คือ ปัญหาที่หนูจะมาบอกมันคือเรื่อง เพื่อนน่ะค่ะ
หนูคิดว่าเพื่อนคงรำคาญที่หนู พูดมาก หรือ พูดเรื่องที่พวกเขาไม่ได้สนใจ หรือ คิดมากเองก็ไม่รู้ บางทีก็ชอบคิดเองเออเอง ทั้งๆที่ยังไม่ได้ถามเพื่อน
หนูมีเพื่อนอยู่ หลักๆสองกลุ่ม กลุ่มที่อยู่ตอนที่โรงเรียน แล้วก็กลุ่มที่คุยกันผ่านเม็จเสดเจอร์
กลุ่มที่อยู่ที่ รร.ไม่ค่อยมีปัญหาค่ะ เพราะ คุยเฮฮ่ากันปกติ หนูเป็นคนเงียบๆ พูดมากแค่เรื่องที่รู้น่ะค่ะ ความชอบเพื่อนกลุ่มนี้กับหนูคนละสายเลย แต่อยู่รวมกันได้เพราะเฮฮ่า เล่นสนุกแซวกันตามภาษาค่ะ
ส่วนกลุ่ม ที่คุยผ่านเม็จเสด เป็นเพื่อนตอน ม ต้น ที่เริ่มสนิทตอนม สาม เทอมสองค่ะ สนิทเพราะเล่นเกมด้วยกันทุกวัน ตอนนี้ม ห้า แล้ว มีสี่คนค่ะรวมหนู ที่สนิทกันยันม สาม มีสามคน อีกคน เพิ่งมาสนิท ปีนี้ค่ะ
หนูคิดว่าคนที่เป็นปัญหาน่าจะเป็นหนูมากกว่า ที่นอยด์เก่ง คือมันอึดอัดมากที่ตัวเองคิดเองเออเอง ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าอีกสามคนคิดยังงั้นด้วยไหม พวกเขาเป็นเพื่อนที่ดีค่ะ พากันเรียน มีขี้เกียจบ้างแต่ก็พึ่งพาได้ทุกคน
หรือหนูคาดหวังมากเกินไป หนูเคยคุยเรื่องนี้ เวลาหนูเป็นไร นอยด์ไร หรือเกิดอะไรขึ้น หนูเล่าให้ฟังในกลุ่มเลยค่ะทุกครั้ง
หนูเห็นพวกเขาเป็น ที่พึ่งพิงเลย คือ หนูคาดหวัง คำว่าเพื่อนคือ ดูแลเรา ให้ความสำคัญเรา ไส่ถามทุกข์สุขดิบ อยู่ข้างๆ ปลอบใจกันและกัน ทำเพื่อกันได้ เรียกได้ว่าเพื่อนตายเลยค่ะ แต่ว่า พวกเขาก็คงคิดว่าหนุเวอร์เกินไป คือเคยบอกไปแล้วเหมือนกันค่ะ ว่าคำว่าเพื่อนของหนูเป็นยังงี้ แต่ทุกคนก็เข้าใจ แต่ก็ไม่ได้ ปรับเปลี่ยน หรือต่างอะไรจากเดิมเท่าไหร่น่ะค่ะ
แน่นอนว่าหนูก็ทำได้ เพื่อเพื่อนนะคะ ให้รอก็รอได้ ให้ไปซื้ออะไร ใช้ทำไรก็ไปได้ ถ้ามันสำคัญกับเขามากๆ ก็จะไม่ปฏิเสธเลย
‼️หนูเลยคิดว่าคนที่มีปัญหาคือตัวหนูเอง ทั้งๆที่เพื่อนควรอยู่ด้วยแล้วสบายใจ แต่หนูกับไม่สบายใจเลยค่ะ เพราะมั่วแต่คิดแบบนี้
คือ ที่บ้าน ไม่ค่อยสัมพันธ์ กันเท่าไหร่น่ะค่ะ แบบว่ารักกันดี แต่ห่างเหินประมาณนั้นมั้งคะ
