สวัสดีครับวันนี้จะมาเล่าประสบการณ์การขลิบไร้เลือดครับ (อย่างละเอียดครับ)
วันที่ 1 ของการขลิบ
- ก่อนเข้า ก็ปรึกษาหมอ เดินทางไปหาหมอที่คลินิกเพื่ออธิบายและเปิดน้องชายผมให้หมอดูว่ามีหนังหุ้มเยอะ เวลารูดลงมันจะไปกองกันตรงหัวน้องชาย และบริเวณลำก็ค่อนข้างตีบเลยตัดสินใจขลิบ
- เข้าห้องผ่าตัด ผู้ช่วยที่เป็นผู้หญิงก็ให้เปลี่ยนกางเกง และเข้าไปรอที่ห้องผ่า ผู้ช่วยก็ถอดกางเกงผมลงแล้วถามว่าของคนไข้รูดได้ไหม ผมบอกได้ครับ เขาเลยจับรูดและทาแอลกอฮอล์ทำความสะอาดรอบๆลำ ไข่ และเช็ดตรงหัว ผมนี่สะดุ้งเป็นพักๆครับ สักพักหมอเข้ามาและพูดคุย ทำการฉีดยาชา 3 เข็ม รอบโคนของน้องชายผม ซึ่งเป็นอะไรที่โคตรเจ็บเลยครับ บีบมือตัวเองกลั้นน้ำตาไว้ อ้อลืมบอก ทางคลินิกเขาให้ผมปิดตา อากาศค่อนข้างหนาว รอสักพักยาขาออกฤทธิ์ หมอเลยวัดขนาด แล้วทำการครอบ ตอนนั้นก็รู้สึกได้ว่ามีคนมาจับและใส่เครื่องมือ แล้วหมอทำการเริ่มขลิบ หมอถามเจ็บไหม ผมบอกเจ็บมากครับ หมอเลยฉีดยาชาอีกเข็มจนมันเริ่มหายเจ็บ แล้วหมอก็ตัดต่อ เสร็จแล้วผู้ช่วยให้ดูหนังที่โดนตัด (ในใจบอกลาก่อนนะน้องหนัง) แล้วผู้ช่วยก็พันแผลเรียบร้อย ผมออกมานั่งข้างนอกรอ คิดกับตัวเองว่า มันก็ไม่เจ็บนี่หว่า จนหมอเรียกเข้าไปพบและอธิบายการล้างแผล ทำความสะอาด รับยาฆ่าเชื้อและยาแก้ปวด พร้อมชุดทำแผลอีก 7 ชุด แล้วอีก 7 วันหมอนัดพบอีกรอบ พร้อมชำระเงิน 14,400 บาท
- ได้เวลากลับ รู้สึกได้ว่าเริ่มปวด และปวดมาก บอกพี่ว่าผมโคตรปวดเลยครับ ยาชาหมดฤทธิ์ โอ้โห! ผมน้ำตาไหลบนรถเลย พี่แวะซื้อข้าวให้ผมก็นั่งรออย่างเดียว จนถึงบ้าน เดินแทบไม่ไหว กินข้าว กินยา รวมทั้งทานยานอนหลับ 1 เม็ดเพราะกลัวปวดจนนอนไม่หลับ แล้วเข้านอนหลับลึกเลย
วันที่ 2 ของการขลิบ
- ตื่นรอบแรกตอน ตี 3 กว่าๆ เพราะน้องแข็งตัวปกติจนผมรู้สึกเจ็บมากเลยต้องตื่นและพยายามทำให้มันอ่อนลง แล้วหลับต่อ ตื่นอีกทีเกือบ 10 โมงเช้า โดยไม่ค่อยมีอาการเจ็บมากแต่อย่างใด แต่มีเจ็บเบาๆครับ เช้านี้ไม่อาบน้ำ เพราะอยู่บ้านพี่อีก 1 วัน
- ตื่นมาด้วยอาการตัวหวิวๆ ลอยๆ ไม่มีแรง อาจจะเป็นเพราะฤทธิ์ยานอนหลับ กินข้าว และกินยาตามที่หมอบอก แล้วนอนพักทั้งวัน ตื่นมากินข้าวเที่ยง แล้วนอนต่อ ตื่นมาก็เตรียมตัวไปคลินิกเพราะล้างแผลไม่เป็น เลยให้พี่พาไปที่เดิม ก่อนไปก็อาบน้ำโดยการเอาถุงมาครอบทั้งพวงครับ ค่อยเอาน้ำเช็ดแขน ขา กลัวแผลถูกน้ำมาก มาถึงก็เจอผู้ช่วยผู้ชาย เขาก็ทำการบ้างแผลให้ผม มือเบานะครับ เขาเป็นผู้ชายคนแรกที่จับน้องชายของผม โคตรอายเลยครับ เขาก็ทำการจับหัวน้องผมเบาๆ ล้างน้ำเกลือ แบบถูๆรอบๆแผล รอบลำ ไข่ และตรงหัว ผมนี่เสียวแบบสะดุ้งเลยครับ แอบสังเกตตอนเขาล้างแผล มือเขาสั่นๆครับ ไม่รู้ว่าสั่นเพราะล้างแผล หรือเห็นน้องชายผม 5555 (แอบแซว) จากนั้นก็นั่งรถพี่กลับบ้าน
- มาถึงที่บ้านก็กินข้าวเย็นแล้วกินยา เข้านอนหลับเลย ฉี่ก่อนเข้านอน ตอนฉี่ก็จะควบคุมลำบากหน่อย เพราะจะกระจายเป็นสปริงเกอร์เลยครับ ฉี่เสร็จผมก็เอาทิชชู่ซับน้ำตรงหัวให้แห้ง
วันที่ 3 ของการขลิบ
- ตื่นมาตี 4 นิดๆ ด้วยอาการเดิมคือน้องชายแข็งตัว และก็ปวดปกติ วันนี้นอนต่อลำบากมากครับเลยตื่นยาวเลย ตื่นมาก็กินข้าวกินยา วันนี้รู้สึกเจ็บลดลง แต่ก็ยังเจ็บอยู่ สายๆผมขับรถกลับลำปางคนเดียวได้ เพราะบ้านอยู่ลำปาง แต่ไปอาศัยบ้านพี่ที่เชียงใหม่พักก่อน ตอนขับก็บมีเจ็บบ้างเพราะต้องนั่งแล้วขามันหนีบกันทำให้ปวดแผลเป็นช่วงๆ ผมจึงทำการงัดน้องขึ้นเพราะให้น้องได้คอตั้งจะเจ็บน้อยลง และขยับตัวเพื่อให้น้องได้ขยับ อ้อ! ผมใส่กางเกงขาสั้นไม่ใส่ กกน ครับ กลัวน้องอึดอัดและเจ็บ
- มาถึงลำปางก็ทานข้าวเที่ยงแล้วนอนพักผ่อน ตื่นมาตอนเย็นก็ขึ้นมาเช็ดตัวเหมือนเดิมโดยการเอาถุงครอบ แต่น้ำมันยังเข้า เลยรีบเช็ดตัว แล้วล้างแผลเอง โดยล้างมือให้สะอาดที่สุด
- ตอนล้างแผลเองก็ตื่นเต้นครับ เปิดผ้าอันเก่าดู แผลบวมตรงช่องระหว่างแผลที่ขลิบกับหัว ผมตกใจ ถ่ายรู้ให้หมอดู หมอบอกมันบวมน้ำปกติ ทำความสะอาดเรื่อยๆ เดียวจะเริ่มหายเอง ผมใช้เวลาในการล้างแผลเอง เกือบครึ่งชั่วโมง ล้างน้ำเกลือ เช็ดคราบน้ำเหลือง คราบเลือด และล้างน้ำเกลือตั้งแต่หัวจนถึงโคน รวมทั้งพวงไข่ด้วย ทายาแผลแดงบางๆเพื่อฆ่าเชื้อ เสร็จแล้วเอาน้ำเกลือยาแผลแดงออก ซับให้แห้ง ทาครีมยาขี้ผึ้งที่ได้มารอบๆแผล แล้วพันรอบๆแผลให้ไม่แน่นและสวยที่สุด
- หลังจากนั้นกินข้าว กินยา เข้านอนครับ
วันที่ 4-6 ของการขลิบ ตื่นมาด้วยอาการแข็งตัวของน้องชายแต่ละวันไม่เหมือนกัน บางวันตื่นตี 1 ตี 3 ตี 4 บางวันตื่น 2-3 รอบ แล้วก็นอนไม่หลับ เลยต้องตื่น ถือว่านอนไม่เต็มอิ่ม กินข้าวเช้า กินยา และทำการล้างแผล เช็ดตัว กินข้าวเย็น กินยา เข้านอนครับ
