ตอนนี้งานของเราจะเกี่ยวข้องกับผู้ป่วยด้วยโรคต่างๆ โดยเฉพาะ 4 โรคยอดฮิตอย่างเช่น ไตระยะต่างๆ ความดัน เบาหวาน อาการมือชานิ้วล็อค และโรคอื่นๆอีกหลายๆโรค แต่ละวันต้องคุยกับผู้ป่วยหลายๆเคส ส่วนใหญ่จะมีปัญหาคือ ทานยาเยอะ แต่อาการยังไม่ดีขึ้น แต่แค่ไม่แย่ลง ไม่อยากฟอกไต ไม่อยากฉีดอินซูลิน หรือไม่อยากต้องผ่าตัด แต่โรคที่น่าเห็นใจที่สุดคือผู้ป่วยไต เพราะว่าบางคนมีหลายโรคด้วยเช่น เบาหวาน ความดัน เก๊าท์ ไขมัน และต้องทานยาเยอะมาก สุดท้ายยาทั้งหมดก็ไปสะสมที่ไต ทำให้ค่าไตลดลงเรื่อยๆ จนถึงขั้นที่ต้องฟอกไตในที่สุด
หน้าทีของเราคือให้คำแนะนำเกี่ยวกับการทำไฮโดรเจนบำบัดด้วยตัวเองที่บ้าน ซึ่งเดี๋ยวนี้ผู้มีปัญหาสุขภาพหลายๆคนเริ่มให้ความสนใจเกี่ยวกับการทำไฮโดรเจนบำบัดกันมากขึ้น เพราะมีค่าใช้จ่ายที่น้อยกว่าการหาหมอที่โรงพยาลมาก อีกทั้งยังไม่มีสารตกค้างเหมือนการทานยาแผนปัจจุบัน เพราะใช้น้ำดื่มที่เราดื่มทุกวันอยู่แล้วมาทำให้น้ำมีค่าไฮโดรเจน
การทดลองความเปลี่ยนแปลงของเลือดเมื่อทำไฮโดรเจนบำบัดที่ประเทศญี่ปุ่น
แต่ถ้าพูดถึงการทำไฮโดรเจนบำบัดคนไทยยังไม่ค่อยรู้จักมากเท่าไหร่ว่าคืออะไร แต่ที่ประเทศญี่ปุ่นซึ่งเป็นต้นกำเนิดวิวัฒนาการการดูแลสุขภาพด้วยการทำไฮโดรเจนำบัด ค่อนข้างเป็นที่นิยมกันมาก มีงานวิจัยมากมายรองรับว่าไฮโดรเจนบำบัดสามารถดูแลแก้ปัญหาสุขภาพหลายๆโรคได้
ก่อนอื่นเราขอให้ข้อมูลก่อนนะว่าไฮโดรเจนบำบัดคืออะไร อยากให้คนที่มีปัญหาสุขภาพเข้าใจเรื่องนี้จริงๆ เผื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการดูแลฟื้นฟูสุขภาพ แบบประหยัดค่าใช้จ่าย และได้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจ และเมื่อเข้าใจเรื่องไฮโดรเจนบำบัดแล้ว เราจะแชร์ประสบการณ์จากเคสผู้ป่วยโรคต่างๆให้ได้อ่านกัน
ไฮโดรเจนบำบัด คือ การบำบัดโรคต่างๆด้วยไฮโดรเจนที่ได้จากการดึง ไฮโดรเจน [H2] ออกจาก น้ำ [H2O] ด้วยกระบวนการอิเล็คโทรลิซิส [Electrolysis] เมื่อจบกระบวนการเราจะได้น้ำที่มีค่าไฮโดรเจนอยู หรือเรียกกันง่ายๆว่า น้ำไฮโดรเจน นั่นเอง
ดูคลิบนี้จากต่างประเทศแล้วจะเข้าใจขึ้น
โดยน้ำไฮโดรเจนจะมี 2 คุณสมบัติหลักในการฟื้นฟูสุขภาพ
คุณสมบัติที่ 1 น้ำไฮโดรเจน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีมากตัวหนึ่ง จะช่วยดักจับอนุมูลอิสระแล้วรวมตัวกลับมาเป็นน้ำขับออกทางเหงื่อหรือปัสสาวะ เพราะอนุมูลอสิระคือตัวทำลายเซลล์อวัยวะต่างๆให้เสื่อมสภาพลง ทำให้อวัยวะนั้นๆไม่สามารถทำงานได้ปกติ เช่น ตับเสื่อม ไตเสื่อม ผนังหลอดเลือดเสื่อม เป็นต้น ทำให้เราสุขภาพไม่ดีเกิดเป็นโรคต่างๆมากมาย
