คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
คห.สต. นะครับ
ผมก็เป็นโรคทางจิตเวชเหมือนกันครับ ผมคนนึงล่ะที่เบื่อนักข่าวและสื่อสมัยนี้ เวลาที่มีคนคลั่งยาบ้าออกมาก่อเหตุกราดยิงหรือจับตัวประกันทีไร ชอบใช้คำว่าป่วยเป็น "ซึมเศร้า" มาก่อนทุกทีไป อยากจะบอกว่าคนเป็นกันเยอะก็จริงครับ แต่มันไม่ได้เอาไว้ใช้อธิบายอาการบ้าคลั่งไร้สตินะครับ มันเหมือนสื่อมวลชนพยายามจะโจมตีชี้เป้าว่าคนป่วยเป็นโรคซึมเศร้ากลายเป็นตัวอันตรายในสังคมไปแล้วสำหรับยุคนี้ และที่เดือดร้อนคือเวลาผมไปสมัครงาน แล้วโดนต้อนจนต้องบอกเขาว่าเป็นซึมเศ้รา แต่ก็อธิบายว่ารักษามานานแล้วและอาการดีขึ้นมากแล้วนะ แต่บรรดานายจ้างมักจะปิดประตูตายกับผมทันที คือพอได้ยินคำว่าซึมเศร้าก็แทบจะชักสีหน้ากันเลยทีเดียว ไม่ก็พยายามจบอย่างมีมารยาทแต่ใจความก็คือไม่รับเข้าทำงานนั่นแหละครับ
ผมเพียงอยากจะสื่อว่า ไม่ว่าจะ ซึมเศร้า ไบโพล่าร์ หรือ หรือผู้ป่วยทางจิตเวชใดๆก็ตาม ทุกคนควรที่จะได้รับการยอมรับและเข้าใจจากสังคมมากกว่านี้ คนส่วนใหญ่ยังมักมองอย่างดาดๆอยู่เลยว่า คนป่วยจิตเวช = คนบ้า และ คนบ้า = คนที่คนทั่วไปไม่สามารถเข้าใจได้ แม้ว่าค่านิยมสมัยนี้จะเปิดรับความแตกต่างทางความคิดมากแล้วก็ตาม มันมักจะเป็นเช่นนี้จนกว่าคุณหรือคนในครอบครัวคุณจะป่วยเสียเองนั่นแหละ ถึงจะเริ่มหันมาเปลี่ยนความคิดอยากจะทำความเข้าใจผู้ป่วยจิตเวชกันจริงๆ สื่อมวลชนน่าจะมีความระมัดระวังมากกว่านี้เยอะๆในการเลือกใช้คำเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบที่ทำให้คนที่ป่วยจิตเวช แต่ยังสามารถทำมาหาเลี้ยงชีพได้ตามปกติ ต้องมาเดือดร้อนเพียงเพราะสื่อนำเสนอมายาคติที่ผิดๆของพวกเขาแก่คนส่วนใหญ่ที่ไม่ได้ป่วย ซึ่งผมก็คิดว่าตรงจุดนี้เองสื่อมวลชนก็เป็นต้นตออย่างนึงเหมือนกันที่ก่อปัญหาที่ จขกท. พูดถึงและเป็นปัญหาที่รบกวนจิตใจของคุณอยู่ด้วย
ฉะนั้น ทางออกสำหรับเรื่องนี้ เริ่มต้นได้ที่ทุกคนครับ ด้วยการช่วยกันทำความเข้าใจในลักษณะและข้อจำกัดของผู้ป่วยจิตเวชในเบื้องต้นให้มากขึ้น ช่วยกันลด ละ เลิก การ Bully ผู้ป่วยจิตเวช เหมือนที่ทำกับคนกลุ่มอื่นๆในสังคม พร้อมทั้งรับฟังสื่ออย่างมีวิจารณญาณครับ ผมเชื่อเหลือเกินว่าถ้าพวกเราร่วมมือกันทำสิ่งเหล่านี้ได้ ก็จะสามารถลดการเกิดเหยื่อของปัญหาเช่น จขกท. และคนอื่นๆในสังคม ลงได้อีกเรื่อยๆครับ
