อย่างที่ทราบกันอย่างดีในความเป็นปรมาจารย์ทางด้านเพลงที่กระทบผู้คนหลาย ๆ ท่านอย่าง Tilly Birds วงอัลเทเนทีฟร็อคหน้าใหม่จากค่าย Gene Lab ที่ฝากผลงานที่ถ่ายทอดด้วยกันหลากหลายอารมณ์ ทั้งเศร้า เหงา เดือด สะใจ รัก ฯลฯ ซึ่งขอยกย่องได้เลยว่าน้องใหม่วงนี้นั้น ไม่ได้มาธรรมดาอย่างแน่นอน
.
ในช่วงปลายปี 2564 Tilly Birds ได้มีการเปิดตัวอัลบั้มที่ 2 ต่อจากอัลบั้มแรกอย่าง "ผู้เดียว The Albums" ที่ได้รับกระแสตอบรับอย่างล้นหลามมาเมื่อปี 2563 ทั้งนี้ทั้งนั้นอัลบั้มที่ 2 นี้ได้มีชื่อว่า "It's Gonna Be OK" โดยแปลตามตัวได้ว่า 'เดี๋ยวมันก็จะดีขึ้นนะ'
.
It’s Gonna Be OK จะเป็นอัลบั้มที่คุณจะต้องหลงมนต์สะกดใน Tilly Birds มากขึ้นกว่าอย่างแน่นอน โดยครั้งนี้พวกเขาจะพาเราไปนั่งคิดและโฟกัสกับความรู้สึกในใจลึก ๆ ในระหว่างที่ได้ฟังทั้ง 8 เพลงในอัลบั้มนี้ ว่าจริง ๆ แล้วเรานั้นดีขึ้นแล้วแน่มั้ย แน่นอนว่าต่อให้คุณนั้นดีแล้วโอเคแล้ว หรือยังไม่ชัดเจนกับความรู้สึกที่แท้จริงของตน โปรดจำไว้ว่า คุณจะยังมีเพลงในอัลบั้มนี้จากพวกเขาโอบกอดอยู่เสมอ จงเปิดอัลบั้มนี้ฟังเรียงเพลงทั้ง 8 พร้อมกับเรา จากนี้ผู้เขียนจะขอรีวิวเพลงทั้ง 8 เพลงในอัลบั้ม It’s Gonna Be OK พร้อมกัน ณ บัดนี้
#01 เพื่อนเล่น ไม่เล่นเพื่อน (Just Being Friendly)
"ถ้าเธอให้ฉันเป็นเพื่อนเล่น อย่าเล่นเกินกว่านั้นได้ไหม"
เพลงเปิดอัลบั้มที่ครองใจคนฟังกันทั่วประเทศ ความเจ็บปวดของการตกอยู่ในสถานะที่เป็นได้แค่เพื่อน (Friendzone) ซึ่งคิดว่าทุกคนก็น่าจะผ่านสถานการณ์นี้มาอย่างแน่นอน เพลงจะถ่ายทอดด้วยภาษาที่เป็นคำถามที่ยังสงสัยและอยู่ในหัวของทุกคน มาพร้อมกับจังหวะที่วิ่งขึ้นวิ่งลง ติด ๆ กัน พาเราเข้าไปเล่นอยู่ในวังวนนี้ จนทำให้เป็นอีกเพลงของวงที่ติดหูและร้องตามแล้วสะปากได้แบบไม่ยั้ง อีกทั้งยังได้ MILLI มาร่วมแจมในผลงานชิ้นนี้ด้วย เรียกได้ว่าเปิดเพลงแรกมาก็มีครบอรรถรสทุกอารมณ์เลยอย่างแท้จริง
#02 ลู่วิ่ง (Can't Keep Up)
“ถ้าเธอมีใจให้ฉันก็หันมาหน่อย เพราะตอนนี้ฉันวิ่งตามเธอไม่ทัน”
