คราวนี้เราจะเล่าถึง นิมิต อีกประเภทนึงที่ตอนแรกๆที่เจอเราคิดว่าไม่ค่อยมีประโยชน์อะไร เลยทำให้เราไม่ได้สนใจอะไรมากมาย เพราะเวลาที่เกิดเป็นความคิด เป็น มโนภาพ ให้เรารู้ เราเห็น นิมิต พวกนี้ เราจะตั้งคำถามกับตัวเองก่อนเสมอว่า รู้แล้วได้อะไร เกิดประโยชน์อะไรขึ้นมาบ้าง
ถ้ารู้แล้ว เห็นแล้ว ไม่เกิดประโยชน์ เราก็ไม่ได้อยากรู้ ไม่ได้อยากเห็น และเราก็จะไม่ค่อยสนใจ เราจะสนแต่ สิ่งที่มันได้เกิดประโยชน์ ได้ประโยชน์กับตัวเองก่อนเสมอ แต่ นิมิต บางอย่างที่เรารู้เราเห็น มันไม่ได้เกิดประโยชน์กับเราก็จริง แต่บางครั้งมันเกิดประโยชน์กับคนอื่น
อย่างที่เราตอบความคิดเห็นของท่านสมาชิกท่านนึง ในกระทู้เรื่องนี้ของเรา ภาค 2 และ นิมิต ที่เราจะเล่าในกระทู้นี้ เป็น นิมิต ที่ไม่ได้ให้ประโยชน์กับเรา และไม่เกิดประโยชน์กับคนอื่น แค่ให้รู้ ให้เห็นเฉยๆ
แต่พอได้รู้ ได้เห็น บ่อยเข้ามันก็ทำให้เรารู้ว่ามันให้ประโยชน์กับเราทางอ้อม มันเกิดประโยชน์กับเราทางอ้อมได้อย่างไร เราจะเล่าให้ฟัง และอีกอย่าง นิมิต นี้มันไม่ได้เกิดขึ้นเป็นความคิด เป็น มโนภาพ เหมือนอย่าง นิมิต ที่เราเล่าให้ฟังในเหมือนกับ ทั้งกระทู้ทั้งสองภาคของเราที่ผ่านมา
แต่ นิมิต นี้มันจะมาในรูปแบบของ ความฝัน เป็น ฝัน ที่มีเรื่องราว มีความชัดเจน และถ้าเราคิดวิเคราะห์พิจารณา นิมิต ที่เป็นความฝันนี้ให้ดีๆ เราจะรู้ และเห็นได้อย่างชัดเจนว่า เรื่องราวในความฝันนั้น เกี่ยวข้องกับบุคคลที่เรารู้จัก และมีความสัมพันธ์กันจริง ในชีวิตปัจจุบัน
เราจะยกตัวอย่าง นิมิต แบบนี้ของเราที่เพิ่งเกิดขึ้น สดๆร้อนๆเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ เราเฝ้าสังเกต นิมิต แบบนี้ของเรามาหลายครั้งแล้ว ทำให้เราได้รู้ ความสัมพันธ์ในอดีตกับบุคคลที่เรารู้มีสัมพันธ์ด้วยในปัจจุบัน
แต่ก็อย่างที่เราบอก ว่านิมิต ประเภทนี้รู้แล้ว เห็นแล้วจะไม่ค่อยเกิดประโยชน์อะไร แต่เราก็เลือกที่จะไม่รู้ ไม่เห็นมันไม่ได้ ดีไม่ดีถ้าได้ไปเห็นแล้ว ได้ไปรู้แล้ว เกิดเผลอตัวไปยึดติดกับมันขึ้นมา ก็จะทำให้เกิดโทษด้วยซ้ำ เราจึงไม่ค่อยชอบเท่าไร
บุคคลที่เราฝันถึงใน นิมิต ของเราคราวนี้คือ เพื่อนชายของเราในสมัยเรียนมัธยม เขาเป็นคนที่เราชอบคนแรกในชีวิตนี้ ชอบมาก ชอบแบบไร้เหตุผล และตอนสมัยเรียนเราก็ไม่เคยปิดบังความรู้สึก เราก็บอกเขาตรงๆไปเลย
