EP.1 ผีที่ทำงาน

สวัสดีค่ะ  
ขอแนะนำตัวนะคะ  ชื่อ ด.ญ.ปุน  ค่ะ (นามแฝง)
มีเรื่องราวที่เราได้เคยเจอมาตอนที่เราทำงานอยู่ในร้านขนมปังแห่งหนี่ง ใน พัทยา
เรื่องที่จะเล่านี้เกิดขึ้นจริงกับเราเองค่ะ เมื่อ ปี พ.ศ.2562  ช่วงเดือนเมษายน 
เราได้สมัครงานที่ร้านขนมปังแห่งหนึ่ง  เป็นพนักงานทำบัญชีและงานเอกสารทั่วไป

 ร้านขนมปังนี้  มีลักษณะเป็นตึกแถว 4 ชั้น  ชั้นล่าง เป็นหน้าร้านขายขนมปังอบและมีโต๊ะสำหรับให้ลูกค้านั่งดื่มกาแฟได้ 
บรรยากาศชั้นล่างจะมีความครึกครื้นตลอด เพราะมีพนักงานและลูกค้าที่เข้า-ออก ตั้งแต่เช้าตรู่ ถึงเย็น สนุกสนานมาก 
ส่วนชั้นที่ 2 เป็นครัวเย็น สำหรับทำพวกขนมเค้กและขนมที่ต้องแช่แข็งไว้  มีพนักงานทำงานชั้นนี้ 2 คน ชั้นนี้พนักงานทำงาน ตี4-บ่าย2 
หลังจากเวลานี้ ก็เงียบและไม่มีพนักงานอยู่เลย แอบวังเองนิดนึง   ชั้นที่ 4 เป็นห้องพักพนักงาน กั้นห้อง ด้านหน้าและหลัง   
และชั้นสุดท้ายที่จะเล่าต่อไปนี้เอง ที่ทำให้เราเจอประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืม 

คือชั้น 3  ชั้นนี้แหละที่ความรู้สึกของเรามันบอกเลยว่ามีอะไรแน่นอน ครั้งแรกที่เราขึ้นไปดูออฟฟิศ  พอก้าวขาพ้นบันได
มันเหมือนเราเข้าไปในอีกโลกนึงเลยจริงๆนะ    มันเงียบ  มันวังเวง  มันอึดอัด  มันสงัด  เป็นห้องที่รู้สึกได้ว่าไม่ใช่สิ่งมีชีวิตจะอยู่อ่ะ  
มีข้าวของวางเกะกะซ้ายขวา  มีดอกไม้พวงมาลัยวางหน้าห้องทำงาน  เห็นแค่นี้ใจก็ตกไปอยู่ตะตุ่มแล้วบอกตรงๆ นี่เราต้องทำงานที่นี้จริงหรือ
แบบห้องชั้น 3  คือ ด้านในเป็นที่พักพนักงาน  กลางห้องเป็นที่โล่งมีของใช้เก่าๆวางเป็นที่ระลึกซ้าย-ขวา  เวลาเดินเข้าออฟฟิศต้องผ่านที่โล่งนี้
ออฟฟิศเป็นห้องกระจกครึ่งตัว  ครึ่งล่างเป็นอลูมิเนียม ครึ่งบนเป็นกระจกใส เวลานั่งทำงาน จะสามารถมองเข้ามาในกลางห้องที่เป็นที่โล่งได้ 
(อยากจะออกตังค์โบกปูนปิดไปเลยดีกว่า น่ากลัวมาก)
อีกฝั่งมองออกไปด้านนอกได้ แต่หน้าต่างด้านนอกดันติดเป็นฟิล์มดำ เพื่อกันแสง และมีไม้อัดปิดกั้นไว้อีกครึ่งนึง ทำให้ห้องทำงานยิ่งโค-ตระวังเวงไปอีก
ห้องนี้มีขนาดประมาณ 3*6 เมตร เป็นประตูกระจกใสเต็มบาน  เปิดแบบดันเข้า-ออก

