ไทยจัดเต็ม ต้อนรับผู้นำเอเปก 2022 ชู 'เป้าหมายกรุงเทพ' แทรก 'Soft Power'
สัปดาห์นี้ยกให้เป็นสัปดาห์แห่งการประชุมที่ยิ่งใหญ่ รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างมากกับการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หรือเรียกสั้นๆ ว่า “การประชุมเอเปก”
รัฐบาลมีการเตรียมความพร้อมในทุกด้าน โดยเฉพาะกับเรื่องความปลอดภัย เพราะมีบุคคลวีไอพีถึง 21 เขตเศรษฐกิจเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ มีทั้งที่ส่งตัวแทนมา และบางเขตเศรษฐกิจก็คือตัวจริง ระดับสูงสุดของประเทศ ระดับนายกรัฐมนตรี ระดับประธานาธิบดี
ขืนเกิดเหตุไม่คาดฝันประเทศไทยจะเสื่อมเสียชื่อเสียงไปด้วย ยิ่งมีข่าวว่ากลุ่มผู้ชุมนุมของไทยจะเคลื่อนไหวด้วยแล้ว รัฐบาลไทยและเจ้าหน้าที่ของรัฐก็ต้องจับตากันเข้มงวด เพื่อไม่ให้ซ้ำรอยการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่พัทยา เมื่อครั้งปี 2562
ต้องบอกว่า “รัฐบาลไทย” รอบนี้ไม่ได้มาเล่นๆ ตั้งใจและเอาจริงทุกเรื่อง
ทั้งนี้ วันที่เป็นไฮไลต์ของการประชุมเอเปก คือวันศุกร์ที่ 18 พ.ย. ช่วงเช้าจะเป็นการประชุมผู้นำเศรษฐกิจเอเปกอย่างเป็นทางการ ช่วงที่ 1 ในหัวข้อ การเติบโตอย่างสมดุล ครอบคลุม และยั่งยืน ต่อด้วยการหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างผู้นำกับแขกของประธาน จากนั้นเป็นการหารือผู้นำกับสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปก และในช่วงเย็นจะเดินทางไปเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี
สำหรับวันเสาร์ที่ 19 พ.ย. จะเป็นวันสุดท้ายของการประชุม โดยมีกำหนดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจอย่างไม่เป็นทางการ ช่วงที่ 2 ในหัวข้อการค้าและการลงทุนที่เปิดกว้างและยั่งยืน และจบลงด้วยการแถลงข่าวโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทย
นอกจากโอกาสด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจแล้ว ไทยเห็นว่าเวทีนี้คือโอกาสที่จะได้ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับของดีของไทยที่มีรากเหง้ามาอย่างยาวนาน โดยถ่ายทอดผ่านวัฒนธรรม ประเพณี อาหาร ของที่ระลึก
ของที่ระลึก 7 ชิ้น ที่จะมอบให้แก่ผู้นำเขตเศรษฐกิจและคู่สมรส ล้วนสั่งทำด้วยฝีมือชาวบ้านที่มีความรู้ความชำนาญ ไม่ว่าจะเครื่องเงิน กล่องใส่เครื่องประดับ ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ทำจากผ้าไหมไทย
ส่วนอาหารการกิน งานเลี้ยงมื้อค่ำได้เชฟชุมพล แจ้งไพร เชฟระดับแนวหน้า เป็นหัวหน้าทีมเชฟที่ปรุงอาหาร รังสรรค์ทั้งคาวและหวานเป็น 5 คอร์ส ประกอบด้วย....🥗
1.อาหารทานเล่น คือกระทงทองไส้ครีม ท็อปด้วยคาเวียร์จากโครงการหลวง ดอยอินทนนท์
2.จานเรียกน้ำย่อยเสิร์ฟ ชุดของดีจาก 4 ภาค ประกอบด้วย หมี่กรอบข้าวซอย ต้มยำกุ้งแม่น้ำ เนื้อย่างวากิวจิ้มแจ่ว จากโคราช และไก่ย่างกอและ บรรจุในกล่องไม้สักทอง ไม้ทรงคุณค่าของไทย
3.อาหารจานสลัด เป็นยำใหญ่จากผักออร์แกนิก ทานกับไก่ออร์แกนิก และกุ้งมังกร 7 สีจาก จ.ภูเก็ต
4.อาหารจานหลัก ประกอบด้วยสตูผัก มัสมั่นเนื้อโพนยางคำ และเนื้อวากิว ปลาเก๋ามุก และข้าวหอมมะลิ จากทุ่งกุลาร้องไห้
5.ของหวานที่ทานคู่กับชาหรือกาแฟ คือ หม้อแกงเผือกที่ใช้น้ำตาลโตนดจาก จ.เพชรบุรี ขนมดาราทอง ขนมเปียกปูนใบเตย มาการองลิ้นจี่ ขนมดอกมะลิ ช็อกโกแลต สอดไส้กระชายดำ
และสุดท้ายคือ ผลไม้ตามฤดูกาล 7 ชนิด
โดยระหว่างรับประทานมื้อค่ำยังมีการแสดงทางวัฒนธรรม และขับกล่อมดนตรีจากนักร้องมืออาชีพ อาทิ พี่เบิร์ด-ธงไชย แมคอินไตย์ และรัดเกล้า อามระดิษ
เท่านั้นยังไม่พอ ด้านนอกหอประชุมกองทัพเรือ ริมแม่น้ำเจ้าพระยาก็มีการแสดงโชว์ต่างๆ กระทงขนาดใหญ่ เรือไฟ กระทงสาย การแสดงพื้นบ้าน โขน หนังใหญ่
น่าจะเป็นค่ำคืนที่จัดเต็มไปด้วยแสงสีสุดอลัง เป็นการใช้เวทีเอเปกในการขับเคลื่อน Soft Power ครั้งใหญ่ของไทย.