ต่อมายังเพลงที่สอง เป็นอีกเพลงที่ฟังไปก็แอบรู้สึกหอบไป ดั่งการวิ่งตามอะไรสักอย่างที่ไม่สิ้นสุดสักที เพราะเหนื่อยมากกับการวิ่งตามเธอี่ไม่เคยจะชัดเจนกับความรู้สึกที่มีต่อเราสักที ลู่วิ่ง ยังคงความเป็น Tilly Birds ได้อย่างดีตามาตรฐาน ยังมีกลิ่นอายซาวด์ดนตรีแบบเฉพาะของวงที่ซ่อนไว้ในเพลงได้อย่างแนบเนียน เหมาะสำหรับมือใหม่หัดร็อกและมือใหม่หัด (แอบ) รักเป็นอย่างดี และลู่วิ่งในเพลงนี้ จึงเป็นลู่วิ่งที่ไม่มีจุดหมาย ไม่มีเส้นชัย ไม่มีเวลากำหนด ไม่มีพัก นอกเสียจากว่าจะวิ่งไปจนถึงวันที่เธอหันมาหยุดรอเรา
#03 เบื่อคนขี้เบื่อ (I'm Not Boring, You're Just Bored)
"ฉันก็เบื่อไม่แพ้เธอ เพราะเจอแต่คนขี้เบื่อแบบเธอ
คุยกันไม่ยาว ชั่วคราว เธอก็ไป"
เบื่อคนขี้เบื้อ เป็นเพลงที่เล่นกับความรู้สึกเบื่อในความสัมพันธ์ โดยเพลงจะเล่าความรู้สึกที่เรานั้นเบื่อคนขี้เบื่ออีกทีหนึ่ง เมื่อต้องพบเจอกับคนที่เข้ามาหาเราก่อน แต่สุดท้ายก็จากไปอย่างรวดเร็วก่อนด้วยเหตุผลร้อยพันล้านที่นิยมใช้อย่างคำว่า 'เบื่อ' แล้วทำไมมันต้ิองมีแต่เราต้องถูกทิ้งอยู่แบบนั้นอยู่เสมอ ไม่แปลกใจเลยสักนิดที่พอเจออะไรแบบนี้นานเข้าซ้ำไปซ้ำมาเรื่อย ๆ ดันเป็นเราเอที่เริ่มรับบทคนเบื่อบ้าง จึงเป็นความร็สึกที่เบื่อคนขี้เบื่อแบบนั้นแหละ เพลงนี้มีดนตรีที่เรียกว่าโคตรเกรี้ยวกราดแบบดุจัด โคตรโหดโคตรอันตราย กีตาร์ใส่เน้น กลองตีแน่น ราวกับได้ระบายความรู้สึกออกมาเหมือนกับพึ่งเจอคนขี้เบื่อก่อนเข้าห้องอัดมาอย่างนั้น โดยมีกลิ่นอายที่ดุดันคล้ายกับเพลง ฉันมันเป็นใคร (Who I Am) แต่ครั้งนี้มันหนักแน่นกว่าสุด ๆ
#04 เดอะแบก (Baggage)
"แบกไว้ แบกไว้
แม้ว่าข้างใน แทบไม่ไหว ไม่ไหวเลย"
หนักมั้ยอะ ที่คอยความสัมพันธ์เอาไว้อยู่คนเดียว ทะเลาะทุกวัน เหนื่อยทุกครั้งที่คุยกัน จนทนไม่ไหวแล้วอยากจะออกมาแทบตาย แต่ก็โดนรั้งไว้เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ไม่ยอมจบความสัมพันธ์แบบจริง ๆ จัง ๆ เสียที เชื่อว่า เดอะแบกทุกท่านน่าจะเข้าใจความรู้สึกที่ว่านี้ได้เป็นอย่างดี และนับว่าเป็นอีกเพลงที่อธิบายความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในความสัมพันธ์ที่ความสุขมันได้เริ่มจืดจางลงไปเรื่อย ๆ เพราะงั้นผู้ฟังที่กำลังเหนื่อยและไม่ไหวแล้วจริง ๆ ฟังเพลงนี้จบ ต้องเลิกแบกและวางรักลงจริง ๆ ได้แล้วนะ
