**********
สรุปความเห็นส่วนตัว:
คล้ายกับกระทู้ก่อนหน้า
https://ppantip.com/topic/41683926
ธนาคาร จะได้ ประโยชน์ของอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น
แต่ต้องเพิ่มการกันสำรองหนี้สูญ
โดย การเติบโตของสินเชื่อ รวมถึง รายรับอื่นนอกจากดอกเบี้ยของธนาคารอาจลดลง หากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
การพิจารณาจึงต้องพิจารณาในรายละเอียดของแต่ละธนาคาร รวมถึงต้องติดตามข้อมูล
คำเตือนและคำชี้แจง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เป็นแต่ความเห็นส่วนตัวไม่ใช่คำแนะนำในการลงทุน อาจผิดพลาดได้ ควรศึกษาด้วยตนเอง
อย่าลืมพิจารณาปัจจัยภายในประเทศรวมถึงปัจจัยเฉพาะสำหรับหุ้นแต่ละตัว
**********
ค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้นในวันจันทร์ ขณะที่ Bank of America พุ่งขึ้นด้วยผลประกอบการที่ดี
ผลประกอบการไตรมาส 3 ของ Bank of America ดีกว่าคาดการณ์
บริษัทรายงานการซื้อขายตราสารหนี้ที่ออกมาดีเกินคาดและรายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจากตลาดที่ผันผวนและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น
เช่นเดียวกับคู่แข่งใน Wall Street รายรับจากวาณิชธนกิจลดลงอย่างมาก
ฤดูกาลผลประกอบการไตรมาส 3 ยังคงดำเนินต่อไปในวันจันทร์ โดยผลจากBank of America ( BAC ) และCharles Schwab ( SCHW ) ถัดไป
Goldman Sachs ( GS ) Johnson & Johnson ( JNJ ) และ Netflix ( NFLX ) รายงานรายได้ในวันอังคาร
ส่วนผลประกอบการของ Tesla คือวันพุธ
Bank of America กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่ากำไรและรายรับรายไตรมาสเหนือความคาดหมายจากการซื้อขายตราสารหนี้ที่ออกมาดีเกินคาดและรายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจากตลาดที่ผันผวนและอัตราที่สูงขึ้น
สิ่งที่บริษัทรายงานเมื่อเปรียบเทียบกับสิ่งที่นักวิเคราะห์คาดหวัง
กำไรต่อหุ้น: 81 เซนต์เทียบกับที่คาดไว้ 77 เซนต์
รายได้: 24.61 พันล้านดอลลาร์ ปรับแล้ว เทียบกับที่คาดไว้ 23.57 พันล้านดอลลาร์
Bank of America กล่าวในแถลงการณ์ว่ากำไรในไตรมาส 3 ลดลง 8% สู่ 7.1 พันล้านดอลลาร์หรือ 81 เซนต์ต่อหุ้น เนื่องจากบริษัทตั้งสำรองเผื่อขาดทุนจากสินเชื่อ 898 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสนี้ รายรับสุทธิจากดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้นเป็น24.61 พันล้านดอลลาร์แบบ non-GAAP
หุ้นธนาคารเพิ่มขึ้น 6.1%
Bank of America ควรจะเป็นหนึ่งในผู้รับผลประโยชน์หลักของการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยของ ธนาคารกลางสหรัฐ Federal Reserve รวมถึง JPMorgan Chase และ Wells Fargo กำลังสร้างรายได้มากขึ้นตามอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ทำให้พวกเขาสร้างผลกำไรมากขึ้นจากกิจกรรมหลักของพวกเขาในการฝากเงินและปล่อยสินเชื่อ
CEO ของ Bank of America Brian Moynihan กล่าว “ลูกค้าผู้บริโภคในสหรัฐฯ ของเรายังคงมีความยืดหยุ่น แม้ว่าการเติบโตจะช้าลง ระดับการใช้จ่าย และยังคงรักษาจำนวนเงินฝากที่สูงขึ้น” ในข่าวประชาสัมพันธ์ “ทั่วทั้งธนาคาร เราให้สินเชื่อเพิ่มขึ้น 12% ในปีที่แล้ว ในขณะที่เราส่งมอบทรัพยากรทางการเงินเพื่อสนับสนุนลูกค้าของเรา”
รายรับจากดอกเบี้ยสุทธิที่ธนาคารพุ่งขึ้น 24% เป็น 13.87 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสนี้ สูงกว่าที่ StreetAccount ประมาณการไว้ที่ 13.6 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจาก
อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นในไตรมาสนี้และการปล่อยสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น