ผมก็เป็นโรคทางจิตเวชเหมือนกันครับ ผมคนนึงล่ะที่เบื่อนักข่าวและสื่อสมัยนี้ เวลาที่มีคนคลั่งยาบ้าออกมาก่อเหตุกราดยิงหรือจับตัวประกันทีไร ชอบใช้คำว่าป่วยเป็น "ซึมเศร้า" มาก่อนทุกทีไป อยากจะบอกว่าคนเป็นกันเยอะก็จริงครับ แต่มันไม่ได้เอาไว้ใช้อธิบายอาการบ้าคลั่งไร้สตินะครับ มันเหมือนสื่อมวลชนพยายามจะโจมตีชี้เป้าว่าคนป่วยเป็นโรคซึมเศร้ากลายเป็นตัวอันตรายในสังคมไปแล้วสำหรับยุคนี้ และที่เดือดร้อนคือเวลาผมไปสมัครงาน แล้วโดนต้อนจนต้องบอกเขาว่าเป็นซึมเศ้รา แต่ก็อธิบายว่ารักษามานานแล้วและอาการดีขึ้นมากแล้วนะ แต่บรรดานายจ้างมักจะปิดประตูตายกับผมทันที คือพอได้ยินคำว่าซึมเศร้าก็แทบจะชักสีหน้ากันเลยทีเดียว ไม่ก็พยายามจบอย่างมีมารยาทแต่ใจความก็คือไม่รับเข้าทำงานนั่นแหละครับ
ผมเพียงอยากจะสื่อว่า ไม่ว่าจะ ซึมเศร้า ไบโพล่าร์ หรือ หรือผู้ป่วยทางจิตเวชใดๆก็ตาม ทุกคนควรที่จะได้รับการยอมรับและเข้าใจจากสังคมมากกว่านี้ คนส่วนใหญ่ยังมักมองอย่างดาดๆอยู่เลยว่า คนป่วยจิตเวช = คนบ้า และ คนบ้า = คนที่คนทั่วไปไม่สามารถเข้าใจได้ แม้ว่าค่านิยมสมัยนี้จะเปิดรับความแตกต่างทางความคิดมากแล้วก็ตาม มันมักจะเป็นเช่นนี้จนกว่าคุณหรือคนในครอบครัวคุณจะป่วยเสียเองนั่นแหละ ถึงจะเริ่มหันมาเปลี่ยนความคิดอยากจะทำความเข้าใจผู้ป่วยจิตเวชกันจริงๆ สื่อมวลชนน่าจะมีความระมัดระวังมากกว่านี้เยอะๆในการเลือกใช้คำเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบที่ทำให้คนที่ป่วยจิตเวช แต่ยังสามารถทำมาหาเลี้ยงชีพได้ตามปกติ ต้องมาเดือดร้อนเพียงเพราะสื่อนำเสนอมายาคติที่ผิดๆของพวกเขาแก่คนส่วนใหญ่ที่ไม่ได้ป่วย ซึ่งผมก็คิดว่าตรงจุดนี้เองสื่อมวลชนก็เป็นต้นตออย่างนึงเหมือนกันที่ก่อปัญหาที่ จขกท. พูดถึงและเป็นปัญหาที่รบกวนจิตใจของคุณอยู่ด้วย
ฉะนั้น ทางออกสำหรับเรื่องนี้ เริ่มต้นได้ที่ทุกคนครับ ด้วยการช่วยกันทำความเข้าใจในลักษณะและข้อจำกัดของผู้ป่วยจิตเวชในเบื้องต้นให้มากขึ้น ช่วยกันลด ละ เลิก การ Bully ผู้ป่วยจิตเวช เหมือนที่ทำกับคนกลุ่มอื่นๆในสังคม พร้อมทั้งรับฟังสื่ออย่างมีวิจารณญาณครับ ผมเชื่อเหลือเกินว่าถ้าพวกเราร่วมมือกันทำสิ่งเหล่านี้ได้ ก็จะสามารถลดการเกิดเหยื่อของปัญหาเช่น จขกท. และคนอื่นๆในสังคม ลงได้อีกเรื่อยๆครับ
