นักวิชาการอิสระชี้ ให้ต่างชาติซื้อที่ดิน มีผลเสียระยะยาว ฉะรัฐต้องฟังปชช.เจ้าของประเทศ
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7344384
นักวิชาการอิสระโคราช ชี้ รัฐมีมติให้ต่างชาติถือครองที่ดินได้ มีผลเสียระยะยาวแน่ วอนรัฐฟังเสียงประชาชนเจ้าของประเทศ และตัดสินใจให้รอบคอบที่สุด
วันที่ 2 พ.ย. 65 นาย
ทวิสันต์ โลณานุรักษ์ อดีตเลขาธิการหอการค้าภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และอาจารย์พิเศษคณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา กล่าวถึงกรณีที่มีมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการได้มาซึ่งที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยของคนต่างด้าว ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดคนต่างด้าวที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย พ.ศ. … ซึ่งร่างกฎกระทรวงนี้ จะมีระยะเวลาบังคับใช้ 5 ปีนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
นาย
ทวิสันต์ เผยว่า การประกาศใช้กฎกระทรวงนี้ จะทำให้มีผลกระทบต่อประเทศไทยเป็นอย่างมาก ที่เห็นได้ชัดต้อนนี้อย่างน้อยก็ 2 ด้าน ได้แก่
1. ถ้าไทยเราขายที่ดินให้ต่างชาติถือครองได้ กรรมสิทธิ์ในที่ดินก็จะตกเป็นของผู้ซื้อโดยปริยาย เพราะการซื้อไม่ใช่การเช่าที่กรรมสิทธิ์ยังเป็นของเราอยู่ ดังนั้น เมื่อเขาซื้อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์แล้ว เขาก็ย่อมมีสิทธิ์ในที่ดินผืนนั้นๆ จะห้ามใครเข้าไปก็ย่อมได้ เพราะเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล นี่คือปัญหาที่จะตามมา ซึ่งรัฐบาลจะสามารถยอมรับในสิทธิ์ดังกล่าวได้หรือไม่
2. การขายที่ดินในพื้นที่เขตเศรษฐกิจให้ชาวต่างชาติ ซึ่งจะมีมูลค่าเพิ่มอย่างไม่จำกัด ไม่เป็นผลดีแน่นอน ยกตัวอย่างที่ดินบางย่านในกรุงเทพมหานคร เพียง 50 ตารางวา ราคาพุ่งสูงถึง 100 ล้านบาทก็มี ส่วนตัวเมืองใหญ่ๆ โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยวอย่าง ภูเก็ต พัทยา เชียงใหม่ ถ้าซื้อย่านเศรษฐกิจสำคัญๆ ไว้เหมือนการลงทุนเพื่อเก็บกำไร
เขาก็ทำได้ ประเทศที่เขามีค่าเงินต่างกับเรา เขายิ่งทำได้ง่าย ยกตัวอย่าง ค่าเงินดอลล่าร์ 1 ดอลล่าร์ เท่ากับ 38 บาทไทย เป็นต้น หากเขาเอาเงินมาลงทุนซื้อไว้ โอกาสทำกำไรก็มีสูงมาก แม้จะเขียนกฎหมายห้ามโอน แต่เขาก็หาช่องว่างได้ อย่างที่ สปก. ซึ่งมีการซื้อขายกันให้เห็นอยู่ทุกวันนี้
ดังนั้นสรุปได้ว่า การออกกฎกระทรวงครั้งนี้ มีผลเสียมากกว่าผลดี รัฐบาลต้องชี้แจงอย่างเป็นระบบ อย่าให้ทีมงานมาโต้ตอบเสียงคนคัดค้านแบบใช้อารมณ์กัน เพราะคนที่คัดค้านเขาก็ใช้สิทธิ์ในฐานะคนไทย รัฐบาลควรรับฟังเสียงทุกฝ่าย ซึ่งเรื่องนี้มีผลกระทบระยะยาวแน่นอน รัฐบาลต้องตัดสินใจให้รอบคอบมากที่สุด
เสรีพิศุทธ์ จวก รบ.ประยุทธ์ เป๋าแบนแต่หนี้เยอะ ’10 ล้านล้าน’ ต้องขายที่ดินทั้งประเทศชดใช้?