อัตรากำไรสุทธิซึ่งเป็นตัวชี้วัดความสามารถในการทำกำไรที่สำคัญสำหรับนักลงทุนธนาคาร เพิ่มขึ้นเป็น 2.06% จาก 1.86% ในไตรมาสที่สองของปีนี้ โดยขยับขึ้นจากประมาณการของนักวิเคราะห์ที่ 2.00%
รายรับจากการซื้อขายตราสารหนี้เพิ่มขึ้น 27% จากปีก่อนหน้าเป็น 2.6 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 2.24 พันล้านดอลลาร์ มากกว่ารายได้ชดเชยหุ้นที่ลดลง 4% เป็น 1.5 พันล้านดอลลาร์ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 1.61 พันล้านดอลลาร์
เช่นเดียวกับคู่แข่งในวอลล์สตรีท รายรับจากวาณิชธนกิจลดลงอย่างมาก โดยลดลงประมาณ 46% สู่ 1.2 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 1.13 พันล้านดอลลาร์เล็กน้อย
ที่น่าสังเกตคือ การตั้งสำรองสำหรับกันหนี้เสียที่เปลี่ยนแปลงไปของธนาคารแสดงให้เห็นว่าบริษัทเริ่มที่จะคำนึงถึงแนวโน้มเศรษฐกิจที่เลวร้ายมากขึ้น
ในขณะที่ Bank of America ปล่อยเงินสำรอง 1.1 พันล้านดอลลาร์ในช่วงเดียวกันของปีก่อน ในไตรมาสที่สาม บริษัทต้องสร้างเงินสำรอง 378 ล้านดอลลาร์ นอกเหนือจากการเพิ่มขึ้น 12% ของการเรียกเก็บเงินสุทธิสำหรับสินเชื่อที่ไม่ถูกต้องเป็น 520 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสนี้ ซึ่งคิดเป็นการตั้งสำรอง 898 ล้านดอลลาร์
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว JPMorgan และ Wells Fargo ทำได้เหนือความคาดหมายสำหรับผลกำไรและรายได้ในไตรมาสที่สามโดยการสร้างรายได้ดอกเบี้ยที่ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ ส่วน Citigroup ยังเอาชนะการประมาณการของนักวิเคราะห์ ขณะที่ Morgan Stanley พลาดเนื่องจากตลาดที่ผันผวนส่งผลกระทบต่อธุรกิจการจัดการการลงทุน
https://www.cnbc.com/2022/10/17/bank-of-america-bac-q3-2022-earnings.html
https://www.investors.com/market-trend/stock-market-today/dow-jones-futures-rally-as-bank-of-america-jumps-on-earnings-apple-called-top-pick/?src=A00220 
ผลประกอบการไตรมาส 3 ของ Bank of America ดีกว่าคาดการณ์ จากอัตราดอกเบี้ย การซื้อขายตราสารหนี้
สรุปความเห็นส่วนตัว:
คล้ายกับกระทู้ก่อนหน้า https://ppantip.com/topic/41683926
ธนาคาร จะได้ ประโยชน์ของอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น
แต่ต้องเพิ่มการกันสำรองหนี้สูญ
โดย การเติบโตของสินเชื่อ รวมถึง รายรับอื่นนอกจากดอกเบี้ยของธนาคารอาจลดลง หากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
การพิจารณาจึงต้องพิจารณาในรายละเอียดของแต่ละธนาคาร รวมถึงต้องติดตามข้อมูล
คำเตือนและคำชี้แจง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
**********
ค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้นในวันจันทร์ ขณะที่ Bank of America พุ่งขึ้นด้วยผลประกอบการที่ดี
ผลประกอบการไตรมาส 3 ของ Bank of America ดีกว่าคาดการณ์
บริษัทรายงานการซื้อขายตราสารหนี้ที่ออกมาดีเกินคาดและรายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจากตลาดที่ผันผวนและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น
เช่นเดียวกับคู่แข่งใน Wall Street รายรับจากวาณิชธนกิจลดลงอย่างมาก
ฤดูกาลผลประกอบการไตรมาส 3 ยังคงดำเนินต่อไปในวันจันทร์ โดยผลจากBank of America ( BAC ) และCharles Schwab ( SCHW ) ถัดไป
Goldman Sachs ( GS ) Johnson & Johnson ( JNJ ) และ Netflix ( NFLX ) รายงานรายได้ในวันอังคาร
ส่วนผลประกอบการของ Tesla คือวันพุธ
Bank of America กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่ากำไรและรายรับรายไตรมาสเหนือความคาดหมายจากการซื้อขายตราสารหนี้ที่ออกมาดีเกินคาดและรายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจากตลาดที่ผันผวนและอัตราที่สูงขึ้น