และแล้วก็ได้ฤกษ์วันเข้าทำงาน  เราทำงาน  7 โมง- 5 โมง เย็น  ช่วง 3 วันแรก มีพนักงานเก่าอยู่ทำงานด้วย (โชคดีของเรา) แต่พองานจบ 
เราต้องทำงานในออฟฟิศคนเดียว  วันแรกที่เราอยู่คนเดียว เรารู้สึกกลัวมาก  เราพยายามไม่อยู่ออฟฟิศ จะอยู่ชั้นล่างจน 10-11 โมง แล้วค่อยขึ้นมา
บางครั้ง หลายหน เราจะชวนพนักงานชั้นล่างขึ้นมาอยู่ด้วย ให้เหตุผลเขาไปว่า มาช่วยยก-ย้ายของหน่อย  ระหว่างที่เขาช่วยทำโน้นนี่ 
เราก็รีบทำงานของเราให้เสร็จ เพราะเวลาเรานั่งทำงานคนเดียว  สายตาเราจะชอบเห็นอะไรบางอย่าง แวบๆที่หางตาตรงประตูทางเข้า 
ซึ่งมันหลายครั้ง  บวกกับความรู้สึกกลัวที่มันพุ่งพล่านอยู่แล้ว เราต้องคอยหันไปมองตลอด มันยิ่งสร้างความระแวงให้กับเราไปอีก
เราอยู่กับความรู้สึกกลัวแบบนี้ทุกวัน หวังในใจว่าจะไม่เจออะไร และขอร้อง อย่าเจอกับอะไรเลย เราจำเป็นต้องทำงานที่นี้ 

จนในที่สุด มันก็มาถึง มันคือวันที่ 3 ของการทำงาน  เป็นวันเสาร์ เวลาประมาณ 9  โมงกว่าๆ  เราไม่เคยคิดเลยว่าวิญญาณ หรือ ผี หรือ สิ่งลี้ลับ
จะสามารถปรากฏให้คนเห็นได้ ในตอนกลางวันแสกๆ แบบนี้   แต่มันเกิดขึ้นแล้วจริงๆ กับเรา 
จำได้ว่าวันนั้นเป็นวันเสาร์นั้น มีพนักงานลาหยุดหลายคน ทำให้ร้านคนน้อยกว่าปกติ  เราก็เดินขึ้นบันไดเข้าออฟฟิศตอนประมาณ 8 โมง 
บรรยากาศเหมือนกับทุกวัน
แต่วันนี้เรามีงานที่ต้องเคลียร์ให้เสร็จ  และต้องอยู่ข้างบนคนเดียว  ทำยังไงดี  เราจึงเปิดหน้าต่างด้านหน้าเพื่อให้แสงแดดส่องเข้ามาในห้อง 
และเปิดประตูออฟฟิศเพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก บวกกับมีเสียงรถที่วิ่งผ่านไปมา ทำให้เรารู้สึกเหมือนไม่ได้อยู่คนเดียว
พอบรรยากาศดี  ใจเราก็ฟูขึ้นมาหน่อย  พอได้ทำงานต่อ  เราก็นั่งทำเอกสารหน้าคอม เดินไปเดินมาในออฟฟิศ  และยืนตรวจงานบนตู้เอกสาร
ที่สูงประมาณหน้าอก  ด้านซ้ายเป็นหน้าต่างที่เปิดไว้ ด้านขวาเป็นประตูทางเข้าที่เปิดรับลม  เราก้มหน้าตรวจเอกสารอยู่ประมาณ 10 นาที
เรารู้สึกมีใครบางคนมายืนดูเราตรงหน้าประตู ยืนเฉยๆ ยืนหันมาทางเรา  ในใจคิดว่าเป็นเจ้าของร้านขึ้นมาหา  เพราะเห็นที่หางตาว่า
เป็นผู้หญิง รูปร่างอวบ  เราค่อยๆหันไปมองในขณะที่ก้มหน้า เลื่อนสายตามองจากล่างขึ้นบน  ก็เห็นเป็นผู้หญิง ไม่เห็นเท้า
ใส่กางเกงยีนส์รัดรูป 5 ส่วน เสื้อยืดสีดำ ถือกระเป๋าสตางค์ใบยาว มือสองข้างกุมกระเป๋าสตางค์  เรามองเห็นถึงแค่ตรงไหล่ และทุกอย่าง
หายวับไปกับตา  ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ไม่กี่วินาที  เรายืนอึ้งกับสิ่งที่เกิดขึ้น ขาก้าวไม่ออก  จะวิ่งออกจากห้องก็ไม่ได้  จะร้องตะโกนก็กลัวสติแตก
พอตั้งสติได้ เราหยิบกุญแจ ล็อคออฟฟิศ  เดินผ่านออกมาแบบก้มหน้าลงต่ำ  และวันนั้นเราไม่ขึ้นออฟฟิศอีกเลย จนเลิกงาน เราเลยชวนพนักงาน
ข้างล่างขึ้นไปเป็นเพื่อน ด้วยเหตุผลว่าอยากคุยด้วย

