JJNY : ผักแพงอีก ขาดตลาดด้วย│เปิดใจลุงบุกชกศรี│เตือนพีเอ็ม 2.5 เกินมาตรฐาน 4 เขต│"อนุสรณ์" บี้ "ประยุทธ์" เร่งตัดสินใจ

พิษน้ำท่วม! ราคาผัก แพงอีก ขาดตลาดด้วย ต้นหอมพุ่งกก.ละ 150 บาท
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7320876
 
 
แม่ค้าโอด น้ำท่วม ราคาผัก แพงอีก ต้นหอมพุ่ง 2 เท่า แถมขาดตลาด แบกต้นทุนค่าขนส่ง เพราะต้องสั่งจากที่อื่น คาด อีก 1 เดือนจึงจะกลับสู่สถานการณ์ปกติ
 
วันที่ 18 ต.ค.2565 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจ ราคาผัก ที่ตลาดสดแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา พบว่าผักหลายชนิดมีการปรับราคาเพิ่มสูงขึ้น เช่น ผักชี พริกสด ยี่หร่า ใบกระเพรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้นหอมที่มีการปรับราคาเพิ่มขึ้น 2 เท่าตัว จากเมื่อช่วงก่อนหน้านี้ต้นหอมมีราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 50 บาท แต่ขณะนี้อยู่ที่กิโลกรัมละ 150 บาท
 
นอกจากนี้ ยังพบว่าผักหลายชนิดขาดตลาด เช่น ใบโหระพา ใบแมงลัก สะระแหน่ รวมถึงต้นหอมที่แม่ค้าต้องสั่งมาจากจังหวัดทางภาคเหนือ ซึ่งสาเหตุของราคาผักที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นมาจากพื้นที่ปลูกผักส่วนใหญ่ใน จ.นครราชสีมา ได้รับผลกระทบจากปริมาณฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้พืชผักหลายชนิดได้รับความเสียหาย อีกทั้งปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ ทำให้เกษตรกรใน จ.นครราชสีมา ที่ปลูกผักไม่สามารถปลูกผักส่งมาขายยังตลาดได้ จึงทำให้ผักบางชนิดขาดตลาดและมีราคาสูงขึ้นตามไปด้วย

นางสุมนัส (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี แม่ค้าขายผักรายหนึ่ง กล่าวว่า ตลอดนี้ราคาผักหลายชนิดโดยเฉพาะต้นหอมที่มีราคาเพิ่มสูงขึ้น 2 เท่าตัว นอกจากราคาจะแพงขึ้นแล้วยังขาดตลาด จนทำให้ตนและแม่ค้าเจ้าอื่นต้องสั่งต้นหอมมาจากจังหวัดทางภาคเหนือซึ่งก็มีราคาเพิ่มสูงขึ้นไปอีก โดยทางบริษัทขนส่งคิดค่าขนส่งกิโลกรัมละ 5 บาท

นางสุมนัส กล่าวต่อว่า ตอนนี้ตนต้องแบกรับภาระต้นทุนจากค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้นและไม่มีผักที่จะขายในแต่ละวัน จนตนต้องมีการปรับลดปริมาณของผักที่รับมาขายในแต่ละวันลดลงจากวันละ 100 กิโลกรัมเหลือเพียงวันละ 50-60 กิโลกรัม ซึ่งตนน่าจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน สถานการณ์ของราคาผักจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ ถ้าสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่นครราชสีมาเริ่มคลี่คลาย


 
เปิดใจลุงบุกชกศรีสุวรรณ นี่คือการสั่งสอน ซัดโดนร้องเอาผิดอยู่ฝั่งเดียว
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7321182

เปิดใจลุงบุกชกศรีสุวรรณ นี่คือการสั่งสอน ซัดโดนร้องเอาผิดอยู่ฝั่งเดียว อยากให้เห็นคำว่าประชาธิปไตย พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
 
จากกรณีดราม่าเดือดการแสดง ‘เดี่ยว 13’ ของ ‘โน้ส อุดม แต้พาณิช’ ที่เผยแพร่ทาง Netflix ได้กลายเป็นประเด็นร้อนแรง เนื่องจากบางช่วงบางตอนของการแสดง ได้วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทำให้เสียงแตกออกเป็น 2 ฝ่าย โดยหนึ่งในคนที่ไม่เห็นด้วยอย่าง ‘ศรีสุวรรณ จรรยา’ นักร้องเรียน ออกมาโพสต์โต้ ระบุว่า “โน้ส เดี่ยว 13 ให้ท้ายม็อบ ก้าวล่วงหรืออย่างไร พูดเอามัน เอาฮา ไร้เหตุผล และให้ข้อมูลอันเป็นเท็จต่อสาธารณชน เดี๋ยวเจอกัน”
 
