สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
ผิดปกติทั้งสองคนค่ะ คุณเก่งผิดปกติ ส่วนเค้าก็เฉื่อยผิดปกติ 😅ถามจริง มาอยู่ด้วยกันได้ไงเนี่ย ตอนนี้คุณรับตำแหน่งผู้นำครอบครัว คุณเป็นเดอะแบก คุณเหนื่อยแน่ๆ อันดับแรกเลยคือเหนื่อยใจ
คุณอายุ26 ชีวิตเพิ่งเริ่มต้นเอง แน่ใจที่จะใช้ชีวิตกับคนคนนี้ไปตลอดชีวิตเหรอคะ เราแอบเสียดายนะคนที่มีทัศนวิสัยกว้างไกลแบบคุณ เรามีลูกศิษย์ที่มีสายตาแบบคุณอยู่หลายคน บอกเลยเราสนุกมากกับการปั้นเด็กกลุ่มนี้ให้ไปได้ไกลยิ่งกว่าไกลกว่าที่เค้าคาดหวังไว้ตอนแรกเสียอีก และจากประสบการณ์ ถ้าได้เข้าคู่กับคนที่มีสายตากว้างไกลด้วยกันนะ โอ้โห พุ่งกระฉูด
ตัวอย่างพี่คนนึงบุกเบิกทำร้านอาหารที่อเมริกากับภรรยาที่อืดๆเฉื่อยๆ พอเลิกกันมาแต่งกับผู้หญิงที่มองอะไรเหมือนๆกัน เค้าช่วยกันพัฒนาธุรกิจร้านอาหารเค้าจาก1ร้านเล็กๆ ผ่านไป20ปีตอนนี้พวกเค้ามี5+1สาขา(1คือปิดไปเพราะขยายไม่ได้ ติดเรื่องพื้นที่) แต่ละร้าน ใหญ่ระดับ100ที่นั่งupและหรูสุดๆ สร้างบ้านในareaมหาเศรษฐี บ้านนี่คฤหาสน์ชัดๆ คู่นี้เป็นตัวอย่างของวลี 1+1=11ในทางด้านการเงิน ซึ่งทฤษฎีนี้ไม่ได้ใช้ได้แค่กับด้านการเงิน ด้านการศึกษาเรียนรู้พัฒนาตนเองก็เป็นไปในลักษณะเดียวกันด้วยค่ะ ดังนั้นลองพิจารณาดีๆว่าคนคนนี้มีดีมากพอไหมในด้านอื่นๆที่จะทำให้คุณมีความสุขได้ เพราะโดยทั่วๆไป คนประเภทนี้เปลี่ยนยาก ยากมาก ยิ่งอายุมา30แล้วยิ่งกลายเป็นนิสัยไปแล้วก็ยิ่งยาก เลิกคิดเรื่องคาดหวังให้เค้าทำได้แบบคุณ นอกซะจากว่าเค้าจะยอมให้คุณจับมือพาเค้าไปเรียนไปลงมือทำสิ่งใหม่ๆ
ปล.ถ้าจขกท.อยากเรียนรู้ภาษาอังกฤษพลางๆ ทักเรามาขอคำแนะนำได้นะคะ เราเคยเป็นติวเตอร์สอนภาษาอังกฤษเปิดรร.ในตจว.ที่โอกาสเข้าไม่ค่อยถึง ภูมิใจที่ได้ปั้นเด็กๆคุณภาพขึ้นมาหลายคน ตอนนี้เริ่มอายุเยอะแล้วก็พักละ มีลูกศิษย์มารับไม้ต่อส่งทอดวิชาที่เราคิดค้นและเขียนขึ้นมาเองกับมือให้น้องๆรุ่นต่อๆไปต่อ