เพราะเราเป็นคนเปิดเผย ตรงไปตรงมาอยู่แล้ว แต่เขาหนีเราตลอด เราก็ชอบไปอยู่ใกล้ๆเขา พอเขารู้ตัวก็จะหนีไปอยู่ไกลๆเสมอ เราเรียนห้องเดียวกันกับเขามา 6 ปี พวกเราไม่เคยได้คุยดีกันเลย เพราะเราเป็นคนโฉ่งฉ่าง ชอบพูดตรงๆและพูดเสียงดัง ตอนที่เรียนด้วยกันมา 6 ปี
เราก็แสดงออกให้เขารู้มาโดยตลอด ว่าเราคิดยังไงกับเขา มีส่งจดหมายรักบ้าง เขาก็ฉีกทิ้งต่อหน้าต่อตา โดยไม่คิดจะเปิดอ่าน ส่งลูกอมฮาร์ทบีทแทนความในใจบ้าง ที่ตอนนั้นกำลังฮิต เขาก็รับไปแล้วก็เขวี้ยงลงถังขยะตรงๆต่อหน้าต่อหน้า แต่เราก็ไม่เคยละความพยายาม
ให้เขาตรงๆไม่ได้ก็แอบเอาจดหมายรักใส่กระเป๋านักเรียนเขาบ้าง เอาลูกอมฮาร์ทบีท ใส่ใต้โต๊ะเรียนเขาบ้าง แต่ทุกครั้งที่เขารู้ สิ่งพวกนั้นมาจากเรา เขาก็จะโยนทิ้งลงถังขยะหมด อย่างไม่เคยไยดี
เพื่อนเราในห้องทุกคน รู้เรื่องราวความสัมพันธ์และความรู้สึกของเราที่มีต่อเขามาตลอด และเราก็ไม่เคยยอมแพ้ พยายามอยู่ตลอดเช่นกัน จนบางครั้งเราก็จะแอบขอให้เพื่อนร่วมห้องเราช่วย เราอยากจะให้อะไรเขา อยากทำอะไรให้เขา เราก็จะทำแบบไม่ให้เขารู้ ให้เพื่อนคนอื่นรับหน้าไปแทน
บางครั้งเราก็ไปถามเขาตรงๆ ว่าทำไมเขาทำกับเราแบบนี้ แต่เขาไม่เคยพูด ไม่เคยคุยกับเราเลย แม้แต่ครั้งเดียว เขาจะเดินหนี หนี หนี แล้วก็หนีเราตลอด เราก็คอย ตาม ตาม ตาม ตามเขาตลอดเช่นกัน
ซึ่งเราก็หาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ ว่าทำไมเราถึงสนใจเขา รู้สึกเช่นนั้นกับเขา ทั้งๆที่เขาก็ไม่ได้มีอะไรน่าสนใจเลย เป็นแค่เด็กวัดคนนึง ที่ท่านเจ้าอาวาสท่านสงสารเลยส่งเสียเลี้ยงดู ส่งให้เรียนหนังสือ หน้าตาก็ธรรมดา ไม่มีอะไรน่าสนใจเลย ไม่มีเลยจริงๆ
ซึ่งหลังจากเราเรียนจบ ม.ปลายไปแล้ว เรากับเขาก็ไม่ได้เจอกันอีก แต่เราก็ยังคงสนใจ สอบถามข่าวคราวของเขา จากเพื่อนร่วมห้องคนอื่นๆ ที่เรายังคงติดต่อกันอยู่เสมอ
จนบางทีเพื่อนเราก็แซว ว่าเรายังไม่ลืม ไม่เลิกสนใจเพื่อนเราคนนี้อีกเหรอ เพราะผ่านมาตั้งนานแล้ว ซึ่งเราก็ยอมรับกับพวกเพื่อนๆเราตรงๆ ว่าเราก็ไม่รู้สาเหตุเหมือนกันว่าทำไมเราถึงยังไม่ลืม และไม่เคยคิดจะลืมเพื่อนร่วมชั้นที่เราแอบชอบเขาคนนั้น
จนเมื่อไม่นานมานี้ก่อนที่เราจะมาแต่งงานกับสามีของเราที่รัสเซีย เราได้ไปเจอเขาโดยบังเอิญในเฟสบุ๊ค ซึ่งก่อนหน้านี้ เราก็เคยค้นหาและพยายามหาช่องทางติดต่อกับเขามาโดยตลอด แต่ก็ไร้วี่แวว จนเราคิดว่า คนบ้าอะไรไม่คิดต่อต่อกับเพื่อนคนอื่นบ้างเหรอ จนบางทีก็คิดว่า เขาอาจจะตายไปแล้ว