หนูติดเพื่อนรักเพื่อน แต่ก็ไม่เคยทำอะไรให้พ่อแม่เสียหน้า แล้วก็ทำตัวดี วางตัวดี ภาพลักษณ์ดีเพื่อพ่อแม่น่ะค่ะ
หนูคิดว่าหนูขาดความรักจากครอบครัวมากๆ ก็เลยต้องการความรักจากเพื่อนแทนน่ะค่ะ แล้วก็ไปขาดหวังกับเพื่อนแทน ที่อยากจะได้รับความรัก จากเพื่อนรอบๆ เพราะหนูคิดว่าเพื่อนคือทุกอย่างจริงๆ แบบว่าที่พึ่งทางใจน่ะค่ะ
คือ หนูรู้เหตุและผล ที่หนูสับสนอย่างดี แต่หนูไม่สามารถ ทำให้มันกระจางหรือแก้ไขปัญหาไปได้เลยน่ะค่ะ
หนูคิดว่า ถ้าเลิกคบเพื่อนไป เพราะตัวหนูนี่แหละเป็นปัญหา แต่หนูก็ไม่รู้ที่จะพึ่งพิงใครทางจิตใจเลยน่ะค่ะ แบบว่า ต้องการใครสักคนจริงๆ บอกพวกเขาไปแล้วนะคะ แต่ว่าปฏิกิริยา ก็เหมือนเดิม แค่รับฟัง แต่ไม่ได้ช่วยเปลี่ยนแปลงอะไรน่ะค่ะ
หนูอยากเลิกคบเพื่อนมากเลยนะคะ พวกเขาดี แต่หนูเป็นปัญหา แล้วก็ ถ้าไม่เอาใจไปผูกใคร ก็ไม่ต้องเจ็บปวดหรือขาดหวัง ได้แต่คิด แต่ก็ทำไม่ได้ค่ะ มนุษย์ไม่สามารถดำรงได้ด้วยตัวคนเดียว หนูก็เช่นกันค่ะ
หนูเครียด เครียดว่าถ้าเลิกคบหรือออกห่างจากพวกเขา แล้วก็อยู่คนเดียวโดยไม่ต้องไปสนใจใครผูกติดใคร แล้วใครจะเป็นที่พึ่งพิงให้หนูตอนเจ็บปวดละค่ะ หนูก็จะไม่มีใครเลย อยู่ตัวคนเดียว
หนูคิดอยากมีแฟนมากๆค่ะ เพราะไปพึ่งพาเพื่อนเรื่องให้ความรัก ก็กลับไม่ได้ แต่ว่า ความรักหนูก็ดันขาดหวังอีก เป็นความรักของผู้ใหญ่ อยากได้คนที่รักเราจริงๆ ให้ค่าและให้ความรักใส่ใจกับเรา
แต่มันเป็นเรื่องของอนาคต หนูไม่ค่อยคิดเรื่องความรักแบบคู่รักตอนนี้เลยค่ะ
❕หนูแค่อยากได้ที่พึ่งพิงทางจิตใจมากๆ ซึ่งหนูไปคาดหวังกับเพื่อน เพราะเพื่อนเป็นบุคคลที่ยอมรับฟังเราทุกๆเรื่องจริงๆค่ะ
ส่วนพ่อแม่ พวกเขาแก่ค่ะ แก่แบบว่าพ่อหกสิบสี่ แล้วมั้งค่ะ ส่วนแม่ก็เข้าปีที่ ห้าสิบเอ็ด สิ้นเดือนที่ผ่านมา หนูรักพ่อแม่ค่ะ แน่นอนว่าจะทดแทนบุญคุณแน่ๆ แต่คงไม่ได้ดูแลท่านตอนที่ท่านต้องการ