คลิบแสดงการทำงานของอนุมูลอิสระ ที่ทำลายเซลล์อวัยวะให้เสื่อมสภาพ
ภาพแสดงการทำงานของไฮโดรเจนในการกำจัดอนุมูลอิสระ
คุณสมบัติที่ 2 น้ำไฮโดรเจนเป็นน้ำกลุ่มโมเลกุลเล็ก สามารถซึมเข้าผนังเซลล์ และเข้าสู่กระแสเลือดได้ดี ช่วยลดภาวะเลือดข้น เลือดหนืด ทำให้เลือดสะอาดขึ้น เมื่อเลือดไหลเวียนดีก็จะสามารถนำพาออกซิเจน และสารอาหารต่างๆ ไปเลี้ยงเซลล์อวัยวะต่างๆในร่างกายได้ดี ช่วยให้เซลล์มีพลังงานสามารถทำหน้าที่ของตัวเองได้ดี สุขภาพจึงแข็งแรงขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
ผู้ป่วยหลายๆเคสหลังจากที่ทำไฮโดรเจนบำบัดแล้ว อาการของโรคต่างๆดีขึ้นมาก ตรงนี้เราจะขอยกตัวอย่าง 3 โรคยอดฮิตมาให้เป็นข้อมูล
โรคความดันสูง - ผู้ป่วยที่มาปรึกษาส่วนใหญ่จะเป็นประมาณว่าทานยาความดันแต่ค่าความดันยังอยู่ประมาณ 150-170 อยู่เลย ซึ่งหลังทำไฮโดรเจนบำบัดแล้วค่าความดันจะมาอยู๋ในเกณฑ์ปกติประมาณ 110-130 เพราะไฮโดรเจนจะช่วยลดปฎิกริยาออกซิเดชั่นกับอนุมูลอิสระในร่างกาย ที่ทำให้หลอดเลือดแข็ง และช่วยทำให้ไขมันเลว LDL ซึมออกจากหลอดเลือด เพื่อให้ไขมันดี HDL ขนย้ายไขมันเลว LDL ไปทำลายที่ตับ เมื่อหลอดเลือดสะอาด ก็ทำให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น ความดันจึงเป็นปกติ
ดูผลงานวิจัยน้ำไฮโดรเจนต่อไขมันเลว
โรคไต - ทุกวันนี้มีผู้ป่วยไตทุกระยะติดต่อเข้ามา เพราะทานยาเยอะค่าไตลดลงอย่างรวดเร็ว ไม่อยากต้องฟอกไต ซึ่งหลังจากทำไฮโดรเจนบำบัดค่าไตจะค่อยๆเพิ่มขึ้นตามลำดับ มีอยู่เคสนึง ผู้ป่วยผู้ชายอายุประมาณ 60 ปี เป็นไตเสื่อมระยะ 3b ค่า eGFR = 33.6 ในเดือนสิงหาคม 65 หลังจากทำไฮโดรเจนบำบัดด้วยตัวเองที่บ้านประมาณกลางเดือนกันยายน 65 เมื่อถึงเวลาคุณหมอนัดตรวจสุขภาพตอนปลายเดือนตุลาคม 65 พบว่า ค่าไต eGFR เพิ่มขึ้นจาก 33.6 เป็น 40.2
กราฟข้อมูลสถิติแสดงการเปลี่ยนแปลงค่าไตในแต่ละช่วงเวลา ของผู้ป่วยไตระยะ 3b
ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาจะใช้การคุมอาหารอย่างดี แต่สังเกตุจากกราฟจะเห็นว่าแม้จะคุมอาหารได้ดี แต่ค่าไตก็ยังคงลดลตามลำดับ เนื่องจากไม่ได้กำจัดอนุมูลอิสระที่ตกค้างออกจากร่างกาย ไตจึงถูกทำลายด้วยอนุมูลอิสระทุกวัน จนกระทั่งมาทำไฮโดรเจนบำบัด ช่วยกำจัดอนุมูลอิสระในร่างกายให้ออกได้มากที่สุด ค่าไตก็ค่อยๆเพิ่มขึ้นอย่างเป็นธรรมชาตื
ดูผลงานวิจัยน้ำไฮโดรเจนดูแลไต
