Tilly Birds - “It’s Gonna Be OK"
มหากาพย์อาณาจักรแห่งความรักที่สูญสลาย
ในช่วงปี 2020 ที่ผ่านมา ถือเป็นปีทองของวงดนตรีอัลเทอร์เนทีฟน้องใหม่จากค่าย
Gene Lab ที่มีชื่อว่า
Tilly Birds ซึ่งประกอบไปด้วยสมาชิก 3 คน ได้แก่
เติร์ด อนุโรจน์ เกตุเลขา (ร้องนำ)
บิลลี่ ณัฐดนัย ชูชาติ (กีต้าร์) และ
ไมโล ธุวานนท์ ตันติวัฒนวรกุล (กลอง) อ้างอิงได้จากความสำเร็จอันล้นหลามในปีที่ผ่านมาตั้งแต่เพลงฮิตระดับมหาชนอย่าง
คิด(แต่ไม่)ถึง [Same Page?] และ
จำเก่ง (Slipped Your Mind) ที่ทางวงไปร่วมแจมและโปรดิวซ์ในซิงเกิลของ
กอล์ฟ F.HERO ที่ฟังกันจนติดงอมแงมชนิดที่ว่าร้องกันได้ติดปากทั้งบ้านทั้งเมืองทั้งสองเพลง รวมถึงงานอัลบั้มเต็มชุดแรกของพวกเขา
ผู้เดียว The Album ที่ได้รับฟีดแบคที่ดีเป็นอย่างยิ่งจากผู้ฟัง ดังจะเห็นได้จากยอดขายอัลบั้มที่ทยอยออกมาทั้งในรูปแบบ CD, Vinyl LP และ Cassette Tape และอันดับเพลงที่ถูกกระหน่ำเปิดในคลื่นวิทยุ จำนวนการฟังบน Online Streaming Platforms ไปจนถึงการถูกกล่าวถึงในสื่อสังคมออนไลน์ที่เพิ่มขึ้นอย่างมากไม่เพียงแต่เพลงที่ถูกตัดเป็นซิงเกิลเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเพลงอื่น ๆ อีกหลายเพลงในอัลบั้มดังกล่าวซึ่งได้รับการยอมรับและถูกพูดถึงเช่นกัน นับเป็นผลงานชิ้นแจ้งเกิดของพวกเขาอย่างชัดเจนโดยปราศจากข้อสงสัย
“It’s Gonna Be OK” คือชื่อของผลงาน Studio Album ลำดับที่ 2 ของพวกเขา
Tilly Birds โดยซิงเกิลแรกของอัลบั้มอย่าง
“เพื่อนเล่น ไม่เล่นเพื่อน (Just Being Friendly) ft.MILLI นั้น ถูกปล่อยออกมาให้ฟังกันตั้งแต่ช่วงปลายเดือนเมษายน 2021 ซึ่งเพลงดังกล่าวก็ได้กระแสตอบรับจากผู้ฟังอย่างล้นหลามเช่นเคย โดยมียอดชมบน Youtube สูงกว่าหนึ่งร้อยล้านครั้ง โดยเป็นเพลงลำดับที่ 2 ของพวกเขาที่ทำได้ ถัดจากเพลงแรกอย่าง
คิด(แต่ไม่)ถึง [Same Page?] จากอัลบั้มแรก และได้รับกระแสผู้ฟังอีกส่วนหนึ่งจากแอพพลิเคชัน TikTok จากการมีท่วงทำนองที่สนุกสนาน เนื้อหาโดนใจเข้าถึงง่ายและท่อนจำที่ติดหูชวนให้ร้องเต้นตาม รวมถึงเป็นการร่วมงานกันเป็นครั้งแรกของทางวงกับแรปเปอร์หญิงที่ร้อนแรงที่สุดในศักราชนี้อย่าง
MILLI
ในช่วงเวลาสามเดือนก่อนปล่อยอัลบั้มเต็ม พวกเขาได้ปล่อยเพลงและมิวสิควิดีโอโปรโมทอย่างต่อเนื่องอีกสามซิงเกิลได้แก่
ลู่วิ่ง (Can’t Keep Up) เดอะแบก (Baggage) และ