ตอนนั้นเราดีใจมาก ดีใจแบบบอกไม่ถูกเลยจริงๆแล้วก็รีบแอดเพื่อนเขาไป และทักเขาไปในทันที ครั้งนั้นเป็นครั้งแรกและน่าจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะได้คุยกับเขา ส่วนจะเป็นเพราะอะไรนั้น เดี๋ยวเราจะลงแชท ที่เราได้คุยกับเขาให้คุณได้อ่านกันด้วย
ทีนี้มาเข้าเรื่อง ความฝัน ที่เป็น นิมิต ให้เราได้รู้ความสัมพันธ์ในอดีต ของเรากับเพื่อนสมัยมัธยมที่เราแอบชอบเขาคนนี้ของเรากันบ้าง
" เราฝันว่าเรากำลังจะแต่งงาน จัดงานแบบเล็กๆ และแต่งพร้อมกับเพื่อนผู้หญิงในสมัยเรียนประถมคนนึง ที่ตอนนี้เราไม่ได้ข่าวเขาเลยตั้งแต่แยกย้ายกัน และคนที่เป็นเจ้าบ่าวของเราคือ เพื่อนเราคนนั้น คนที่เราแอบชอบและตามตื้อ ตอนเรียนอยู่มัธยม ที่เราต้องยอมรับว่า เขาคือรักแรกของเรา และรักเขามาตลอดไม่เคยเปลี่ยน
ส่วนเจ้าบ่าวของเพื่อนผู้หญิงเราอีกคน คือเพื่อนสมัยเรียนของเราเหมือนกันและเป็นคนที่อยู่บ้านใกล้ๆกันกับเรา ในฝันนั้น เรากับเพื่อนผู้หญิงไปเลือกชุดเจ้าสาว แล้วก็ใส่รอเข้าพิธีแต่งงานพร้อมกันทั้งคู่
และมีญาติผู้ใหญ่ที่เรารู้จักในปัจจุบันด้วยคนนึง พึ่งเดินมาถึงแล้วมาบอกเราว่า เขาจะมาเป็นผู้ใหญ่ทางฝั่งเราให้เอง ซึ่งปัจจุบันตอนนี้ท่านได้เสียชีวิตไปแล้ว แล้วท่านก็นั่งรอ พวกเราก็นั่งรอขบวนเจ้าบ่าว
แต่ว่า รอแล้ว รอเล่า รอจนค่ำมืด ดึกดื่น ก็ไม่มีวี่แววของขบวนเจ้าบ่าวมาให้เห็นเลย ในฝันเรารู้สึกเสียใจมาก ที่เขาไม่ยอมมา เขาผิดนัด ผิดสัญญา ไม่ยอมมาแต่งงานกับเรา ทิ้งให้เรารอเก้อกับเพื่อนเราอีกคน
ตอนดึก เมื่อเราสลัดชุดเจ้าสาวทิ้ง เราก็ได้ยินเสียงโห่ร้อง เหมือนเสียงรถแห่ขบวนขันหมากของเจ้าบ่าว เราดีใจมาก เขามาตามสัญญา แต่ว่าเราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา ถึงได้มาถึงกันดึกดื่นป่านนี้ พวกเราทั้ง สี่คนจึงพากันไปนั่งคุยกัน เป็นคู่ๆ
หลังจากนั้นเราก็ถามเขาว่า วันพรุ่งนี้เขามาแต่งงานกับเราใหม่ได้ไหม เพราะวันนี้เราแต่งงานกันไม่ได้แล้ว มันดึกแล้วและญาติผู้ใหญ่คนที่รอขบวนเจ้าบ่าวอยู่เมื่อตอนกลางวันก็กลับไปกันหมดแล้ว