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 18 ต.ค.65 ที่​ศูนย์รับแจ้งความ​ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นาย​ศรี​สุวรรณ​ จรรยา​ เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย​ เดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนเอาผิด​ ‘โน้ส อุดม แต้พานิช’ ในการแสดง ‘เดี่ยว​ 13​’
 
นาย​ศรี​สุวรรณ​ เปิดเผยว่า วันนี้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดี กรณีมีบุคคลทอล็คโชว์เดี่ยวไมโครโฟน-13 ซึ่งเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งมีการใช้ถ้อยคำ บางคำพูดอันอาจมีลักษณะส่งเสริมให้บุคคลร่วมชุมนุมสาธารณะที่ผิดกฎหมาย ซึ่งอาจขัดต่อความมั่นคงของรัฐและหรือละเมิดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น และหรือขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน อันเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ประกอบ พรบ.ว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 2550 แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 2 พ.ศ.2560 หรือไม่
 
นาย​ศรี​สุวรรณ​ เปิดเผยว่า โดยบทพูดของการโชว์เดี่ยวไมโครโฟนดังกล่าว มีบางคำพูด อาทิ “วันนี้รถติดเยอะหน่อย มีม็อบไล่คนที่เราอยากจะไล่เขา ก็ให้อภัยเขาไปนะครับ ถือว่าเขาทำงานแทนเรา” นั้น จะสื่อความหมายไปอย่างอื่นมิได้ นอกเสียจากการพูดเพื่อที่จะสื่อหรือโฆษณาให้ผู้ฟังหรือผู้ชม ได้เข้าใจตรงกันว่ามีเจตนาหรือจงใจ ที่จะให้ทุกคนที่รับฟังและรับชมให้อภัยกลุ่มผู้ที่ออกมาชุมนุมสาธารณะที่เกิดขึ้นหลายๆ ครั้งเมื่อช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานั่น “ทำงานแทนเรา” นั่นเอง โดยที่การชุมนุมเหล่านั้นล้วนผิดกฎหมาย ฝ่าฝืนข้อกำหนดใน ม.9 แห่ง พรก.ฉุกเฉิน 2548 และมีการสอดใส้การชุมนุมเป็นเรื่องการยกเลิก ปอ.112 และการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ มิใช่การชุมนุมเพื่อขับไล่ผู้นำรัฐบาลแต่อย่างใด
 
นาย​ศรี​สุวรรณ​ บอกอีกว่า กรณีดังกล่าวไม่ใช่เป็นเรื่องส่วนตัวของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง หากแต่อาจเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความผิดต่อแผ่นดิน อาจกระทบต่อความมั่นคง และอาจขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน อันเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.84 ม.85 และหรือ ม.87 ประกอบ ม.14 แห่งพรบ.ว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 2550 แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 2 พ.ศ.2560 ต้องระวางโทษกึ่งหนึ่งของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นด้วย และหรือต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
 
“ทางสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงต้องนำความพร้อมพยานหลักฐานมาแจ้งต่อ บก.ปอท. ให้ใช้อำนาจตามกฎหมายในการตรวจสอบสอบสวน กรณีดังกล่าวว่าเข้าข่ายความผิดอาญาต่อแผ่นดินหรือไม่ หากพบว่าเป็นความผิดให้ดำเนินการตามครรลองของกฎหมายต่อไป” นายศรีสุวรรณ กล่าว
 
นายศรีสุวรรณ บอกอีกว่า การที่มาร้องวันนี้ไม่ได้เกี่ยวกับรัฐบาล ที่ผ่านมาถ้ารัฐบาลทำไม่ถูกต้อง ตนก็ร้องมาอยู่แล้วตลอด ส่วนโน๊ส อุดม เขาก็เคยวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลมาทุกยุคทุกสมัยอยู่แล้ว แต่บางคำพูดที่เป็นการยุยงส่งเสริมม้อบ ตนไม่เห็นด้วย
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายศรีสุวรรณ กำลังให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวอยู่นั้น นายวีรวิชญ์ รุ่งเรืองศิริผล ประชาชนที่ยืนฟังนายศรีสุวรรณให้สัมภาษณ์อยู่ ได้ถามนายศรีสุวรรณว่าหลังจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้ว เห็นนายศรีสุวรรณบอกจะดำเนินคดีกับคนที่ออกไปชุมนุม สิ้นคำถามนี้นายวีรวิชญ์ตรงเข้าไปทำร้ายนายศรีสุวรรณ ทั้งชกและเตะนายศรีสุวรรณ ท่ามกลางความตกใจและแตกตื่นของผู้สื่อข่าวที่กำลังสัมภาษณ์
 