เรื่องที่เกิดขึ้นเราไม่ได้บอกใครในร้าน เพราะกลัวเขาจะว่าเราโกหก  เราเลยไปแอบๆถาม
พนักงานคนที่เราคุยประจำ  "ว่าที่นี้มีอะไรไหม"  เขาสวนกลับมาทันทีเลยว่า  "มีอะไรหรอ เจออะไรรึป่าว"
เราเลยตัดสินใจเล่าให้ฟัง เพราะคิดว่าต้องมีใครเจออะไรเหมือนกับเราบ้าง และมันก็เคยมีคนเจอแบบเราจริงๆ
หลายปีก่อนเรามาทำงานที่นี้  มีพนักงานเห็นคนรูปร่างลักษณะแบบที่เราเจอ นั่งทำงานในออฟฟิศตอน ตี 4  เพราะพนักงานต้องขึ้นไปตอกบัตรเข้างาน
ตรงหน้าออฟฟิศ และคิดว่าคนที่นั่งอยู่เป็นเจ้าของร้านมาทำงานแต่เช้า เลยไม่ได้ทักทายกัน  ช่วงสายเจ้าของร้านเดินมาเจอแก 
พี่แกเลยพูดแซวประมาณว่า  "วันนี้มาทำงานแต่เช้าเลยนะ"  เจ้าของร้านบอกว่า  "เพิ่งมาถึงร้านเมื่อกี้"  พี่แกถามแล้วถามอีกว่าจริงหรอ นึกว่าเจ้าของร้านแกล้งอำ  จนแกเล่าให้ฟังว่าเมื่อเช้าเจออะไร  ทีนี้ ไม่มีใครขึ้นไปตอกบัตรอีกเลย จนต้องย้ายที่ตอกบัตรลงมาชั้นล่าง  ไม่มีใครรู้ว่า วิญญาณตนนั้นเป็นใคร  เพราะเจ้าของเล่าว่า แถวนี้เป็นสุสานเก่า ไม่รู้ว่าผ่านอะไรมาบ้าง 

พอเราฟังแล้วเราอยากลาออกเลย ไม่ทำแล้ว เรื่องงานเรื่องคน ไม่เคยกลัว แต่เรากลัวผี  
เราก็ฝืนทำงานที่นี้ได้ 4 เดือนนะ  และเราได้งานใหม่  บอกกับตัวเองว่า เก่งอะ   (สงสัยไหมว่าทำไมถึงอยู่ได้ 555+)  เราขอให้คนไปอยู่เป็นเพื่อนเรา 1 คน เจ้าของร้านเห็นใจ  เราเลยอยู่ได้ถึง 4 เดือน   

เรื่องราวประสบการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับเราบ่อย  ไม่กล้าบอกว่ามีลางสังหรณ์  แต่ถ้าไปที่ไหนแล้วรู้สึกได้ ที่นั้นจะมีอะไรแปลกๆเกิดขึ้นตลอด
หลังจากเรื่องที่เจอ  เราก็หาเปิดธรรมะในยูทูป เจอ นิยายธรรมะ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ของหลวงพ่อจรัญ วัดป่ามะม่วง (วัดอัมพวัน) สิงห์บุรี
เราตัดสินใจไปนั่งกรรมฐานที่วัดป่ามะม่วง เพื่ออุทิศบุญกุศลไปให้เขา 

เราขอบคุณวิญญาณตนนั้นที่ทำให้รู้จัก หลวงพ่อจรัญ  ตั้งแต่เราไปกรรมฐาน ทำให้เราชอบศึกษาธรรมะและนั่งกรรมฐานตลอด
ทำบ้าง หยุดบ้าง แต่ทำมาโดยตลอด

เรายังมีเรื่องเล่าอีกหลายเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเองจะเล่าให้ฟัง  ติดตาม EP ต่อไปได้ค่ะ

ปล. อาจจะเรียบเรียงเรื่องไม่เก่งนะคะ  ขอบคุณที่รับการแบ่งปันค่ะ
ด.ญ.ปุน (นามแฝง)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่