มีน้องชายห่างกันปีหนึ่ง เขาไม่ค่อยเล่าเรื่องตัวเองเท่าไหร่เลยค่ะ แต่เราสองคนก็เจอเรื่องปัญหาภายในบ้านมาพอๆกัน เขาไม่เคยร้องไห้ให้หนูเห็นเลย หนูไม่คาดหวังกับน้องค่ะ ไม่เอาน้องเป็นที่พึ่งพิงก็คงคิดว่าเพราะตัวเองเป็นพี่นั่นแหละค่ะ
ขอบคุณทุกคนที่รับรู้ที่เข้ามากันนะคะ
❔ไปเสริช เน็ต ว่าตัวเองเป็นอะไร ก็เข้าข่ายพวก คิดว่าตัวเองด้อยค่า ไม่มีค่า หรือไม่ดีพออะไรทำนองนี้ค่ะ
หนูสู้ชีวิตมากๆ เพราะ ห่วงหลายๆเรื่อง เวลาพ่อแม่ทะเลาะกัน หนูแถบจะสติแตกอยากจะฆ่าตัวตายเดี๋ยวนั่น หนูคิดว่าเสมอว่าถ้าได้ขึ้นมหาลัยสักที ก็จะในที่สุด นอนแบบมีความสุขน่ะค่ะ อยู่แบบมีความสุขอย่างน้อย ก็สี่ห้าปี ที่ไม่มีเสียงด่าว่าคำพูดแรงๆแบบนั้น หนูไม่เคยคิดที่จะหนีพ่อแม่ไปเลย เพราะหนูมีแค่พวกเขา หนูไม่น่าเกิดมาไม่คู่ควร เพราะเป็นลูกที่แย่ เรียนก็ไม่เก่งเท่าลูกเขา หรืองานอะไรก็ไม่ค่อบได้แบ่งเบาภาระเขาเลย
มันผิดที่หนูที่ไม่ทำอะไรเลยสักอย่างค่ะ ไม่คิดจะเปลี่ยนแปลงอะไรเลย หนูพยายามแล้วแต่แค่จะทำก็ยาก จะพยายามอะไร พอพ่อแม่กลับมาบ้าน ก็ไม่อยากจะทำแล้วค่ะ แม้แต่งานบ้านหรืองานอะไร รู้สึกเครียดเวลาพ่อแม่อยู่ใกล้ๆ หรืออยู่ร่วมกับบริเวณที่พ่อแม่อยู่ด้วย เพราะแบบนี้หนูแถบจะไม่ทำไรเลยค่ะ กลับมากินข้าวอาบน้ำนอน หรือวันแกติก็จะออกมาตอนพวกเขาไม่อยู่บ้าน เข้าไปนอนตอนพวกเขากลับมา เฉพาะเวลากลับมาเหนื่อยๆโมโหๆ หนูเข้าใจมากๆที่พวกเขาเหนื่อย แต่หนูก็ไม่กล้าจะทำหรือไม่คิดจะทำ เรื่องที่ควรทำแบบช่วยนู่นช่วยนี่ เพราะกลัวทำผิดหรือทำพลาด แล้วจะโดนด่าขึ้นมา ก็เลยไม่ทำไรเลยค่ะ
🔆นอกเรื่องเยอะมาก ขอโทษจริงๆนะคะ
คงมาระบาย แล้วก็ถ้ามีคำแนะนำดีๆ ก็ขอบคุณมากๆเลยนะคะ หรือแค่มีใครรับรู้ว่าหนูทรมานอะไรบ้าง ก็ช่วยแล้วละค่ะ ขอบคุณทุกคนมากๆนะคะ 🙏😔
เหตุผลของการมีชีวิตอยู่ของหนูคือ ความฝัน น้องชายแล้วก็ ทดแทนบุญคุณพ่อแม่น่ะค่ะ อ้ะ แล้วก็ ครอบครัวที่อบอุ่นมากๆ ในอนาคตด้วย หนูหวังว่าหนูจะมีสิทธิ์แล้วรับความรักแล้วก็ความสุขอีกครั้งนะคะ T-T พระเจ้า
⁉️ ปัญหาของกระทู้นี้คือ ถ้าไม่ให้พึ่งพิงเพื่อน หนูก็ไม่รู้จะไปพิ่งพิงใครทางจิตใจแล้วค่ะ