เบื่อคนขี้เบื่อ (I’m Not Boring, You’re Just Bored) ตามลำดับ เป็นการชิมลางก่อนที่จะนำผู้ฟังเข้าสู่งานอัลบั้มเต็มชุดนี้ที่มีการร้อยเรียงเนื้อหาและไต่ระดับความเข้มข้นของอารมณ์จากป๊อปสนุกสนานฟังสบายเข้าสู่ความอัลเทอร์เนทีฟที่กำลังคืบคลานเข้ามา เส้นเรื่องของอัลบั้มที่ถูกเรียบเรียงไว้อย่างน่าติดตามในแบบฉบับของทางวงที่จงใจวาดแผนให้ฟังเรียงต่อเนื่องแบบไม่ต้องพึ่งพาระบบสุ่มเพลง ตาม concept ของอัลบั้มและชื่อของผลงานชิ้นนี้ที่ขึ้นหราไว้เหนือหน้าปก เย้ายวนให้ทุกท่านร่วมกันเพลิดเพลินและสนุกสนานไปกับการตีความเนื้อหา หรือบางท่านอาจจะเลือกปล่อยใจเพลิดเพลินไปกับการรับชมรับฟังงานเพลงที่วงต้องการนำเสนอออกมาแบบสบาย ๆ ก็เป็นอีกตัวเลือกไม่เลวนัก สำหรับงานที่มีเนื้อหาเข้มข้นบาดลึกในเชิงอารมณ์นั้นอาจทำให้บางท่านหงอยเหงาเศร้าซึม แต่ในทางกลับกันก็อาจมีบางท่านสนุกกับความดาร์คหม่นกลายเป็นสดใสนี้ นั่นคือเสน่ห์อันลึกลับ แต่จะกลัวอะไรเล่า
It’s Gonna Be OK!
อัลบั้มเต็มชุดนี้มีกำหนดการวางจำหน่ายในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2021 ที่ผ่านมา โดยที่สามารถทำยอดดาวน์โหลดอันดับ 1 บน iTunes Album Chart เช่นเดียวกับซิงเกิลแรกอย่าง
เพื่อนเล่น ไม่เล่นเพื่อน (Just Being Friendly) ft.MILLI ที่เคยขึ้นถึงอันดับที่ 1 บน iTunes Single Chart ของประเทศไทยล่วงหน้าไปก่อนแล้วเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเชิงสถิติเหล่านี้ล้วนเป็นเพียงน้ำจิ้มเท่านั้น ผลงานชิ้นนี้รอให้ท่านนำพาโสตประสาทมาลิ้มลองด้วยตัวของท่านเอง รสชาติที่ได้รับอาจเป็นรสที่คุ้นเคย ซึ่งอาจอร่อยจนคาดไม่ถึง หรือแม้แต่ไม่เคยได้ชิมมาก่อน ก็เป็นได้
เพื่อนเล่น ไม่เล่นเพื่อน (Just Being Friendly) ft.MILLI (3.5/5)
ซิงเกิลแรกที่ถูกปล่อยออกมาก่อนใคร ในวันนี้มาในฐานะเพลงเปิดอัลบั้มที่มาในแนวคึกคักสดใสชวนโยกตามตามคำโปรย เปิดโหมดสนุกไรม์ปัง เตือนให้ระวังอย่าข้ามเส้นเฟรนด์โซน กับทำนองที่เปี่ยมไปด้วยลูกเล่นในทุก ๆ ช่วงเวลา กับเนื้อหาโดนใจวัยรุ่นว่าด้วยการคิดกับเพื่อนสนิทเกินกว่าเพื่อนและอยู่ในสถานการณ์ว้าวุ่นในการข้ามเส้นเพื่อนให้กลายเป็นคนรัก อย่างตรงไปตรงมาตามชื่อเพลง เส้นบาง ๆ อย่างเส้นเพื่อนนั้นอาจเล่นกับความรู้สึกและประสบการณ์จริงของหลาย ๆ คน เพลงนี้จึงเข้าถึงผู้ฟังได้ไม่ยากและประสบความสำเร็จดังที่กล่าวไว้ในภาพรวมของอัลบั้มข้างต้น แต่ส่วนตัวมองว่าองค์ประกอบของเพลงค่อนข้างล้นไปสักนิด แต่ในฐานะเพลงเปิดอัลบั้มถือว่าทำหน้าที่ของตนได้ดีตามมาตรฐาน ข้อดีที่สุดของเพลงนี้คือกระแสตอบรับที่ท้วมท้นน่าจะสร้างความมั่นใจให้แก่วงเป็นอย่างมากในการต่อยอดความสำเร็จ เสมือนสะพานเพลงฮิตต่อเนื่องจากงานชุดแรกชวนให้ใจฮึกเหิม เป็นการเลี้ยวเบนมาแนวใหม่แบบเล็ก ๆ โดยคงลายเซ็นต์ของตัวเองไว้อย่างเป็นเอกลักษณ์
ลู่วิ่ง (Can’t Keep Up) (4.5/5)
ความหนักหน่วงทางอารมณ์เริ่มคืบคลาน กลิ่นและรสชาติของความเฮิร์ต ความหมายของความหมาเริ่มคืบคลานตั้งแต่แทร็คที่ 2 ซึ่งก็เป็นซิงเกิลที่ 2 เช่นเดียวกัน ความเก๋ของเพลงนี้คือคอนเซปท์เพลงที่เปรียบเทียบการวิ่งตามความรักที่มีให้แก่เธอเสมือนการวิ่งบนลู่วิ่ง วิ่งตามเท่าไหร่ก็ยิ่งไกลห่าง ความพยามอยู่ที่ไหน ความพยายามอยู่ที่นั่น ไม่ได้เปลี่ยนผลลัพธ์ใดให้สมหวังได้และแน่นอนว่า ไม่มีทาง ประหนึ่งเป็นการปิดประตูความหวังอย่างสมบูรณ์แบบ แสงที่ปลายอุโมงค์หรือความแฮปปี้เอนดิ้งอะไรนั่น ไม่มีอยู่จริง ดับฝันไปเลย เป็นการยากที่จะมอบนิยามสั้นๆให้กับเพลงลู่วิ่ง คือ เป็นเพลงที่ฟังไม่ยาก แต่ในขณะเดียวกันก็มีความ Unique เมื่อเทียบกับเพลงอื่น ๆ ของพวกเขา เพลงค่อย ๆ สะสมพลังงานอย่างช้า ๆ และพาอารมณ์ไปจบถึงที่หมายได้ในไฮไลท์ในช่วงท้ายเพลง สำหรับชื่อเพลงนั้นเราว่าแปลกดีและสร้างความประหลาดใจเมื่อแรกได้ยิน หากเรามองภาพเล็กอาจมโนภาพเป็นการวิ่งบนลู่วิ่ง Treadmill ซึ่งก็คือการวิ่งอยู่กับที่แต่ใช้พลังงานมากหรือน้อยขึ้นกับความพยายาม(อัตราเร็ว) และความยากที่เรามี(ความชัน) ในที่นี้เปรียบเสมือนความคาดหวัง ปรับได้ผ่อนได้ แต่หากยิ่งพยายามมากหรือคาดหวังมากก็เหนื่อยมากเช่นกัน หรือหากมองภาพใหญ่เลยนั้น ก็จะกลายเป็นการวิ่งในสนามกีฬามาตรฐานโอลิมปิก 400 เมตร ซึ่งหากการวิ่งของเธอนั้นทิ้งห่างเราไกลออกไป นั่นหมายถึงโอกาสสำเร็จยิ่งริบหรี่มาก ยกเว้นแต่ว่าเธอจะวิ่งนำเราจนน็อครอบพอดีก็จะกลายเป็นการวิ่งที่เธอทันเราและเราทันกัน
เบื่อคนขี้เบื่อ (I’m Not Boring, You’re Just Bored) (5/5)
ความสัมพันธ์ของคนสองคนที่มีทิศทางกลับกันโดยสิ้นเชิง หนึ่งคนที่รักน้อยลงจนใจหมดรัก กับอีกคนที่ยังคงรักแต่เริ่มนอยกับความสั่นคลอนของความสัมพันธ์ที่มีเหตุมาจากความบ่นบนความเบื่อพร้อมกับหาที่ระบายรองรับอารมณ์แบบไร้เหตุผลเพียงแค่เพราะคำว่า เบื่อออ ก่อเกิดอารมณ์เดือดดาลและการตอบโต้กลับอย่างเผ็ดร้อนเผ็ดแซ่บจนแสบปาก แต่สุดท้ายแล้วก็ยังคงไม่ได้รับการแยแสหรือความเห็นอกเห็นใจใด ๆ ตอบรับกลับมา เบื่อคนขี้เบื่อ จัดเป็นเพลงที่ฉูดฉาดจัดจ้านที่สุดทั้งในด้านเนื้อหา อารมณ์ การเรียบเรียงของเพลงที่วางไฮไลท์ไว้ทุกอย่างอย่างพอเหมาะพอเจาะมาก ๆ ทั้งในท่อน “
ของฉันมากขึ้นไป แต่ของเธอดูน้อยลงจนจางหาย…” ในVerseแรกกับการทิ้งท้ายคำว่า ‘
หาย…’ แผ่ว ๆ สุดเซ็กซี่ หรือจะเป็น “
เธอแค่เหงาก็เธอแค่เหงา เธอคุยแก้เหงาแก้ เบื่อออออ!” ในท่อนpre-hook2 กับเสียง
เบื่อออ! ของไมโลที่ปลดปล่อยออกมาอย่างสะใจ เชื่อว่าหลายคนที่ฟังก็อดที่จะพ่นคำนี้ตามไม่ได้ รวมถึงเสียงเย็นชาแฝงไปด้วยความยียวน “
อ๋อ...ไม่อ่ะ” ที่ได้สาว
แปม อัญญ์ชิสา มาช่วยให้เสียงภาษาไทย ทั้งหมดทั้งมวลนี้ร่วมกันทวีความเข้มข้นเผ็ดร้อนของเพลงนี้มากยิ่งขึ้น ตัวเพลงเดือดจัดจัดว่าเดือดทะลุปรอทแตกที่สุดแล้วในสารบัญเพลงทิลลี่เบิร์ดสและแสดงถีงความท้าทายประหนึ่งว่าประชดประชันถึงขั้นชวนขึ้นรถไฟเหาะเผื่อจะสนุกไม่น่าเบื่อขึ้นมาบ้าง ดั่งเนื้อเพลงในท่อนฮุค เหนื่อสิ่งอื่นใด เราชอบคอนเซปท์เพลงและชื่อเพลงนี้มากทั้งแบบไทยและอังกฤษ คือนำเสนอเพลงได้ดี มีความต่อล้อต่อเถียงแบบอ่านแล้วมีเสียงออกมา ขั้นกว่าของคนขี้เบื่อ คือความเบื่อซ้อนเบื่อซ้อนเบื่ออีกทีนึง ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น ตัวมิวสิควิดีโอของเพลงก็ถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมแบบเขย่าประสาท มันส์เดือดเชือด เลือดท่วมจอ โดยแทบจะไม่ต้องจินตนาการฉากใดเพิ่มเติมเลย จวบจนฉากจบของเพลงที่มีสองแบบคือ Single Version และ Album Version ที่ระยะเพลงยาวกว่าโดยขยายออกมาประมาณ 13 วินาทีในการถอดเสียงมาแบบเดียวกับฉากจบของมิวสิควิดีโอที่มีการแซมเปิ้ลเพลงที่ 5 ของอัลบั้มไว้ช่วงท้ายเพลงนี้ประหนึ่งเป็นข้อความลับ ๆ ที่ถูกส่งต่อเพื่อโต้ตอบกันของเธอ?และเขา?และรักของเรา?หรือใครอีกคน? โปรดติดตาม
เดอะแบก (Baggage) (4.5/5)
ซิงเกิลที่ 3 ที่เกิดการสลับตำแหน่งเก้าอี้ดนตรีเล็ก ๆ กับ เบื่อคนขี้เบื่อ ซึ่งเป็นซิงเกิลที่ 4 ผลักให้ เดอะแบก มาอยู่ในแทร็คที่ 4 แทน ต่อเนื่องจากการระเบิดอารมณ์สาแก่ใจทั้งสองฝ่ายจากเพลงก่อนหน้า มาเข้าสู่เพลงที่มีทำนองลุ่มลึก แต่ยังคงความสนุกน่าติดตามในกราฟอารมณ์เพลงแต่ก็แฝงไปด้วยความอึดอัดเหมือนถูกพลังงานบางอย่างกดอยู่ตลอดการฟังทั้งในแง่ของกายภาพและจิตใจ ไม่แน่ใจว่าวงเล่นของอะไรกับเราหรือเปล่าแต่มันกลับทำให้การระเบิดอารมณ์ในช่วงท้ายเพลงนั้นพวยพุ่งออกมาได้อย่างสมจริงมากและได้อารมณ์ที่ต่อเนื่องจากเบื่อคนขี้เบื่อในเพลงก่อนหน้าซึ่งเป็นช่วงต้นและเป็นที่มาของการแบกอันนำมาสู่เรื่องราวในเพลงนี้ที่เดอะแบกคนนี้ไม่สามารถต้านทานสิ่งเร้าใดๆที่มา trigger ได้อีกต่อไปแล้ว เกิดระเบิดตูมแตกออกมาเป็นซากความแหลกเละกระจุยกระจาย จากชื่อเพลงมีความเท่ห์ของการใช้ศัพท์ในวงการเกมเมอร์อย่าง เดอะแบก ที่มักถูกใช้ในสถานการณ์ที่เพื่อนร่วมทีมนั้นมีปัญหาบางอย่างหรือมีทักษะที่ไม่เพียงพอที่จะอยู่ในเกมเกมนี้ แต่เมื่อกติกาการเล่นนั้นใช้ระบบทีม ความสามัคคีจึงต้องบังเกิด โดยการที่ผู้ร่วมทีมที่แกร่งกว่าจะต้องทำแต้มชดเชยเพื่อแบกรับภาระ จุดประสงค์เพื่อประคองให้ทีมชนะ เปรียบดังสนามรักที่ต้องพึ่งพาผู้เล่นที่ประคองรักนี้ให้ถึงฝั่งฝันได้ (ถ้าไหว) อย่างไรก็ดี เรื่องรักไม่ใช่เรื่องเล่น สนามนี้มีคนเจ็บจริง และบาดแผล เป็นแผล จริง เลือดออกจริง กลิ่นคาวเลือดซิบ ๆ สด ๆ แหลกสลาย
[CR] รีวิวอัลบั้ม Tilly Birds - 'It's Gonna Be OK' (2021)
“It’s Gonna Be OK” คือชื่อของผลงาน Studio Album ลำดับที่ 2 ของพวกเขา Tilly Birds โดยซิงเกิลแรกของอัลบั้มอย่าง “เพื่อนเล่น ไม่เล่นเพื่อน (Just Being Friendly) ft.MILLI นั้น ถูกปล่อยออกมาให้ฟังกันตั้งแต่ช่วงปลายเดือนเมษายน 2021 ซึ่งเพลงดังกล่าวก็ได้กระแสตอบรับจากผู้ฟังอย่างล้นหลามเช่นเคย โดยมียอดชมบน Youtube สูงกว่าหนึ่งร้อยล้านครั้ง โดยเป็นเพลงลำดับที่ 2 ของพวกเขาที่ทำได้ ถัดจากเพลงแรกอย่าง คิด(แต่ไม่)ถึง [Same Page?] จากอัลบั้มแรก และได้รับกระแสผู้ฟังอีกส่วนหนึ่งจากแอพพลิเคชัน TikTok จากการมีท่วงทำนองที่สนุกสนาน เนื้อหาโดนใจเข้าถึงง่ายและท่อนจำที่ติดหูชวนให้ร้องเต้นตาม รวมถึงเป็นการร่วมงานกันเป็นครั้งแรกของทางวงกับแรปเปอร์หญิงที่ร้อนแรงที่สุดในศักราชนี้อย่าง MILLI
ในช่วงเวลาสามเดือนก่อนปล่อยอัลบั้มเต็ม พวกเขาได้ปล่อยเพลงและมิวสิควิดีโอโปรโมทอย่างต่อเนื่องอีกสามซิงเกิลได้แก่ ลู่วิ่ง (Can’t Keep Up) เดอะแบก (Baggage) และ เบื่อคนขี้เบื่อ (I’m Not Boring, You’re Just Bored) ตามลำดับ เป็นการชิมลางก่อนที่จะนำผู้ฟังเข้าสู่งานอัลบั้มเต็มชุดนี้ที่มีการร้อยเรียงเนื้อหาและไต่ระดับความเข้มข้นของอารมณ์จากป๊อปสนุกสนานฟังสบายเข้าสู่ความอัลเทอร์เนทีฟที่กำลังคืบคลานเข้ามา เส้นเรื่องของอัลบั้มที่ถูกเรียบเรียงไว้อย่างน่าติดตามในแบบฉบับของทางวงที่จงใจวาดแผนให้ฟังเรียงต่อเนื่องแบบไม่ต้องพึ่งพาระบบสุ่มเพลง ตาม concept ของอัลบั้มและชื่อของผลงานชิ้นนี้ที่ขึ้นหราไว้เหนือหน้าปก เย้ายวนให้ทุกท่านร่วมกันเพลิดเพลินและสนุกสนานไปกับการตีความเนื้อหา หรือบางท่านอาจจะเลือกปล่อยใจเพลิดเพลินไปกับการรับชมรับฟังงานเพลงที่วงต้องการนำเสนอออกมาแบบสบาย ๆ ก็เป็นอีกตัวเลือกไม่เลวนัก สำหรับงานที่มีเนื้อหาเข้มข้นบาดลึกในเชิงอารมณ์นั้นอาจทำให้บางท่านหงอยเหงาเศร้าซึม แต่ในทางกลับกันก็อาจมีบางท่านสนุกกับความดาร์คหม่นกลายเป็นสดใสนี้ นั่นคือเสน่ห์อันลึกลับ แต่จะกลัวอะไรเล่า It’s Gonna Be OK!
อัลบั้มเต็มชุดนี้มีกำหนดการวางจำหน่ายในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2021 ที่ผ่านมา โดยที่สามารถทำยอดดาวน์โหลดอันดับ 1 บน iTunes Album Chart เช่นเดียวกับซิงเกิลแรกอย่าง เพื่อนเล่น ไม่เล่นเพื่อน (Just Being Friendly) ft.MILLI ที่เคยขึ้นถึงอันดับที่ 1 บน iTunes Single Chart ของประเทศไทยล่วงหน้าไปก่อนแล้วเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเชิงสถิติเหล่านี้ล้วนเป็นเพียงน้ำจิ้มเท่านั้น ผลงานชิ้นนี้รอให้ท่านนำพาโสตประสาทมาลิ้มลองด้วยตัวของท่านเอง รสชาติที่ได้รับอาจเป็นรสที่คุ้นเคย ซึ่งอาจอร่อยจนคาดไม่ถึง หรือแม้แต่ไม่เคยได้ชิมมาก่อน ก็เป็นได้
เพื่อนเล่น ไม่เล่นเพื่อน (Just Being Friendly) ft.MILLI (3.5/5)
ซิงเกิลแรกที่ถูกปล่อยออกมาก่อนใคร ในวันนี้มาในฐานะเพลงเปิดอัลบั้มที่มาในแนวคึกคักสดใสชวนโยกตามตามคำโปรย เปิดโหมดสนุกไรม์ปัง เตือนให้ระวังอย่าข้ามเส้นเฟรนด์โซน กับทำนองที่เปี่ยมไปด้วยลูกเล่นในทุก ๆ ช่วงเวลา กับเนื้อหาโดนใจวัยรุ่นว่าด้วยการคิดกับเพื่อนสนิทเกินกว่าเพื่อนและอยู่ในสถานการณ์ว้าวุ่นในการข้ามเส้นเพื่อนให้กลายเป็นคนรัก อย่างตรงไปตรงมาตามชื่อเพลง เส้นบาง ๆ อย่างเส้นเพื่อนนั้นอาจเล่นกับความรู้สึกและประสบการณ์จริงของหลาย ๆ คน เพลงนี้จึงเข้าถึงผู้ฟังได้ไม่ยากและประสบความสำเร็จดังที่กล่าวไว้ในภาพรวมของอัลบั้มข้างต้น แต่ส่วนตัวมองว่าองค์ประกอบของเพลงค่อนข้างล้นไปสักนิด แต่ในฐานะเพลงเปิดอัลบั้มถือว่าทำหน้าที่ของตนได้ดีตามมาตรฐาน ข้อดีที่สุดของเพลงนี้คือกระแสตอบรับที่ท้วมท้นน่าจะสร้างความมั่นใจให้แก่วงเป็นอย่างมากในการต่อยอดความสำเร็จ เสมือนสะพานเพลงฮิตต่อเนื่องจากงานชุดแรกชวนให้ใจฮึกเหิม เป็นการเลี้ยวเบนมาแนวใหม่แบบเล็ก ๆ โดยคงลายเซ็นต์ของตัวเองไว้อย่างเป็นเอกลักษณ์
ลู่วิ่ง (Can’t Keep Up) (4.5/5)
ความหนักหน่วงทางอารมณ์เริ่มคืบคลาน กลิ่นและรสชาติของความเฮิร์ต ความหมายของความหมาเริ่มคืบคลานตั้งแต่แทร็คที่ 2 ซึ่งก็เป็นซิงเกิลที่ 2 เช่นเดียวกัน ความเก๋ของเพลงนี้คือคอนเซปท์เพลงที่เปรียบเทียบการวิ่งตามความรักที่มีให้แก่เธอเสมือนการวิ่งบนลู่วิ่ง วิ่งตามเท่าไหร่ก็ยิ่งไกลห่าง ความพยามอยู่ที่ไหน ความพยายามอยู่ที่นั่น ไม่ได้เปลี่ยนผลลัพธ์ใดให้สมหวังได้และแน่นอนว่า ไม่มีทาง ประหนึ่งเป็นการปิดประตูความหวังอย่างสมบูรณ์แบบ แสงที่ปลายอุโมงค์หรือความแฮปปี้เอนดิ้งอะไรนั่น ไม่มีอยู่จริง ดับฝันไปเลย เป็นการยากที่จะมอบนิยามสั้นๆให้กับเพลงลู่วิ่ง คือ เป็นเพลงที่ฟังไม่ยาก แต่ในขณะเดียวกันก็มีความ Unique เมื่อเทียบกับเพลงอื่น ๆ ของพวกเขา เพลงค่อย ๆ สะสมพลังงานอย่างช้า ๆ และพาอารมณ์ไปจบถึงที่หมายได้ในไฮไลท์ในช่วงท้ายเพลง สำหรับชื่อเพลงนั้นเราว่าแปลกดีและสร้างความประหลาดใจเมื่อแรกได้ยิน หากเรามองภาพเล็กอาจมโนภาพเป็นการวิ่งบนลู่วิ่ง Treadmill ซึ่งก็คือการวิ่งอยู่กับที่แต่ใช้พลังงานมากหรือน้อยขึ้นกับความพยายาม(อัตราเร็ว) และความยากที่เรามี(ความชัน) ในที่นี้เปรียบเสมือนความคาดหวัง ปรับได้ผ่อนได้ แต่หากยิ่งพยายามมากหรือคาดหวังมากก็เหนื่อยมากเช่นกัน หรือหากมองภาพใหญ่เลยนั้น ก็จะกลายเป็นการวิ่งในสนามกีฬามาตรฐานโอลิมปิก 400 เมตร ซึ่งหากการวิ่งของเธอนั้นทิ้งห่างเราไกลออกไป นั่นหมายถึงโอกาสสำเร็จยิ่งริบหรี่มาก ยกเว้นแต่ว่าเธอจะวิ่งนำเราจนน็อครอบพอดีก็จะกลายเป็นการวิ่งที่เธอทันเราและเราทันกัน
เบื่อคนขี้เบื่อ (I’m Not Boring, You’re Just Bored) (5/5)
ความสัมพันธ์ของคนสองคนที่มีทิศทางกลับกันโดยสิ้นเชิง หนึ่งคนที่รักน้อยลงจนใจหมดรัก กับอีกคนที่ยังคงรักแต่เริ่มนอยกับความสั่นคลอนของความสัมพันธ์ที่มีเหตุมาจากความบ่นบนความเบื่อพร้อมกับหาที่ระบายรองรับอารมณ์แบบไร้เหตุผลเพียงแค่เพราะคำว่า เบื่อออ ก่อเกิดอารมณ์เดือดดาลและการตอบโต้กลับอย่างเผ็ดร้อนเผ็ดแซ่บจนแสบปาก แต่สุดท้ายแล้วก็ยังคงไม่ได้รับการแยแสหรือความเห็นอกเห็นใจใด ๆ ตอบรับกลับมา เบื่อคนขี้เบื่อ จัดเป็นเพลงที่ฉูดฉาดจัดจ้านที่สุดทั้งในด้านเนื้อหา อารมณ์ การเรียบเรียงของเพลงที่วางไฮไลท์ไว้ทุกอย่างอย่างพอเหมาะพอเจาะมาก ๆ ทั้งในท่อน “ของฉันมากขึ้นไป แต่ของเธอดูน้อยลงจนจางหาย…” ในVerseแรกกับการทิ้งท้ายคำว่า ‘หาย…’ แผ่ว ๆ สุดเซ็กซี่ หรือจะเป็น “เธอแค่เหงาก็เธอแค่เหงา เธอคุยแก้เหงาแก้ เบื่อออออ!” ในท่อนpre-hook2 กับเสียงเบื่อออ! ของไมโลที่ปลดปล่อยออกมาอย่างสะใจ เชื่อว่าหลายคนที่ฟังก็อดที่จะพ่นคำนี้ตามไม่ได้ รวมถึงเสียงเย็นชาแฝงไปด้วยความยียวน “อ๋อ...ไม่อ่ะ” ที่ได้สาว แปม อัญญ์ชิสา มาช่วยให้เสียงภาษาไทย ทั้งหมดทั้งมวลนี้ร่วมกันทวีความเข้มข้นเผ็ดร้อนของเพลงนี้มากยิ่งขึ้น ตัวเพลงเดือดจัดจัดว่าเดือดทะลุปรอทแตกที่สุดแล้วในสารบัญเพลงทิลลี่เบิร์ดสและแสดงถีงความท้าทายประหนึ่งว่าประชดประชันถึงขั้นชวนขึ้นรถไฟเหาะเผื่อจะสนุกไม่น่าเบื่อขึ้นมาบ้าง ดั่งเนื้อเพลงในท่อนฮุค เหนื่อสิ่งอื่นใด