ป่าลุ่มน้ำสาละวิน ชายแดนสยาม เป็นอีกป่าหนึ่งที่มีเรื่องราวน่าอัศจรรย์ใจในสิ่งลี้ลับอาถรรพ์ป่า แต่เพราะความเป็นนายพรานที่ต้องหากินอยู่กับผืนป่า ในลุมน้ำอันกว้างใหญ่นี้ สองพรานหนุ่มจึงชวนกันเข้าป่าเพื่อไปล่าสัตว์ แต่แล้วพวกเขาก็รู้ตัวว่า ตนเองไม่ได้เป็นผู้ล่าแต่เพียงอย่างเดียว ยังตกเป็นผู้ถูกล่าเสียเองอีกด้วย
ผจญภัยป่าสาละวิน
ล. วิลิศมาหรา
ป่าทึบลุ่มแม่น้ำสาละวินในเขตอำเภอแม่สะเรียง ติดชายแดนพม่า สมัยเมื่อเกือบร้อยปีก่อน นอกจากมีสัตว์ป่าชุกชุมแล้ว ก็ยังมีผีป่าหลายชนิดแฝงตัวอยู่ในพงลึก คอยเล่นงานเหล่านายพรานหรือคนเดินป่า ที่หลงเข้ามาในอาณาบริเวณของพวกมัน พวกผีเหล่านี้มีอิทธิฤทธิ์หลายอย่าง เช่น สามารถร่ายมนตร์สะกดให้คนเดินป่าหรือบรรดานายพราน นอนหลับใหลไม่ได้สติ ปล่อยให้พวกมันย่องเข้ามาดูดเลือดกินจนหมดตัว หรือควักเครื่องในเอาไปกินได้อย่างสบาย บางทีก็แปลงตัวมาเป็นสัตว์ที่นายพรานอยากจะล่า ล่อให้พรานที่อ่อนประสบการณ์เข้าไปติดกับ เพื่อให้ถูกสัตว์ร้ายทำอันตรายจนถึงตาย พวกผีป่าผีโป่งเหล่านี้ บางทีพวกมันก็อยู่รวมกันเป็นกลุ่ม ออกหากินเป็นฝูง อย่างเช่นพวกผีลิงค่างหรือผีค้างคาว
แต่แม้จะรู้ว่าในป่ามีอันตรายอยู่มากมาย หากเพราะความจำเป็นที่จะต้องเข้าป่า เพื่อไปหาของป่าและล่าสัตว์ พรานถมจึงจำต้องออกจากบ้าน ไปชวนเพื่อนพรานชื่อพรานเยี่ยม ไปเข้าป่าล่าสัตว์ตามวิสัยของนายพราน โดยที่พรานทั้งสองไม่ได้นึกหวาดเกรงต่ออาถรรพ์ของป่ามากเท่าใด เพราะชีวิตผูกพันอยู่กับป่ามาตั้งแต่ยังเล็ก และต่างก็มีคาถาอาคมที่เข้มขลัง ประกอบกับจิตใจอันห้าวหาญ พรานถมมีของขลังเป็นยันต์แปดทิศ ที่มีอานุภาพกันผีป่าได้ทุกชนิด ส่วนพรานเยี่ยมก็สักยันตร์เสือคร้ามไว้กลางอก ยันตร์นี้มีอานุภาพข่มสัตว์ร้ายไม่ให้เข้าใกล้ ในยามที่ตัวเองต้องอยู่ในป่า
คนทั้งสองเดินทางเข้ามาถึงกลางป่าด้วยความชำนาญ จุดหมายคือโป่งดินที่มีสัตว์สารพัดชนิดมาชุมนุมกัน โดยเฉพาะเก้งกวางและหมูป่า เพื่อจะขึ้นไปขัดห้างยิงสัตว์ แต่ระยะทางไปถึงโป่งยังเหลืออีกไกล มาได้แค่ครึ่งทางก็เป็นเวลาที่พระอาทิตย์กำลังจะตกดินพอดี ทั้งคู่จึงมองหาที่พักค้างแรม พรานเยี่ยมเห็นมีถ้ำอยู่แห่งหนึ่ง ปากถ้ำไม่กว้างมากนัก อยู่ติดกับลำธารที่มีน้ำลึกแค่เข่า เขาจึงตัดสินใจชวนพรานถมให้พักค้างคืนกันในถ้ำ เพราะน่าจะสบายกว่านอนบนต้นไม้ เมื่อหาฟืนมาก่อกองไฟให้ความอบอุ่นและแสงสว่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว พรานถมก็เขียนยันต์แปดทิศไว้รอบทิศ ที่พวกตนจะนอนค้างแรมกัน ลงคาถาปลุกเสกกำกับ เพื่อให้ยันตร์ช่วยพิทักษ์ภัยจากพวกสัตว์ร้ายและผีป่า ทั้งหมดนี้ต้องลงมือทำก่อนจะกินข้าวและนอนพักผ่อนกัน
“ทางไปโป่งเส้นนี้มันดูแปลก ๆ อยู่นะ ไอ้ถม มันดูรกเหมือนไม่เคยมีใครใช้เดินทางมาหลายปี เถาวัลย์ หนามเล็บมือนางเลื้อยพาดทางเต็มไปหมด”
หลังกินข้าวเย็นกันเสร็จ พรานเยี่ยมก็เอ่ยกับเพื่อนพราน ถึงการเดินทางของพวกตนที่ผ่านมา ซึ่งมันน่าประหลาดใจ เขาล้วงบุหรี่ขี้โยมวนโตออกมาจุดสูบ ใช้ควันของมันไล่แมลงที่บินมารบกวน กลิ่นยาฉุนฟุ้งตลบไปทั้งถ้ำ
“เส้นทางนี้ปกติเป็นทางผ่านของกองทัพมดลำเลียงของผิดกฎหมายเดินผ่านมา แต่ข่าวว่าพวกมันเปลี่ยนไปใช้เส้นทางอื่นกันแล้ว ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน”
“หรือว่าจะมีสัตว์ร้ายอย่างพวกเสือหรือหมีควายออกมาทำร้ายพวกมัน จนพวกมันต้องเปลี่ยนเส้นทางใหม่”
“ข้าไม่แน่ใจ แต่ก็เดาว่าอย่างนั้นนะ ป่าทึบแถบนี้ มักจะมีพวกเสือพวกหมีพลัดหลงมาจากฝั่งพม่า ตอนไปล่าสัตว์ทางป่าฝั่งนั้น ข้าเองก็เคยเจอเสือสมิงเข้าคราวหนึ่ง”
พรานเยี่ยมรำพึง ทำเอาพรานถมถึงกับหูผึ่ง เพราะแม้จะเข้าป่าล่าสัตว์มาหลายปี เจอสัตว์ร้ายอย่างเสือหรือหมี หรือแม้แต่ช้างป่าที่ดุร้ายมาหลายครั้ง รวมถึงพวกผีป่า เขาเองก็เคยเจอมาหมดแล้ว เว้นแต่สิ่งลี้ลับแบบเสือสมิงที่ยังไม่เคยเจอมาก่อนเลย
“เอ็งเจอมันยังไง เล่าให้ข้าฟังหน่อยซิ”
ติดตามเรื่องราวของพรานทั้งสองได้ที่ลิ้งค์นี้ค่ะ
https://youtu.be/okqzVUhGxkI
ผจญภัยป่าสาละวิน ตอน 1
แต่แม้จะรู้ว่าในป่ามีอันตรายอยู่มากมาย หากเพราะความจำเป็นที่จะต้องเข้าป่า เพื่อไปหาของป่าและล่าสัตว์ พรานถมจึงจำต้องออกจากบ้าน ไปชวนเพื่อนพรานชื่อพรานเยี่ยม ไปเข้าป่าล่าสัตว์ตามวิสัยของนายพราน โดยที่พรานทั้งสองไม่ได้นึกหวาดเกรงต่ออาถรรพ์ของป่ามากเท่าใด เพราะชีวิตผูกพันอยู่กับป่ามาตั้งแต่ยังเล็ก และต่างก็มีคาถาอาคมที่เข้มขลัง ประกอบกับจิตใจอันห้าวหาญ พรานถมมีของขลังเป็นยันต์แปดทิศ ที่มีอานุภาพกันผีป่าได้ทุกชนิด ส่วนพรานเยี่ยมก็สักยันตร์เสือคร้ามไว้กลางอก ยันตร์นี้มีอานุภาพข่มสัตว์ร้ายไม่ให้เข้าใกล้ ในยามที่ตัวเองต้องอยู่ในป่า