https://www.thaipost.net/dominate-the-situation-news/263762/
อร่อยเด็ด เป็นเอกลักษณ์ 10 อาหารท้องถิ่นไทย จัดเต็มเสิร์ฟเมนู APEC 2022
อีกหนึ่งสิ่งที่ผู้คนให้ความสนใจในการประชุมผู้นำ APEC 2022 ที่จัดขึ้นในครั้งนี้ ก็คืออาหารจานต่างๆ ที่จัดเสิร์ฟในงานเลี้ยงอย่างเป็นทางการ โดยได้มีการเปิดเผยออกมาว่า อาหารที่นำเสนอให้ผู้นำได้รับประทานอยู่ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Sustainable Thai Gastronomy” แปลตรงตัวว่า คนปลูกยั่งยืน คนทำยั่งยืน คนกินยั่งยืน ประเทศยั่งยืน และโลกยั่งยืน ที่สำคัญการเลือกใช้วัตถุดิบเป็นของไทยทั้งหมด ตั้งแต่เหนือสุดอย่างจังหวัดเชียงราย จนใต้สุดที่จังหวัดนราธิวาส
และสำหรับสุดยอดวัตถุดิบของดีของเด็ดที่ถูกคัดเลือกมาจะมีอะไรบ้าง มาทำความรู้จักกับ 10 อาหารท้องถิ่นไทย ที่จะได้ไปอยู่บนโต๊ะอาหารของผู้นำระดับโลกในครั้งนี้
🍤กุ้งแม่น้ำอยุธยา
กุ้งแม่น้ำแห่งอยุธยา นับว่าเป็นกุ้งแม่น้ำอันเลื่องชื่อของไทย หากนึกถึงกุ้งเผาตัวโตมันสีส้มสวย ก็มักจะคุ้นเคยกันว่าเป็นกุ้งจากอยุธยา
และเหตุที่กุ้งแม่น้ำอยุธยามีชื่อเสียงมากที่สุด ก็เนื่องด้วยเนื้อกุ้งที่หวาน แน่น เด้งอร่อยมากกว่ากุ้งเลี้ยง หัวกุ้งมีมันมากกว่า สีสวยและกลิ่นหอม ส่วนสาเหตุที่กุ้งแม่น้ำอยุธยาอร่อยแบบนี้ก็มาจากบริเวณจังหวัดพระนครศรีอยุธยามีแม่น้ำไหลผ่านถึง 3 สาย เป็นแหล่งรวมของตะกอนแร่ธาตุต่างๆ มีระบบนิเวศที่อุดมสมบูรณ์ เป็นที่อยู่อาศัยให้กุ้งได้เติบโตแบบมีคุณภาพ
สำหรับกุ้งแม่น้ำอยุธยา จะถูกเสิร์ฟในเมนูเรียกน้ำย่อยของดีสี่ภาค “ต้มยำทอดมันกุ้งแม่น้ำกรุงศรีอยุธยา”
🍗ไก่เบตง
ไก่เบตงนั้นเป็นไก่เนื้อพันธุ์พื้นเมือง ที่มีต้นกำเนิดมาจากไก่พันธุ์เหลียงซาน จากประเทศจีน นำมาเลี้ยงที่เบตง จนกลายเป็นไก่ที่ทำชื่อเสียงให้ อ.เบตง จ.ยะลา เป็นอย่างมาก ปัจจุบันมีการส่งเสริมให้เลี้ยงไก่เบตงในพื้นที่อื่นๆ ด้วย เนื่องจากเป็นที่นิยมในหมู่ผู้บริโภค
โดยจุดเด่นของไก่เบตงคือ เนื้อแน่นนุ่ม หนังกรอบ มันน้อยมาก หนังมีสีเหลืองอ่อน แต่เนื่องจากไก่เบตงเลี้ยงยากจึงทำให้มีราคาสูง ทำให้หาไก่เบตงแท้ๆ กินได้ยาก
สำหรับไก่เบตง จะถูกเสิร์ฟในเมนูเรียกน้ำย่อยของดีสี่ภาค “ไก่เบตงย่างกอและ” ซึ่งจะใช้ไก่เบตงผสมผสานกับน้ำแกงกอและซึ่งเป็นอาหารมลายูท้องถิ่น ถือเป็นตัวแทนความอร่อยจากทางภาคใต้
🍳ไข่เป็ดไล่ทุ่งสุพรรณบุรี
ที่สุพรรณบุรี เป็นอีกแหล่งเลี้ยงเป็ดไล่ทุ่งแหล่งใหญ่ในภาคกลางของไทย เป็ดจะอาศัยกินเศษข้าวเปลือกในนา กุ้ง หอย ปู ปลา หรือไข่หอยเชอรี ทำให้ไข่ที่ได้จากเป็ดไล่ทุ่งเหล่านี้จะมีไข่แดงสีเข้มกลมโต ส่วนไข่ขาวสีขาวใสไม่ขุ่น ไข่เป็ดไล่ทุ่งสดๆ จะไม่มีกลิ่นคาว และยังอุดมไปด้วยโปรตีน