#05 ติดตรงที่ฉัน (It's Not You, It's Me)
"ขอโทษที่ฉันนั้นยังไม่ลืม (ไม่ลืม) ภาพเขา
ขอโทษที่ฉันไม่พร้อมให้ (ไม่พร้อมให้เธอเข้ามา) เธอเข้ามา"
ส่วนตัวเลยนะ นี่เป็นเพลงที่เราชอบมากที่สุดในอัลบั้มนี้แล้วจริง ๆ เคยมีวลีที่ว่า “ถูกที่ผิดเวลา ถูกใจแต่ยังไม่พร้อม” นี่แหละเป็นอะไรที่โคตรเรียลที่สุดแล้ว ส่วนตัวก็เคยมีโมเมนท์แบบนี้อยู่เหมือนกัน ที่ว่าเขาเข้ามาและมันก็ดีมาก ๆ แต่ติดอยู่อย่างเดียว เรายังลืมคนเก่าไม่ได้หว่ะ ไอ้เรื่องที่ว่าไม่มีใครแทนที่ใครได้นี่จะคิดยังไงก็ได้ แต่สำหรับเรามันจริงมาก ๆ ถ้าใจเรายังติดอยู่กับเรื่องราวและความทรงจำในครั้งก่อน ก็ยากที่จะเปิดใจให้ใครได้ ต่อให้จะดีแค่ไหนก็ตาม อย่างที่บอกว่าการที่เรายังลืมเขาไม่ได้ มันไม่ใช่ความผิดอะไรของเขาเลยลย ผิดที่เราล้วน ๆ
#06 ขอให้เธอโชคดี (Send You Off)
"ขอ ให้เธอโชคดี ได้มีชีวิตที่เธอต้องการ"
เพลงนี้เหมือนเป็นความรู้สึกของคนที่ถูกบอกให้ทำใจในเพลง ‘ติดตรงที่ฉัน’ ถ้าติดตรงที่ฉันเป็นการบอกว่าขอโทษ เพลงนี้ก็เหมือนเป็นการบอกว่าไม่เป็นไร ขอให้เธอโชคดี เพลงนี้พูดถึงความรู้สึกของคนที่ถูกบอกลาทั้ง ๆ ที่เราไม่ได้ผิดอะไร แค่ยังไม่ใช่ แต่เฮ้ยไม่เป็นไร เราแค่โชคไม่ดี เดี๋ยวก็เจอแหละคนที่เข้ากับเราได้ โชคดีนะมีชีวิตที่ต้องการ
#07 เธอไม่ได้อยู่คนเดียว (On My Shoulder)
"แต่ลองมองมาที่ฉัน ถ้าไม่ไหว เธออ่อนแอกับฉันได้ รู้ไหม"
เพลงนี้เหมือนให้เราได้พักหายใจจากการเดินทางที่ผ่านมาตลอดทั้ง 6 เพลง เรื่องราวมากมายที่ได้เกิดขึ้นและเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต ได้พักหายใจจากการพยายามทำตัวให้เข้มแข็งในวันที่รู้สึกไม่โอเค เพราะงั้นร้องไห้ออกมาได้ เสียใจให้เต็มที่ เพราะว่าตอนนี้มีคนที่อยู่เคียงข้างและพร้อมรับฟังเราแล้ว ถึงแม้ว่าเพลงจบจะต้องปาดน้ำตาแล้วกลับไปสู่โลกความเป็นจริงที่โหดร้าย แต่เพลงนี้ก็ช่วยให้เราอ่อนแอได้เต็มที่ ได้เป็นตัวเองในแบบที่อยากเป็น เทียบกันตลอดเวลาที่ผ่านมาที่ต้องอดทน เท่านี้ถือว่าเยอะพอที่จะนับเป็นการพักผ่อนได้แล้ว
