สวัสดีครับ วันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์ขลิปไร้เลือดไทเทเนียม + ซิลิโคน ที่คลินิคหนึ่ง แถวลาดพร้าววังหิน 

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า ผมใช้ชีวิตได้ปกติ มีเพศสัมพันธ์ได้ รูดทำความสะอาดได้ จนตอนอายุได้ประมาณ 30 ปี อยู่ดีๆผมก็มีปัญหา เนื่องจากเส้นสองสลึงเป็นแผล ทำให้เวลารูดลงเพื่อทำความสะอาด จะรู้สึกเจ็บจี๊ดจนเหมือนมีดบาดทุกครั้ง ตอนแรกก็กะว่าจะรอให้หายเอง จนแล้วจนเล่า 2-3 เดือนผ่านไป ก็ไม่หายขาด จึงหาความรู้และทราบว่าถ้ามีปัญหาแบบนี้หมอจะแนะนำให้ขลิปและตัดเส้นสองสลึง

ผมจึงเริ่มค้นหาข้อมูล การรีวิวต่างๆ ประมาณ 2 อาทิตย์ จนได้ข้อสรุปว่า เราน่าจะทำขลิปแบบไร้เลือด เพราะเห็นว่าเป็นแบบใหม่และกลัวทนเจ็บไม่ไหว เพื่อแก้ไขปัญหาข้างต้นให้เรียบร้อย จนกระทั่งวันนึง ผมเห็นโฆษณาในเฟสบุ้ค เป็นโปรโมชันขลิปไร้เลือด 12,000 บาท จึงพิมเข้าไปถามทางคลินิก ทางคลินิกแนะนำดีมากและให้หมอผู้หญิงโทรมาอธิบาย ปรากฎว่าค่าใช้จ่าย 12,000 ยังไม่รวมค่าตัดเส้นสองสลึง 5,000 ค่ายาสลบ 8 ช.ม. 3,500 และค่าทำแผลวันละ 300 หรืออุปกรณ์ทำแผล (จะรวมแค่ค่ายาแก้อักเสบ แก้บวมเท่านั้น) ผมก็อะโอเค มีคิวไหนที่ไวสุด ปรากฎว่าเป็นคิว 9 โมงเช้า พรุ่งนี้เลย และในขณะที่ผมคุยกับหมอและโอนมัดจำจองไว้ ก็เกือบๆตี 1 แล้ว ผมจึงขอนัดเป็นช่วง 11 โมงเช้าแทน (เพราะหมอบอกว่าถ้านัดบ่ายจะเป็นหมอผู้หญิง) ในใจก็คิดว่ายิ่งทำไวก็ยิ่งหายไว

วันรุ่งขึ้น ผมจึงเตรียมตัวทำความสะอาดห้อง ซื้ออาหารบำรุงหลังผ่าตัดมาตุนไว้เผื่อออกไปไหนไม่ได้ และได้ทำการช่วยตัวเอง (เนื่องจากอ่านรีวิวหลายๆท่านที่แนะนำไว้  เพราะจะทำให้ไม่แข็งตัวช่วงแรกเพื่อที่จะได้ไม่เจ็บแผล) สุดท้ายได้เข้าไปทำการขลิป ตามที่นัดหมอ 11 โมงเช้า พอไปถึงคลินิกก็ได้เข้าไปคุยกับหมอ ซึ่งคุยกันแปปเดียวเพราะข้อมูลหลักๆ ผมก็ตอบว่ารู้ เพราะเตรียมตัวมาแล้ว หลังจากนั้นก็ขึ้นเตียงรอขลิป การฉีดยาชาที่นี่จะเป็นยาชาไร้เข็ม ไม่แน่ใจว่าเจ็บเท่าชายาปกติไหม แต่ก็รู้ว่ามันเสียงดัง ปั้ง แล้วเจ็บหน่วงๆ โดยหมอได้ฉีดยาชาไร้เลือดประมาณ 4-5 ครั้ง แล้วค่อยฉีดยาชาปกติ หลังจากนั้นไม่ถึง 5 นาที ก็ทำการขลิปและตัดเส้นสองสลึงตามลำดับ ความรู้สึกตอนขลิป ผมรู้สึกเจ็บระดับนึง จนขาแกร็งไปหมด เหมือนยาชาอาจจะยังไม่ออกฤทธิ์ดี แต่อยู่ดีๆหมอก็โชหนังที่หลุดออกมาให้ดู ก่อนที่จะตัดเส้นสองสลึงต่อ ตอนนี้คือเจ็บยิ่งกว่าตอนขลิปอีก รอบแรกที่หมอกำลังใช้เลเซอร์ตัด ผมร้องด้วยความเจ็บ หมอเลยหยุดและอีกแปปนึงก็ตัดต่อ ผมรู้สึกได้กลิ่นไหม้ๆ และก็พยายามนอนควบคุมลมหายใจเข้าออกไว้ ในใจก็คิดว่าหมอรีบไปไหน และหลังผ่าตัดเสร็จก็นอนรอ 15 นาที ในตอนนั้นไม่รู้สึกเจ็บเท่าไหร่ แค่หวิวๆนิดหน่อย และก่อนกลับผู้ช่วยก็ให้ยาและแจ้งว่าให้กลับมาทำแผลใน 3 วัน

อ่อลืมบอกว่าผมขับรถไปเองนะครับ แต่ไม่ไกลมาก เพราะเลือกคลินิกที่ใกล้บ้าน ขากลับก็ไม่ได้รู้สึกอะไรมาก แต่พอถึงบ้าน ช่วงประมาณ 2-3 ช.ม. หลังจากการขลิป รู้สึกเริ่มหวิวๆท้องน้อย และเริ่มเหงื่อออก จึงจำเป็นต้องรีบกินยาและนอนพักในช่วงกลางวัน หลังจากนั้นก็ตื่นขึ้นมาไม่ได้รู้สึกเจ็บมาก แค่หน่วงนิดหน่อย ก็สามารถเดินเหินได้ แต่ไม่ปกติต้องเดินช้าๆ

ในช่วงคืนแรก เป็นเหมือนที่หลายๆคนรีวิวไว้เลย ว่าจะตื่นตอนกลางดึก เพราะมีการแข็งตัว ผมก็ตื่นช่วงตี 1 ตี3 ตี5 (แนะนำให้กินน้ำน้อยลงช่วงก่อนนอน และเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย ก็อาจจะช่วยได้บ้าง) ส่วนในช่วงเช้าก็แค่เดินลำบากนิดหน่อย แต่ใช้ชีวิตได้ตามปกติและช่วงกลางวันก็แทบไม่เจ็บเลย เพราะไม่มีการแข็งตัว

จนกระทั่งครบ 3 วัน ผมก็ไปทำแผลที่คลินิกแต่เช้า เป็นการทำแผลครั้งแรก ตอนแกะแผลออกมาผมก็รู้สึกเจ็บตอนที่ดึงผ้าก๊อซที่ติดกับแผลออกบ้างเล็กน้อย แต่พอทนไหว หมอผู้ช่วยที่เห็นแผลก็แจ้งว่าแผลปกติดี และได้ทำการล้างน้ำเกลือและพันแผลให้ใหม่ ไม่กี่นาทีก็เสร็จและกลับบ้านได้

ในช่วงนี้สิ่งที่กวนใจอย่างเดียวคือแค่ตอนกลางคืน ที่มักจะเจ็บมากๆ จนต้องรีบเข้าห้องน้ำ บางคืนก็ 2 รอบ บางคืนก็ 3 รอบ แต่ก็คิดว่าเล็กน้อยมาก เพราะการทำแผลเป็นไปได้ด้วยดี แผลไม่เคยมีเลือดหรือน้ำหนองติดผ้าก๊อซเลย ทั้งแผลที่เส้นสองสลึงและแผลบริเวณรอบๆแม๊ก ดีมากเลย