ไข่เป็ดไล่ทุ่งจากสุพรรณบุรี ถูกนำมาดองในดอกเกลือเพชรบุรี และเป็นส่วนหนึ่งของจานสลัดบนโต๊ะอาหารครั้งนี้
🍙ดอกเกลือเมืองเพชร
หากเดินทางผ่าน จ.เพชรบุรี ก็จะเห็นพื้นที่ทำนาเกลืออยู่เป็นระยะๆ และ “ดอกเกลือ” ก็เป็นอีกสิ่งที่ได้จากการทำนาเกลือ โดยดอกเกลือจะเป็นเกลือชุดแรกที่ลอยตัวขึ้นมาเกาะตัวเป็นแพบนผิวน้ำ คนทำนาเกลือจะช้อนเอาดอกเกลือเหล่านี้ขึ้นมาเก็บไว้ก่อนที่จะจมลงไป ดอกเกลือจึงมีความบริสุทธิ์กว่าเกลือทั่วไป รสชาติไม่เค็มจัด และมีรสอมหวานนิดๆ ซ่อนอยู่ เรียกว่าเป็นรสชาติเค็มที่มีความกลมกล่อม
ดอกเกลือจากเพชรบุรี จะนำมาดองไข่เป็ด และนำไปเป็นส่วนหนึ่งของอาหารจานสลัด
🥩เนื้อโคขุนโพนยางคำ
“เนื้อโคขุนโพนยางคำ” เนื้อระดับพรีเมียมของคนไทยนี้เป็นของสหกรณ์การเลี้ยงปศุสัตว์ กรป. กลาง โพนยางคำ จำกัด อันมีต้นกำเนิดอยู่ที่ จังหวัดสกลนคร คุณสมบัติของการเป็นเนื้อโคขุนโพนยางคำ จะต้องผลิตโดยสมาชิกสหกรณ์ฯ โพนยางคำ เป็นโคเนื้อลูกผสมไทย-ฝรั่งเศส ที่เกิดจากเกิดจากการผสมเทียมโดยใช้น้ำเชื้อจากพ่อ-แม่พันธุ์โคเนื้อ 3 สายพันธุ์
นอกจากนี้ ขั้นตอนการเลี้ยงจะต้องได้มาตรฐาน ปราศจากสารเร่งโตและสารปฏิชีวนะ มีการควบคุมและป้องกันโรค มีกระบวนการชำแหละและเก็บบ่มจนได้ที่ ตลอดจนสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ตั้งแต่ขั้นตอนการเลี้ยงจนถึงผู้บริโภค
เนื้อโคขุนโพนยางคำ จะถูกรังสรรค์เป็น “แกงมัสมั่นชาววังเนื้อน่อง” ในอาหารจานหลัก
🥓ปลากุเลาตากใบ
“ปลากุเลาตากใบ” หรือ “ปลากุเลาเค็มตากใบ” เป็นโอทอป 5 ดาว แห่ง อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ที่มีชื่อเสียงเรื่องความอร่อยในรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์มาช้านาน จนได้ชื่อว่าเป็น “ราชาแห่งปลาเค็ม” โดยความอร่อยของปลากุเลาตากใบมีอยู่ 2 ปัจจัยหลัก ได้แก่ ธรรมชาติ และ กระบวนการผลิต ซึ่งเป็นการตกผลึกภูมิปัญญาพื้นบ้านที่สั่งสมกันมาจากรุ่นสู่รุ่น
ปลากุเลาตากใบ จะใช้เป็นส่วนประกอบในเซ็ทอาหารจานหลัก เพื่อเพิ่มความโดดเด่นในเรื่องของกลิ่นในซอสราดมัสมั่นเนื้อน่องโคขุน
🥐ปลาเก๋ามุก (มังกร)
ปลาเก๋ามุก (มังกร) เกิดจากการผสมพันธุ์ขึ้นใหม่ ทำให้ได้ปลาตัวโต เนื้อมาก เนื้อละเอียดหวานและไม่เหนียวเกินไป ไม่มีกลิ่นคาวไขมัน หากนำเนื้อไปลวกก็จะไม่แตกเละ ซึ่งในครั้งนี้ได้เลือกใช้ปลาเก๋ามุกมังกรที่เลี้ยงแบบออร์แกนิกจากทะเลภูเก็ต ส่งตรงแบบสดๆ มาถึงครัว
