อาแปะว่า "ความรู้สึกและเวลา" คือต้นทุนของความศรัทธาที่ปลูกลงในนักการเมือง หากเสียความรู้สึกต้องรีบ CUT LOSS...

กระทู้คำถาม
...ทางธรรมท่านสอนว่า "พระสงฆ์เป็นเนื้อนาบุญของโลก"  หมายถึงมหาชนปลูกศรัทธาในพระดี ศรัทธานั้นก็เจริญงอกงามดุจเนื้อดินดีปลูกต้นไม้ย่อมงามดี..

ส่วนทางด้านการเมือง อาแปะมองว่า "นักการเมืองเป็นดุจเนื้อนาข้าวของประชาชน" ซึ่งหมายถึง หากนักการเมืองมีความประพฤติดี สุจริต เก่งในงานบริหารด้วย  ดังนี้ผลประโยชน์ที่ประชาชนได้ย่อมเต็มเม็ดเต็มหน่วย  ดุจเนื้อดินดีปลูกข้าวก็ได้ผลผลิตดี หรือจะปลูกพืชอะไรๆก็งามให้ผลตอบแทนสูง ..

แต่หากปลูกศรัทธาให้นักการเมืองไปแล้ว  หลายปีผ่านไป ผลผลิตที่ได้กลับรู้สึกว่าไม่คุ้มค่าเวลาที่เสียไปในการดูแล ปกป้อง ยกยอเอออวย  ..
อย่างนี้อาแปะเห็นว่าควรต้องตัดต้นไม้ศรัทธานั้นทิ้งไปหรือย้ายที่ปลูกใหม่ เพราะนักการเมืองคณะนั้นเป็นดุจเนื้อดินไม่ดี  อย่าไปเสียเวลาให้อีก  อย่าไปเสียความหวังลมๆแล้งๆที่มีต่อนักการเมืองคนนั้น   สู้เอาแรงที่เหลือ เอาศรัทธาที่ยังพอเหลืออยู่ในระบบการเมือง ไปทุ่มเทให้นักการเมืองคนใหม่ๆดีกว่า..

  เมื่อครั้งเลือกตั้งปี 2562 อาแปะเคยมีความรู้สึกศรัทธาเต็มร้อย กับคณะลุง..
อาแปะเสียความรู้สึกศรัทธาไป 25%  เมื่อเกิดเหตุการณ์เทอมินัล 21 ...
อาแปะเสียความรู้สึกศรัทธาไปอีก 25% เมื่อสี่กุมารถูกบีบให้ออกจากพรรคพปชร. ..
อาแปะเสียความรู้สึกศรัทธาไปอีก 25% เมื่อคณะลุงปล่อยกัญชาเสรี..

เท่ากับว่า ทุนที่อาแปะลงไป  เสียความรู้สึกไปถึง 75% ..  เหลือเพียง 25%..
อาแปะคงต้องรีบ cut loss ความรู้สึกดีๆที่มีต่อการระบบเมืองแล้วแหละ เพื่อเอาทุนความรู้สึกดีๆต่อนักการเมืองไทยที่เหลือ25%นี้ ไปลงกับนักการเมืองคนใหม่ๆ ที่น่าจะให้ผลตอบแทนได้ดีกว่า..
และอาแปะก็หวังว่า นักการเมืองคนใหม่ๆเหล่านั้นจะ สร้างผลตอบแทนด้านความรู้สึกดีๆให้กลับมาเต็มร้อยเหมือนเดิม..อย่าให้ลงศรัทธาไปแล้วขาดทุนแบบคณะลุงอีก..

อมิตพุทธ..
ສະບາຍດີຕອນເຊົ້າວັນອາທິດ ໜາວຫຼາຍ..

หมายเหตุ..
เช้านี้อาแปะปลูกต้นขนุน..
เป็นเคล็ดว่าหนุนให้ "ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์" ได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป..
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่