้แฟนด้วยเหมือนจ่าย x2 บางทีเพื่อนเราก็เที่ยวร้านแพงแถวทองหล่อ คืนนึงเรากับแฟนหมด 3-4 พันบาท แต่ถ้าแฟนเราไม่ไปด้วย เราก็เสียเงินแค่ไม่ถึง 500 เพราะส่วนตัวเราไม่ดื่มเหล้า แต่แฟนดื่ม และเพื่อนเราดื่มหนัก ค่าใช้จ่ายก็จะเยอะและบิลเท่าไหร่ก็จะหารคนที่ดื่ม จนมาตอนหลัง เราต้องไปเที่ยวต่างจังหวัดวันเกิดเพื่อน เพราะเป็นเพื่อนสนิทเราก็ไม่ได้อยากไปแต่เพื่อนจ่ายค่าที่พักอะไรหมด เราเตรียมเงินแค่ค่ากินและน้ำมันของเราและแฟน แฟนก็ได้ไปบอกแม่เขาว่าเดี๋ยวจะไปต่างจังหวัดกับเรา แม่แฟนได้พูดกับแฟนมาคำนึงว่า “ตัวเรารู้ไหมว่าตอนนี้ที่บ้านแฟนและแม่แฟนกำลังลำบาค” เราก็เลยไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่เลยได้มีปากเสียงกับแฟน และทำให้เรากับแฟนทะเลาะกัน แฟนก็พูดไปถึงเรื่องที่เราสร้างเรื่อง ทำให้แฟนเสียเงินโดนโกงจนหมดตัว จนแม่เขาลำบาค แฟนเราบอกว่า เรารักแต่ตัวเอง เราได้เงินเดือนมา 30,000 แต่เราช่วยแฟนแค่นั้นซึ่งเรากำลังสับสนว่า เราทำผิดหรอที่เราแบ่งเงินให้แค่นั้น เพราะเราต้องมีค่ากินค่าใช้จ่ายส่วนตัวไหนจะเลี้ยงแฟนเราอีก เรื่องเที่ยวกลางคืนกับเพื่อนเราก็เดือนละครั้ง เราทำงานเครียดก็อยากเที่ยวบ้างถ้าเราไปคนเดียวก็ใช้ไม่ถึง 500 แต่นี่แฟนเราตามเราไปด้วยตลอดค่าใช้จ่ายถึงครั้งนึง 3-4 พัน ปัญหานี้เรามืดแปดด้านว่าเราควรทำยังไง มันถึงจะถูกต้อง เรื่องนี้เราทะเลาะกันตลอด เขาโทษแต่เราคนเดียวว่าเราสร้างเรื่อง แต่เราก็จะบอกเขาว่า เรื่องนี้ผิดทั้ง 3 คน ผิดที่ D ตั้งใจจะโกงอยู่แล้ว และผิดที่เราที่ไปหาลูกค้ามา และผิดที่แฟนไปเชื่อเขามาก แฟนก็จะโทษแต่เราว่าก็ถ้าเราไม่หาลูกค้ามา เขาก็คงโดนโกงแค่ยอดของเขาแค่ 600,000 ไม่ได้มาโดนเป็นล้าน
เราเป็นต้นเหตุที่ทำให้แฟนเป็นหนี้ 1 ล้านกว่า
เราคบกับแฟนมา 5 ปี แฟนอายุ 30 เราอายุ 29 ระยะยเวลาที่คบกันเวาไปไหนมาไหนส่วนมากเราจะจ่าย แต่พอช่วงโควิดมาแฟนก็ตกงานและยังไม่ได้หาอะไรทำ ช่วงนั้นแฟนลำบาค เราก็เลยให้แฟนใช้เงินกระเป๋าเดียวกับเรา ค่ากิน ค่าของใช้ส่วนตัว ค่าไปเที่ยวด้วยกันเราจ่ายหมด หลังจากนั้นแฟนได้ทำธุรกิจอย่างนึงกับเพื่อน นำเครื่องใช้ไฟฟ้าจากจีนมาขาย
นามสมมุติเพื่อนแฟนว่า B นามสมมุติรุ่นพี่ของเพื่อนแฟนว่า D
B ทำธุรกิจนี้กับ D มาประมาน 1 ปีกว่าๆ เวลา B จ่ายเงินหรือสั่งของพรีออเดอร์ก็จะไปวางเงินที่บ้านของ D พอของมาก็จะไปรับที่บ้าน ได้รู้เห็นที่บ้านว่าบ้านรวย มีเงิน บ้านหลังใหญ่ รถหรูหลายคัน ของใช้แบรนด์เนมต่างๆ