โดยปลาเก๋ามุก (มังกร) นั้นจะถูกปรุงมาเสิร์ฟในอาหารจานหลัก มาพร้อมซอสต้มข่าเห็ดรวมโฟมใบมะกรูด
🍚ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้
ข้าวเป็นอาหารหลักของคนไทย และข้าวที่มีชื่อเสียงที่สุดของไทยก็ต้องยกให้ “ข้าวหอมมะลิจากทุ่งกุลาร้องไห้”
ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ หมายถึง ข้าวเปลือก ข้าวกล้อง และข้าวขาว ที่แปรรูปมาจากข้าวเปลือกพันธุ์ข้าวหอมที่ไวต่อช่วงแสง คือ พันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 และพันธุ์ กข 15 ซึ่งปลูกใน พื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดร้อยเอ็ด สุรินทร์ ศรีสะเกษ มหาสารคาม และยโสธร ปลูกในฤดูนาปี และมีกลิ่นหอมตามธรรมชาติ
โดยข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ จะถูกเสิร์ฟในอาหารจานหลัก มีความพิเศษคือ เป็นข้าวหอมมะลิไทยจากทุ่งกุลาร้องไห้และข้าวกล้อง 9 ชนิด นำมาอบตะไคร้หอม
🍑ส้มโอทับทิมสยาม
ส้มโอพันธุ์ทับทิมสยาม มีลักษณะโดดเด่นด้วยใบค่อนข้างกว้าง ปลายใบแหลม ใต้ใบมีขนอ่อนนุ่ม ทรงผลกลมมีจุกคล้ายหลอดไฟ เปลือกนุ่มบาง เนื้อส้มโอมีสีชมพูเข้มถึงแดงคล้ายทับทิม รสชาติหวาน และหอมนุ่ม
ส้มโอพันธุ์ทับทิมสยาม มีการสั่งตรงจากสวนที่อำเภอสิชล นครศรีธรรมราช โดยเป็นการผสมกันจากหลายๆ สวน คัดเลือกลูกที่สมบูรณ์ที่สุด นำมาเสิร์ฟเป็นผลไม้หลังมื้ออาหาร พร้อมกับของหวานและชา-กาแฟ ของดีในเมืองไทยเช่นกัน
🍪เพรียงทราย
"เพียงทราย" เป็นสัตว์ทะเลไม่มีกระดูกสันหลัง จัดอยู่ในกลุ่มไส้เดือนทะเล เป็นอาหารที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ นิยมนำมาเป็นอาหารเลี้ยงพ่อพันธุ์แม่พันธุ์กุ้ง โดยเมื่อผ่านการตรวจหาสารอาหารโดยกระบวนการทางวิทยาศาสตรืแล้วพบว่ามีสารอาหารกว่า 49 ชนิด ช่วยบำรุงสมอง ปรับสมดุลให้ร่างกาย
เพรียงทรายถูกเลือกให้มาเป็นหนึ่งในส่วนผสมของเมนู "ก๋วยเตี๋ยวจากเพรียงทราย" เป็นเมนูอาหารจากอนาคต ที่ผ่านประกวดภายใต้แคมเปญ Plate to Planet จานนี้เพื่อสิ่งแวดล้อม โดยก๋วยเตี๋ยวจากเพรียงทราย จะเป็นก๋วยเตี๋ยวน้ำตก ไม่ใส่เลือด โดยใช้ซอสที่ทำมาจากเพรียงทราย จ.ชุมพร
บนโต๊ะอาหารของผู้นำมาจากทุกภาค ทำให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ทางด้านอาหาร และก็ยังเป็นซอฟท์พาวเวอร์ ที่จะแสดงออกไปสู่สายตาชาวโลกอีกด้วย
https://mgronline.com/travel/detail/9650000109678
เห็นแต่ละเรื่องของไทยที่อวดสายตาผู้นำเอเปกแล้ว ประเทศไทยช่างเป็นประเทศที่อุดมสมบูรณ์
มีของดี ของอร่อยเต็มไปหมด.....