โรคเบาหวาน - ผู้ป่วยหวานจะมีปัญหาเรื่องฮอร์โมนอินซูลินทำงานไม่ปกติ ไม่สามารถนำพาน้ำตาลเข้าสู่เซลล์ได้ จึงทำให้น้ำตาลในเลือดสูง เรื่องเบาหวานมีเคสนึง ผู้ป่วยเป็นผู้หญิงอายุประมาณ 60 กว่า มีทั้งโรคเบาหวานค่าน้ำตาลสูงถึง 330 และโรคไตเสื่อมระยะ 4 ค่า eGFR เหลือเพียง 25 เท่านั้นหลังจากทำไฮโดรเจนบำบัดได้ 1 เดือน ได้ผลลัพธ์คือ น้ำตาลลดลงจาก 330 เหลือ 158 และค่าไต eGFR เพิ่มขึ้นจาก 25 เป็น 32 ผู้ป่วยพอได้ยิ้มออกบ้าง
ผลตรวจสุขภาพของผู้ป่วยเบาหวานและไตเสื่อมหลังจากทำไฮโดรเจนบำบัด 1 เดือน
ผลงานวิจัยน้ำที่อุดมด้วยไฮโดรเจนช่วยสลายกลูโคส
ผลงานวิจัยน้ำที่อุดมด้วยไฮโดรเจนช่วยปรับปรุงการทำงานของอินซูลิน
ยังมีอีกหลายเคสมากๆที่ผู้ป่วยมีความสุขขึ้น สุขภาพดีขึ้น จากการทำไฮโดรเจนบำบัด แล้วเราจะมาเล่าให้ฟังใหม่นะ
สำหรับการทำไฮโดรเจนบำบัด ปัจจุบันนี้ก็มีอุปกรณ์อยู่ 2 แบบ คือ
- แบบกระบอกน้ำผลิตไฮโดรเจน สามารถหาซื้อได้ตามออนไลน์ ราคาสินค้าที่คุณภาพจะอยู่ประมาณ 3,xxx ขึ้นไป เวลาเลือกซื้อต้องเลือกที่มีเทคโนโลยี SPE/PEM และมีรู้ระบายก๊าซโอนโซนที่ใต้ฐานด้วยนะ เพราะเมื่อแยก H2 ออกจาก H2O แล้วจะมี ก๊าซโอโซน [O3] เกิดขึ้นด้วยซึ่งไม่เป็นผลดีต่อร่างกาย
ถ้ากระบอกน้ำที่ราคาหลักร้อยหรือพันต้นๆจะไม่มีเทคโนโลยี SPE/PEM และรูระบายก๊าซเสีย น้ำจะมีกลิ่นแรงเหมือนน้ำคลอรีนในสระว่ายน้ำ นอกจากคุณภาพเครื่องแล้วควรเลือกแบรนด์ที่ส่งจากเมืองไทย มีการรับประกัน และมีบริการหลังการขายสำหรับให้คำปรึกษาการใช้งาน เพราะหากไม่มีระบบรับประกันและบริการหลังการขาย เมื่อเครื่องเสียก็ต้องทิ้งไปเลย เพราะสินค้าประเภทนี้จะต้องมีการเสียบ้างทั้งปัญหาที่เกิดจากการใช้งาน และปัญหาที่เกิดจากการผลิตจากโรงงาน
- แบบเครื่องทำน้ำไฮโดรเจน แบบนี้จะหน้าตาคล้ายๆเครื่องกรองน้ำ แต่ไม่ใช่ ซึ่งแบบนี้ก็จะสะดวกหน่อย สามารถทำน้ำไฮโดรเจนออกมาได้เลยไม่ต้องรอเหมือนกระบอกน้ำผลิตไฮโดรเจน แต่ราคาก็จะค่อนข้างสูงประมาณ 5x,xxx ขึ้นไป แต่สะดวกมากดื่มได้ทั้งครอบครัว
เรื่องไฮโดรเจนบำบัดค่อนข้างเป็นเรื่องใหม่สำหรับคนไทย สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ โดยพิมพ์ "ไฮโดรเจนบำบัด" ใน Google ได้เลย หรือถ้าต้องการข้อมูลจากต่างประเทศก็ให้พิมพ์คำว่า " hydrogen rich water research " หรือ " Hydrogen Theraphy Research " ใน Google ได้เลยเช่นกัน
ในเมืองไทยจะไม่ค่อยมีบทความเกี่ยวกับไฮโดรเจนบำบัด เท่าที่ค้นหาดูจะมีอยู่หนึ่งบทความเป็นของนักวิชาการท่านหนึ่ง ได้ให้ความเห็นไว้ในอีกด้านหนึ่ง เราเองก็พยายามหาข้อมูลในเมืองไทยทั้งในด้านบวก และด้านลบเพิ่มเติม แต่หาแทบไม่ได้ เนื่องจากยังไม่ได้เป็นกระแสที่คนสนใจ ยังไงก็ลองหาข้อมูลจากต่างประเทศ งานวิจัยต่างๆ ดูประกอบการศึกษาข้อมูลกันดูนะครับ ว่าดีหรือไม่ดีอย่างไร ก็พิจารณากันดูครับ