แฟนเราก็เลยเห็นว่าช่วงนี้ไม่ได้มีรายได้อะไรก็เลยอยากจะทำกับ B บ้างแฟนเราเลยไปปรึกษาแม่ของเขาแล้วได้ยืมเงินแม่เขามาจำนวน 600,000 ก็ได้ไปลงทุนกับ D ได้ไปรู้จักที่บ้าน และเห็นว่ามีธุรกิจจริงๆ เลยได้ลงทุนด้วย 1-5 เดือนแรกแฟนได้ของและกำไรตรงทุกเดือน เดือนละ 2-3 หมื่นบาท จากนั้นเราเลยเห็นว่ารายได้ดี เราก็เลยอยากจะทำบ้างแต่เราก็ไม่ได้มีทุนมากมาย แต่เรามีพื้นฐานตัวแทนจำหน่าย เพราะแต่ก่อนเราเคย ขายเสื้อผ้าออนไลน์ เราก็ได้ไปโพสรายละเอียด หลังจากนั้นมีลูกค้าที่เคยซื้อของกับเราคนนึงเขาสนใจ เลยอยากจะสั่งของแบบเหมาตู้คอนเทรนเนอร์เป็นจำนวนเงิน 2 ล้านบาท ลูกค้าบอกเราว่าพร้อมวางเงิน แต่เดี๋ยวจะโอนเงินให้เราอาทิตย์หน้า เราก็เลยไปบอกแฟนเราว่า มีลูกค้าเราสนใจอยากจะสั่งของเหมาตู้ และลูกค้าจะโอนเงินให้อาทิตย์หน้าก่อนจะปิดรอบสั่งของ แฟนเราเลยได้บอก D ว่าเราหาลูกค้ามาได้เขาสั่งของเป็นจำนวนเงิน 2 ล้านบาท ทาง D ก็บอกแฟนเราว่าสั่งให้ได้แต่ไปปิดยอดทางลูกค้าเรามาให้ได้จริงๆแล้วกัน พอถึงวันนัดให้เงินจริงๆ ทางลูกค้าเราแจ้งว่ายังไม่ได้เงินนู้นนี้นั่นเลยจะขอยกเลิกก่อน เราก็มาบอกแฟน แฟนได้ไปบอกทาง D แต่ทาง D ไม่ยอมเพราะเขาบอกว่าเขาสั่งของไปให้แล้วออกเงินไปให้ก่อนแล้ว ทีนี้ความซวยก็ตกมาถึงแฟนเราค่ะ D บอกแฟนเราว่าถ้าทางนั้นไม่โอนเงินมา แฟนเราก็ต้องรับผิดชอบในส่วนนี้ ครึ่งนึง ให้รับของไว้เอง ถ้าไม่รับผิดชอบ ก็จะทำให้ธุรกิจของ D พังไปหมด ทั้งของที่แฟนลงทุน 600,000 และของเพื่อนแฟนอีก 200,000 เราเลยได้คุยกับ D แต่จากน้ำเสียงของ D ที่เร่งเอาเงินเราว่ามันแปลกๆ พูดกลับไปกลับมา เราเลยบอกแฟนว่า เขาออกเงินไปให้แล้วก่อนจริงๆหรือป่าว ขอดูหลักฐานได้ไหม เพราะเรา งง ว่า เราแค่แจ้งว่า จะมีลูกค้าเอา แต่เราไม่ได้บอกให้เขาจ่ายเงินไปก่อน แต่แฟนเลยไม่อยากเสียเพื่อน และไม่อยากทำให้คนอื่นๆเดือดร้อนไปด้วย แฟนเลยไปบอกแม่เขาและได้ช่วยรวบรวมเงิน 1 ล้านโอนไปให้ D ( ส่วนตัวเราไม่ได้มีเงินช่วยนะคะ เพราะเราไม่ได้มีเงินเก็บ ทางบ้านเราก็ไม่ได้มีเงิน เพราะเราหาเลี้ยงแม่ เพราะพ่อกับแม่เลิกกันคะ เราได้เงินเดือนมาเราใช้จ่ายที่บ้านเรา และแฟนจนหมด เงินเดือนเราแค่ 15,000 คะ) แม่แฟนก็ได้นำของไปจำนำ ยืมเพื่อนต่างๆ รวบรวมจนได้ 1 ล้านแล้วไปจ่าย D แต่พอถึงวันรับของที่ต้องได้ D เริ่มผลัดเริ่มเลื่อนวันเรื่อยๆ สุดท้ายมาจับได้ว่าเขาโกงคะ ความเริ่มแตกไปสืบประวัติมาว่า เขาทำแบบนี้มานาน ไปซื้อของที่แพง มาขายให้ถูกๆ เพื่อให้ได้กำไรก่อนแรกๆเพื่อล่อให้ลงทุน แล้วก็เอาเงินคนนั้นไปโป๊ะคนนี้ เอาคนนี้ไปโป๊ะคนนั้น บ้านก็ไม่ใช่ของตัวเอง เช่าเขามา รถหรูก็ยังผ่อนอยู่ เลยทำให้โดนโกงทั้งหมด ของแฟนที่ลงทุนตอนแรก 600,000 ของเพื่อนแฟน 200,000 และของยอดลูกค้าเรา 1,000,000 