วันที่ 7 ของการขลิบ
- วันนี้มีนัดกับหมอที่คลินิกตอนเย็น เช้าๆก็เหมือนเดิมกินข้าว กินยา บ่ายสองขับรถไปบ้านพี่ที่เชียงใหม่ พร้อมกับให้พี่นั่งไปเป็นเพื่อน
- ไปถึงคลินิกก็เข้าพบหมอ เปิดแผลให้หมอดู หมอบอกแผลแห้งดี แผลสวยแล้ว ไม่ต้องพันแผลแล้ว แต่สามารถล้างน้ำเกลือหรือน้ำสะอาดได้ อาบน้ำได้ อาบเสร็จซับแผลให้แห้ง แล้วทายาแผลแดงบางๆ ล้างออก ทาครีม แต่ผมกลัวว่าเช้าๆมันจะแข็งตัว ผมกลัวมันมีรอยปริที่แม็กเย็บ ผมเลยพันแผลกันมันขยายไปกว่านี้ หมอนัดอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า
วันที่ 8 ของการขลิบ (วันตั้งกระทู้)
- ตื่นเข้ามาด้วยอาการแข็งตัวอย่างที่คิด แต่เริ่มเจ็บเบาลง น้องสามารถแข็งตัวได้มากกว่าเดิม เหมือนเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของน้องชายผม ว่ามันดีขึ้น แต่ตอนแข็งก็ไม่กล้าเปิดผ้าพันแผลเพราะกลัวมันปริออก พออ่อนก็เอาผ้าออก เข้าไปอาบน้ำ ทายาแผลแดง ทาครีมเหมือนเดิม แต่เช้านี้ไม่ได้พันแผล ปล่อยน้องให้ออกมาเจออากาศ ใส่กางเกงขาสั้น ยังไม่ใส่ กกน โอ้โห! เดินแต่ละก้าวมันเสียว หัวโดนกางเกง (ที่ไม่ใส่เพราะว่ามันยังเจ็บรอบๆรอบแม็กอยู่)
- สายๆขับรถกลับลำปาง ดูสบายขึ้น แต่ก็เสียวๆ เจ็บเลยแวะเข้าห้องน้ำที่ปั๊ม เพื่อให้น้องได้ออกมาสูดอากาศหน่อยแล้วขับต่อจนถึงบ้านที่ลำปาง กินข้าวเที่ยง นอนพัก ตอนเย็นก็อาบน้ำ ล้างแผล ทายาแผลแกง ทาครีม แผลที่บวมก็ยังคงบวมอยู่ ผมกลัวเลยถ่ายรูปให้หมอดู หมอบอกเป็นปกติอยู่ ค่อยดูต่อไป แล้วก็พันแผลกลางคืนกลัวมันแข็งแล้วแผลปริ แต่หมอบอกว่าไม่ต้องพันก็ได้ แต่ผมกลัวเลยแอบหมอพันต่อ แค่ตอนนอน
วันต่อๆไปถ้ามีอาการยังไงผมจะมาอัพเดทเรื่อยๆนะครับ ตอนนี้ก็รอลุ้นว่าแม็กเย็บจะหลุดเมื่อไหร่ และช่วงนี้งด ชตอ งดดูหนัง 18+ งดเสพสื่อที่มันจะทำให้เกิดอารมณ์ แล้วอดเปรี้ยวไว้กินหวาน (55555) 1 เดือนขั้นต่ำถึงจะกลับมาทำภาระกิจเหมือนเดิมได้ ให้กำลังใจทุกคนที่คิดจะทำนะครับ ช่วงอาทิตย์ปฝแรกจะทรมานมาก ผมจิตตกไปแล้วด้วย 5555 พักหลังๆเริ่มโอเคขึ้น ลุ้นต่อไปครับ
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะครับ 🙏🙏