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_3650969
“เสรีพิศุทธ์” จวก “บิ๊กตู่” ขายที่ดินชาติมาใช้หนี้ 10 ล้านล้าน เหน็บ อีกหน่อยขอทานต่างชาติคงมาซื้อได้ ทำคนไทยกลายเป็นยาจก ลั่น เป็นรัฐบาลเมื่อไหร่ “ประยุทธ์” ต้องรับโทษ
เมื่อเวลา 08.55 น. วันที่ 2 พฤศจิกายน ที่รัฐสภา พล.ต.อ.เสรีพิสุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย (สร.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุญาตให้ชาวต่างชาติซื้อที่ดินได้ ว่า การซื้อขายที่ดิน ก็เหมือนโทรศัพท์มือถือ หากมีเงินก็ซื้อเครื่องใหม่ แต่ถ้าไม่มีเงินก็ขายเครื่องเก่า ซึ่งเหมือนกับคนมีที่ดิน พอไม่มีเงิน เมื่อมีนายทุนมาซื้อที่ดินก็ขายจนไม่มีที่ทำกิน ก็ต้องไปรับจ้างคนอื่น ตนมาเป็น ส.ส. 3 ปีเศษ ใช้เงินไปเยอะแล้ว เลือกตั้งครั้งหน้าก็ต้องใช้เงินตน จะทำอย่างไร ตอนนี้ตนก็กำลังขายที่ดินเพราะเงินในกระเป๋าไม่พอ เป็นหัวหน้าพรรคก็ต้องดูแลลูกพรรคด้วย
ดังนั้น เมื่อเราต้องการขายผู้ซื้อก็ต้องกดราคา เป็นเรื่องปกติ และในส่วนของรัฐบาล พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทำไมจึงต้องขายที่ดินให้คนต่างชาติ ทำไมไม่ไปซื้อที่ดินเขมร ลาว เมียนมา ยึดมาเป็นของไทยให้หมด แต่เป็นเพราะตอนนี้รัฐบาลเป็นหนี้ 10 ล้านล้านบาทหมดกระเป๋าแล้ว แต่ยังเที่ยวไปกู้มาใช้สุรุ่ยสุร่าย มีโครงการนั้นมีโครงการนี้ โดยไม่เกิดประโยชน์อะไร
“เมื่อกู้มาก ดอกเบี้ยก็มากตาม ตอนนี้สมองแตกแล้ว ไม่มีปัญญาว่าจะใช้หนี้อย่างไรแล้ว เพราะหากไม่ใช้หนี้ที่กู้มาประเทศก็ต้องล้มละลาย ดังนั้น รัฐก็ต้องหาวิธีการทุกทางเพื่อให้ได้เงินมาใช้หนี้และใช้จ่ายในประเทศ ก็ขายที่ไร่ละ 40 ล้านบาทให้ต่างชาติ รัฐบาลก็บอกว่าสามารถขายได้เพราะคนไทยยังไปซื้อที่ดินที่อังกฤษและอเมริกาเลย แม้แต่ลูกของคุณประยุทธ์ก็ยังไปซื้อบ้านที่อังกฤษ เพราะเงินไทยอ่อนกว่าดอลลาร์และปอนด์
เมื่อเขาเอาเงินที่ใหญ่กว่าเรามาซื้อที่ดินก็จะได้ที่ดินมาก คนจำนวนมากก็จะมาซื้อ แต่คนไทยไม่มีปัญญาไปซื้อที่ดินเมืองนอก เพราะรายได้วันละ 350 บาทยังไม่เท่า 1 ชั่วโมงของเขาเลย อีกหน่อยขอทานในอเมริกา ก็สามารถมาซื้อที่ดินในไทยได้ เพราะวันหนึ่งเขาขอทานไม่รู้ได้วันละเท่าไหร่” พล.ต.อ.
เสรีพิสุทธ์กล่าว
พล.ต.อ.
เสรีพิสุทธ์กล่าวต่อว่า ตอนนี้ที่รัฐบาลคิดขายที่ดินเพราะหนี้มาก แล้วต้องขายเท่าไหร่จึงจะมีเงินมาใช้หนี้ 10 ล้านล้านบาท สงสัยต้องขายทั้งประเทศ ซึ่งตอนนี้ทุกคนก็รู้แล้ว นโยบายของพล.อ.ประยุทธ์เป็นอย่างไร ขายชาติหรือไม่ขายชาติ ตามที่คนเขาพูดกัน ตนไม่อยากจะฟันธง แต่อยากให้คิดแบบชาวบ้านว่าขายชาติหรือไม่ และถ้าไม่หยุดที่ดินก็จะหมดประเทศ พวกเราจะไม่มีที่อยู่ หรืออยู่ก็อยู่แบบยาจก
ดังนั้นขอฝากถึง พล.อ.