แฟนเครียดมากๆ หลังจากที่เกิดเรื่องนี้ขึ้น พ่อเราก็ได้ติดต่อมาหาเรา หลังจากไม่ได้คุยกัน 5 ปี ( พ่อเรามีเมียและลูกใหม่และเลิกกันกับแม่เรา ไม่ส่งเงินให้เราต้องหาเงินเลี้ยงแม่ ) พ่อได้ติดต่อมาหาเราและให้เราไปทำงานที่บริษัทของคุณพ่อเราเลยได้ไปทำงานที่บริษัทของคุณพ่อ เงินเดือนๆละ 30,000 บาท และเราได้ตกลงกับแฟนว่า เราจะช่วยรับผิดชอบหนี้ เราจะทยอยให้แฟน เดือนละ 10,000-15,000 ที่เหลือเราก็ต้องเก็บไว้กินไว้ใช้จ่ายในบ้าน แล้วไหนค่ากินนั้นนี้ของแฟนเราอีก แฟนเราก็เครียดมากเพราะแม่แฟนก็ไปยืมเงินคนอื่นมาเขาก็มาทวง ส่วนตัวแฟนเราตั้งแต่โดนโกงมา ตอนนี้เป็นระยะเวลา 8 เดือนแล้วคะแฟนไม่ได้หางานทำไม่ได้มีรายได้อะไรเลย ส่วนตัวเราก็มีเพื่อนเยอะ บางทีไปวันเกิดเพื่อนคนนั้นคนนี้บ้าง หรือเพื่อนชวนไปเที่ยวกลางคืนบ้าง แต่แฟนเราไปด้วยตลอด เวลาไปกับเพื่อนก็หารกัน เราก็จะจ่ายให้แฟนด้วยเหมือนจ่าย x2 บางทีเพื่อนเราก็เที่ยวร้านแพงแถวทองหล่อ คืนนึงเรากับแฟนหมด 3-4 พันบาท แต่ถ้าแฟนเราไม่ไปด้วย เราก็เสียเงินแค่ไม่ถึง 500 เพราะส่วนตัวเราไม่ดื่มเหล้า แต่แฟนดื่ม และเพื่อนเราดื่มหนัก ค่าใช้จ่ายก็จะเยอะและบิลเท่าไหร่ก็จะหารคนที่ดื่ม จนมาตอนหลัง เราต้องไปเที่ยวต่างจังหวัดวันเกิดเพื่อน เพราะเป็นเพื่อนสนิทเราก็ไม่ได้อยากไปแต่เพื่อนจ่ายค่าที่พักอะไรหมด เราเตรียมเงินแค่ค่ากินและน้ำมันของเราและแฟน แฟนก็ได้ไปบอกแม่เขาว่าเดี๋ยวจะไปต่างจังหวัดกับเรา แม่แฟนได้พูดกับแฟนมาคำนึงว่า “ตัวเรารู้ไหมว่าตอนนี้ที่บ้านแฟนและแม่แฟนกำลังลำบาค” เราก็เลยไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่เลยได้มีปากเสียงกับแฟน และทำให้เรากับแฟนทะเลาะกัน แฟนก็พูดไปถึงเรื่องที่เราสร้างเรื่อง ทำให้แฟนเสียเงินโดนโกงจนหมดตัว จนแม่เขาลำบาค แฟนเราบอกว่า เรารักแต่ตัวเอง เราได้เงินเดือนมา 30,000 แต่เราช่วยแฟนแค่นั้นซึ่งเรากำลังสับสนว่า เราทำผิดหรอที่เราแบ่งเงินให้แค่นั้น เพราะเราต้องมีค่ากินค่าใช้จ่ายส่วนตัวไหนจะเลี้ยงแฟนเราอีก เรื่องเที่ยวกลางคืนกับเพื่อนเราก็เดือนละครั้ง เราทำงานเครียดก็อยากเที่ยวบ้างถ้าเราไปคนเดียวก็ใช้ไม่ถึง 500 แต่นี่แฟนเราตามเราไปด้วยตลอดค่าใช้จ่ายถึงครั้งนึง 3-4 พัน ปัญหานี้เรามืดแปดด้านว่าเราควรทำยังไง มันถึงจะถูกต้อง เรื่องนี้เราทะเลาะกันตลอด เขาโทษแต่เราคนเดียวว่าเราสร้างเรื่อง แต่เราก็จะบอกเขาว่า เรื่องนี้ผิดทั้ง 3 คน ผิดที่ D ตั้งใจจะโกงอยู่แล้ว และผิดที่เราที่ไปหาลูกค้ามา และผิดที่แฟนไปเชื่อเขามาก แฟนก็จะโทษแต่เราว่าก็ถ้าเราไม่หาลูกค้ามา เขาก็คงโดนโกงแค่ยอดของเขาแค่ 600,000 ไม่ได้มาโดนเป็นล้าน