ดูจิต ดูใจเรา คล้ายๆ กับว่า...
จิตมันวางเป็นปกติ ถ้ามันเคลื่อนออกจากปกติ
เช่น มันคิดมันนึกต่างๆ นั่น! เป็นสังขาร
สังขารนี้...
มันจะปรุงเราต่อไป ระวังให้ดี ให้มันรู้ไว้
ถ้ามันเคลื่อนออกจากปกติแล้ว ไม่เป็นสัมมาปฏิปทาหรอก
อาตมาเห็นว่า...
จิตนี้เหมือนกับจุดๆ เดียวเท่านั้น
อันที่เรียกว่า...
เจตสิกนั่นเป็นแขก แขกมาพักอยู่ตรงนี้
คนนั้น ... มาเยี่ยมเราบ้าง
คนโน้น...มาเยี่ยมเราบ้าง
มาพักอยู่ตรงนี้ เราจึงเรียกพวกนั้น ที่ออกจากจิตของเรามา เป็นเจตสิกหมด
ทีนี้! เรามาทำจิตของเราให้เป็นผู้รู้
ตื่นอยู่...คอยรักษาจิต ของเรา อยู่...
ถ้าแขกมาเมื่อไหร่ โบกมือห้าม มันจะมานั่งที่ไหน?
มีที่นั่งที่เดียว เท่านั้น
เราก็พยายามรับแขก อยู่ตรงนี้...ตลอดวัน
พูดถึงอาคันตุกะ แขกที่จรมาปรุงมาแต่งต่างๆ นานา ให้เราเป็นไปตามเรื่องของมัน
อาการของจิต...
ที่เป็นไปตามเรื่องของมัน นี่แหละเรียกว่าเจตสิก
มันจะเป็นอะไร
จะไปไหนก็ช่างมัน
ให้เรารู้จักอาคันตุกะที่มาพัก
ที่รับแขกมีเก้าอี้ตัวเดียว เท่านั้นเอง
เราเอาผู้หนึ่งไปนั่งไว้แล้ว
มันก็ไม่มีที่นั่ง
มันมาที่นี่ มันก็จะมาพูดกับเรา
ครั้งนี้ ไม่ได้นั่ง
ครั้งต่อไป ก็จะมาอีก
มาเมื่อไหร่ก็พบแต่ผู้นี้นั่ง อยู่...ไม่หนีสักที
มันจะทนมากี่ครั้ง?
ไฟอยู่บ้านเขา ไปจับมันก็ร้อน
ไฟอยู่บ้านเรา ไปจับมันก็ร้อนเหมือนกัน."
----------------------------------------------------------------------
หลวงพ่อชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง.
ดูจิต ดูใจเรา คล้ายๆ กับว่า... จิตมันวางเป็นปกติ ถ้ามันเคลื่อนออกจากปกติ เช่น มันคิดมันนึกต่างๆ นั่น! เป็นสังขาร
จิตมันวางเป็นปกติ ถ้ามันเคลื่อนออกจากปกติ
เช่น มันคิดมันนึกต่างๆ นั่น! เป็นสังขาร
สังขารนี้...
มันจะปรุงเราต่อไป ระวังให้ดี ให้มันรู้ไว้
ถ้ามันเคลื่อนออกจากปกติแล้ว ไม่เป็นสัมมาปฏิปทาหรอก
อาตมาเห็นว่า...
จิตนี้เหมือนกับจุดๆ เดียวเท่านั้น
อันที่เรียกว่า...
เจตสิกนั่นเป็นแขก แขกมาพักอยู่ตรงนี้
คนนั้น ... มาเยี่ยมเราบ้าง
คนโน้น...มาเยี่ยมเราบ้าง
มาพักอยู่ตรงนี้ เราจึงเรียกพวกนั้น ที่ออกจากจิตของเรามา เป็นเจตสิกหมด
ทีนี้! เรามาทำจิตของเราให้เป็นผู้รู้
ตื่นอยู่...คอยรักษาจิต ของเรา อยู่...
ถ้าแขกมาเมื่อไหร่ โบกมือห้าม มันจะมานั่งที่ไหน?
มีที่นั่งที่เดียว เท่านั้น
เราก็พยายามรับแขก อยู่ตรงนี้...ตลอดวัน
พูดถึงอาคันตุกะ แขกที่จรมาปรุงมาแต่งต่างๆ นานา ให้เราเป็นไปตามเรื่องของมัน
อาการของจิต...
ที่เป็นไปตามเรื่องของมัน นี่แหละเรียกว่าเจตสิก
มันจะเป็นอะไร
จะไปไหนก็ช่างมัน
ให้เรารู้จักอาคันตุกะที่มาพัก
ที่รับแขกมีเก้าอี้ตัวเดียว เท่านั้นเอง
เราเอาผู้หนึ่งไปนั่งไว้แล้ว
มันก็ไม่มีที่นั่ง
มันมาที่นี่ มันก็จะมาพูดกับเรา
ครั้งนี้ ไม่ได้นั่ง
ครั้งต่อไป ก็จะมาอีก
มาเมื่อไหร่ก็พบแต่ผู้นี้นั่ง อยู่...ไม่หนีสักที
มันจะทนมากี่ครั้ง?
ไฟอยู่บ้านเขา ไปจับมันก็ร้อน
ไฟอยู่บ้านเรา ไปจับมันก็ร้อนเหมือนกัน."
----------------------------------------------------------------------
หลวงพ่อชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง.