ทำไมการตื่นมาสู้กับความจริงมันถึงยากจังเลยคะ

เราสูญเสียคนสำคัญไปเมื่อต้นปี เราพยายามเข้าใจถึงปัญหา ต้นเหตุและผลของมัน พยายามทำใจยอมรับทุกการเปลี่ยนแปลงและการจากลา เราพยายามที่จะปลงแล้ว แต่เหมือนลึกๆข้างในใจมันขาดอะไรบางอย่างไป มันรู้สึกมีช่องว่างที่ใหญ่มากในใจ เหมือนทุกอย่างว่างเปล่า มันยากมากเลยค่ะที่จะหลับตานอน แต่ข่มตานอนลงไปแล้วกลับเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด เพราะเราไม่ฝันและไม่เห็นอะไรเลย ไม่รู้สึกถึงความทุกข์ ไม่รู้สึกถึงความสุข แล้วพอเราตื่นขึ้นมา เราก็รู้สึกท้อที่จะต่อสู้กับความจริง ทั้งๆที่เราก็พยายามมากแล้วแท้ๆ
ควรจะทำอย่างไรให้ก้าวเดินต่อไปได้คะ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
ขอส่งกำลังใจให้นะคะ  เข้าใจค่ะว่ามันไม่ง่ายเลย

แต่ละคนก็คงมีทางออกที่เหมือนกันบ้างหรือต่างกันไปบ้าง

สำหรับเรา  เราแนะนำว่า  เรื่องพวกนี้ นอกจากจิตใจแล้ว
การเจ็บป่วยทางกายบางอย่าง ก็ส่งผลทำให้เกิดอาการเหล่านี้ค่ะ
เราเคยเป็นอาการแบบนี้  แล้วพบว่า อาการผิดปกติทางกายบางอย่าง
ก็ส่งผลให้รู้สึกเนือยๆ  ล้าๆ เพลียๆ  หดหู่ ได้ค่ะ
ยังไงหากมีโอกาส ก็ลองสังเกตตัวเอง หรือไปปรึกษาแพทย์ดูนะคะ


ส่วนเรื่องทางใจนั้น   เราใช้หลักทางจิตวิทยาบางอย่างมาเปลี่ยนวิธีคิด
รวมทั้งใช้หลักทางศาสนามาช่วย ก็ได้ผลดีค่ะ

จขกท. สนใจทางจิตวิทยา หรือสนใจทางศาสนา  ก็ลองศึกษาดูค่ะ
สนใจทางไหน ก็พิจารณาดูได้   ศาสนาก็มีให้เลือกอยู่หลายทางค่ะ

แต่ถ้าสนใจทางพุทธ  เราแนะนำสั้นๆ ว่า  ก็ลองฝึกจิตใจด้วยการฝึกเจริญสติ (สติปัฏฐาน)
ก็จะช่วยเรื่องวิตกกังวล หดหู่ เศร้า เหงา ท้อแท้  ฯลฯ  
มีวิธีการสอนแบบเข้าใจง่ายๆ  ถ้าสนใจก็ลองเข้า youtube  เสิชคำว่า เจริญสติแบบเข้าใจง่าย
ก็น่าจะมีให้เลือกศึกษาไม่น้อยค่ะ

ขอส่งกำลังใจให้ค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่