หลายท่านที่ศึกษาประวัติศาสตร์อาจทราบว่า แม้หลังการปฏิวัติฝรั่งเศสในปี 1789 แล้ว ระบอบการเมืองการปกครองของฝรั่งเศสก็ยังไม่มีเสถียรภาพนัก อำนาจยังคงผลัดเปลี่ยนกันอยู่ตลอด ระบอบการปกครองเปลี่ยนไปมาตั้งแต่ราชอาณาจักร, สาธารณรัฐ, และจักรวรรดิ จนมาถึงสมัยสาธารณรัฐที่สอง หลุยส์ นโปเลียน เป็นประธานาธิบดี ทว่าต่อมาก็อ้างสิทธิ์ในราชบัลลังก์ในฐานะพระราชนัดดาของจักรพรรดินโปเลียน หรือนโปเลียน โบนาปาร์ต แล้วปราบดาภิเษกตนขึ้นเป็นจักรพรรดินโปเลียนที่สาม และทรงครองราชย์จนกระทั่งฝรั่งเศสแพ้สงครามต่อปรัสเซียในปี 1870 รัฐสภาฝรั่งเศสได้สถาปนาสาธารณรัฐที่สามขึ้น จักพรรดินโปเลียนที่สามทรงลี้ภัยไปอังกฤษและทรงใช้ชีวิตที่เหลือที่นั่น ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายของการมีระบอบกษัตริย์ในฝรั่งเศส 

เลยอยากทราบครับว่า ทำไมจักรพรรดินโปเลียนที่สามถึงมีผู้สนับสนุนและครองราชย์ได้ยาวนาน เพราะว่าในตอนนั้นฝรั่งเศสผ่านการปฏิวัติมาหลายสิบปีแล้ว อีกทั้งการกลับมาของระบอบกษัตริย์ก็เป็นการปราบดาภิเษก การครองราชย์ได้ยาวนานระดับหนึ่ง ถ้าจำไม่ผิดน่าจะหลักสิบปี แสดงว่าในตอนนั้นน่าจะยังมีชาวฝรั่งเศสที่นิยมในระบอบกษัตริย์อยู่ไม่น้อย ไม่แน่ว่าถ้าหากไม่ทรงดำเนินนโยบายต่างประเทศผิดพลาดจนแพ้สงคราม ระบอบจักรพรรดิก็อาจยังอยู่คู่ฝรั่งเศสมาจนทุกวันนี้ก็ได้ อีกคำถามคือ แล้วเหตุใดทางอังกฤษซึ่งเป็นคู่แข่งของฝรั่งเศส อีกทั้งยังไม่ได้มีความเกี่ยวดองทางราชวงศ์ ถึงยอมให้ท่านลี้ภัยครับ อย่างตอนปฏิวัติรัสเซียทางการอังกฤษไม่ยอมให้ราชวงศ์โรมานอฟลี้ภัย แม้ว่าพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่สองจะทรงเป็นพระประยูรญาติสนิทกับพระเจ้าจอร์จที่ห้า เนื่องจากมีคนทูลแนะนำว่าสถานการณ์มีความเสี่ยงจะกระทบมาถึงราชวงศ์ได้ แต่ในกรณีของฝรั่งเศสไม่ทราบว่าเพราะอะไร

รบกวนช่วยตอบด้วยครับ ขอบคุณครับ หากมีส่วนใดที่เข้าใจผิดหรือผิดพลาดไปก็ขออภัยด้วยครับ
หมายเหตุ: กระทู้นี้ตั้งขึ้นเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ทางประวัติศาสตร์ ไม่ได้มีวัตถุประสงค์อื่นใดทั้งสิ้น