เหตุการณ์นี้เกิดตอน ผู้เขียนอายุ 8 ขวบค่ะ
เป็นช่วงปลายๆปี ใกล้จะปีใหม่ มีการจัดงานเลี้ยงปีใหม่กับเพื่อนบ้าน และเลี้ยงส่ง เพราะครอบครัวผู้เขียนย้ายบ้านพอดี
คืนนั้นมันดึกมากแล้วค่ะ ประมาณเที่ยงคืน ด้วยความเป็นเด็ก ผู้เขียนรู้สึกง่วงจึงขอพ่อแม่กลับก่อน โดยเพื่อนบ้านเป็นคนขี่มอเตอร์ไซค์ไปส่ง แต่ทุกคนดื่มหมด รวมถึงคนที่จะไปส่งด้วย ระยะทางจากบ้านเก่าไปบ้านใหม่ ประมาณ 2 กิโลเมตร แต่พอถึงสี่แยกตลาด จริงๆต้องเลี้ยวซ้าย เพื่อนบ้านเล่าว่า เขามองเห็นเป็นทางตรง จึงขี่ตรงไม่ยอมเลี้ยว ทำให้รถกระบะที่ขับมาทางตรงชนเข้าอย่างแรง ทำให้ผู้เขียนกระเด็นไกลหลายสิบเมตร และฟื้นระหว่างที่ถูกส่งไป ร.พ. เอกชนแห่งหนึ่ง อาการของผู้เขียนจำเป็นต้องให้ พ่อหรือแม่ เซ็นชื่อยินยอม จึงจะรับการรักษาได้ ระหว่างที่นอนรอบนเตียงหน้าห้องฉุกเฉิน จู่ๆผู้เขียนหลับไปค่ะ แล้วฟื้นมายืนอยู่ข้างเตียงตัวเอง ไม่ได้ตกใจนะคะ ตอนนั้นไม่ได้รู้สึกอะไรเลย เห็นตัวเองนอนห่มผ้าสีขาว เห็นเพื่อนของแม่ยืนอยู่ แต่ไม่เห็นแม่ หมอหยิบเอกสารมาแล้วแต่แม่ยังไม่มา
คุณหมอให้เพื่อนแม่ไปตาม ซึ่งเราก็เดินตามเพื่อนแม่ไปด้วย เห็นแม่นั่งร้องไห้จะเป็นลมอยู่ตรงบันได ไม่กล้าเจอลูก ถามแต่ลูกเป็นยังไง เพื่อนแม่บอกว่าต้องเซ็นเอกสารไม่งั้น ร.พ.ไม่รับรักษาเพราะอาการหนัก สุดท้ายแม่มาเซ็นเอกสาร แล้วเรารู้สึกตัวอีกที ตอนหมอใช้กรรไกรตัดกางเกงที่ขาด เพื่อเข้าห้องผ่าตัด
หลังจากผ่าตัดแล้ว แม่ก็เฝ้าทุกวันค่ะ เลยมีโอกาสถามแม่ ว่าแม่อยู่ไหนตอนหนูอยู่ หน้าห้องฉุกเฉิน ที่ ร.พ. แล้วใครไปตามแม่มาเซ็นเอกสาร คำตอบที่ได้ตรงกับสิ่งที่เห็นค่ะ
ก็ตัดสินใจเล่าให้แม่ฟัง แม่ก็งงๆ ว่ารู้ได้ยังไง หรือแม่อาจคิดว่ามีคนเล่าให้ฟังรึเปล่า
เป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยลืมเลยค่ะ ว่าครั้งนึงเคยออกจากร่างด้วย ถ้าไม่ได้กลับมาจะเป็นยังไง
ep.2 ประสบการณ์ อุบัติเหตุที่ทำให้วิญาณออกจากร่าง
เป็นช่วงปลายๆปี ใกล้จะปีใหม่ มีการจัดงานเลี้ยงปีใหม่กับเพื่อนบ้าน และเลี้ยงส่ง เพราะครอบครัวผู้เขียนย้ายบ้านพอดี
คืนนั้นมันดึกมากแล้วค่ะ ประมาณเที่ยงคืน ด้วยความเป็นเด็ก ผู้เขียนรู้สึกง่วงจึงขอพ่อแม่กลับก่อน โดยเพื่อนบ้านเป็นคนขี่มอเตอร์ไซค์ไปส่ง แต่ทุกคนดื่มหมด รวมถึงคนที่จะไปส่งด้วย ระยะทางจากบ้านเก่าไปบ้านใหม่ ประมาณ 2 กิโลเมตร แต่พอถึงสี่แยกตลาด จริงๆต้องเลี้ยวซ้าย เพื่อนบ้านเล่าว่า เขามองเห็นเป็นทางตรง จึงขี่ตรงไม่ยอมเลี้ยว ทำให้รถกระบะที่ขับมาทางตรงชนเข้าอย่างแรง ทำให้ผู้เขียนกระเด็นไกลหลายสิบเมตร และฟื้นระหว่างที่ถูกส่งไป ร.พ. เอกชนแห่งหนึ่ง อาการของผู้เขียนจำเป็นต้องให้ พ่อหรือแม่ เซ็นชื่อยินยอม จึงจะรับการรักษาได้ ระหว่างที่นอนรอบนเตียงหน้าห้องฉุกเฉิน จู่ๆผู้เขียนหลับไปค่ะ แล้วฟื้นมายืนอยู่ข้างเตียงตัวเอง ไม่ได้ตกใจนะคะ ตอนนั้นไม่ได้รู้สึกอะไรเลย เห็นตัวเองนอนห่มผ้าสีขาว เห็นเพื่อนของแม่ยืนอยู่ แต่ไม่เห็นแม่ หมอหยิบเอกสารมาแล้วแต่แม่ยังไม่มา
คุณหมอให้เพื่อนแม่ไปตาม ซึ่งเราก็เดินตามเพื่อนแม่ไปด้วย เห็นแม่นั่งร้องไห้จะเป็นลมอยู่ตรงบันได ไม่กล้าเจอลูก ถามแต่ลูกเป็นยังไง เพื่อนแม่บอกว่าต้องเซ็นเอกสารไม่งั้น ร.พ.ไม่รับรักษาเพราะอาการหนัก สุดท้ายแม่มาเซ็นเอกสาร แล้วเรารู้สึกตัวอีกที ตอนหมอใช้กรรไกรตัดกางเกงที่ขาด เพื่อเข้าห้องผ่าตัด
หลังจากผ่าตัดแล้ว แม่ก็เฝ้าทุกวันค่ะ เลยมีโอกาสถามแม่ ว่าแม่อยู่ไหนตอนหนูอยู่ หน้าห้องฉุกเฉิน ที่ ร.พ. แล้วใครไปตามแม่มาเซ็นเอกสาร คำตอบที่ได้ตรงกับสิ่งที่เห็นค่ะ
ก็ตัดสินใจเล่าให้แม่ฟัง แม่ก็งงๆ ว่ารู้ได้ยังไง หรือแม่อาจคิดว่ามีคนเล่าให้ฟังรึเปล่า
เป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยลืมเลยค่ะ ว่าครั้งนึงเคยออกจากร่างด้วย ถ้าไม่ได้กลับมาจะเป็นยังไง