🧡มาลาริน🧡ไทยจัดเต็ม ต้อนรับผู้นำเอเปก 2022 ชู 'เป้าหมายกรุงเทพ' แทรก 'Soft Power'
สัปดาห์นี้ยกให้เป็นสัปดาห์แห่งการประชุมที่ยิ่งใหญ่ รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างมากกับการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หรือเรียกสั้นๆ ว่า “การประชุมเอเปก”
รัฐบาลมีการเตรียมความพร้อมในทุกด้าน โดยเฉพาะกับเรื่องความปลอดภัย เพราะมีบุคคลวีไอพีถึง 21 เขตเศรษฐกิจเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ มีทั้งที่ส่งตัวแทนมา และบางเขตเศรษฐกิจก็คือตัวจริง ระดับสูงสุดของประเทศ ระดับนายกรัฐมนตรี ระดับประธานาธิบดี
ขืนเกิดเหตุไม่คาดฝันประเทศไทยจะเสื่อมเสียชื่อเสียงไปด้วย ยิ่งมีข่าวว่ากลุ่มผู้ชุมนุมของไทยจะเคลื่อนไหวด้วยแล้ว รัฐบาลไทยและเจ้าหน้าที่ของรัฐก็ต้องจับตากันเข้มงวด เพื่อไม่ให้ซ้ำรอยการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่พัทยา เมื่อครั้งปี 2562
ต้องบอกว่า “รัฐบาลไทย” รอบนี้ไม่ได้มาเล่นๆ ตั้งใจและเอาจริงทุกเรื่อง
ทั้งนี้ วันที่เป็นไฮไลต์ของการประชุมเอเปก คือวันศุกร์ที่ 18 พ.ย. ช่วงเช้าจะเป็นการประชุมผู้นำเศรษฐกิจเอเปกอย่างเป็นทางการ ช่วงที่ 1 ในหัวข้อ การเติบโตอย่างสมดุล ครอบคลุม และยั่งยืน ต่อด้วยการหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างผู้นำกับแขกของประธาน จากนั้นเป็นการหารือผู้นำกับสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปก และในช่วงเย็นจะเดินทางไปเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี
สำหรับวันเสาร์ที่ 19 พ.ย. จะเป็นวันสุดท้ายของการประชุม โดยมีกำหนดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจอย่างไม่เป็นทางการ ช่วงที่ 2 ในหัวข้อการค้าและการลงทุนที่เปิดกว้างและยั่งยืน และจบลงด้วยการแถลงข่าวโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทย
นอกจากโอกาสด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจแล้ว ไทยเห็นว่าเวทีนี้คือโอกาสที่จะได้ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับของดีของไทยที่มีรากเหง้ามาอย่างยาวนาน โดยถ่ายทอดผ่านวัฒนธรรม ประเพณี อาหาร ของที่ระลึก
ของที่ระลึก 7 ชิ้น ที่จะมอบให้แก่ผู้นำเขตเศรษฐกิจและคู่สมรส ล้วนสั่งทำด้วยฝีมือชาวบ้านที่มีความรู้ความชำนาญ ไม่ว่าจะเครื่องเงิน กล่องใส่เครื่องประดับ ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ทำจากผ้าไหมไทย
ส่วนอาหารการกิน งานเลี้ยงมื้อค่ำได้เชฟชุมพล แจ้งไพร เชฟระดับแนวหน้า เป็นหัวหน้าทีมเชฟที่ปรุงอาหาร รังสรรค์ทั้งคาวและหวานเป็น 5 คอร์ส ประกอบด้วย....🥗
1.อาหารทานเล่น คือกระทงทองไส้ครีม ท็อปด้วยคาเวียร์จากโครงการหลวง ดอยอินทนนท์
2.จานเรียกน้ำย่อยเสิร์ฟ ชุดของดีจาก 4 ภาค ประกอบด้วย หมี่กรอบข้าวซอย ต้มยำกุ้งแม่น้ำ เนื้อย่างวากิวจิ้มแจ่ว จากโคราช และไก่ย่างกอและ บรรจุในกล่องไม้สักทอง ไม้ทรงคุณค่าของไทย
3.อาหารจานสลัด เป็นยำใหญ่จากผักออร์แกนิก ทานกับไก่ออร์แกนิก และกุ้งมังกร 7 สีจาก จ.ภูเก็ต
4.อาหารจานหลัก ประกอบด้วยสตูผัก มัสมั่นเนื้อโพนยางคำ และเนื้อวากิว ปลาเก๋ามุก และข้าวหอมมะลิ จากทุ่งกุลาร้องไห้
5.ของหวานที่ทานคู่กับชาหรือกาแฟ คือ หม้อแกงเผือกที่ใช้น้ำตาลโตนดจาก จ.เพชรบุรี ขนมดาราทอง ขนมเปียกปูนใบเตย มาการองลิ้นจี่ ขนมดอกมะลิ ช็อกโกแลต สอดไส้กระชายดำ
และสุดท้ายคือ ผลไม้ตามฤดูกาล 7 ชนิด
โดยระหว่างรับประทานมื้อค่ำยังมีการแสดงทางวัฒนธรรม และขับกล่อมดนตรีจากนักร้องมืออาชีพ อาทิ พี่เบิร์ด-ธงไชย แมคอินไตย์ และรัดเกล้า อามระดิษ
เท่านั้นยังไม่พอ ด้านนอกหอประชุมกองทัพเรือ ริมแม่น้ำเจ้าพระยาก็มีการแสดงโชว์ต่างๆ กระทงขนาดใหญ่ เรือไฟ กระทงสาย การแสดงพื้นบ้าน โขน หนังใหญ่
น่าจะเป็นค่ำคืนที่จัดเต็มไปด้วยแสงสีสุดอลัง เป็นการใช้เวทีเอเปกในการขับเคลื่อน Soft Power ครั้งใหญ่ของไทย.