คุณอายุ26 ชีวิตเพิ่งเริ่มต้นเอง แน่ใจที่จะใช้ชีวิตกับคนคนนี้ไปตลอดชีวิตเหรอคะ เราแอบเสียดายนะคนที่มีทัศนวิสัยกว้างไกลแบบคุณ เรามีลูกศิษย์ที่มีสายตาแบบคุณอยู่หลายคน บอกเลยเราสนุกมากกับการปั้นเด็กกลุ่มนี้ให้ไปได้ไกลยิ่งกว่าไกลกว่าที่เค้าคาดหวังไว้ตอนแรกเสียอีก และจากประสบการณ์ ถ้าได้เข้าคู่กับคนที่มีสายตากว้างไกลด้วยกันนะ โอ้โห พุ่งกระฉูด
ตัวอย่างพี่คนนึงบุกเบิกทำร้านอาหารที่อเมริกากับภรรยาที่อืดๆเฉื่อยๆ พอเลิกกันมาแต่งกับผู้หญิงที่มองอะไรเหมือนๆกัน เค้าช่วยกันพัฒนาธุรกิจร้านอาหารเค้าจาก1ร้านเล็กๆ ผ่านไป20ปีตอนนี้พวกเค้ามี5+1สาขา(1คือปิดไปเพราะขยายไม่ได้ ติดเรื่องพื้นที่) แต่ละร้าน ใหญ่ระดับ100ที่นั่งupและหรูสุดๆ สร้างบ้านในareaมหาเศรษฐี บ้านนี่คฤหาสน์ชัดๆ คู่นี้เป็นตัวอย่างของวลี 1+1=11ในทางด้านการเงิน ซึ่งทฤษฎีนี้ไม่ได้ใช้ได้แค่กับด้านการเงิน ด้านการศึกษาเรียนรู้พัฒนาตนเองก็เป็นไปในลักษณะเดียวกันด้วยค่ะ ดังนั้นลองพิจารณาดีๆว่าคนคนนี้มีดีมากพอไหมในด้านอื่นๆที่จะทำให้คุณมีความสุขได้ เพราะโดยทั่วๆไป คนประเภทนี้เปลี่ยนยาก ยากมาก ยิ่งอายุมา30แล้วยิ่งกลายเป็นนิสัยไปแล้วก็ยิ่งยาก เลิกคิดเรื่องคาดหวังให้เค้าทำได้แบบคุณ นอกซะจากว่าเค้าจะยอมให้คุณจับมือพาเค้าไปเรียนไปลงมือทำสิ่งใหม่ๆ
ปล.ถ้าจขกท.อยากเรียนรู้ภาษาอังกฤษพลางๆ ทักเรามาขอคำแนะนำได้นะคะ เราเคยเป็นติวเตอร์สอนภาษาอังกฤษเปิดรร.ในตจว.ที่โอกาสเข้าไม่ค่อยถึง ภูมิใจที่ได้ปั้นเด็กๆคุณภาพขึ้นมาหลายคน ตอนนี้เริ่มอายุเยอะแล้วก็พักละ มีลูกศิษย์มารับไม้ต่อส่งทอดวิชาที่เราคิดค้นและเขียนขึ้นมาเองกับมือให้น้องๆรุ่นต่อๆไปต่อ
แสดงความคิดเห็น
แฟนไม่สนใจเรื่องการเงินเลยทำไงดี?