สับสนตัวเอง คิดมาก ปัญหาชีวิต
หนูคิดว่าเพื่อนคงรำคาญที่หนู พูดมาก หรือ พูดเรื่องที่พวกเขาไม่ได้สนใจ หรือ คิดมากเองก็ไม่รู้ บางทีก็ชอบคิดเองเออเอง ทั้งๆที่ยังไม่ได้ถามเพื่อน
หนูมีเพื่อนอยู่ หลักๆสองกลุ่ม กลุ่มที่อยู่ตอนที่โรงเรียน แล้วก็กลุ่มที่คุยกันผ่านเม็จเสดเจอร์
กลุ่มที่อยู่ที่ รร.ไม่ค่อยมีปัญหาค่ะ เพราะ คุยเฮฮ่ากันปกติ หนูเป็นคนเงียบๆ พูดมากแค่เรื่องที่รู้น่ะค่ะ ความชอบเพื่อนกลุ่มนี้กับหนูคนละสายเลย แต่อยู่รวมกันได้เพราะเฮฮ่า เล่นสนุกแซวกันตามภาษาค่ะ
ส่วนกลุ่ม ที่คุยผ่านเม็จเสด เป็นเพื่อนตอน ม ต้น ที่เริ่มสนิทตอนม สาม เทอมสองค่ะ สนิทเพราะเล่นเกมด้วยกันทุกวัน ตอนนี้ม ห้า แล้ว มีสี่คนค่ะรวมหนู ที่สนิทกันยันม สาม มีสามคน อีกคน เพิ่งมาสนิท ปีนี้ค่ะ
หนูคิดว่าคนที่เป็นปัญหาน่าจะเป็นหนูมากกว่า ที่นอยด์เก่ง คือมันอึดอัดมากที่ตัวเองคิดเองเออเอง ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าอีกสามคนคิดยังงั้นด้วยไหม พวกเขาเป็นเพื่อนที่ดีค่ะ พากันเรียน มีขี้เกียจบ้างแต่ก็พึ่งพาได้ทุกคน
หรือหนูคาดหวังมากเกินไป หนูเคยคุยเรื่องนี้ เวลาหนูเป็นไร นอยด์ไร หรือเกิดอะไรขึ้น หนูเล่าให้ฟังในกลุ่มเลยค่ะทุกครั้ง
หนูเห็นพวกเขาเป็น ที่พึ่งพิงเลย คือ หนูคาดหวัง คำว่าเพื่อนคือ ดูแลเรา ให้ความสำคัญเรา ไส่ถามทุกข์สุขดิบ อยู่ข้างๆ ปลอบใจกันและกัน ทำเพื่อกันได้ เรียกได้ว่าเพื่อนตายเลยค่ะ แต่ว่า พวกเขาก็คงคิดว่าหนุเวอร์เกินไป คือเคยบอกไปแล้วเหมือนกันค่ะ ว่าคำว่าเพื่อนของหนูเป็นยังงี้ แต่ทุกคนก็เข้าใจ แต่ก็ไม่ได้ ปรับเปลี่ยน หรือต่างอะไรจากเดิมเท่าไหร่น่ะค่ะ
แน่นอนว่าหนูก็ทำได้ เพื่อเพื่อนนะคะ ให้รอก็รอได้ ให้ไปซื้ออะไร ใช้ทำไรก็ไปได้ ถ้ามันสำคัญกับเขามากๆ ก็จะไม่ปฏิเสธเลย
‼️หนูเลยคิดว่าคนที่มีปัญหาคือตัวหนูเอง ทั้งๆที่เพื่อนควรอยู่ด้วยแล้วสบายใจ แต่หนูกับไม่สบายใจเลยค่ะ เพราะมั่วแต่คิดแบบนี้
คือ ที่บ้าน ไม่ค่อยสัมพันธ์ กันเท่าไหร่น่ะค่ะ แบบว่ารักกันดี แต่ห่างเหินประมาณนั้นมั้งคะ
