เมื่อวันที่ 4 พ.ย. นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย ได้โพสต์ข้อความระบุว่า วังเวงๆๆๆ...
อีก 13 วันก็จะถึงกำหนดการประชุมเอเปคที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพแล้ว และเป็นเรื่องที่ใช้เป็นเหตุขออยู่ในอำนาจต่อไปเพื่อจัดการประชุมเอเปคให้เป็นเกียรติยศศักดิ์ศรีของประเทศ แต่ถึงวันนี้ยังวังเวง
ประชาชนชาวไทยทั้งประเทศไม่มีโอกาสรู้เลยว่าใครที่มาประชุมแน่นอนแล้วหรือไม่มาประชุม มีหัวข้อวาระการประชุมอะไรบ้าง มีกิจกรรมอะไรบ้างที่จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยและคนไทยหรือสมาชิกเอเปค แม้กระบวนการรักษาความปลอดภัยของผู้นำประเทศที่มาประชุมจะเป็นอย่างไร ใครรับผิดชอบ ก็ยังคงเป็นความลับในกระเป๋าใครก็ไม่รู้...
ช่างต่างกันลิบลับกับเมื่อครั้งทักษิณเป็นนายก เมื่อปี 2546 ในครั้งนั้นการประชุมเอเปคคึกคักเอิกเกริกดังสนั่นลั่นโลกเป็นเกียรติยศศักดิ์ศรีอย่างยิ่งแก่ประเทศไทยและชาวไทยทั้งมวล
มีผู้มาร่วมงานประชุมครั้งนั้นเกือบ 20,000 คน มีกิจกรรมมากหลายและแบ่งสรรปันส่วนให้คนไทยและผู้ประกอบการได้ช่วยกัน จึงทำให้การประชุมเอเปคสำเร็จไปได้ด้วยดี
คราวนี้ที่ จะเป็นหน้าตาเกียรติยศของประเทศไทยก็เห็นมีแต่งานเดียว คืองานพระราชทานเลี้ยงที่พระเจ้าอยู่หัวพระราชทานเลี้ยงรับรองแก่บรรดาผู้นำประเทศเอเปคที่พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ในวันที่ 18 พฤศจิกายน ศกนี้ คนไทยก็ต้องเอาใจช่วยกันครับ
แต่จะช่วยอะไรได้บ้างก็ไม่รู้ว่ามีอะไรจะให้ช่วย...
สามารถติดตามต่อได้ที่ :
https://www.dailynews.co.th/news/1645865/
‐---‐----------------
มีใครรู้บ้างว่าโลโก้ปีนี้เป็นภาพ ชะลอม
ประชุม APEC สุดวังเวง ต่างกันลิบเทียบยุคทักษิณ
เมื่อวันที่ 4 พ.ย. นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย ได้โพสต์ข้อความระบุว่า วังเวงๆๆๆ...
อีก 13 วันก็จะถึงกำหนดการประชุมเอเปคที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพแล้ว และเป็นเรื่องที่ใช้เป็นเหตุขออยู่ในอำนาจต่อไปเพื่อจัดการประชุมเอเปคให้เป็นเกียรติยศศักดิ์ศรีของประเทศ แต่ถึงวันนี้ยังวังเวง
ประชาชนชาวไทยทั้งประเทศไม่มีโอกาสรู้เลยว่าใครที่มาประชุมแน่นอนแล้วหรือไม่มาประชุม มีหัวข้อวาระการประชุมอะไรบ้าง มีกิจกรรมอะไรบ้างที่จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยและคนไทยหรือสมาชิกเอเปค แม้กระบวนการรักษาความปลอดภัยของผู้นำประเทศที่มาประชุมจะเป็นอย่างไร ใครรับผิดชอบ ก็ยังคงเป็นความลับในกระเป๋าใครก็ไม่รู้...
ช่างต่างกันลิบลับกับเมื่อครั้งทักษิณเป็นนายก เมื่อปี 2546 ในครั้งนั้นการประชุมเอเปคคึกคักเอิกเกริกดังสนั่นลั่นโลกเป็นเกียรติยศศักดิ์ศรีอย่างยิ่งแก่ประเทศไทยและชาวไทยทั้งมวล
มีผู้มาร่วมงานประชุมครั้งนั้นเกือบ 20,000 คน มีกิจกรรมมากหลายและแบ่งสรรปันส่วนให้คนไทยและผู้ประกอบการได้ช่วยกัน จึงทำให้การประชุมเอเปคสำเร็จไปได้ด้วยดี
คราวนี้ที่ จะเป็นหน้าตาเกียรติยศของประเทศไทยก็เห็นมีแต่งานเดียว คืองานพระราชทานเลี้ยงที่พระเจ้าอยู่หัวพระราชทานเลี้ยงรับรองแก่บรรดาผู้นำประเทศเอเปคที่พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ในวันที่ 18 พฤศจิกายน ศกนี้ คนไทยก็ต้องเอาใจช่วยกันครับ
แต่จะช่วยอะไรได้บ้างก็ไม่รู้ว่ามีอะไรจะให้ช่วย...
สามารถติดตามต่อได้ที่ : https://www.dailynews.co.th/news/1645865/
‐---‐----------------
มีใครรู้บ้างว่าโลโก้ปีนี้เป็นภาพ ชะลอม