ไม่รู้จะเริ่มจากที่ไหนดี หรือไม่รู้จะอธิบายยังไงให้ทุกคนเข้าใจความรู้สึกตอนนี้ ..คือเราจบ ม. 6 เราก็มาทำงาน กทม. ได้งานแรก ก็เริ่มเก็บเงิน ไปสอบอบรมบัตรไกด์มา เราได้ภาษาจีน พอได้บัตรพอได้ทำทัวร์ เงินเดือน ก็ 4-5 หมื่นนะ ตอนนั้น แต่ก็ ไม่พอ ได้เก็บเพราะแม่เราป่วย ต้องรักษาต่อเนื่ิอง เหตุผลที่เราไม่ได้เรียนต่อ เพราะ ไม่มีคนส่งเรียน เราเป็นเสาหลักของบ้าน ต้องหาเงินรักษาแม่ แต่เราก็ ไม่เคยละทิ้งความฝันว่า อย่างน้อยๆ ในชีวิต ขอให้เราจบ ป.ตรี
เราทำงานด้วย เรียนด้วย จนจบ อนุปริญา
พอโควิดมา ก็ทำทัวร์ไม่ได้ เราเลยไปหางานประจำทำ พอจบปวส. ก็ไม่ได้เรียนต่อ พูดง่ายๆคือ เราเป็นคนที่ เป็นคนพัฒนาตัวเองอยู่ตลอด เช่น ศึกษาวีธี
การลงทุนกองทุนรวม หุ้น เป็นต้น ไม่เป็นภาษาอังกฤษก็ลงคอสเรียน ตอนทำงานประจำ ก็ทำงานเสริม ขายออนไลน์ กลูต้า ยิงแอดไม่เป็น ก็เข้าคอสเรียนจนยิงเป็น หรือ อยากรู้อะไรมากกขึ้น พยายามจะเข้าหาอะไรก็ได้ที่ทำให้เราหลุดพ้นจากความจน และตอนนี้คือ ทำงานต่างประเทศ มากับแฟนนั่นแหล่ะ เป็นบริษัทจีน แต่เงินเดือนเราจะเยอะกว่าแฟนเรา3 เท่า เก็บเงินก้อนนี้ได้ เรากะว่าจะลงทุนทำอะไรสักอย่างเป็นเรื่องเป็นราว แต่ติดตรงที่ แฟนเป็นคนไม่วางแผนอะไรเลย ไม่ศึกษาการเงิน ไม่สนใจอะไร
เวลาว่างแกชอบดูแต่หนัง กับ เล่นเกมส์
คือ เราแค่นอยว่า ทำไมเขาไม่เป็นเหมือนเรา ทำไมไม่รู้จัก พัฒนา หาความรู้ คือเราอยากได้เขาเป็นผู้นำ คิดไปในทางเดียวกัน ชอบอะไรเหมือนๆกัน อย่างแค่เราแนะนำให้แก ศึกษาการเงินบ้าง การวางแผนอนาคต ออมเผื่อวัยวัยเกษียณ แต่แก เห็นเป็นเรื่องไร้สาระ คือเราไม่รู้เป็นเรื่องปกติไหม แต่เราอยากให้เขาเป็นแบบเรา ที่คอยพัฒนาตัวเองเรื่อยๆ สนใจการเงิน ได้เงินก้อนมา ทำอะไรได้บ้างให้มันต่อยอดไปได้อีก งี้ อยากให้เขากระตือรือร้น หาทาง เหมือนกับเรา
แต่นี่ไม่ใช่เลย เราเลยเหนื่อย เงินก้อนนี้ คือเราก็ไม่ได้ช่วยกันเก็บนะ เงินเก็บเราคนเดียว เงินแกเราให้แกเก็บเอง เพราะเงินน้อยไม่อยากใช้เงินเก็บแก ส่วนเงินเรา จะเก็บไว้ลงทุนกลับไปทำอะไรด้วยกันที่ไทย แค่นอยว่า แก ไม่วางแผน ไม่มีไอเดียอะไรเกี่ยวกับแพลนอนาคตเลย เงินที่เราคิดว่าจะเอาเงินที่ไปลงทุนกับเขา ถ้าเกิดเลิกกับเขาจริงๆ จะเอาเงินก้อนนี้ไปเรียนต่อภาษาอังกฤษที่อเมริกา 6 เดือน เพราะเราได้ภาษาอังกฤษไม่มาก อย่างน้อยๆ เราเชื่อเสมอว่า
การทำอะไรที่ทำให้เราเก่งขึ้น พัฒนาตัวเองตลอด มันจะเป็นผลดีกับเราระยะยาวมันจะติดตัวเราไปตลอดชีวิต และมันคือเป็นการจุดประกายให้เราด้วย หลังเราเรียนจบว่าจะทำยังไงต่อ ขอบคุณที่รับฟังค่ะ