จนกระทั่งที่คลินิกนัดไปดูแผลรอบครบ 7 วัน ตอน 9 โมงเช้า พอไปถึงก็ขึ้นเตียง และล้างแผลก่อน ทั้งที่ก่อนมาก็พึ่งล้างไปตอนเช้า หมอได้เดินเข้ามา แล้วสั่งให้เราจับพลิกไปมาๆเพื่อที่จะดูแผล ไม่เกิน 10วินาที หมอก็บอกว่าแผลปกติดีนะ ตัดไหมได้ แล้วเดินออกไป หลังจากนั้นผู้ช่วยก็ได้ทำการตัดไหม ตามรอยแม๊กรอบวง คิดว่าน่าจะมีประมาณ 7-8 จุดได้ ตัดโดยที่ไม่ใช้ยาชาเลย ความรู้สึกคือเจ็บระดับ 10/10 ยิ่งกว่าตอนขลิปอีก ระหว่าวตัดเราก็ทั้งเกร็งทั้งร้อง ความรู้สึกเหมือนโดนตัดเนื้อรอบๆไปด้วย ผมก็อดทนและพอทำแผลเสร็จ ผู้ช่วยก็แจ้งว่าทำแผลครั้งต่อไปให้พันแน่นๆนะ โอเคเราก็เสียค่าทำแผล 300 บาทแล้วกลับบ้าน ช่วงที่เดินกลับจากคลินิกไปที่รถ รู้สึกหน่วงๆมาก เดินลำบากยิ่งกว่าตอนมาอีก มีเหงื่อออกบ้าง แต่ทีนี้ก็ไม่ได้คิดอะไร ขับรถกลับถึงบ้าน กินยานอน
พอถึงเวลาทำแผลตอนเย็น ตอนที่แกะออกมาเห็นเลือดซึมผ้าก๊อซเยอะมาก ทั้งที่หลังขลิป
จนถึง 7 วันแรก ไม่เคยมีเลือดซึมเลยแม้แต่นิดเดียว เรารู้สึกตกใจมาก ระหว่างแกะผ้าก๊อซมาเริ่มหละ เจ็บมาก เหมือนแผลติดกับผ้าก๊อซ จึงพยายามใช้น้ำเกลือเช็ดเบาๆ และมาเบตาดีนเหมือนเดิม แต่ทีนี้พอเช็ครอบๆแล้ว ปรากฎว่ามีแผลฉีกขาด ซ้าย ขวา ล่างเลย 3 จุดใหญ่ๆ และเจ็บมาก เราก็พยายามทำแผลแล้วนอนพักให้ไวที่สุด

ตื่นเช้ามาวันที่ 8 หลังขลิป และเป็นวันแรกหลังไปตัดไหม ก็เหมือนเดิมครับ มีเลือดและแผลติดกับผ้าก๊อซ ความรู้สึกคือเจ็บมาก และพลาสติก(คิดว่าที่เค้าเรียกว่า ซิลิโคน) มันแข็งแล้วโดนเนื้อก็ยังแสบ แต่บางอันติดแผลนี่ก็เจ็บเลยเวลาขยับตัวเยอะๆ สิ่งที่ทำได้ก็คือการกินข้าวกินยาและนอนพักระหว่างวันให้เยอะ เพราะตอนกลางคืนต้องลุกมาบ่อยมาก 2-4 ครั้ง จนบางทีนอนไม่หลับ สิ่งที่ยืดเหนี่ยวจิตใจก็คือการนั่งดูข้อมูลการขลิปใน google/youtbe ไปเรื่อย

พอตอนเย็นวันนั้น ผมก็เจ็บขึ้นไปอีกหลังทำแผล แล้วก็ดูเหมือนแผลฉีกจะใหญ่ขึ้น จึงได้ติดสินใจโทรไปถามหมอที่โทรมาชี้แจง เค้าก็เหมือนไม่ค่อยว่างคุย บอกแค่ว่าส่งรูปมาให้ทางแอดมินหน้าเพจ ผมก็แบบในใจคิดว่า คงตัดสินใจเลือกผิดแล้วหละ และได้ทำกิจกรรมอื่นต่อ จนสักพักก็มีผู้ช่วยโทรมาแล้วให้เราส่งรูปทางไลน์ จึงได้ตัดสินใจส่งรูปไปให้ ทางนั้นก็แจ้งว่าแผลปกตินะ ไม่ได้เกิดจากการตัดไหม ทั้งที่เราก็มีถ่ายรูปให้แฟนช่วยดูว่าก่อนไปตัดแผลมันดีขึ้นแล้วกับหลังตัดมามันต่างกันมาก

จนผ่านมา 2 วันแผลก็ยังไม่ดีขึ้น จนในวันที่ 10 (วันปัจจุบันที่โพส) ถ่ายรูปตอนเช้าหลังทำแผลให้แฟนดู เพราะความเจ็บมันเจ็บมากจริงๆ และเลือดก็ออกเยอะเลย พอถ่ายให้ดูแฟนก็กลัวว่าจะเป็นหนอง คือแผลมันเลือดออกเยอะ แล้วพอค่อยใช้น้ำเกลือซับแผล แผลที่เห็นคือมันกว้างขึ้นยิ่งกว่าเดิมอีก มีเนื้อฉีกรอบๆสีขาว เราจึงส่งรูปให้ทางคลินิก และคลินิกก็ยังยืนยันว่าปกติ แต่นัดให้เข้ามาพบหมอ พรุ่งนี้ตอนเย็น

ด้วยความที่ไม่สบายใจมากๆ จึงได้ทำการโทรสอบถามคลินิกต่างๆเรื่องการทำขลิป ประมาณ 3 คลินิก เค้าก็แจ้งผมว่าปกติที่คลินิกจะไม่ตัดออกนะ หรือใช้ไหมละลาย เลยไม่รู้ว่าสรุปการตัดไหมออกมันทำให้แผลแย่ยิ่งกว่าเดิมไหม และรู้สึกดิ่งๆไงไม่รู้

ข้อสรุปนะครับที่อยากฝากเพื่อนๆ ก่อนการขลิปหรือตัดเส้นสองสลึง ส่วนตัวคือคิดว่าการขลิปไร้เลือดมันไม่ดีเลย (แต่เราก็ทำแค่แบบนี้อะหละ ไม่ได้รู้ว่าแบบอื่นเป็นยังไง) ความรู้สึกที่มีเหล็กฝังอยู่ตรงนั้นของเราตลอดเวลา และเจ็บแผลมากๆ มันทำให้รู้สึกว่า เราเลือกแบบปกติหรือแบบเลเซอแล้วเย็บไหมละลาย น่าจะดีกว่า ถ้าได้เลือกอีกครั้ง เพราะเจ็บแค่วันแรกที่ขลิป แล้วปล่อยให้หายเองได้ ไม่ต้องมานั่งตัดไหมตัดอะไรให้เจ็บตัวซ้ำสอง

ขอบคุณมากนะครับที่อ่านมาจนจบ และส่วนตัวคิดว่าจะรีวิวต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหายดี เพื่อเป็นประสบการณ์สำหรับเพื่อนๆที่มีปัญหาสุขภาพเหมือนกันหรือกับคนที่สนใจอยากขลิป
และขอสอบถามเพื่อนที่มีความรู้หรือมีประสบการณ์หน่อยนะครับ
1. การตัดไหม ตรงแม๊ก หลังขลิปไร้เลือดนี่มันเจ็บขนาดนั้นเลยหรอ ผมไม่รู้ว่าเป็นที่นี่ที่เดียวไหม
2. หมอที่นัดผมก่อนวันนัด (จริงๆหมอจะนัดหลังตัดไหม 14 วัน) แต่หมอนัดด่วนเพราะเห็นแผลที่ส่งไป อยากทราบว่าแนวทางการรักษาจะเป็นยังไงได้บ้าง ถ้าเอาแม๊กรอบๆออกหรือตัดไหมตรงเส้นสองสลึงไปด้วย จะมีปัญหาอะไรหรือเปล่า (หรือผมควรแก้ไขยังไงได้บ้างครับ)