ต้นเรื่องจากกระทู้นี้ ..
https://ppantip.com/topic/41748516
(แหม่..ช่วงนี้มีวัตถุดิบมาให้เขียนทู้ทุกวัน ดีจุง)
สมาชิกนางหนึ่งผู้ทำหน้าที่แบกถังอึ เธอเปรยปิดกระทู้ว่า..
"อาแปะตัดสินคนด้วยอัตตาตัวเองเท่านั้นเนอะ"..
อาแปะอ่านที่นางเปรยไว้ก็เห็นว่ามันมีประเด็นต้องอธิบายให้ทราบ..
ส่วนปัญญาของคนแบกถังอึจะรับทราบได้ไหม อันนี้อาแปะก็ไม่ทราบ..
เรื่องการตัดสินคนด้วย"อัตตา"..
กรณีที่เป็นเรื่องส่วนตัว ..อาแปะก็ตัดสินด้วย "อัตตาส่วนตัว" เข่นการคบคน อาแปะก็เลือกที่ศีลเสมอกัน(ใกล้เคียงกันก็ได้)
ซึ่งอัตตานั้นคือ"อัตตาผู้มีศีล"...นั่นเอง เมื่อเลือกคบคนที่มีศีลใกล้เคียงกันได้ ก็ให้ผลเป็นความสุข สงบ..
แม้สลิ่มเองก็เลือกคบคนตัดสินคนด้วย"อัตตาผู้มีศีล" สลิ่มก็คบกันด้วยศีล
"สลิ่มย่อมเสมอสลิ่มจึงคบกันได้...ฉันนั้นแล"
ดังนี้เรียกว่าการตัดสินคนด้วยอัตตาตัวเอง ของอาแปะซึ่งไม่แตกต่างไปจากสลิ่ม แต่การคบกันของหมู่สลิ่มจะมีความสุขเหมือนอาแปะไหมนะ.?
กรณีที่เป็นเรื่องของส่วนรวม เรื่องของสังคม เรื่องของประเทศชาติ
อาแปะไม่ใช้อัตตาส่วนตัวตัดสิน แต่ใช้อัตตาของประเทศชาติตัดสิน คือใครสามารถทำประโยชน์ให้ส่วนรวมได้มาก สามารถทำประโยชน์ให้ประเทศชาติได้มาก นั่นแลคือสิ่งที่อาแปะใช้ตัดสินคนๆนั้น ..
อย่างเช่นการตัดสินนักการเมือง อาแปะไม่ตัดสินด้วยรักหรือเกลียด(อุปาทาน) แต่ตัดสินด้วยผลงานที่ได้จากอินพุทที่ใส่เข้าไป.. ดังนั้นอาแปะจึงไม่มีความเกลียดคุณทักษิณและอาแปะก็ไม่มีความชอบคุณประยุทธ อาแปะตัดสินนักการเมืองทั้งสองฝ่ายจากผลงานที่สร้างให้สังคมสร้างให้ประเทศชาติ ซึ่งอาแปะต่างจากสลิ่ม สลิ่มที่เกลียดคุณทักษิณด้วยอัตตาและรักคุณประยุทธด้วยอัตตา ดังนี้สลิ่มจึงตัดสินคนด้วยอัตตาของตนคือเห็นคนคิดต่างเป็นศัตรูบ้างเป็นอุนจิบ้าง มันจึงเกิดทัศนคติต่ำๆในการมองโลกของสลิ่ม...นั่นเอง
สรุปว่า อย่ารักและเกลียดนักการเมืองเป็นการส่วนตัว อย่าใช้อารมณ์รักและเกลียดในการเลือกนักการเมือง อย่าใช้ตัณหาอุปาทานปกป้องนักการเมืองอย่างคลุ้มคลั่ง ...แต่จงใช้ความสามารถของนักการเมืองนั้นๆเป็นตัวตัดสิน ว่าเค้าสมควรได้รับตำแหน่งบริหารชาติหรือไม่.. เพราะเมื่อคนไทยทุกคน ตัดสินนักการเมืองที่ความสามารถ มีคุณธรรม มีความสุจริตโปร่งใส คนไทยก็จะมีศีลที่ใกล้เคียงกัน...นั่นเอง..
ใกล้จะเลือกตั้งแล้วนะ
คนดี..อาแปะสายกลางฝากไว้ให้คิ๊สสสส
อมิตพุทธ..
