กรณีป้าสุจินต์

กระทู้สนทนา
นับตั้งแต่ผมเริ่มเข้ามาสนใจพระพุทธศาสนา เกิดกรณีสำคัญๆ ขึ้นมาแล้ว 3 กรณี ซึ่งผมถือตามหนังสือที่หลวงพ่อปยุตโตเขียนขึ้นมา (ก่อนหน้านี้คงมีอีกหลายกรณี เพียงแต่อาจจะไม่มีผลกระทบในวงกว้างต่อพระพุทธศาสนาในระยะยาว จึงไม่มีบทความที่เขียนโดยหลวงพ่อปยุตโต)

กรณีแรกผมเข้ามาไม่ทัน คือ กรณีสันติอโศก ทุกวันนี้ผมก็ยังไม่ได้ศึกษาว่าท่านโพธิรักษ์สอนอะไรกับลูกศิษย์ อาจจะเพราะผมถือว่ามันผ่านไปแล้ว สันติอโศกก็ขอแยกตัวเองออกไปปกครองดูแลกันเองแล้ว ไม่ต่างอะไรกับสำนักต่างๆ เช่น สำนักร่างทรง สำนักปู่โน่นปู่นี่ สำนักพ่อโน่นแม่นี่ ฯลฯ ผมเลยไม่ได้สนใจ

กรณีที่ 2 เป็นช่วงคาบเกี่ยว เพราะเกิดขึ้นตั้งแต่ก่อนที่ผมจะเริ่มรู้จักพระพุทธศาสนาเกือบ 20 ปี คือกรณีวัดธรรมกาย ซึ่งก็น่าจะจบไปแล้วเช่นกัน (หรือเปล่า?) คงไม่ต้องพูดถึง

กรณีที่ 3 เป็นกรณีล่าสุด คือกรณีคึกฤทธิ์ ซึ่งก็เกิดขึ้นหลายปีก่อนที่ผมจะสนใจธรรมะเช่นเดียวกับกรณีวัดธรรมกาย แต่อาจจะไม่นานเท่า และเพื่อให้กระทู้เข้าประเด็นผมก็จะขอไม่พูดถึง แต่ถ้าใครอยากรู้ว่าหลวงพ่อปยุตโตพูดถึงกรณีคึกฤทธ์ไว้อย่างไรก็ลองค้นหาจากกูเกิ้ล พิมพ์ว่า "กรณีพระคึกฤทธิ์" หรือคลิกที่ ลิงค์นี้

มาถึงเรื่องที่ผมต้องการพูดถึง คือ กรณีป้าสุจินต์ ซึ่งแตกต่างจาก 3 กรณีที่กล่าวมาแล้ว และหลวงพ่อปยุตโตก็ไม่ได้เขียนหนังสือถึงกรณีนี้ ไม่แน่ว่าเหตุผลของท่านอาจจะเป็นเหตุผลเดียวกับที่ผมกำลังจะพูดถึงนี้ก็เป็นได้

ก่อนอื่น มีเพื่อนสมาชิกได้หลังไมค์ไปหาผมและให้ข้อมูลเกี่ยวกับป้าสุจินต์ ซึ่งผมก็ต้องขออภัยที่ผมไม่ได้ตอบอะไร เพราะผมเคยบอกไว้แล้วว่าผมขออนุญาตไม่สนทนาหลังไมค์ เช่นเดียวกับเพื่อนสมาชิกท่านอื่นๆ ที่ส่งหลังไมค์มาหาผมผมก็ไม่ได้ตอบอะไรเช่นกัน แต่ถ้ามีโอกาสหรือเห็นพอดีผมก็จะอ่านทั้งหมด และบางคำถามที่น่าสนใจผมจะนำมาตั้งเป็นกระทู้ (โดยไม่ระบุว่าใครเป็นผู้ส่งข้อความมาหาผม) เช่นกระทู้นี้เป็นต้น

เพื่อนสมาชิกท่านดังล่าวได้เกิดข้อสงสัยว่า ป้าสุจินต์เกี่ยวข้องอะไรกับศาสนาคริสต์หรือไม่ มีการแต่งกายที่คล้ายนักบวชคริสต์ เช่น ใส่ชุดดำแขนยาว ติดกระดุมทุกเม็ด ซึ่งเพื่อนสมาชิกบอกว่า "ขาดแค่แถบสีขาวตรงปกเสื้อตรงกลาง ก็จะคล้ายนักบวชคริสต์เลย" หรือสถานที่เวลามีการบรรยายจะมีการตกแต่งด้วยแก้วไวน์ มีดอกไม้ประดับ มีเทียนเล่มเล็กๆ คล้ายกับที่เห็นในโบสถ์ เป็นต้น (ในขณะที่ผมเองก็เคยพูดถึงกรณีที่ไม่มีสัญลักษณ์ทางพระพุทธศาสนาเวลาที่มีการบรรยาย ไม่ว่าจะเป็นพระพุทธรูปหรืออะไรก็ตามให้รู้สึกว่าเป็นศาสนาพุทธ)