https://www.thaipost.net/dominate-the-situation-news/263762/
อร่อยเด็ด เป็นเอกลักษณ์ 10 อาหารท้องถิ่นไทย จัดเต็มเสิร์ฟเมนู APEC 2022
อีกหนึ่งสิ่งที่ผู้คนให้ความสนใจในการประชุมผู้นำ APEC 2022 ที่จัดขึ้นในครั้งนี้ ก็คืออาหารจานต่างๆ ที่จัดเสิร์ฟในงานเลี้ยงอย่างเป็นทางการ โดยได้มีการเปิดเผยออกมาว่า อาหารที่นำเสนอให้ผู้นำได้รับประทานอยู่ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Sustainable Thai Gastronomy” แปลตรงตัวว่า คนปลูกยั่งยืน คนทำยั่งยืน คนกินยั่งยืน ประเทศยั่งยืน และโลกยั่งยืน ที่สำคัญการเลือกใช้วัตถุดิบเป็นของไทยทั้งหมด ตั้งแต่เหนือสุดอย่างจังหวัดเชียงราย จนใต้สุดที่จังหวัดนราธิวาส
และสำหรับสุดยอดวัตถุดิบของดีของเด็ดที่ถูกคัดเลือกมาจะมีอะไรบ้าง มาทำความรู้จักกับ 10 อาหารท้องถิ่นไทย ที่จะได้ไปอยู่บนโต๊ะอาหารของผู้นำระดับโลกในครั้งนี้
🍤กุ้งแม่น้ำอยุธยา
กุ้งแม่น้ำแห่งอยุธยา นับว่าเป็นกุ้งแม่น้ำอันเลื่องชื่อของไทย หากนึกถึงกุ้งเผาตัวโตมันสีส้มสวย ก็มักจะคุ้นเคยกันว่าเป็นกุ้งจากอยุธยา
และเหตุที่กุ้งแม่น้ำอยุธยามีชื่อเสียงมากที่สุด ก็เนื่องด้วยเนื้อกุ้งที่หวาน แน่น เด้งอร่อยมากกว่ากุ้งเลี้ยง หัวกุ้งมีมันมากกว่า สีสวยและกลิ่นหอม ส่วนสาเหตุที่กุ้งแม่น้ำอยุธยาอร่อยแบบนี้ก็มาจากบริเวณจังหวัดพระนครศรีอยุธยามีแม่น้ำไหลผ่านถึง 3 สาย เป็นแหล่งรวมของตะกอนแร่ธาตุต่างๆ มีระบบนิเวศที่อุดมสมบูรณ์ เป็นที่อยู่อาศัยให้กุ้งได้เติบโตแบบมีคุณภาพ
สำหรับกุ้งแม่น้ำอยุธยา จะถูกเสิร์ฟในเมนูเรียกน้ำย่อยของดีสี่ภาค “ต้มยำทอดมันกุ้งแม่น้ำกรุงศรีอยุธยา”
🍗ไก่เบตง
ไก่เบตงนั้นเป็นไก่เนื้อพันธุ์พื้นเมือง ที่มีต้นกำเนิดมาจากไก่พันธุ์เหลียงซาน จากประเทศจีน นำมาเลี้ยงที่เบตง จนกลายเป็นไก่ที่ทำชื่อเสียงให้ อ.เบตง จ.ยะลา เป็นอย่างมาก ปัจจุบันมีการส่งเสริมให้เลี้ยงไก่เบตงในพื้นที่อื่นๆ ด้วย เนื่องจากเป็นที่นิยมในหมู่ผู้บริโภค
โดยจุดเด่นของไก่เบตงคือ เนื้อแน่นนุ่ม หนังกรอบ มันน้อยมาก หนังมีสีเหลืองอ่อน แต่เนื่องจากไก่เบตงเลี้ยงยากจึงทำให้มีราคาสูง ทำให้หาไก่เบตงแท้ๆ กินได้ยาก
สำหรับไก่เบตง จะถูกเสิร์ฟในเมนูเรียกน้ำย่อยของดีสี่ภาค “ไก่เบตงย่างกอและ” ซึ่งจะใช้ไก่เบตงผสมผสานกับน้ำแกงกอและซึ่งเป็นอาหารมลายูท้องถิ่น ถือเป็นตัวแทนความอร่อยจากทางภาคใต้
🍳ไข่เป็ดไล่ทุ่งสุพรรณบุรี
ที่สุพรรณบุรี เป็นอีกแหล่งเลี้ยงเป็ดไล่ทุ่งแหล่งใหญ่ในภาคกลางของไทย เป็ดจะอาศัยกินเศษข้าวเปลือกในนา กุ้ง หอย ปู ปลา หรือไข่หอยเชอรี ทำให้ไข่ที่ได้จากเป็ดไล่ทุ่งเหล่านี้จะมีไข่แดงสีเข้มกลมโต ส่วนไข่ขาวสีขาวใสไม่ขุ่น ไข่เป็ดไล่ทุ่งสดๆ จะไม่มีกลิ่นคาว และยังอุดมไปด้วยโปรตีน