เขาก็รับปากตกลง แล้วเขาก็หยิบกล่องบางอย่างมาให้เราดู ในนั้นมีเหรียญทองเหลือง เขาบอกเราว่า เขาเก็บไว้ตลอดไม่เคยลืม ไม่เคยทิ้งมันเลย เรามีความรู้สึกว่า เรากับเขามีเรื่องมีราวความผูกพันบางอย่างกับเหรียญในกล่องนั้น
เรานั่งคุยกับเขาจนเช้า แล้วเราก็บอกเขาว่า ชุดเจ้าสาวที่เราใส่รอเขาเมื่อวานมันเปื้อนแล้ว แล้วก็ชวนเขาไปร้านชุดเพื่อไปเลือกชุดแต่งงานชุดใหม่ ก่อนจะออกกันไป เข้าหันไปเตะฝูงหมา ที่เห่าหอนอยู่ตลอดในตอนนั้น แล้วเราก็ตื่น "
จากการวิเคราะห์ความฝันของตัวเราเอง เราคิดว่า มันน่าจะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในอดีต หรือที่เขาเรียกกันว่า อดีตชาติ ที่เกิดเป็น นิมิต ให้เรารู้เห็น ความสัมพันธ์ของเรากับบุคคลที่เรามีสัมพันธ์ด้วยใน ปัจจุบัน ซึ่งทำให้เรารู้ที่มาที่ไปของความสัมพันธ์กับบุคคลนั้นๆ
ที่เรามีความรู้สึกผูกพันธ์แบบไม่มีเหตุผล หาคำตอบ หาคำอธิบายให้ตัวเองไม่ได้ เหมือนกับความผูกพันธ์ของเรากับเพื่อนที่เป็นรักแรกของเราคนนี้ แต่เราไม่ได้รู้เห็น นิมิต แบบนี้กับคนที่เรารู้จักทุกคน
ที่เราสังเกตได้คือ ส่วนมากบุคคลที่เราได้รู้ ได้เห็น นิมิต ความสัมพันธ์เช่นนี้ จะเป็นเฉพาะคนที่มีตัว สัญญา ผูกพันธ์กันมาเท่านั้น ซึ่งจากการที่เราสังเกตุดู เราเคยเห็น นิมิต แบบนี้แค่ 3-4 ครั้งเท่านั้นเอง เพราะเราไม่ได้ฝันบ่อย จึงไม่ได้เห็นกันบ่อยๆ
เห็นนิมิต เห็นอดีต เห็นอนาคต เห็นกฎแห่งกรรม ภาค 3
ถ้ารู้แล้ว เห็นแล้ว ไม่เกิดประโยชน์ เราก็ไม่ได้อยากรู้ ไม่ได้อยากเห็น และเราก็จะไม่ค่อยสนใจ เราจะสนแต่ สิ่งที่มันได้เกิดประโยชน์ ได้ประโยชน์กับตัวเองก่อนเสมอ แต่ นิมิต บางอย่างที่เรารู้เราเห็น มันไม่ได้เกิดประโยชน์กับเราก็จริง แต่บางครั้งมันเกิดประโยชน์กับคนอื่น
อย่างที่เราตอบความคิดเห็นของท่านสมาชิกท่านนึง ในกระทู้เรื่องนี้ของเรา ภาค 2 และ นิมิต ที่เราจะเล่าในกระทู้นี้ เป็น นิมิต ที่ไม่ได้ให้ประโยชน์กับเรา และไม่เกิดประโยชน์กับคนอื่น แค่ให้รู้ ให้เห็นเฉยๆ
แต่พอได้รู้ ได้เห็น บ่อยเข้ามันก็ทำให้เรารู้ว่ามันให้ประโยชน์กับเราทางอ้อม มันเกิดประโยชน์กับเราทางอ้อมได้อย่างไร เราจะเล่าให้ฟัง และอีกอย่าง นิมิต นี้มันไม่ได้เกิดขึ้นเป็นความคิด เป็น มโนภาพ เหมือนอย่าง นิมิต ที่เราเล่าให้ฟังในเหมือนกับ ทั้งกระทู้ทั้งสองภาคของเราที่ผ่านมา