หนูติดเพื่อนรักเพื่อน แต่ก็ไม่เคยทำอะไรให้พ่อแม่เสียหน้า แล้วก็ทำตัวดี วางตัวดี ภาพลักษณ์ดีเพื่อพ่อแม่น่ะค่ะ
หนูคิดว่าหนูขาดความรักจากครอบครัวมากๆ ก็เลยต้องการความรักจากเพื่อนแทนน่ะค่ะ แล้วก็ไปขาดหวังกับเพื่อนแทน ที่อยากจะได้รับความรัก จากเพื่อนรอบๆ เพราะหนูคิดว่าเพื่อนคือทุกอย่างจริงๆ แบบว่าที่พึ่งทางใจน่ะค่ะ
คือ หนูรู้เหตุและผล ที่หนูสับสนอย่างดี แต่หนูไม่สามารถ ทำให้มันกระจางหรือแก้ไขปัญหาไปได้เลยน่ะค่ะ
หนูคิดว่า ถ้าเลิกคบเพื่อนไป เพราะตัวหนูนี่แหละเป็นปัญหา แต่หนูก็ไม่รู้ที่จะพึ่งพิงใครทางจิตใจเลยน่ะค่ะ แบบว่า ต้องการใครสักคนจริงๆ บอกพวกเขาไปแล้วนะคะ แต่ว่าปฏิกิริยา ก็เหมือนเดิม แค่รับฟัง แต่ไม่ได้ช่วยเปลี่ยนแปลงอะไรน่ะค่ะ
หนูอยากเลิกคบเพื่อนมากเลยนะคะ พวกเขาดี แต่หนูเป็นปัญหา แล้วก็ ถ้าไม่เอาใจไปผูกใคร ก็ไม่ต้องเจ็บปวดหรือขาดหวัง ได้แต่คิด แต่ก็ทำไม่ได้ค่ะ มนุษย์ไม่สามารถดำรงได้ด้วยตัวคนเดียว หนูก็เช่นกันค่ะ
หนูเครียด เครียดว่าถ้าเลิกคบหรือออกห่างจากพวกเขา แล้วก็อยู่คนเดียวโดยไม่ต้องไปสนใจใครผูกติดใคร แล้วใครจะเป็นที่พึ่งพิงให้หนูตอนเจ็บปวดละค่ะ หนูก็จะไม่มีใครเลย อยู่ตัวคนเดียว
หนูคิดอยากมีแฟนมากๆค่ะ เพราะไปพึ่งพาเพื่อนเรื่องให้ความรัก ก็กลับไม่ได้ แต่ว่า ความรักหนูก็ดันขาดหวังอีก เป็นความรักของผู้ใหญ่ อยากได้คนที่รักเราจริงๆ ให้ค่าและให้ความรักใส่ใจกับเรา
แต่มันเป็นเรื่องของอนาคต หนูไม่ค่อยคิดเรื่องความรักแบบคู่รักตอนนี้เลยค่ะ
❕หนูแค่อยากได้ที่พึ่งพิงทางจิตใจมากๆ ซึ่งหนูไปคาดหวังกับเพื่อน เพราะเพื่อนเป็นบุคคลที่ยอมรับฟังเราทุกๆเรื่องจริงๆค่ะ
ส่วนพ่อแม่ พวกเขาแก่ค่ะ แก่แบบว่าพ่อหกสิบสี่ แล้วมั้งค่ะ ส่วนแม่ก็เข้าปีที่ ห้าสิบเอ็ด สิ้นเดือนที่ผ่านมา หนูรักพ่อแม่ค่ะ แน่นอนว่าจะทดแทนบุญคุณแน่ๆ แต่คงไม่ได้ดูแลท่านตอนที่ท่านต้องการ