แสดงความคิดเห็น
เราเป็น **ไบโพล่า**
ส่วนตัวเราเองเป็นมานานมากๆละ แต่รักษามาแค่สิบกว่าปีเอง จิตแพทย์บอกว่าเราอาจจะเป็นจากกรรมพันธ์ และที่อาการค่อนข้างหนัก เพราะมีความเครียดสะสม และชีวิตเจ็บปวดซ้ำซากตั้งแต่เด้กจึงบวกกันเข้าไปหลายซับหลายซ้อน ทำให้เราไม่สามารถ Control อารมณ์ ( Emotionaly) เวลาที่มันดิ่ง ( Down ) ของตัวเอง และเวลามัน แกว่ง ( Swing ) มันจัดการไม่ค่อยได้
แต่หลังรักษาได้ 5 ปีเราอาการดีขึ้นกว่าแต่ก่อนตรงที่เราสามารถแยกแยะความรู้สึก กับอารมณ์ออกจากกันได้..บ้าง.. มีสติมากกว่าก่อน เวลาเสียใจหรือมีอะไรมากระทบจิตใจ เมื่อก่อนเราจะมีอาการที่เรียกว่า Panic Attack คือตระหนก ตกใจ เสียใจ ใจสั่นหวิวๆ หายใจไม่ออก และจะเป็นบ่อยหากตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน เช่นไม่อยากเจอใคร แต่ต้องไปอยู่ในสถานที่ที่มีคนพลุกพล่าน เช่นไปซื้อของที่ซูเป้อร์มาเก็ตเราไม่สามารถต่อแถวยาวได้
ที่เล่ามาอย่าเพิ่งเบื่อนะคะ เราแค่อยากถามเพื่อนๆที่เป็นโรคนี้ ว่า คุณรู้สึกอย่างไร เวลามีคนเอาเรื่องไบโพล่ามาล้อเล่นเช่นในละคร หรือแม้แต่บางรายการที่ล้อกันว่า ***แหมเธอนี่อารมณ์ไม่อยู่กับที่เลยนะ เป็นไบโพล่าหรือไงยะ?** แล้วหัวเราะกันอย่างกับว่าตลกสนุกสนาน เดี๋ยวนี้เห็นบ่อยมากในทีวี เรารู้สึกว่ามันกระทบจิตใจเราทุกครั้งที่ได้ยิน หรือได้เห็นคนด้อยค่าโรคนี้ เราเสียใจที่ทำไมทุกคนคิดว่าโรคนี้มันตลก บ้าบอเดี่ยวดีเดี๋ยวร้ายเพราะสันดาน ก็เหมาว่าเป็นไบโพล่า ทั้งๆที่คนที่เป็นโรคนี้ เขาไม่ได้เป็นแบบนั้นทุกคน เพราะความเข้มแข็งของคนเรามีไม่เท่ากัน และพวกเขาไม่ได้อยากเป็นแบบนี้...มันทุกข์มากนะ ...มีใครรู้สึกแบบเรามั้ย? หรือว่าเราคิดมากไปเองคะ?
ต้องขอร้อง...ผู้ที่เข้ามาอ่านหากอยากคอมเม้นท์เพื่อให้กำลังใจก็ขอบคุณนะคะ แต่หากอยากเข้ามาเพื่อด่าทอ ตำหนิหรือต่อว่าเอามันประชดเพื่อสะใจ เราขอร้องเถอะนะคะ ขอให้เลื่อนผ่านไปจะดีกว่าค่ะ เพราะเราไม่อยากอ่านอะไรที่มันทำให้เราเจ็บปวดกว่านี้อีกแล้ว แค่อยากฟังความคิดเห็น และคำแนะนำที่เป็นประโยชน์เท่านั้นค่ะ ขอบคุณที่เข้าใจกันนะคะ