แม้ดัชนีหุ้นจะตกไปถึงพันจุด อาแปะก็ยังมีความสุขดี เพราะการจัดการพอร์ตแบบ 6-4-1 ทำให้รู้สึกมั่นคง..

กระทู้สนทนา
..หก สี่ เอี่ยว.. (6 4 1) หลายคนอาจจะนึกไปถึงเลขของวงการไฮโล ..

แต่สำหรับอาแปะ เลข 6 4 1 เป็นเลขนำโชค...หนะครับ 
การทำกิจกรรมการงานใดๆของอาแปะหากสัมพันธ์กับเลขสามตัวนี้ มักจะประสบผลดีเสมอๆ..

ดังนั้นอาแปะก็เลยใช้เลขสามตัวนี้มาบริหารจัดการพอร์ตหุ้น ซึ่งก็คือบริหารจัดการเงินหน้าตัก...นั่นเอง

อาแปะไม่ใช่นักพนันนะครับ และก็เกลียดการพนันเข้าไส้  ตระหนักอยู่ตลอดเวลาว่าตัวเองเป็นนักลงทุน ไม่ใช่นักพนัน..

ความต่างระหว่างนักลงทุนกับนักพนันในตลาดหุ้นคือ..
นักพนันมักจะมีความต้องการเพิ่มเงินของตนให้เป็นหลายๆเท่าจากต้นทุนคือโลภให้มากที่สุด..
แต่นักลงทุนจะโฟกัสไปที่ผลตอบแทนอันพอเหมาะพอสมกับต้นทุนหากจะได้เกินไปกว่าที่ตั้งเป้าก็คือความโชคดี..

การจัดพอร์ตด้วยเลข 6 4 1 ของอาแปะจึงมุ่งเน้นไปที่ผลตอบแทนอันพอเหมาะพอสมกับต้นทุนไม่มากไม่น้อยไปกว่าผลตอบแทนรวมของตลาดหลักทรัพย์เพราะอาแปะมีมายเซทว่าตนเองเป็นนักลงทุน....นั่นเอง
 

วิถีของอาแปะคือจะแบ่งเงินทุนเป็น สิบเอ็ดส่วน..

6ส่วนของเงินลงทุน....ลงในหุ้นปันผล ทยอยซื้อไป มีแอบขายบ้าง ปรับพอร์ตบ้าง แต่ก็ยังยึดมั่นในหลักการของการซื้อเพื่อเอาปันผล..

4ส่วนของเงินลงทุน...เอาไว้ซื้อหุ้นเล่นขำๆสนุกไม่เก็บหุ้นนาน ไม่เอากำไรมากขึ้นขายลงซื้อ ได้ห้าบาทสิบบาท ก็ขายแล้ว ละก็ไม่ซื้อเยอะ ทีละร้อยหุ้นบ้าง สองร้อยหุ้นบ้าง ..เน้นบันเทิง...หนะครับ

1ส่วนของเงินลงทุน...เอาไว้ใช้จ่ายในชีวิตประจำวันให้ครอบคลุมไปสามปี  เงินปันผลที่ได้จากหุ้นปันผล ก็กันมาไว้ที่ส่วนนี้ให้พอก่อน  หากเหลือจากสำรองจึงเอาไปใส่เพิ่มในพอร์ตส่วนอื่น..

....การที่อาแปะจัดพอร์ตบริหารกองเงินแบบ 6 -4 -1 นี้ ทำให้อาแปะมีความสุขกับการลงทุนในตลาดหุ้นตลอดเวลา ไม่ว่าตลาดจะซึม จะเงียบ จะตกอย่างไรก็ยังเฉยๆ ไม่กัดกร่อนความสุขจากการลงทุนที่มี   เพราะมีความมั่นคงในผลตอบแทนที่ได้แล้วอย่างยั่งยืน..

...หากจะมองว่าตนเองติดดอย ก็ใช่ เพราะดอยหุ้นปันผล..
...หากจะมองว่าตนเองถือเงินสด ก็ใช่อีก เพราะมีพอร์ต4ให้คอยซื้อหุ้นตลอดเวลา

ดังนี้แล้วอาแปะก็ไม่รู้จะทุกข์ไปกับเรื่องราวร้ายๆในตลาดหุ้นไปทำไม ตราบใดที่ตลาดหุ้นไทยยังไม่เจ๊ง   อาแปะก็คงไม่เจ๊ง...กระมัง...เนอะ.?

ที่สำคัญคือ อาแปะมีความมั่นคงด้านอาหารสุดๆ เพราะวางแผนลงทุนทำเกษตรกรรมตั้งแต่เข้าวัยกลางคน  พอสูงวัยก็ไม่ต้องลงแรงเพาะปลูกอะไรมากแล้ว แค่เก็บเกี่ยวพืชผลในสวนกินก็สบาย..

..การลงทุนในด้านการเกษตรเพื่อบั้นปลายชีวิต  ก็เป็นการวางแผนการเงินอย่างนึงนะครับ เป็น passive income ที่อยู่ในรูปของ expected outcome  คือต้องทำงานหนัก ต้องขุดดิน ต้องถากหญ้า ต้องเพาะปลูกในขณะที่เรี่ยวแรงยังมี เพื่อหวังผลผลิตที่ยั่งยืนยามบั้นปลายชีวิต...

นี้คือเรื่องเล่าวิถีชีวิตของนักลงทุน...หนะครับ
มิใช่เรื่องเล่าวิถีชีวิตของนักพนัน...

อมิตพุทธ..
อรุณสวัสดิ..

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่