หวังว่าข้อมูลไฮโดรเจนบำบัด ที่เรานำมาแชร์ประสบการณ์นี้ จะเป็นประโยชน์กับผู้ที่กำลังต่อสู้กับปัญหาสุขภาพจากโรคต่างๆทุกๆคนนะ แล้วจะค่อยๆมาแชร์เคสของผู้ป่วยต่างๆมาให้อ่านกันเรื่อยๆ เป็นอีกหนึ่งข้อมูลการดูแลฟื้นฟูสุขภาพด้วยตัวเอง แบบไม่ต้องฝากชีวิตไว้กับคุณหมอ และการทานยา
ขอบุญรักษาให้ทุกๆท่านสุขภาพแข็งแรง
แชร์ประสบการณ์เรื่องไฮโดรเจนบำบัดฟื้นฟูสุขภาพด้วยน้ำเปล่า แบบฉบับชาวญี่ปุ่น
หน้าทีของเราคือให้คำแนะนำเกี่ยวกับการทำไฮโดรเจนบำบัดด้วยตัวเองที่บ้าน ซึ่งเดี๋ยวนี้ผู้มีปัญหาสุขภาพหลายๆคนเริ่มให้ความสนใจเกี่ยวกับการทำไฮโดรเจนบำบัดกันมากขึ้น เพราะมีค่าใช้จ่ายที่น้อยกว่าการหาหมอที่โรงพยาลมาก อีกทั้งยังไม่มีสารตกค้างเหมือนการทานยาแผนปัจจุบัน เพราะใช้น้ำดื่มที่เราดื่มทุกวันอยู่แล้วมาทำให้น้ำมีค่าไฮโดรเจน
ก่อนอื่นเราขอให้ข้อมูลก่อนนะว่าไฮโดรเจนบำบัดคืออะไร อยากให้คนที่มีปัญหาสุขภาพเข้าใจเรื่องนี้จริงๆ เผื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการดูแลฟื้นฟูสุขภาพ แบบประหยัดค่าใช้จ่าย และได้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจ และเมื่อเข้าใจเรื่องไฮโดรเจนบำบัดแล้ว เราจะแชร์ประสบการณ์จากเคสผู้ป่วยโรคต่างๆให้ได้อ่านกัน
ไฮโดรเจนบำบัด คือ การบำบัดโรคต่างๆด้วยไฮโดรเจนที่ได้จากการดึง ไฮโดรเจน [H2] ออกจาก น้ำ [H2O] ด้วยกระบวนการอิเล็คโทรลิซิส [Electrolysis] เมื่อจบกระบวนการเราจะได้น้ำที่มีค่าไฮโดรเจนอยู หรือเรียกกันง่ายๆว่า น้ำไฮโดรเจน นั่นเอง
คุณสมบัติที่ 1 น้ำไฮโดรเจน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีมากตัวหนึ่ง จะช่วยดักจับอนุมูลอิสระแล้วรวมตัวกลับมาเป็นน้ำขับออกทางเหงื่อหรือปัสสาวะ เพราะอนุมูลอสิระคือตัวทำลายเซลล์อวัยวะต่างๆให้เสื่อมสภาพลง ทำให้อวัยวะนั้นๆไม่สามารถทำงานได้ปกติ เช่น ตับเสื่อม ไตเสื่อม ผนังหลอดเลือดเสื่อม เป็นต้น ทำให้เราสุขภาพไม่ดีเกิดเป็นโรคต่างๆมากมาย
ผู้ป่วยหลายๆเคสหลังจากที่ทำไฮโดรเจนบำบัดแล้ว อาการของโรคต่างๆดีขึ้นมาก ตรงนี้เราจะขอยกตัวอย่าง 3 โรคยอดฮิตมาให้เป็นข้อมูล
โรคความดันสูง - ผู้ป่วยที่มาปรึกษาส่วนใหญ่จะเป็นประมาณว่าทานยาความดันแต่ค่าความดันยังอยู่ประมาณ 150-170 อยู่เลย ซึ่งหลังทำไฮโดรเจนบำบัดแล้วค่าความดันจะมาอยู๋ในเกณฑ์ปกติประมาณ 110-130 เพราะไฮโดรเจนจะช่วยลดปฎิกริยาออกซิเดชั่นกับอนุมูลอิสระในร่างกาย ที่ทำให้หลอดเลือดแข็ง และช่วยทำให้ไขมันเลว LDL ซึมออกจากหลอดเลือด เพื่อให้ไขมันดี HDL ขนย้ายไขมันเลว LDL ไปทำลายที่ตับ เมื่อหลอดเลือดสะอาด ก็ทำให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น ความดันจึงเป็นปกติ