แต่ นิมิต นี้มันจะมาในรูปแบบของ ความฝัน เป็น ฝัน ที่มีเรื่องราว มีความชัดเจน และถ้าเราคิดวิเคราะห์พิจารณา นิมิต ที่เป็นความฝันนี้ให้ดีๆ เราจะรู้ และเห็นได้อย่างชัดเจนว่า เรื่องราวในความฝันนั้น เกี่ยวข้องกับบุคคลที่เรารู้จัก และมีความสัมพันธ์กันจริง ในชีวิตปัจจุบัน
เราจะยกตัวอย่าง นิมิต แบบนี้ของเราที่เพิ่งเกิดขึ้น สดๆร้อนๆเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ เราเฝ้าสังเกต นิมิต แบบนี้ของเรามาหลายครั้งแล้ว ทำให้เราได้รู้ ความสัมพันธ์ในอดีตกับบุคคลที่เรารู้มีสัมพันธ์ด้วยในปัจจุบัน
แต่ก็อย่างที่เราบอก ว่านิมิต ประเภทนี้รู้แล้ว เห็นแล้วจะไม่ค่อยเกิดประโยชน์อะไร แต่เราก็เลือกที่จะไม่รู้ ไม่เห็นมันไม่ได้ ดีไม่ดีถ้าได้ไปเห็นแล้ว ได้ไปรู้แล้ว เกิดเผลอตัวไปยึดติดกับมันขึ้นมา ก็จะทำให้เกิดโทษด้วยซ้ำ เราจึงไม่ค่อยชอบเท่าไร
บุคคลที่เราฝันถึงใน นิมิต ของเราคราวนี้คือ เพื่อนชายของเราในสมัยเรียนมัธยม เขาเป็นคนที่เราชอบคนแรกในชีวิตนี้ ชอบมาก ชอบแบบไร้เหตุผล และตอนสมัยเรียนเราก็ไม่เคยปิดบังความรู้สึก เราก็บอกเขาตรงๆไปเลย
เพราะเราเป็นคนเปิดเผย ตรงไปตรงมาอยู่แล้ว แต่เขาหนีเราตลอด เราก็ชอบไปอยู่ใกล้ๆเขา พอเขารู้ตัวก็จะหนีไปอยู่ไกลๆเสมอ เราเรียนห้องเดียวกันกับเขามา 6 ปี พวกเราไม่เคยได้คุยดีกันเลย เพราะเราเป็นคนโฉ่งฉ่าง ชอบพูดตรงๆและพูดเสียงดัง ตอนที่เรียนด้วยกันมา 6 ปี
เราก็แสดงออกให้เขารู้มาโดยตลอด ว่าเราคิดยังไงกับเขา มีส่งจดหมายรักบ้าง เขาก็ฉีกทิ้งต่อหน้าต่อตา โดยไม่คิดจะเปิดอ่าน ส่งลูกอมฮาร์ทบีทแทนความในใจบ้าง ที่ตอนนั้นกำลังฮิต เขาก็รับไปแล้วก็เขวี้ยงลงถังขยะตรงๆต่อหน้าต่อหน้า แต่เราก็ไม่เคยละความพยายาม
ให้เขาตรงๆไม่ได้ก็แอบเอาจดหมายรักใส่กระเป๋านักเรียนเขาบ้าง เอาลูกอมฮาร์ทบีท ใส่ใต้โต๊ะเรียนเขาบ้าง แต่ทุกครั้งที่เขารู้ สิ่งพวกนั้นมาจากเรา เขาก็จะโยนทิ้งลงถังขยะหมด อย่างไม่เคยไยดี
เพื่อนเราในห้องทุกคน รู้เรื่องราวความสัมพันธ์และความรู้สึกของเราที่มีต่อเขามาตลอด และเราก็ไม่เคยยอมแพ้ พยายามอยู่ตลอดเช่นกัน จนบางครั้งเราก็จะแอบขอให้เพื่อนร่วมห้องเราช่วย เราอยากจะให้อะไรเขา อยากทำอะไรให้เขา เราก็จะทำแบบไม่ให้เขารู้ ให้เพื่อนคนอื่นรับหน้าไปแทน
บางครั้งเราก็ไปถามเขาตรงๆ ว่าทำไมเขาทำกับเราแบบนี้ แต่เขาไม่เคยพูด ไม่เคยคุยกับเราเลย แม้แต่ครั้งเดียว เขาจะเดินหนี หนี หนี แล้วก็หนีเราตลอด เราก็คอย ตาม ตาม ตาม ตามเขาตลอดเช่นกัน