ไข่เป็ดไล่ทุ่งจากสุพรรณบุรี ถูกนำมาดองในดอกเกลือเพชรบุรี และเป็นส่วนหนึ่งของจานสลัดบนโต๊ะอาหารครั้งนี้
🍙ดอกเกลือเมืองเพชร
หากเดินทางผ่าน จ.เพชรบุรี ก็จะเห็นพื้นที่ทำนาเกลืออยู่เป็นระยะๆ และ “ดอกเกลือ” ก็เป็นอีกสิ่งที่ได้จากการทำนาเกลือ โดยดอกเกลือจะเป็นเกลือชุดแรกที่ลอยตัวขึ้นมาเกาะตัวเป็นแพบนผิวน้ำ คนทำนาเกลือจะช้อนเอาดอกเกลือเหล่านี้ขึ้นมาเก็บไว้ก่อนที่จะจมลงไป ดอกเกลือจึงมีความบริสุทธิ์กว่าเกลือทั่วไป รสชาติไม่เค็มจัด และมีรสอมหวานนิดๆ ซ่อนอยู่ เรียกว่าเป็นรสชาติเค็มที่มีความกลมกล่อม
ดอกเกลือจากเพชรบุรี จะนำมาดองไข่เป็ด และนำไปเป็นส่วนหนึ่งของอาหารจานสลัด
🥩เนื้อโคขุนโพนยางคำ
“เนื้อโคขุนโพนยางคำ” เนื้อระดับพรีเมียมของคนไทยนี้เป็นของสหกรณ์การเลี้ยงปศุสัตว์ กรป. กลาง โพนยางคำ จำกัด อันมีต้นกำเนิดอยู่ที่ จังหวัดสกลนคร คุณสมบัติของการเป็นเนื้อโคขุนโพนยางคำ จะต้องผลิตโดยสมาชิกสหกรณ์ฯ โพนยางคำ เป็นโคเนื้อลูกผสมไทย-ฝรั่งเศส ที่เกิดจากเกิดจากการผสมเทียมโดยใช้น้ำเชื้อจากพ่อ-แม่พันธุ์โคเนื้อ 3 สายพันธุ์
นอกจากนี้ ขั้นตอนการเลี้ยงจะต้องได้มาตรฐาน ปราศจากสารเร่งโตและสารปฏิชีวนะ มีการควบคุมและป้องกันโรค มีกระบวนการชำแหละและเก็บบ่มจนได้ที่ ตลอดจนสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ตั้งแต่ขั้นตอนการเลี้ยงจนถึงผู้บริโภค
เนื้อโคขุนโพนยางคำ จะถูกรังสรรค์เป็น “แกงมัสมั่นชาววังเนื้อน่อง” ในอาหารจานหลัก
🥓ปลากุเลาตากใบ
“ปลากุเลาตากใบ” หรือ “ปลากุเลาเค็มตากใบ” เป็นโอทอป 5 ดาว แห่ง อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ที่มีชื่อเสียงเรื่องความอร่อยในรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์มาช้านาน จนได้ชื่อว่าเป็น “ราชาแห่งปลาเค็ม” โดยความอร่อยของปลากุเลาตากใบมีอยู่ 2 ปัจจัยหลัก ได้แก่ ธรรมชาติ และ กระบวนการผลิต ซึ่งเป็นการตกผลึกภูมิปัญญาพื้นบ้านที่สั่งสมกันมาจากรุ่นสู่รุ่น
ปลากุเลาตากใบ จะใช้เป็นส่วนประกอบในเซ็ทอาหารจานหลัก เพื่อเพิ่มความโดดเด่นในเรื่องของกลิ่นในซอสราดมัสมั่นเนื้อน่องโคขุน
🥐ปลาเก๋ามุก (มังกร)
ปลาเก๋ามุก (มังกร) เกิดจากการผสมพันธุ์ขึ้นใหม่ ทำให้ได้ปลาตัวโต เนื้อมาก เนื้อละเอียดหวานและไม่เหนียวเกินไป ไม่มีกลิ่นคาวไขมัน หากนำเนื้อไปลวกก็จะไม่แตกเละ ซึ่งในครั้งนี้ได้เลือกใช้ปลาเก๋ามุกมังกรที่เลี้ยงแบบออร์แกนิกจากทะเลภูเก็ต ส่งตรงแบบสดๆ มาถึงครัว