#08 ถ้าเราเจอกันอีก (Until Then)
"ใจฉันยังคิดถึงเหมือนเคย ไม่มีใครแทนที่เธอได้เลย"
เพลงสุดท้ายปิดอัลบั้มปิดอัลบั้มที่สวยงาม เป็นเพลงแห่งการจากลาที่ยังมีความหวังเล็ก ๆ อยู่ที่จุดสุดท้าย ถ้าวันใดวันหนึ่งเราได้กลับมาเจออีกครั้ง สัญญากันได้มั้ย ว่าเราจะมานั่งคุยกัน เราจะนั่งกอดกัน เราจะนั่งเล่าถึงเรื่องราวอันสวยงามที่เคยได้ผ่านมาร่วมกัน
เพลงนี้สื่อได้หลากหลายความหมาย ทั้งคนรักเก่า เพื่อนฝูง อย่างผู้เขียนเนื้อเพลงอย่าง เติร์ด หรือนักร้องนำก็ได้บอกว่าเพลงนี้เขาเขียนให้กับพ่อและแม่ผู้ล่วงลับ ในเนื้อเพลงทำให้มีความหวังว่าเราอาจได้เจอกันในฝันก็ได้ และฉันก็รอได้ ที่เราอาจจะได้กลับมาวนเจอกันอีกครั้งจริง ๆ
ดังนั้น เพลงถ้าเราเจอกันอีก จึงเป็นเพลงปิดที่งดงามที่สุดจาก Tilly Birds อัดแน่นไปด้วยอารมณ์และหยาดน้ำตาที่ไหลออกมาแบบไม่ต้องพยายาม
ก็จบไปแล้วสำหรับการรีวิว 'It's Gonna Be OK' อัลบั้มที่สุดแสนจะงดงามและคุณภาพอีกชิ้นหนึ่งจากวง Tilly Birds ขอยอมรับว่าตอนที่ได้ฟังทั้ง 8 เพลงครั้งแรกตามที่วงได้แนะนำ ก็รู้สึกถึงเรื่องราวของตนที่เคยได้เกิดขึ้นและก็มานั่งคิดว่ามันจริง ถึงแน่นอนบางทีมันจะสวยงามบ้างหรือแย่บ้าง สุดท้ายแล้วมันก็เป็นสิ่งที่งดงามในชีวิตที่ผลักดันเรามาเป็นอยู่ถึงทุกวันนี้
สุดท้ายผู้เขียนขอฝากอัลบั้มนี้ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจผู้อ่าน
And I hope everything's gonna be ok
#ปล. ตอนนี้มี Cinematic Virtual Concert ของอัลบั้มนี้ในรูปแบบออนไลน์แล้ว รับชมได้ที่ :
https://www.youtube.com/watch?v=Uw7ysQa2mKw
[CR] รีวิว 'It's Goona Be OK' - Tilly Birds's Album
.
ในช่วงปลายปี 2564 Tilly Birds ได้มีการเปิดตัวอัลบั้มที่ 2 ต่อจากอัลบั้มแรกอย่าง "ผู้เดียว The Albums" ที่ได้รับกระแสตอบรับอย่างล้นหลามมาเมื่อปี 2563 ทั้งนี้ทั้งนั้นอัลบั้มที่ 2 นี้ได้มีชื่อว่า "It's Gonna Be OK" โดยแปลตามตัวได้ว่า 'เดี๋ยวมันก็จะดีขึ้นนะ'
.