ประยุทธ์ว่าหากไม่ยกเลิกเรื่องนี้เสีย พวกเราเป็นรัฐบาลเมื่อไหร่จะยกเลิกเอง และผู้ที่กระทำจะต้องรับผิดชอบ เหมือนที่ น.ส.
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีโดนเรื่องจำนำข้าว ดังนั้น ครั้งนี้แม้จะแก้ไขหรือไม่แก้ไข พล.อ.
ประยุทธ์ก็ต้องรับโทษ
ม.หอการค้าไทย ประเมินท่วมซัดไทยเสียหาย 2.5 หมื่นล้านบาท
https://www.matichon.co.th/economy/news_3650959
ม.หอการค้าไทย ประเมินท่วมซัดไทยเสียหาย 2.5 หมื่นล้านบาท
นาย
ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยว่า ทางมหาวิทยาลัยหอการค้าได้ประเมินความเสียหายจากกรณีอุทกภัย หรือน้ำท่วม ล่าสุดเป็น 2.5 หมื่นล้านบาท โดยมีกรอบอยู่ที่ 2.2 -2.8 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ประเมินไว้ 1.2-2 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้คาดว่าความเสียหายจะไม่กระจายไปเพิ่ม เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบัน หลายพื้นที่ที่เคยมีน้ำท่วมขังได้ลดลงแล้วและส่วนที่ท่วมอยู่ขณะนี้ก็เป็นพื้นที่อยู่อาศัยมากกว่าพื้นที่เกษตรและพื้นที่เศรษฐกิจ
นาย
ธนวรรธน์ กล่าวว่า ส่วนการเยียวยานั้น คาดว่าการที่รัฐบาลใช้มาตรการเยียวยาตามปกติของกรอบราชการ ก็น่าจะครอบคลุมความเสียหายแล้ว และประเมินว่า การเกิดน้ำท่วมในปีนี้ ไม่ได้กระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมมาก เพราะว่าพืชผลทางการเกษตรไม่ได้รับความเสียหายมาก และพื้นที่ท่องเที่ยว อาทิ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ก็น่าจะกลับมาฟื้นตัวได้ โดยชดเชยจากการกลับมาท่องเที่ยวภายในประเทศในช่วงไฮซีซั่น ปลายปีนี้ ดังนั้นจึงยังคงคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจไทย ( จีดีพี) ปี 2565 ที่ 3.3-3.5% ต่อปี
JJNY : นักวิชาการอิสระชี้ ให้ต่างชาติซื้อที่ดิน|เสรีพิศุทธ์จวก รบ.|ม.หอการค้าไทย ประเมินท่วมซัดไทย|นพดล โต้ เทพมนตรี
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7344384
นักวิชาการอิสระโคราช ชี้ รัฐมีมติให้ต่างชาติถือครองที่ดินได้ มีผลเสียระยะยาวแน่ วอนรัฐฟังเสียงประชาชนเจ้าของประเทศ และตัดสินใจให้รอบคอบที่สุด
วันที่ 2 พ.ย. 65 นายทวิสันต์ โลณานุรักษ์ อดีตเลขาธิการหอการค้าภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และอาจารย์พิเศษคณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา กล่าวถึงกรณีที่มีมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการได้มาซึ่งที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยของคนต่างด้าว ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดคนต่างด้าวที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย พ.ศ. … ซึ่งร่างกฎกระทรวงนี้ จะมีระยะเวลาบังคับใช้ 5 ปีนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