จากนั้นนายวีรวิชญ์นมาพูดกับนายศรีสุวรรณว่า นี่คือการตบสั่งสอน เพราะนายศรีสุวรรณร้องทุกเรื่อง แต่อีกฝ่ายกลับไม่ร้องให้ตรวจสอบด้วย ทำให้นายศรีสุวรรณต้องหลบไปเข้าไปพบตำรวจด้านใน
 
หลังเกิดเหตุนายวีรวิชญ์ เปิดเผยว่า ตนคาใจเพราะหลังจากศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยปม 8 ปี นายกรัฐมนตรี นายศรีสุวรรณ ออกมาประกาศว่า ใครชุมนุมจะแจ้งความจะแจ้งจับหมด ซึ่งตนเป็นคนหนึ่งที่ชุมนุม วันนี้ตั้งใจมาตบเพื่อสั่งสอน ซึ่งมีตำรวจที่รู้จักฝากมาตบด้วย กราบขอโทษกองปราบที่มาทำแบบนี้ เพราะไม่มีโอกาสเลย ตนเฝ้าและแอบดูว่า นายศรีสุวรรณจะไปร้องอะไรบ้าง เมื่อเช้าตนยอมทิ้งงาน ตนอายุ 62 ปี จะเป็นอะไรไม่สนใจ อยากให้เห็นว่า คำว่าประชาธิปไตย ทุกคนต้องยอมรับความเห็นต่าง ประเทศนี้เป็นของประชาชน ไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่ง ถ้าถูกดำเนินคดีพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม


 
เตือนพีเอ็ม 2.5 เกินมาตรฐาน 4 เขตเมืองหลวงค่าฝุ่นสูง แจ้งทุกหน่วยเข้มงวด
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_7321232
 
กรุงเทพมหานครฯ โฆษกฯ เอกวรัญญู เตือนพีเอ็ม 2.5 ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน หนองแขม-คลองสามวา-ตลิ่งชัน-ธนบุรี แจ้งทุกหน่วยเพิ่มความเข้มงวด ดำเนินงานแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง
  
18 ต.ค. 65 – ที่ศาลาว่าการกทม. นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกกทม. กล่าวว่า ข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งว่า ในช่วงระหว่างวันที่ 18 – 23 ต.ค. 65 มวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็น (ปลายฝนต้นหนาว) สำนักสิ่งแวดล้อม ได้เฝ้าระวังคุณภาพอากาศในพื้นที่กรุงเทพฯและตรวจสอบข้อมูลอย่างต่อเนื่อง
 
ซึ่งในวันนี้ พบว่าฝุ่นละออง PM2.5 เวลา 10.00 น. มีแนวโน้มสูงขึ้น และมีค่าเกินมาตรฐาน โดยตรวจวัดได้ระหว่าง 31-55 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) จำนวน 4 เขต ได้แก่ 
 
1. เขตหนองแขม สามแยกข้างป้อมตำรวจ ถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 มีค่าเท่ากับ 55 มคก./ลบ.ม.
 
2. เขตคลองสามวา ภายในสำนักงานเขตคลองสามวา มีค่าเท่ากับ 53 มคก./ลบ.ม. 

และ 3. เขตตลิ่งชัน ถนนพุทธมณฑลสาย 1 ตัดกับถนนบรมราชชนนี มีค่าเท่ากับ 51 มคก./ลบ.ม. 
 
4. เขตธนบุรี ริมป้ายรถเมล์บริเวณแยกมไหสวรรย์ มีค่าเท่ากับ 51 มคก./ลบ.ม.
  
จึงได้ประสานแจ้งทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เพิ่มความเข้มงวดการดำเนินงานแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ตามมาตรการระดับ 2-3 (ระดับ 2 PM2.5 มีค่าระหว่าง 37.6 – 50 มคก./ลบ.ม. และ ระดับ 3 PM2.5 มีค่าระหว่าง 51 – 76 มคก./ลบ.ม.) เพื่อเป็นการบรรเทาความรุนแรงของสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับสุขภาพอนามัยของประชาชน
 
อย่างไรก็ตาม ประชาชนตรวจสอบข้อมูลคุณภาพอากาศก่อนออกจากบ้าน ผ่านทางเว็บไซต์ www.bangkokairquality.com และเว็บไซต์ https://pr-bangkok.com เฟซบุ๊ก FB: สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร FB: กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักสิ่งแวดล้อม FB: กรุงเทพมหานคร และแอปพลิเคชัน AirBKK
  
เพื่อให้ประชาชนวางแผนการทำงาน การทำกิจกรรมโดยเฉพาะในพื้นที่ที่คุณภาพอากาศอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ/มีผลกระทบต่อสุขภาพ ควรลดระยะเวลา หรืองดการทำกิจกรรมกลางแจ้ง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่