โดยปลาเก๋ามุก (มังกร) นั้นจะถูกปรุงมาเสิร์ฟในอาหารจานหลัก มาพร้อมซอสต้มข่าเห็ดรวมโฟมใบมะกรูด
🍚ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้
ข้าวเป็นอาหารหลักของคนไทย และข้าวที่มีชื่อเสียงที่สุดของไทยก็ต้องยกให้ “ข้าวหอมมะลิจากทุ่งกุลาร้องไห้”
ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ หมายถึง ข้าวเปลือก ข้าวกล้อง และข้าวขาว ที่แปรรูปมาจากข้าวเปลือกพันธุ์ข้าวหอมที่ไวต่อช่วงแสง คือ พันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 และพันธุ์ กข 15 ซึ่งปลูกใน พื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดร้อยเอ็ด สุรินทร์ ศรีสะเกษ มหาสารคาม และยโสธร ปลูกในฤดูนาปี และมีกลิ่นหอมตามธรรมชาติ
โดยข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ จะถูกเสิร์ฟในอาหารจานหลัก มีความพิเศษคือ เป็นข้าวหอมมะลิไทยจากทุ่งกุลาร้องไห้และข้าวกล้อง 9 ชนิด นำมาอบตะไคร้หอม
🍑ส้มโอทับทิมสยาม
ส้มโอพันธุ์ทับทิมสยาม มีลักษณะโดดเด่นด้วยใบค่อนข้างกว้าง ปลายใบแหลม ใต้ใบมีขนอ่อนนุ่ม ทรงผลกลมมีจุกคล้ายหลอดไฟ เปลือกนุ่มบาง เนื้อส้มโอมีสีชมพูเข้มถึงแดงคล้ายทับทิม รสชาติหวาน และหอมนุ่ม
ส้มโอพันธุ์ทับทิมสยาม มีการสั่งตรงจากสวนที่อำเภอสิชล นครศรีธรรมราช โดยเป็นการผสมกันจากหลายๆ สวน คัดเลือกลูกที่สมบูรณ์ที่สุด นำมาเสิร์ฟเป็นผลไม้หลังมื้ออาหาร พร้อมกับของหวานและชา-กาแฟ ของดีในเมืองไทยเช่นกัน
🍪เพรียงทราย
"เพียงทราย" เป็นสัตว์ทะเลไม่มีกระดูกสันหลัง จัดอยู่ในกลุ่มไส้เดือนทะเล เป็นอาหารที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ นิยมนำมาเป็นอาหารเลี้ยงพ่อพันธุ์แม่พันธุ์กุ้ง โดยเมื่อผ่านการตรวจหาสารอาหารโดยกระบวนการทางวิทยาศาสตรืแล้วพบว่ามีสารอาหารกว่า 49 ชนิด ช่วยบำรุงสมอง ปรับสมดุลให้ร่างกาย
เพรียงทรายถูกเลือกให้มาเป็นหนึ่งในส่วนผสมของเมนู "ก๋วยเตี๋ยวจากเพรียงทราย" เป็นเมนูอาหารจากอนาคต ที่ผ่านประกวดภายใต้แคมเปญ Plate to Planet จานนี้เพื่อสิ่งแวดล้อม โดยก๋วยเตี๋ยวจากเพรียงทราย จะเป็นก๋วยเตี๋ยวน้ำตก ไม่ใส่เลือด โดยใช้ซอสที่ทำมาจากเพรียงทราย จ.ชุมพร
บนโต๊ะอาหารของผู้นำมาจากทุกภาค ทำให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ทางด้านอาหาร และก็ยังเป็นซอฟท์พาวเวอร์ ที่จะแสดงออกไปสู่สายตาชาวโลกอีกด้วย
https://mgronline.com/travel/detail/9650000109678
เห็นแต่ละเรื่องของไทยที่อวดสายตาผู้นำเอเปกแล้ว ประเทศไทยช่างเป็นประเทศที่อุดมสมบูรณ์
มีของดี ของอร่อยเต็มไปหมด.....