สำหรับการทำไฮโดรเจนบำบัด ปัจจุบันนี้ก็มีอุปกรณ์อยู่ 2 แบบ คือ
- แบบกระบอกน้ำผลิตไฮโดรเจน สามารถหาซื้อได้ตามออนไลน์ ราคาสินค้าที่คุณภาพจะอยู่ประมาณ 3,xxx ขึ้นไป เวลาเลือกซื้อต้องเลือกที่มีเทคโนโลยี SPE/PEM และมีรู้ระบายก๊าซโอนโซนที่ใต้ฐานด้วยนะ เพราะเมื่อแยก H2 ออกจาก H2O แล้วจะมี ก๊าซโอโซน [O3] เกิดขึ้นด้วยซึ่งไม่เป็นผลดีต่อร่างกาย
ถ้ากระบอกน้ำที่ราคาหลักร้อยหรือพันต้นๆจะไม่มีเทคโนโลยี SPE/PEM และรูระบายก๊าซเสีย น้ำจะมีกลิ่นแรงเหมือนน้ำคลอรีนในสระว่ายน้ำ นอกจากคุณภาพเครื่องแล้วควรเลือกแบรนด์ที่ส่งจากเมืองไทย มีการรับประกัน และมีบริการหลังการขายสำหรับให้คำปรึกษาการใช้งาน เพราะหากไม่มีระบบรับประกันและบริการหลังการขาย เมื่อเครื่องเสียก็ต้องทิ้งไปเลย เพราะสินค้าประเภทนี้จะต้องมีการเสียบ้างทั้งปัญหาที่เกิดจากการใช้งาน และปัญหาที่เกิดจากการผลิตจากโรงงาน
- แบบเครื่องทำน้ำไฮโดรเจน แบบนี้จะหน้าตาคล้ายๆเครื่องกรองน้ำ แต่ไม่ใช่ ซึ่งแบบนี้ก็จะสะดวกหน่อย สามารถทำน้ำไฮโดรเจนออกมาได้เลยไม่ต้องรอเหมือนกระบอกน้ำผลิตไฮโดรเจน แต่ราคาก็จะค่อนข้างสูงประมาณ 5x,xxx ขึ้นไป แต่สะดวกมากดื่มได้ทั้งครอบครัว
เรื่องไฮโดรเจนบำบัดค่อนข้างเป็นเรื่องใหม่สำหรับคนไทย สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ โดยพิมพ์ "ไฮโดรเจนบำบัด" ใน Google ได้เลย หรือถ้าต้องการข้อมูลจากต่างประเทศก็ให้พิมพ์คำว่า " hydrogen rich water research " หรือ " Hydrogen Theraphy Research " ใน Google ได้เลยเช่นกัน
ในเมืองไทยจะไม่ค่อยมีบทความเกี่ยวกับไฮโดรเจนบำบัด เท่าที่ค้นหาดูจะมีอยู่หนึ่งบทความเป็นของนักวิชาการท่านหนึ่ง ได้ให้ความเห็นไว้ในอีกด้านหนึ่ง เราเองก็พยายามหาข้อมูลในเมืองไทยทั้งในด้านบวก และด้านลบเพิ่มเติม แต่หาแทบไม่ได้ เนื่องจากยังไม่ได้เป็นกระแสที่คนสนใจ ยังไงก็ลองหาข้อมูลจากต่างประเทศ งานวิจัยต่างๆ ดูประกอบการศึกษาข้อมูลกันดูนะครับ ว่าดีหรือไม่ดีอย่างไร ก็พิจารณากันดูครับ
หวังว่าข้อมูลไฮโดรเจนบำบัด ที่เรานำมาแชร์ประสบการณ์นี้ จะเป็นประโยชน์กับผู้ที่กำลังต่อสู้กับปัญหาสุขภาพจากโรคต่างๆทุกๆคนนะ แล้วจะค่อยๆมาแชร์เคสของผู้ป่วยต่างๆมาให้อ่านกันเรื่อยๆ เป็นอีกหนึ่งข้อมูลการดูแลฟื้นฟูสุขภาพด้วยตัวเอง แบบไม่ต้องฝากชีวิตไว้กับคุณหมอ และการทานยา
ขอบุญรักษาให้ทุกๆท่านสุขภาพแข็งแรง