ສະບາຍດີຕອນເຊົ້າ
อาแปะตัดสินคน(นักการเมือง)ที่อัตตา ..แม่นแล้วครัช
https://ppantip.com/topic/41748516
(แหม่..ช่วงนี้มีวัตถุดิบมาให้เขียนทู้ทุกวัน ดีจุง)
สมาชิกนางหนึ่งผู้ทำหน้าที่แบกถังอึ เธอเปรยปิดกระทู้ว่า..
"อาแปะตัดสินคนด้วยอัตตาตัวเองเท่านั้นเนอะ"..
อาแปะอ่านที่นางเปรยไว้ก็เห็นว่ามันมีประเด็นต้องอธิบายให้ทราบ..
ส่วนปัญญาของคนแบกถังอึจะรับทราบได้ไหม อันนี้อาแปะก็ไม่ทราบ..
เรื่องการตัดสินคนด้วย"อัตตา"..
กรณีที่เป็นเรื่องส่วนตัว ..อาแปะก็ตัดสินด้วย "อัตตาส่วนตัว" เข่นการคบคน อาแปะก็เลือกที่ศีลเสมอกัน(ใกล้เคียงกันก็ได้)
ซึ่งอัตตานั้นคือ"อัตตาผู้มีศีล"...นั่นเอง เมื่อเลือกคบคนที่มีศีลใกล้เคียงกันได้ ก็ให้ผลเป็นความสุข สงบ..
แม้สลิ่มเองก็เลือกคบคนตัดสินคนด้วย"อัตตาผู้มีศีล" สลิ่มก็คบกันด้วยศีล "สลิ่มย่อมเสมอสลิ่มจึงคบกันได้...ฉันนั้นแล"
ดังนี้เรียกว่าการตัดสินคนด้วยอัตตาตัวเอง ของอาแปะซึ่งไม่แตกต่างไปจากสลิ่ม แต่การคบกันของหมู่สลิ่มจะมีความสุขเหมือนอาแปะไหมนะ.?
กรณีที่เป็นเรื่องของส่วนรวม เรื่องของสังคม เรื่องของประเทศชาติ
อาแปะไม่ใช้อัตตาส่วนตัวตัดสิน แต่ใช้อัตตาของประเทศชาติตัดสิน คือใครสามารถทำประโยชน์ให้ส่วนรวมได้มาก สามารถทำประโยชน์ให้ประเทศชาติได้มาก นั่นแลคือสิ่งที่อาแปะใช้ตัดสินคนๆนั้น ..
อย่างเช่นการตัดสินนักการเมือง อาแปะไม่ตัดสินด้วยรักหรือเกลียด(อุปาทาน) แต่ตัดสินด้วยผลงานที่ได้จากอินพุทที่ใส่เข้าไป.. ดังนั้นอาแปะจึงไม่มีความเกลียดคุณทักษิณและอาแปะก็ไม่มีความชอบคุณประยุทธ อาแปะตัดสินนักการเมืองทั้งสองฝ่ายจากผลงานที่สร้างให้สังคมสร้างให้ประเทศชาติ ซึ่งอาแปะต่างจากสลิ่ม สลิ่มที่เกลียดคุณทักษิณด้วยอัตตาและรักคุณประยุทธด้วยอัตตา ดังนี้สลิ่มจึงตัดสินคนด้วยอัตตาของตนคือเห็นคนคิดต่างเป็นศัตรูบ้างเป็นอุนจิบ้าง มันจึงเกิดทัศนคติต่ำๆในการมองโลกของสลิ่ม...นั่นเอง
สรุปว่า อย่ารักและเกลียดนักการเมืองเป็นการส่วนตัว อย่าใช้อารมณ์รักและเกลียดในการเลือกนักการเมือง อย่าใช้ตัณหาอุปาทานปกป้องนักการเมืองอย่างคลุ้มคลั่ง ...แต่จงใช้ความสามารถของนักการเมืองนั้นๆเป็นตัวตัดสิน ว่าเค้าสมควรได้รับตำแหน่งบริหารชาติหรือไม่.. เพราะเมื่อคนไทยทุกคน ตัดสินนักการเมืองที่ความสามารถ มีคุณธรรม มีความสุจริตโปร่งใส คนไทยก็จะมีศีลที่ใกล้เคียงกัน...นั่นเอง..
ใกล้จะเลือกตั้งแล้วนะคนดี..อาแปะสายกลางฝากไว้ให้คิ๊สสสส
อมิตพุทธ..
ສະບາຍດີຕອນເຊົ້າ