นายทวิสันต์ เผยว่า การประกาศใช้กฎกระทรวงนี้ จะทำให้มีผลกระทบต่อประเทศไทยเป็นอย่างมาก ที่เห็นได้ชัดต้อนนี้อย่างน้อยก็ 2 ด้าน ได้แก่
1. ถ้าไทยเราขายที่ดินให้ต่างชาติถือครองได้ กรรมสิทธิ์ในที่ดินก็จะตกเป็นของผู้ซื้อโดยปริยาย เพราะการซื้อไม่ใช่การเช่าที่กรรมสิทธิ์ยังเป็นของเราอยู่ ดังนั้น เมื่อเขาซื้อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์แล้ว เขาก็ย่อมมีสิทธิ์ในที่ดินผืนนั้นๆ จะห้ามใครเข้าไปก็ย่อมได้ เพราะเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล นี่คือปัญหาที่จะตามมา ซึ่งรัฐบาลจะสามารถยอมรับในสิทธิ์ดังกล่าวได้หรือไม่
2. การขายที่ดินในพื้นที่เขตเศรษฐกิจให้ชาวต่างชาติ ซึ่งจะมีมูลค่าเพิ่มอย่างไม่จำกัด ไม่เป็นผลดีแน่นอน ยกตัวอย่างที่ดินบางย่านในกรุงเทพมหานคร เพียง 50 ตารางวา ราคาพุ่งสูงถึง 100 ล้านบาทก็มี ส่วนตัวเมืองใหญ่ๆ โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยวอย่าง ภูเก็ต พัทยา เชียงใหม่ ถ้าซื้อย่านเศรษฐกิจสำคัญๆ ไว้เหมือนการลงทุนเพื่อเก็บกำไร
เขาก็ทำได้ ประเทศที่เขามีค่าเงินต่างกับเรา เขายิ่งทำได้ง่าย ยกตัวอย่าง ค่าเงินดอลล่าร์ 1 ดอลล่าร์ เท่ากับ 38 บาทไทย เป็นต้น หากเขาเอาเงินมาลงทุนซื้อไว้ โอกาสทำกำไรก็มีสูงมาก แม้จะเขียนกฎหมายห้ามโอน แต่เขาก็หาช่องว่างได้ อย่างที่ สปก. ซึ่งมีการซื้อขายกันให้เห็นอยู่ทุกวันนี้
ดังนั้นสรุปได้ว่า การออกกฎกระทรวงครั้งนี้ มีผลเสียมากกว่าผลดี รัฐบาลต้องชี้แจงอย่างเป็นระบบ อย่าให้ทีมงานมาโต้ตอบเสียงคนคัดค้านแบบใช้อารมณ์กัน เพราะคนที่คัดค้านเขาก็ใช้สิทธิ์ในฐานะคนไทย รัฐบาลควรรับฟังเสียงทุกฝ่าย ซึ่งเรื่องนี้มีผลกระทบระยะยาวแน่นอน รัฐบาลต้องตัดสินใจให้รอบคอบมากที่สุด
เสรีพิศุทธ์ จวก รบ.ประยุทธ์ เป๋าแบนแต่หนี้เยอะ ’10 ล้านล้าน’ ต้องขายที่ดินทั้งประเทศชดใช้?
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_3650969
“เสรีพิศุทธ์” จวก “บิ๊กตู่” ขายที่ดินชาติมาใช้หนี้ 10 ล้านล้าน เหน็บ อีกหน่อยขอทานต่างชาติคงมาซื้อได้ ทำคนไทยกลายเป็นยาจก ลั่น เป็นรัฐบาลเมื่อไหร่ “ประยุทธ์” ต้องรับโทษ
เมื่อเวลา 08.55 น. วันที่ 2 พฤศจิกายน ที่รัฐสภา พล.ต.อ.เสรีพิสุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย (สร.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุญาตให้ชาวต่างชาติซื้อที่ดินได้ ว่า การซื้อขายที่ดิน ก็เหมือนโทรศัพท์มือถือ หากมีเงินก็ซื้อเครื่องใหม่ แต่ถ้าไม่มีเงินก็ขายเครื่องเก่า ซึ่งเหมือนกับคนมีที่ดิน พอไม่มีเงิน เมื่อมีนายทุนมาซื้อที่ดินก็ขายจนไม่มีที่ทำกิน ก็ต้องไปรับจ้างคนอื่น ตนมาเป็น ส.ส. 3 ปีเศษ ใช้เงินไปเยอะแล้ว เลือกตั้งครั้งหน้าก็ต้องใช้เงินตน จะทำอย่างไร ตอนนี้ตนก็กำลังขายที่ดินเพราะเงินในกระเป๋าไม่พอ เป็นหัวหน้าพรรคก็ต้องดูแลลูกพรรคด้วย