คนทั้งสองเดินทางเข้ามาถึงกลางป่าด้วยความชำนาญ จุดหมายคือโป่งดินที่มีสัตว์สารพัดชนิดมาชุมนุมกัน โดยเฉพาะเก้งกวางและหมูป่า เพื่อจะขึ้นไปขัดห้างยิงสัตว์ แต่ระยะทางไปถึงโป่งยังเหลืออีกไกล มาได้แค่ครึ่งทางก็เป็นเวลาที่พระอาทิตย์กำลังจะตกดินพอดี ทั้งคู่จึงมองหาที่พักค้างแรม พรานเยี่ยมเห็นมีถ้ำอยู่แห่งหนึ่ง ปากถ้ำไม่กว้างมากนัก อยู่ติดกับลำธารที่มีน้ำลึกแค่เข่า เขาจึงตัดสินใจชวนพรานถมให้พักค้างคืนกันในถ้ำ เพราะน่าจะสบายกว่านอนบนต้นไม้ เมื่อหาฟืนมาก่อกองไฟให้ความอบอุ่นและแสงสว่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว พรานถมก็เขียนยันต์แปดทิศไว้รอบทิศ ที่พวกตนจะนอนค้างแรมกัน ลงคาถาปลุกเสกกำกับ เพื่อให้ยันตร์ช่วยพิทักษ์ภัยจากพวกสัตว์ร้ายและผีป่า ทั้งหมดนี้ต้องลงมือทำก่อนจะกินข้าวและนอนพักผ่อนกัน
“ทางไปโป่งเส้นนี้มันดูแปลก ๆ อยู่นะ ไอ้ถม มันดูรกเหมือนไม่เคยมีใครใช้เดินทางมาหลายปี เถาวัลย์ หนามเล็บมือนางเลื้อยพาดทางเต็มไปหมด”
หลังกินข้าวเย็นกันเสร็จ พรานเยี่ยมก็เอ่ยกับเพื่อนพราน ถึงการเดินทางของพวกตนที่ผ่านมา ซึ่งมันน่าประหลาดใจ เขาล้วงบุหรี่ขี้โยมวนโตออกมาจุดสูบ ใช้ควันของมันไล่แมลงที่บินมารบกวน กลิ่นยาฉุนฟุ้งตลบไปทั้งถ้ำ
“เส้นทางนี้ปกติเป็นทางผ่านของกองทัพมดลำเลียงของผิดกฎหมายเดินผ่านมา แต่ข่าวว่าพวกมันเปลี่ยนไปใช้เส้นทางอื่นกันแล้ว ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน”
“หรือว่าจะมีสัตว์ร้ายอย่างพวกเสือหรือหมีควายออกมาทำร้ายพวกมัน จนพวกมันต้องเปลี่ยนเส้นทางใหม่”
“ข้าไม่แน่ใจ แต่ก็เดาว่าอย่างนั้นนะ ป่าทึบแถบนี้ มักจะมีพวกเสือพวกหมีพลัดหลงมาจากฝั่งพม่า ตอนไปล่าสัตว์ทางป่าฝั่งนั้น ข้าเองก็เคยเจอเสือสมิงเข้าคราวหนึ่ง”
พรานเยี่ยมรำพึง ทำเอาพรานถมถึงกับหูผึ่ง เพราะแม้จะเข้าป่าล่าสัตว์มาหลายปี เจอสัตว์ร้ายอย่างเสือหรือหมี หรือแม้แต่ช้างป่าที่ดุร้ายมาหลายครั้ง รวมถึงพวกผีป่า เขาเองก็เคยเจอมาหมดแล้ว เว้นแต่สิ่งลี้ลับแบบเสือสมิงที่ยังไม่เคยเจอมาก่อนเลย
“เอ็งเจอมันยังไง เล่าให้ข้าฟังหน่อยซิ”
ติดตามเรื่องราวของพรานทั้งสองได้ที่ลิ้งค์นี้ค่ะ https://youtu.be/okqzVUhGxkI