ซึ่งเราก็หาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ ว่าทำไมเราถึงสนใจเขา รู้สึกเช่นนั้นกับเขา ทั้งๆที่เขาก็ไม่ได้มีอะไรน่าสนใจเลย เป็นแค่เด็กวัดคนนึง ที่ท่านเจ้าอาวาสท่านสงสารเลยส่งเสียเลี้ยงดู ส่งให้เรียนหนังสือ หน้าตาก็ธรรมดา ไม่มีอะไรน่าสนใจเลย ไม่มีเลยจริงๆ
ซึ่งหลังจากเราเรียนจบ ม.ปลายไปแล้ว เรากับเขาก็ไม่ได้เจอกันอีก แต่เราก็ยังคงสนใจ สอบถามข่าวคราวของเขา จากเพื่อนร่วมห้องคนอื่นๆ ที่เรายังคงติดต่อกันอยู่เสมอ
จนบางทีเพื่อนเราก็แซว ว่าเรายังไม่ลืม ไม่เลิกสนใจเพื่อนเราคนนี้อีกเหรอ เพราะผ่านมาตั้งนานแล้ว ซึ่งเราก็ยอมรับกับพวกเพื่อนๆเราตรงๆ ว่าเราก็ไม่รู้สาเหตุเหมือนกันว่าทำไมเราถึงยังไม่ลืม และไม่เคยคิดจะลืมเพื่อนร่วมชั้นที่เราแอบชอบเขาคนนั้น
จนเมื่อไม่นานมานี้ก่อนที่เราจะมาแต่งงานกับสามีของเราที่รัสเซีย เราได้ไปเจอเขาโดยบังเอิญในเฟสบุ๊ค ซึ่งก่อนหน้านี้ เราก็เคยค้นหาและพยายามหาช่องทางติดต่อกับเขามาโดยตลอด แต่ก็ไร้วี่แวว จนเราคิดว่า คนบ้าอะไรไม่คิดต่อต่อกับเพื่อนคนอื่นบ้างเหรอ จนบางทีก็คิดว่า เขาอาจจะตายไปแล้ว
ตอนนั้นเราดีใจมาก ดีใจแบบบอกไม่ถูกเลยจริงๆแล้วก็รีบแอดเพื่อนเขาไป และทักเขาไปในทันที ครั้งนั้นเป็นครั้งแรกและน่าจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะได้คุยกับเขา ส่วนจะเป็นเพราะอะไรนั้น เดี๋ยวเราจะลงแชท ที่เราได้คุยกับเขาให้คุณได้อ่านกันด้วย
ทีนี้มาเข้าเรื่อง ความฝัน ที่เป็น นิมิต ให้เราได้รู้ความสัมพันธ์ในอดีต ของเรากับเพื่อนสมัยมัธยมที่เราแอบชอบเขาคนนี้ของเรากันบ้าง
" เราฝันว่าเรากำลังจะแต่งงาน จัดงานแบบเล็กๆ และแต่งพร้อมกับเพื่อนผู้หญิงในสมัยเรียนประถมคนนึง ที่ตอนนี้เราไม่ได้ข่าวเขาเลยตั้งแต่แยกย้ายกัน และคนที่เป็นเจ้าบ่าวของเราคือ เพื่อนเราคนนั้น คนที่เราแอบชอบและตามตื้อ ตอนเรียนอยู่มัธยม ที่เราต้องยอมรับว่า เขาคือรักแรกของเรา และรักเขามาตลอดไม่เคยเปลี่ยน
ส่วนเจ้าบ่าวของเพื่อนผู้หญิงเราอีกคน คือเพื่อนสมัยเรียนของเราเหมือนกันและเป็นคนที่อยู่บ้านใกล้ๆกันกับเรา ในฝันนั้น เรากับเพื่อนผู้หญิงไปเลือกชุดเจ้าสาว แล้วก็ใส่รอเข้าพิธีแต่งงานพร้อมกันทั้งคู่