“เมื่อกู้มาก ดอกเบี้ยก็มากตาม ตอนนี้สมองแตกแล้ว ไม่มีปัญญาว่าจะใช้หนี้อย่างไรแล้ว เพราะหากไม่ใช้หนี้ที่กู้มาประเทศก็ต้องล้มละลาย ดังนั้น รัฐก็ต้องหาวิธีการทุกทางเพื่อให้ได้เงินมาใช้หนี้และใช้จ่ายในประเทศ ก็ขายที่ไร่ละ 40 ล้านบาทให้ต่างชาติ รัฐบาลก็บอกว่าสามารถขายได้เพราะคนไทยยังไปซื้อที่ดินที่อังกฤษและอเมริกาเลย แม้แต่ลูกของคุณประยุทธ์ก็ยังไปซื้อบ้านที่อังกฤษ เพราะเงินไทยอ่อนกว่าดอลลาร์และปอนด์
เมื่อเขาเอาเงินที่ใหญ่กว่าเรามาซื้อที่ดินก็จะได้ที่ดินมาก คนจำนวนมากก็จะมาซื้อ แต่คนไทยไม่มีปัญญาไปซื้อที่ดินเมืองนอก เพราะรายได้วันละ 350 บาทยังไม่เท่า 1 ชั่วโมงของเขาเลย อีกหน่อยขอทานในอเมริกา ก็สามารถมาซื้อที่ดินในไทยได้ เพราะวันหนึ่งเขาขอทานไม่รู้ได้วันละเท่าไหร่” พล.ต.อ.เสรีพิสุทธ์กล่าว
พล.ต.อ.เสรีพิสุทธ์กล่าวต่อว่า ตอนนี้ที่รัฐบาลคิดขายที่ดินเพราะหนี้มาก แล้วต้องขายเท่าไหร่จึงจะมีเงินมาใช้หนี้ 10 ล้านล้านบาท สงสัยต้องขายทั้งประเทศ ซึ่งตอนนี้ทุกคนก็รู้แล้ว นโยบายของพล.อ.ประยุทธ์เป็นอย่างไร ขายชาติหรือไม่ขายชาติ ตามที่คนเขาพูดกัน ตนไม่อยากจะฟันธง แต่อยากให้คิดแบบชาวบ้านว่าขายชาติหรือไม่ และถ้าไม่หยุดที่ดินก็จะหมดประเทศ พวกเราจะไม่มีที่อยู่ หรืออยู่ก็อยู่แบบยาจก
ดังนั้นขอฝากถึง พล.อ.ประยุทธ์ว่าหากไม่ยกเลิกเรื่องนี้เสีย พวกเราเป็นรัฐบาลเมื่อไหร่จะยกเลิกเอง และผู้ที่กระทำจะต้องรับผิดชอบ เหมือนที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีโดนเรื่องจำนำข้าว ดังนั้น ครั้งนี้แม้จะแก้ไขหรือไม่แก้ไข พล.อ.ประยุทธ์ก็ต้องรับโทษ
ม.หอการค้าไทย ประเมินท่วมซัดไทยเสียหาย 2.5 หมื่นล้านบาท
https://www.matichon.co.th/economy/news_3650959
ม.หอการค้าไทย ประเมินท่วมซัดไทยเสียหาย 2.5 หมื่นล้านบาท
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยว่า ทางมหาวิทยาลัยหอการค้าได้ประเมินความเสียหายจากกรณีอุทกภัย หรือน้ำท่วม ล่าสุดเป็น 2.5 หมื่นล้านบาท โดยมีกรอบอยู่ที่ 2.2 -2.8 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ประเมินไว้ 1.2-2 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้คาดว่าความเสียหายจะไม่กระจายไปเพิ่ม เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบัน หลายพื้นที่ที่เคยมีน้ำท่วมขังได้ลดลงแล้วและส่วนที่ท่วมอยู่ขณะนี้ก็เป็นพื้นที่อยู่อาศัยมากกว่าพื้นที่เกษตรและพื้นที่เศรษฐกิจ
นายธนวรรธน์ กล่าวว่า ส่วนการเยียวยานั้น คาดว่าการที่รัฐบาลใช้มาตรการเยียวยาตามปกติของกรอบราชการ ก็น่าจะครอบคลุมความเสียหายแล้ว และประเมินว่า การเกิดน้ำท่วมในปีนี้ ไม่ได้กระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมมาก เพราะว่าพืชผลทางการเกษตรไม่ได้รับความเสียหายมาก และพื้นที่ท่องเที่ยว อาทิ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ก็น่าจะกลับมาฟื้นตัวได้ โดยชดเชยจากการกลับมาท่องเที่ยวภายในประเทศในช่วงไฮซีซั่น ปลายปีนี้ ดังนั้นจึงยังคงคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจไทย ( จีดีพี) ปี 2565 ที่ 3.3-3.5% ต่อปี