รีวิวและร่วมแชร์ประสบการณ์ในการขลิบไร้เลือด
วันที่ 1 ของการขลิบ
- ก่อนเข้า ก็ปรึกษาหมอ เดินทางไปหาหมอที่คลินิกเพื่ออธิบายและเปิดน้องชายผมให้หมอดูว่ามีหนังหุ้มเยอะ เวลารูดลงมันจะไปกองกันตรงหัวน้องชาย และบริเวณลำก็ค่อนข้างตีบเลยตัดสินใจขลิบ
- เข้าห้องผ่าตัด ผู้ช่วยที่เป็นผู้หญิงก็ให้เปลี่ยนกางเกง และเข้าไปรอที่ห้องผ่า ผู้ช่วยก็ถอดกางเกงผมลงแล้วถามว่าของคนไข้รูดได้ไหม ผมบอกได้ครับ เขาเลยจับรูดและทาแอลกอฮอล์ทำความสะอาดรอบๆลำ ไข่ และเช็ดตรงหัว ผมนี่สะดุ้งเป็นพักๆครับ สักพักหมอเข้ามาและพูดคุย ทำการฉีดยาชา 3 เข็ม รอบโคนของน้องชายผม ซึ่งเป็นอะไรที่โคตรเจ็บเลยครับ บีบมือตัวเองกลั้นน้ำตาไว้ อ้อลืมบอก ทางคลินิกเขาให้ผมปิดตา อากาศค่อนข้างหนาว รอสักพักยาขาออกฤทธิ์ หมอเลยวัดขนาด แล้วทำการครอบ ตอนนั้นก็รู้สึกได้ว่ามีคนมาจับและใส่เครื่องมือ แล้วหมอทำการเริ่มขลิบ หมอถามเจ็บไหม ผมบอกเจ็บมากครับ หมอเลยฉีดยาชาอีกเข็มจนมันเริ่มหายเจ็บ แล้วหมอก็ตัดต่อ เสร็จแล้วผู้ช่วยให้ดูหนังที่โดนตัด (ในใจบอกลาก่อนนะน้องหนัง) แล้วผู้ช่วยก็พันแผลเรียบร้อย ผมออกมานั่งข้างนอกรอ คิดกับตัวเองว่า มันก็ไม่เจ็บนี่หว่า จนหมอเรียกเข้าไปพบและอธิบายการล้างแผล ทำความสะอาด รับยาฆ่าเชื้อและยาแก้ปวด พร้อมชุดทำแผลอีก 7 ชุด แล้วอีก 7 วันหมอนัดพบอีกรอบ พร้อมชำระเงิน 14,400 บาท
- ได้เวลากลับ รู้สึกได้ว่าเริ่มปวด และปวดมาก บอกพี่ว่าผมโคตรปวดเลยครับ ยาชาหมดฤทธิ์ โอ้โห! ผมน้ำตาไหลบนรถเลย พี่แวะซื้อข้าวให้ผมก็นั่งรออย่างเดียว จนถึงบ้าน เดินแทบไม่ไหว กินข้าว กินยา รวมทั้งทานยานอนหลับ 1 เม็ดเพราะกลัวปวดจนนอนไม่หลับ แล้วเข้านอนหลับลึกเลย
วันที่ 2 ของการขลิบ
- ตื่นรอบแรกตอน ตี 3 กว่าๆ เพราะน้องแข็งตัวปกติจนผมรู้สึกเจ็บมากเลยต้องตื่นและพยายามทำให้มันอ่อนลง แล้วหลับต่อ ตื่นอีกทีเกือบ 10 โมงเช้า โดยไม่ค่อยมีอาการเจ็บมากแต่อย่างใด แต่มีเจ็บเบาๆครับ เช้านี้ไม่อาบน้ำ เพราะอยู่บ้านพี่อีก 1 วัน