เราชอบคอนเซปท์เพลงและชื่อเพลงนี้มากทั้งแบบไทยและอังกฤษ คือนำเสนอเพลงได้ดี มีความต่อล้อต่อเถียงแบบอ่านแล้วมีเสียงออกมา ขั้นกว่าของคนขี้เบื่อ คือความเบื่อซ้อนเบื่อซ้อนเบื่ออีกทีนึง ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น ตัวมิวสิควิดีโอของเพลงก็ถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมแบบเขย่าประสาท มันส์เดือดเชือด เลือดท่วมจอ โดยแทบจะไม่ต้องจินตนาการฉากใดเพิ่มเติมเลย จวบจนฉากจบของเพลงที่มีสองแบบคือ Single Version และ Album Version ที่ระยะเพลงยาวกว่าโดยขยายออกมาประมาณ 13 วินาทีในการถอดเสียงมาแบบเดียวกับฉากจบของมิวสิควิดีโอที่มีการแซมเปิ้ลเพลงที่ 5 ของอัลบั้มไว้ช่วงท้ายเพลงนี้ประหนึ่งเป็นข้อความลับ ๆ ที่ถูกส่งต่อเพื่อโต้ตอบกันของเธอ?และเขา?และรักของเรา?หรือใครอีกคน? โปรดติดตาม
เดอะแบก (Baggage) (4.5/5)
ซิงเกิลที่ 3 ที่เกิดการสลับตำแหน่งเก้าอี้ดนตรีเล็ก ๆ กับ เบื่อคนขี้เบื่อ ซึ่งเป็นซิงเกิลที่ 4 ผลักให้ เดอะแบก มาอยู่ในแทร็คที่ 4 แทน ต่อเนื่องจากการระเบิดอารมณ์สาแก่ใจทั้งสองฝ่ายจากเพลงก่อนหน้า มาเข้าสู่เพลงที่มีทำนองลุ่มลึก แต่ยังคงความสนุกน่าติดตามในกราฟอารมณ์เพลงแต่ก็แฝงไปด้วยความอึดอัดเหมือนถูกพลังงานบางอย่างกดอยู่ตลอดการฟังทั้งในแง่ของกายภาพและจิตใจ ไม่แน่ใจว่าวงเล่นของอะไรกับเราหรือเปล่าแต่มันกลับทำให้การระเบิดอารมณ์ในช่วงท้ายเพลงนั้นพวยพุ่งออกมาได้อย่างสมจริงมากและได้อารมณ์ที่ต่อเนื่องจากเบื่อคนขี้เบื่อในเพลงก่อนหน้าซึ่งเป็นช่วงต้นและเป็นที่มาของการแบกอันนำมาสู่เรื่องราวในเพลงนี้ที่เดอะแบกคนนี้ไม่สามารถต้านทานสิ่งเร้าใดๆที่มา trigger ได้อีกต่อไปแล้ว เกิดระเบิดตูมแตกออกมาเป็นซากความแหลกเละกระจุยกระจาย จากชื่อเพลงมีความเท่ห์ของการใช้ศัพท์ในวงการเกมเมอร์อย่าง เดอะแบก ที่มักถูกใช้ในสถานการณ์ที่เพื่อนร่วมทีมนั้นมีปัญหาบางอย่างหรือมีทักษะที่ไม่เพียงพอที่จะอยู่ในเกมเกมนี้ แต่เมื่อกติกาการเล่นนั้นใช้ระบบทีม ความสามัคคีจึงต้องบังเกิด โดยการที่ผู้ร่วมทีมที่แกร่งกว่าจะต้องทำแต้มชดเชยเพื่อแบกรับภาระ จุดประสงค์เพื่อประคองให้ทีมชนะ เปรียบดังสนามรักที่ต้องพึ่งพาผู้เล่นที่ประคองรักนี้ให้ถึงฝั่งฝันได้ (ถ้าไหว) อย่างไรก็ดี เรื่องรักไม่ใช่เรื่องเล่น สนามนี้มีคนเจ็บจริง และบาดแผล เป็นแผล จริง เลือดออกจริง กลิ่นคาวเลือดซิบ ๆ สด ๆ แหลกสลาย
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้