รู้ก่อนตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยี

สถิติที่เกี่ยวข้องกับคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี มีแนวโน้มที่จะมีมูลค่าความเสียหายและกระจาย
เป็นวงกว้างมากยิ่งขึ้น ทำให้ประชาชนที่ไม่รับรู้ข้อมูลที่ถูกต้อง ต้องตกเป็นเหยื่อและได้รับความเสียหาย เสียทรัพย์สิน ต้องแจ้งความดำเนินคดี เสียทั้งเงินทั้งเวลา ซึ่งเหล่ามิจฉาชีพก็มีเทคนิคขบวนการมาหลอกล่อให้เหยื่อหลงเชื่อ ไม่ว่าจะเป็นหลอกให้โอนเงินทางโทรศัพท์ ชักชวนให้ลงทุนแชร์ลูกโซ่ออนไลน์ หลอกลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล แต่ถ้าจะให้พูดถึงอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่สร้างความเสียหายให้กับประชาชนมากที่สุดก็คงจะเป็นอะไรไม่ได้นอกจาก “หลอกขายสินค้าออนไลน์”

    เทคนิคส่วนใหญ่ของการหลอกขายสินค้าออนไลน์คือการสร้างบัญชีสื่อสังคมออนไลน์โดยใช้ข้อมูลปลอม หรือข้อมูลส่วนตัวของผู้อื่นที่มีความน่าเชื่อถือ สร้างโปรไฟล์ให้เหยื่อหลงเชื่อว่าเป็นผู้ขายสินค้า หรือการจูงใจด้วยราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด เพื่อใช้หลอกขายสินค้าโดยเฉพาะ ดังนั้นก่อนที่จะซื้อสินค้า อยากให้คิดทบทวนให้ถี่ถ้วนก่อนจะตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพเหล่านี้ โดยมีข้อแนะนำ 6 ข้อ ดังนี้

     1. เลือกซื้อสินค้าผ่านช่องทาง หรือเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ หรือเว็บไซต์ที่มีการจดทะเบียนการค้าที่ถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นแฟลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ ที่ถูกกฎหมาย

     2. ระมัดระวังในการเลือกซื้อสินค้าที่มีราคาถูกเกินจริง หรือสินค้าหายากในท้องตลาด (Limited Edition)

     3. อ่านรีวิวจากผู้อื่นที่ซื้อสินค้าเดียวกัน ว่าเป็นอย่างไร น่าเชื่อถือหรือไม่

     4. ค้นหาข้อมูลของผู้ขายและบัญชีธนาคารรับโอนเงิน ในเว็บไซต์ Search Engine เช่น google
หรือตรวจสอบจากเว็บไซต์ที่ให้บริการตรวจสอบข้อมูลว่าผู้ขาย หรือบัญชีที่รับโอนเงินเคยมีประวัติฉ้อโกง หรือไม่ส่งสินค้าหรือไม่

     5. ตรวจสอบเงื่อนไขการรับประกันสินค้า การคืนสินค้า และช่องทางบริการหลังการขายก่อนตัดสินใจซื้อ

     6. หากพบพิรุธ ชื่อบัญชีผู้ขายไม่ตรงกับบัญชีธนาคาร ห้ามโอนเงินก่อนเด็ดขาด

     เชื่อว่าหลายคนต้องทำงานหนัก ต้องเก็บหอมรอมริบมานาน กว่าจะได้เงินมาใช้จับจ่ายซื้อของที่ต้องการ ฉะนั้นจงคิดให้รอบคอบ ตรวจเช็ครายละเอียดสินค้าและความน่าเชื่อถือของผู้ขายให้ละเอียด รวมถึงการซื้อผ่านแฟลตฟอร์ม หรือช่องทางที่มีความน่าเชื่อถือ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่