- ตื่นมาด้วยอาการตัวหวิวๆ ลอยๆ ไม่มีแรง อาจจะเป็นเพราะฤทธิ์ยานอนหลับ กินข้าว และกินยาตามที่หมอบอก แล้วนอนพักทั้งวัน ตื่นมากินข้าวเที่ยง แล้วนอนต่อ ตื่นมาก็เตรียมตัวไปคลินิกเพราะล้างแผลไม่เป็น เลยให้พี่พาไปที่เดิม ก่อนไปก็อาบน้ำโดยการเอาถุงมาครอบทั้งพวงครับ ค่อยเอาน้ำเช็ดแขน ขา กลัวแผลถูกน้ำมาก มาถึงก็เจอผู้ช่วยผู้ชาย เขาก็ทำการบ้างแผลให้ผม มือเบานะครับ เขาเป็นผู้ชายคนแรกที่จับน้องชายของผม โคตรอายเลยครับ เขาก็ทำการจับหัวน้องผมเบาๆ ล้างน้ำเกลือ แบบถูๆรอบๆแผล รอบลำ ไข่ และตรงหัว ผมนี่เสียวแบบสะดุ้งเลยครับ แอบสังเกตตอนเขาล้างแผล มือเขาสั่นๆครับ ไม่รู้ว่าสั่นเพราะล้างแผล หรือเห็นน้องชายผม 5555 (แอบแซว) จากนั้นก็นั่งรถพี่กลับบ้าน
- มาถึงที่บ้านก็กินข้าวเย็นแล้วกินยา เข้านอนหลับเลย ฉี่ก่อนเข้านอน ตอนฉี่ก็จะควบคุมลำบากหน่อย เพราะจะกระจายเป็นสปริงเกอร์เลยครับ ฉี่เสร็จผมก็เอาทิชชู่ซับน้ำตรงหัวให้แห้ง
วันที่ 3 ของการขลิบ
- ตื่นมาตี 4 นิดๆ ด้วยอาการเดิมคือน้องชายแข็งตัว และก็ปวดปกติ วันนี้นอนต่อลำบากมากครับเลยตื่นยาวเลย ตื่นมาก็กินข้าวกินยา วันนี้รู้สึกเจ็บลดลง แต่ก็ยังเจ็บอยู่ สายๆผมขับรถกลับลำปางคนเดียวได้ เพราะบ้านอยู่ลำปาง แต่ไปอาศัยบ้านพี่ที่เชียงใหม่พักก่อน ตอนขับก็บมีเจ็บบ้างเพราะต้องนั่งแล้วขามันหนีบกันทำให้ปวดแผลเป็นช่วงๆ ผมจึงทำการงัดน้องขึ้นเพราะให้น้องได้คอตั้งจะเจ็บน้อยลง และขยับตัวเพื่อให้น้องได้ขยับ อ้อ! ผมใส่กางเกงขาสั้นไม่ใส่ กกน ครับ กลัวน้องอึดอัดและเจ็บ
- มาถึงลำปางก็ทานข้าวเที่ยงแล้วนอนพักผ่อน ตื่นมาตอนเย็นก็ขึ้นมาเช็ดตัวเหมือนเดิมโดยการเอาถุงครอบ แต่น้ำมันยังเข้า เลยรีบเช็ดตัว แล้วล้างแผลเอง โดยล้างมือให้สะอาดที่สุด
- ตอนล้างแผลเองก็ตื่นเต้นครับ เปิดผ้าอันเก่าดู แผลบวมตรงช่องระหว่างแผลที่ขลิบกับหัว ผมตกใจ ถ่ายรู้ให้หมอดู หมอบอกมันบวมน้ำปกติ ทำความสะอาดเรื่อยๆ เดียวจะเริ่มหายเอง ผมใช้เวลาในการล้างแผลเอง เกือบครึ่งชั่วโมง ล้างน้ำเกลือ เช็ดคราบน้ำเหลือง คราบเลือด และล้างน้ำเกลือตั้งแต่หัวจนถึงโคน รวมทั้งพวงไข่ด้วย ทายาแผลแดงบางๆเพื่อฆ่าเชื้อ เสร็จแล้วเอาน้ำเกลือยาแผลแดงออก ซับให้แห้ง ทาครีมยาขี้ผึ้งที่ได้มารอบๆแผล แล้วพันรอบๆแผลให้ไม่แน่นและสวยที่สุด
- หลังจากนั้นกินข้าว กินยา เข้านอนครับ
วันที่ 4-6 ของการขลิบ ตื่นมาด้วยอาการแข็งตัวของน้องชายแต่ละวันไม่เหมือนกัน บางวันตื่นตี 1 ตี 3 ตี 4 บางวันตื่น 2-3 รอบ แล้วก็นอนไม่หลับ เลยต้องตื่น ถือว่านอนไม่เต็มอิ่ม กินข้าวเช้า กินยา และทำการล้างแผล เช็ดตัว กินข้าวเย็น กินยา เข้านอนครับ