สิ่งที่บริษัทรายงานเมื่อเปรียบเทียบกับสิ่งที่นักวิเคราะห์คาดหวัง
กำไรต่อหุ้น: 81 เซนต์เทียบกับที่คาดไว้ 77 เซนต์
รายได้: 24.61 พันล้านดอลลาร์ ปรับแล้ว เทียบกับที่คาดไว้ 23.57 พันล้านดอลลาร์
Bank of America กล่าวในแถลงการณ์ว่ากำไรในไตรมาส 3 ลดลง 8% สู่ 7.1 พันล้านดอลลาร์หรือ 81 เซนต์ต่อหุ้น เนื่องจากบริษัทตั้งสำรองเผื่อขาดทุนจากสินเชื่อ 898 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสนี้ รายรับสุทธิจากดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้นเป็น24.61 พันล้านดอลลาร์แบบ non-GAAP
หุ้นธนาคารเพิ่มขึ้น 6.1%
Bank of America ควรจะเป็นหนึ่งในผู้รับผลประโยชน์หลักของการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยของ ธนาคารกลางสหรัฐ Federal Reserve รวมถึง JPMorgan Chase และ Wells Fargo กำลังสร้างรายได้มากขึ้นตามอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ทำให้พวกเขาสร้างผลกำไรมากขึ้นจากกิจกรรมหลักของพวกเขาในการฝากเงินและปล่อยสินเชื่อ
CEO ของ Bank of America Brian Moynihan กล่าว “ลูกค้าผู้บริโภคในสหรัฐฯ ของเรายังคงมีความยืดหยุ่น แม้ว่าการเติบโตจะช้าลง ระดับการใช้จ่าย และยังคงรักษาจำนวนเงินฝากที่สูงขึ้น” ในข่าวประชาสัมพันธ์ “ทั่วทั้งธนาคาร เราให้สินเชื่อเพิ่มขึ้น 12% ในปีที่แล้ว ในขณะที่เราส่งมอบทรัพยากรทางการเงินเพื่อสนับสนุนลูกค้าของเรา”
รายรับจากดอกเบี้ยสุทธิที่ธนาคารพุ่งขึ้น 24% เป็น 13.87 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสนี้ สูงกว่าที่ StreetAccount ประมาณการไว้ที่ 13.6 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นในไตรมาสนี้และการปล่อยสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น
อัตรากำไรสุทธิซึ่งเป็นตัวชี้วัดความสามารถในการทำกำไรที่สำคัญสำหรับนักลงทุนธนาคาร เพิ่มขึ้นเป็น 2.06% จาก 1.86% ในไตรมาสที่สองของปีนี้ โดยขยับขึ้นจากประมาณการของนักวิเคราะห์ที่ 2.00%
รายรับจากการซื้อขายตราสารหนี้เพิ่มขึ้น 27% จากปีก่อนหน้าเป็น 2.6 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 2.24 พันล้านดอลลาร์ มากกว่ารายได้ชดเชยหุ้นที่ลดลง 4% เป็น 1.5 พันล้านดอลลาร์ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 1.61 พันล้านดอลลาร์
เช่นเดียวกับคู่แข่งในวอลล์สตรีท รายรับจากวาณิชธนกิจลดลงอย่างมาก โดยลดลงประมาณ 46% สู่ 1.2 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 1.13 พันล้านดอลลาร์เล็กน้อย
ที่น่าสังเกตคือ การตั้งสำรองสำหรับกันหนี้เสียที่เปลี่ยนแปลงไปของธนาคารแสดงให้เห็นว่าบริษัทเริ่มที่จะคำนึงถึงแนวโน้มเศรษฐกิจที่เลวร้ายมากขึ้น
ในขณะที่ Bank of America ปล่อยเงินสำรอง 1.1 พันล้านดอลลาร์ในช่วงเดียวกันของปีก่อน ในไตรมาสที่สาม บริษัทต้องสร้างเงินสำรอง 378 ล้านดอลลาร์ นอกเหนือจากการเพิ่มขึ้น 12% ของการเรียกเก็บเงินสุทธิสำหรับสินเชื่อที่ไม่ถูกต้องเป็น 520 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสนี้ ซึ่งคิดเป็นการตั้งสำรอง 898 ล้านดอลลาร์
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว JPMorgan และ Wells Fargo ทำได้เหนือความคาดหมายสำหรับผลกำไรและรายได้ในไตรมาสที่สามโดยการสร้างรายได้ดอกเบี้ยที่ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ ส่วน Citigroup ยังเอาชนะการประมาณการของนักวิเคราะห์ ขณะที่ Morgan Stanley พลาดเนื่องจากตลาดที่ผันผวนส่งผลกระทบต่อธุรกิจการจัดการการลงทุน
https://www.cnbc.com/2022/10/17/bank-of-america-bac-q3-2022-earnings.html
https://www.investors.com/market-trend/stock-market-today/dow-jones-futures-rally-as-bank-of-america-jumps-on-earnings-apple-called-top-pick/?src=A00220