It’s Gonna Be OK จะเป็นอัลบั้มที่คุณจะต้องหลงมนต์สะกดใน Tilly Birds มากขึ้นกว่าอย่างแน่นอน โดยครั้งนี้พวกเขาจะพาเราไปนั่งคิดและโฟกัสกับความรู้สึกในใจลึก ๆ ในระหว่างที่ได้ฟังทั้ง 8 เพลงในอัลบั้มนี้ ว่าจริง ๆ แล้วเรานั้นดีขึ้นแล้วแน่มั้ย แน่นอนว่าต่อให้คุณนั้นดีแล้วโอเคแล้ว หรือยังไม่ชัดเจนกับความรู้สึกที่แท้จริงของตน โปรดจำไว้ว่า คุณจะยังมีเพลงในอัลบั้มนี้จากพวกเขาโอบกอดอยู่เสมอ จงเปิดอัลบั้มนี้ฟังเรียงเพลงทั้ง 8 พร้อมกับเรา จากนี้ผู้เขียนจะขอรีวิวเพลงทั้ง 8 เพลงในอัลบั้ม It’s Gonna Be OK พร้อมกัน ณ บัดนี้
#01 เพื่อนเล่น ไม่เล่นเพื่อน (Just Being Friendly)
#02 ลู่วิ่ง (Can't Keep Up)
#03 เบื่อคนขี้เบื่อ (I'm Not Boring, You're Just Bored)
#04 เดอะแบก (Baggage)
แม้ว่าข้างใน แทบไม่ไหว ไม่ไหวเลย"
#05 ติดตรงที่ฉัน (It's Not You, It's Me)
ขอโทษที่ฉันไม่พร้อมให้ (ไม่พร้อมให้เธอเข้ามา) เธอเข้ามา"
#06 ขอให้เธอโชคดี (Send You Off)
#07 เธอไม่ได้อยู่คนเดียว (On My Shoulder)
#08 ถ้าเราเจอกันอีก (Until Then)
เพลงนี้สื่อได้หลากหลายความหมาย ทั้งคนรักเก่า เพื่อนฝูง อย่างผู้เขียนเนื้อเพลงอย่าง เติร์ด หรือนักร้องนำก็ได้บอกว่าเพลงนี้เขาเขียนให้กับพ่อและแม่ผู้ล่วงลับ ในเนื้อเพลงทำให้มีความหวังว่าเราอาจได้เจอกันในฝันก็ได้ และฉันก็รอได้ ที่เราอาจจะได้กลับมาวนเจอกันอีกครั้งจริง ๆ
ดังนั้น เพลงถ้าเราเจอกันอีก จึงเป็นเพลงปิดที่งดงามที่สุดจาก Tilly Birds อัดแน่นไปด้วยอารมณ์และหยาดน้ำตาที่ไหลออกมาแบบไม่ต้องพยายาม
ก็จบไปแล้วสำหรับการรีวิว 'It's Gonna Be OK' อัลบั้มที่สุดแสนจะงดงามและคุณภาพอีกชิ้นหนึ่งจากวง Tilly Birds ขอยอมรับว่าตอนที่ได้ฟังทั้ง 8 เพลงครั้งแรกตามที่วงได้แนะนำ ก็รู้สึกถึงเรื่องราวของตนที่เคยได้เกิดขึ้นและก็มานั่งคิดว่ามันจริง ถึงแน่นอนบางทีมันจะสวยงามบ้างหรือแย่บ้าง สุดท้ายแล้วมันก็เป็นสิ่งที่งดงามในชีวิตที่ผลักดันเรามาเป็นอยู่ถึงทุกวันนี้
สุดท้ายผู้เขียนขอฝากอัลบั้มนี้ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจผู้อ่าน
And I hope everything's gonna be ok
#ปล. ตอนนี้มี Cinematic Virtual Concert ของอัลบั้มนี้ในรูปแบบออนไลน์แล้ว รับชมได้ที่ : https://www.youtube.com/watch?v=Uw7ysQa2mKw