แต่เพื่อความเป็นธรรม เรื่องการแต่งกาย ป้าสุจินต์น่าจะใส่เสื้อผ้าหลายรูปแบบ ไม่ได้ใส่แต่เสื้อดำแขนยาว ติดกระดุมทุกเม็ด เท่านั้น เช่น เสื้อลายดอกไม้ หรือเสื้อมีลวดลายสีสันสวยงาม แต่ที่แน่ๆ ผมคิดว่าป้าสุจินต์คงไม่ใส่ชุดขาวเรียบๆ แบบที่เราเห็นชาวพุทธหรือคนไปปฏิบัติธรรมใส่กัน แต่ก็อาจจะมีใส่ก็ได้ พอดีผมไม่ได้ติดตามและไม่ได้สังเกต อาจจะเพราะเป็นผู้ชาย แต่หลังจากนี้ผมอาจจะสังเกตมากขึ้น

ซึ่งการที่เราเห็นการแต่งตัวของป้าสุจินต์ รวมถึงทีมงานทุกคน แตกต่างจากผู้ปฏิบัติธรรมทั่วไป รวมถึงในการบรรยายจะไม่มีสัญลักษณ์ทางพระพุทธศาสนาเกี่ยวข้องเลย นั่นอาจจะเป็นความจงใจ ความตั้งใจให้รูปแบบงานออกมาเป็นลักษณะนั้น

เหตุผลก็เพราะถ้าทำให้บรรยากาศดูเหมือนเป็นพระพุทธศาสนา อาจจะถูกเพ่งเล็งจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หรือมหาเถรสมาคม ก็เป็นได้

เพราะถ้าไม่มีการอ้างอิงพระพุทธศาสนา ก็จะเหมือนกรณีสันติอโศกที่คนมองว่าเป็นสำนักหรือลัทธิหรือตำหนักอะไรสักอย่าง เป็นเรื่องส่วนบุคคล เป็นความศรัทธาส่วนตัว เหมือนคนที่ศรัทธาพญานาค ศรัทธาเจ้าพ่อต่างๆ เจ้าแม่กวนอิม เทพกวนอู คนเข้าทรง หมอผี หมอดู ฯลฯ หน่วยงานทางพระพุทธศาสนาจะไปห้ามปรามหรือเอาผิดอะไรผมคิดว่าคงทำไม่ได้ (เพราะเป็นความเชื่อส่วนบุคคล) ยกเว้นจะมีการฉ้อโกงหรือหลอกลวง

เหมือนเราจะไปห้ามไม่ให้มีชมรมหรือกลุ่ม UFO ก็คงเป็นไปไม่ได้

ต่างกับกรณีของวัดธรรมกายหรือคึกฤทธิ์ ที่เป็นวัดภายใต้กรมการศาสนา หรือภายใต้กฎของมหาเถรสมาคม 

และด้วยความที่ไม่ได้เป็นเรื่องของพระพุทธศาสนาโดยตรง ไม่เกี่ยวกับพระภิกษุ ไม่เกี่ยวกับวัดภายใต้การปกครองของกรมการศาสนาหรือของรัฐบาล จึงไม่มีบทความจากหลวงพ่อปยุตโตเกิดขึ้น เพราะถือว่าเป็นเรื่องของฆราวาส เรื่องความเชื่อของชาวบ้าน

ดังนั้น สิ่งที่เราทำได้ก็คือ การให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องกับชาวพุทธ ส่วนใครสมัครใจที่จะเชื่อถือหรือศรัทธาก็เป็นเรื่องส่วนบุคคล
 
เหมือนเราห้ามคนไม่ให้กินเจ ไม่ให้กราบไหว้พญานาค ไม้ให้นับถือบูชาเทพเจ้าต่างๆ คงห้ามไม่ได้ อย่างมากก็คือให้ความเข้าใจที่ถูกต้องเท่านั้น

(ที่จริง ผมยังมีอีก 2 เรื่องที่อยากจะพูดถึง เป็นสิ่งที่ทั้งคึกฤทธิ์และป้าสุจินต์จะพูดเหมือนกัน เรื่องแรกก็คือการพูดย้ำๆ ว่าให้ฟังคำพระพุทธเจ้า และเรื่องคือต้องรู้จักเทียบเคียงคำสอนหรือโยงพระสูตรหนึ่งกับอีกพระสูตร แต่ก็ขอไม่พูดถึงตอนนี้เพราะอาจจะทำให้เนื้อหากระทู้สับสน ถ้ามีเวลาผมอาจจะโพสต์ในความเห็นย่อยๆ แทน หรืออาจจะไว้โอกาสต่อไป)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่