วันที่ 7 ของการขลิบ
- วันนี้มีนัดกับหมอที่คลินิกตอนเย็น เช้าๆก็เหมือนเดิมกินข้าว กินยา บ่ายสองขับรถไปบ้านพี่ที่เชียงใหม่ พร้อมกับให้พี่นั่งไปเป็นเพื่อน
- ไปถึงคลินิกก็เข้าพบหมอ เปิดแผลให้หมอดู หมอบอกแผลแห้งดี แผลสวยแล้ว ไม่ต้องพันแผลแล้ว แต่สามารถล้างน้ำเกลือหรือน้ำสะอาดได้ อาบน้ำได้ อาบเสร็จซับแผลให้แห้ง แล้วทายาแผลแดงบางๆ ล้างออก ทาครีม แต่ผมกลัวว่าเช้าๆมันจะแข็งตัว ผมกลัวมันมีรอยปริที่แม็กเย็บ ผมเลยพันแผลกันมันขยายไปกว่านี้ หมอนัดอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า
วันที่ 8 ของการขลิบ (วันตั้งกระทู้)
- ตื่นเข้ามาด้วยอาการแข็งตัวอย่างที่คิด แต่เริ่มเจ็บเบาลง น้องสามารถแข็งตัวได้มากกว่าเดิม เหมือนเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของน้องชายผม ว่ามันดีขึ้น แต่ตอนแข็งก็ไม่กล้าเปิดผ้าพันแผลเพราะกลัวมันปริออก พออ่อนก็เอาผ้าออก เข้าไปอาบน้ำ ทายาแผลแดง ทาครีมเหมือนเดิม แต่เช้านี้ไม่ได้พันแผล ปล่อยน้องให้ออกมาเจออากาศ ใส่กางเกงขาสั้น ยังไม่ใส่ กกน โอ้โห! เดินแต่ละก้าวมันเสียว หัวโดนกางเกง (ที่ไม่ใส่เพราะว่ามันยังเจ็บรอบๆรอบแม็กอยู่)
- สายๆขับรถกลับลำปาง ดูสบายขึ้น แต่ก็เสียวๆ เจ็บเลยแวะเข้าห้องน้ำที่ปั๊ม เพื่อให้น้องได้ออกมาสูดอากาศหน่อยแล้วขับต่อจนถึงบ้านที่ลำปาง กินข้าวเที่ยง นอนพัก ตอนเย็นก็อาบน้ำ ล้างแผล ทายาแผลแกง ทาครีม แผลที่บวมก็ยังคงบวมอยู่ ผมกลัวเลยถ่ายรูปให้หมอดู หมอบอกเป็นปกติอยู่ ค่อยดูต่อไป แล้วก็พันแผลกลางคืนกลัวมันแข็งแล้วแผลปริ แต่หมอบอกว่าไม่ต้องพันก็ได้ แต่ผมกลัวเลยแอบหมอพันต่อ แค่ตอนนอน
วันต่อๆไปถ้ามีอาการยังไงผมจะมาอัพเดทเรื่อยๆนะครับ ตอนนี้ก็รอลุ้นว่าแม็กเย็บจะหลุดเมื่อไหร่ และช่วงนี้งด ชตอ งดดูหนัง 18+ งดเสพสื่อที่มันจะทำให้เกิดอารมณ์ แล้วอดเปรี้ยวไว้กินหวาน (55555) 1 เดือนขั้นต่ำถึงจะกลับมาทำภาระกิจเหมือนเดิมได้ ให้กำลังใจทุกคนที่คิดจะทำนะครับ ช่วงอาทิตย์ปฝแรกจะทรมานมาก ผมจิตตกไปแล้วด้วย 5555 พักหลังๆเริ่มโอเคขึ้น ลุ้นต่อไปครับ
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะครับ 🙏🙏