และมีญาติผู้ใหญ่ที่เรารู้จักในปัจจุบันด้วยคนนึง พึ่งเดินมาถึงแล้วมาบอกเราว่า เขาจะมาเป็นผู้ใหญ่ทางฝั่งเราให้เอง ซึ่งปัจจุบันตอนนี้ท่านได้เสียชีวิตไปแล้ว แล้วท่านก็นั่งรอ พวกเราก็นั่งรอขบวนเจ้าบ่าว
แต่ว่า รอแล้ว รอเล่า รอจนค่ำมืด ดึกดื่น ก็ไม่มีวี่แววของขบวนเจ้าบ่าวมาให้เห็นเลย ในฝันเรารู้สึกเสียใจมาก ที่เขาไม่ยอมมา เขาผิดนัด ผิดสัญญา ไม่ยอมมาแต่งงานกับเรา ทิ้งให้เรารอเก้อกับเพื่อนเราอีกคน
ตอนดึก เมื่อเราสลัดชุดเจ้าสาวทิ้ง เราก็ได้ยินเสียงโห่ร้อง เหมือนเสียงรถแห่ขบวนขันหมากของเจ้าบ่าว เราดีใจมาก เขามาตามสัญญา แต่ว่าเราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา ถึงได้มาถึงกันดึกดื่นป่านนี้ พวกเราทั้ง สี่คนจึงพากันไปนั่งคุยกัน เป็นคู่ๆ
หลังจากนั้นเราก็ถามเขาว่า วันพรุ่งนี้เขามาแต่งงานกับเราใหม่ได้ไหม เพราะวันนี้เราแต่งงานกันไม่ได้แล้ว มันดึกแล้วและญาติผู้ใหญ่คนที่รอขบวนเจ้าบ่าวอยู่เมื่อตอนกลางวันก็กลับไปกันหมดแล้ว
เขาก็รับปากตกลง แล้วเขาก็หยิบกล่องบางอย่างมาให้เราดู ในนั้นมีเหรียญทองเหลือง เขาบอกเราว่า เขาเก็บไว้ตลอดไม่เคยลืม ไม่เคยทิ้งมันเลย เรามีความรู้สึกว่า เรากับเขามีเรื่องมีราวความผูกพันบางอย่างกับเหรียญในกล่องนั้น
เรานั่งคุยกับเขาจนเช้า แล้วเราก็บอกเขาว่า ชุดเจ้าสาวที่เราใส่รอเขาเมื่อวานมันเปื้อนแล้ว แล้วก็ชวนเขาไปร้านชุดเพื่อไปเลือกชุดแต่งงานชุดใหม่ ก่อนจะออกกันไป เข้าหันไปเตะฝูงหมา ที่เห่าหอนอยู่ตลอดในตอนนั้น แล้วเราก็ตื่น "
จากการวิเคราะห์ความฝันของตัวเราเอง เราคิดว่า มันน่าจะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในอดีต หรือที่เขาเรียกกันว่า อดีตชาติ ที่เกิดเป็น นิมิต ให้เรารู้เห็น ความสัมพันธ์ของเรากับบุคคลที่เรามีสัมพันธ์ด้วยใน ปัจจุบัน ซึ่งทำให้เรารู้ที่มาที่ไปของความสัมพันธ์กับบุคคลนั้นๆ
ที่เรามีความรู้สึกผูกพันธ์แบบไม่มีเหตุผล หาคำตอบ หาคำอธิบายให้ตัวเองไม่ได้ เหมือนกับความผูกพันธ์ของเรากับเพื่อนที่เป็นรักแรกของเราคนนี้ แต่เราไม่ได้รู้เห็น นิมิต แบบนี้กับคนที่เรารู้จักทุกคน
ที่เราสังเกตได้คือ ส่วนมากบุคคลที่เราได้รู้ ได้เห็น นิมิต ความสัมพันธ์เช่นนี้ จะเป็นเฉพาะคนที่มีตัว สัญญา ผูกพันธ์กันมาเท่านั้น ซึ่งจากการที่เราสังเกตุดู เราเคยเห็น นิมิต แบบนี้แค่ 3-4 ครั้งเท่านั้นเอง เพราะเราไม่ได้ฝันบ่อย จึงไม่ได้เห็นกันบ่อยๆ