มีน้องชายห่างกันปีหนึ่ง เขาไม่ค่อยเล่าเรื่องตัวเองเท่าไหร่เลยค่ะ แต่เราสองคนก็เจอเรื่องปัญหาภายในบ้านมาพอๆกัน เขาไม่เคยร้องไห้ให้หนูเห็นเลย หนูไม่คาดหวังกับน้องค่ะ ไม่เอาน้องเป็นที่พึ่งพิงก็คงคิดว่าเพราะตัวเองเป็นพี่นั่นแหละค่ะ
ขอบคุณทุกคนที่รับรู้ที่เข้ามากันนะคะ
❔ไปเสริช เน็ต ว่าตัวเองเป็นอะไร ก็เข้าข่ายพวก คิดว่าตัวเองด้อยค่า ไม่มีค่า หรือไม่ดีพออะไรทำนองนี้ค่ะ
หนูสู้ชีวิตมากๆ เพราะ ห่วงหลายๆเรื่อง เวลาพ่อแม่ทะเลาะกัน หนูแถบจะสติแตกอยากจะฆ่าตัวตายเดี๋ยวนั่น หนูคิดว่าเสมอว่าถ้าได้ขึ้นมหาลัยสักที ก็จะในที่สุด นอนแบบมีความสุขน่ะค่ะ อยู่แบบมีความสุขอย่างน้อย ก็สี่ห้าปี ที่ไม่มีเสียงด่าว่าคำพูดแรงๆแบบนั้น หนูไม่เคยคิดที่จะหนีพ่อแม่ไปเลย เพราะหนูมีแค่พวกเขา หนูไม่น่าเกิดมาไม่คู่ควร เพราะเป็นลูกที่แย่ เรียนก็ไม่เก่งเท่าลูกเขา หรืองานอะไรก็ไม่ค่อบได้แบ่งเบาภาระเขาเลย
มันผิดที่หนูที่ไม่ทำอะไรเลยสักอย่างค่ะ ไม่คิดจะเปลี่ยนแปลงอะไรเลย หนูพยายามแล้วแต่แค่จะทำก็ยาก จะพยายามอะไร พอพ่อแม่กลับมาบ้าน ก็ไม่อยากจะทำแล้วค่ะ แม้แต่งานบ้านหรืองานอะไร รู้สึกเครียดเวลาพ่อแม่อยู่ใกล้ๆ หรืออยู่ร่วมกับบริเวณที่พ่อแม่อยู่ด้วย เพราะแบบนี้หนูแถบจะไม่ทำไรเลยค่ะ กลับมากินข้าวอาบน้ำนอน หรือวันแกติก็จะออกมาตอนพวกเขาไม่อยู่บ้าน เข้าไปนอนตอนพวกเขากลับมา เฉพาะเวลากลับมาเหนื่อยๆโมโหๆ หนูเข้าใจมากๆที่พวกเขาเหนื่อย แต่หนูก็ไม่กล้าจะทำหรือไม่คิดจะทำ เรื่องที่ควรทำแบบช่วยนู่นช่วยนี่ เพราะกลัวทำผิดหรือทำพลาด แล้วจะโดนด่าขึ้นมา ก็เลยไม่ทำไรเลยค่ะ
🔆นอกเรื่องเยอะมาก ขอโทษจริงๆนะคะ
คงมาระบาย แล้วก็ถ้ามีคำแนะนำดีๆ ก็ขอบคุณมากๆเลยนะคะ หรือแค่มีใครรับรู้ว่าหนูทรมานอะไรบ้าง ก็ช่วยแล้วละค่ะ ขอบคุณทุกคนมากๆนะคะ 🙏😔
เหตุผลของการมีชีวิตอยู่ของหนูคือ ความฝัน น้องชายแล้วก็ ทดแทนบุญคุณพ่อแม่น่ะค่ะ อ้ะ แล้วก็ ครอบครัวที่อบอุ่นมากๆ ในอนาคตด้วย หนูหวังว่าหนูจะมีสิทธิ์แล้วรับความรักแล้วก็ความสุขอีกครั้งนะคะ T-T พระเจ้า
⁉️ ปัญหาของกระทู้นี้คือ ถ้าไม่ให้พึ่งพิงเพื่อน หนูก็ไม่รู้จะไปพิ่งพิงใครทางจิตใจแล้วค่ะ