ส.ส.อุบลฯ ชี้กฎเหล็ก 180 วันไม่ชัด น้ำท่วมหนักสุดในรอบ 44 ปี ทำได้แค่มอง
https://www.matichon.co.th/politics/news_3609854
ส.ส.อุบลฯ เพื่อไทย ชี้ กฎเหล็ก 180 วัน กกต. ส.ส. ทำได้แค่มอง ช่วย ปชช.ไม่ได้ หลังประสบน้ำท่วม เกือบหนักสุดในรอบ 44 ปี วอนทุกฝ่ายเร่งช่วย
เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม น.ส.
กิตติ์ธัญญา วาจาดี ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า น้ำท่วมใน อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ระดับยังคงท่วมสูงเข้าท่วมพื้นที่บ้านเรือนประชาชนจมมิดหลังคา พื้นที่เศรษฐกิจ ที่ดินทำกินของเกษตรกรถูกน้ำท่วมเสียหาย 100% ถนนที่ใช้สัญจรเข้าออกภายใน อ.วารินชำราบ จากที่มี 4 เส้นทาง เหลือเพียง 1 เส้นทาง หากมีมวลน้ำจากเขื่อนอุบลรัตน์และฝายจาก จ.ศรีสะเกษ เข้ามาเพิ่ม จะทำให้ประชาชนต้องใช้เรือสัญจรแทนรถยนต์ ขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำมูลสูงเกือบเท่าปี 2521 ซึ่งอยู่ที่ 117.76 เมตร แต่วันนี้อยู่ที่ 116.47 เมตร ตำบลที่ไม่เคยถูกน้ำท่วมก็ท่วมเต็มพื้นที่
น.ส.
กิตติ์ธัญญากล่าวต่อว่า พี่น้องประชาชนกว่า 1,500 ครอบครัว ต้องอพยพออกจากพื้นที่มาอยู่ที่ศูนย์อพยพชั่วคราว ตอนนี้น้ำท่วมกระจายไปอำเภออื่นๆ แล้ว เจ้าหน้าที่กู้ภัยและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก็กระจายกันเข้าไปให้ความช่วยเหลือ แต่ก็ยังไม่เพียงพอและเต็มไปด้วยความยากลำบาก เพราะกระแสน้ำมาแรงมาก มีความอันตรายและมีความเสี่ยงเช่นกัน
น.ส.
กิตติ์ธัญญากล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ ด้วยกฎเหล็ก 180 วันของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทำให้ผู้แทนราษฎร ที่ประชาชนเลือกเข้ามาทำงาน หนักใจมาก เพราะอยากช่วยเหลือแต่ต้องเคารพกติกา ที่ผ่านมาทั้งในสถานการณ์น้ำท่วมในปี 2562 และการระบาดของโควิด-19 ส.ส.ยังสามารถให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้เต็มที่ เช่น นำอาหาร ของใช้จำเป็น ยารักษาโรค รถยนต์ขนคนออกจากพื้นที่ แต่ตอนนี้ไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้ เพราะไม่มีความชัดเจนมากพอว่าสามารถทำได้หรือไม่
“อยากให้ผู้มีอำนาจแคร์ประชาชนบ้าง ประชาชนคือเจ้านายของ ส.ส. แต่วันหนึ่งเมื่อผู้แทนราษฎรจำเป็นต้องหยุดช่วยเหลือเจ้านายตัวเอง ทำได้แค่ยืนมอง คนที่เสียประโยชน์คือพี่น้องประชาชน จึงอยากร้องขอผู้มีอำนาจทุกภาคส่วน ไม่จำเป็นต้องเป็นเพื่อไทยเท่านั้น แต่ใครที่มีองคาพยพ มีของบรรเทาทุกข์ พวกท่านสามารถช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้ทันที ก็อยากให้ทุกคนมาช่วยกัน” น.ส.กิตติ์ธัญญากล่าว
น.ส.กิตติ์ธัญญากล่าวด้วยว่า คนที่น่าสงสารที่สุดคือพี่น้องประชาชนที่นอนกางเต็นท์ อยู่ๆ น้ำมา รองเท้าลอยหายไปกับน้ำ ตอนนี้ลมหนาวพัดเข้ามาแล้ว เข้าใกล้สู่ฤดูหนาว ประชาชนต้องทนทุกข์กับน้ำท่วมและความหนาวในเวลาเดียวกัน อยากให้คนที่มีหน้าที่ตรงนี้มาลองเป็นพี่น้องประชาชนดูว่าพวกเขาลำบากแค่ไหน วันนี้ถ้าเราได้จัดทำตามแผนโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท คงไม่ต้องมีพี่น้องประชาชนทนทุกข์ลำบาก ไม่มีการเปิดรับบริจาคใดๆแล้ว” น.ส.
กิตติ์ธัญญากล่าว
ขณะที่ นาย
สมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรค พท. กล่าวว่า วันนี้ปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นมากกว่าเมื่อวาน (9 ตุลาคม) จึงได้ประสานความร่วมมือกับกรมชลประทานพื้นที่ และได้รับแจ้งมาว่าน้ำจะลดลงภายใน 1-2 วันนี้ แต่เท่าที่ติดตามปริมาณน้ำในพื้นที่รับน้ำใกล้เคียง ทั้งลำน้ำชีและเขื่อนอุบลรัตน์ ยังมีปริมาณน้ำไหลเข้ามาเติมเรื่อยๆ จึงยังต้องจับตาสถานการณ์น้ำท่วมใน จ.อุบลราชธานีอย่างใกล้ชิด อย่าได้วางใจ ที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือ อ.วารินชำราบ ถนนใช้การได้เส้นทางเดียว โดยใช้บิ๊กแบ็คในการกันกระแสน้ำไหลแรง ป้องกันน้ำเชี่ยวกราก ซึ่ง ส.ส.เขต ของพรรค พท. ทุกคนได้ประสานงานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอย่างใกล้ชิด ในการติดตามสถานการณ์ เป็นห่วงก็แต่พี่น้องประชาชนที่ถูกน้ำท่วมต้องทิ้งบ้าน ทิ้งที่นาเอาชีวิตตนเองให้รอดก่อน
'นภาพร' อัดตู่ กวาดล้างยาเสพติด เหมือนนั่งนายกฯปีแรก คนเดือดร้อนน้ำท่วม ผู้นำมัวแข่งแย่งซีน
https://www.matichon.co.th/politics/news_3609873
‘นภาพร’ ชี้เป็นเรื่องตลกเศร้า ‘ประยุทธ์’ เป็นนายกฯขึ้นปีที่ 9 แต่ประกาศกวาดล้างยาเสพติดเหมือนเพิ่งอยู่ปีแรก เย้ย ‘บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม’ สร้างดาวคนละดวง แต่เป็นดวงที่ประชาชนไม่ต้องการแล้วทั้งคู่
เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม น.ส.
นภาพร เพ็ชร์จินดา รองหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เปิดเผยว่า เห็นว่ารัฐบาลปรับ ครม.ไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะปัญหาทั้งหมดอยู่ที่ตัว พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ถ้าไม่เปลี่ยนผู้นำปัญหาต่างๆ ก็ยังวนเวียนอยู่ที่เดิมเหมือน 8 ปีที่ผ่านมา ตอนนี้แม้แต่ในพรรคร่วมรัฐบาลก็ยังไม่มีใครกล้าพูดว่าจะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ให้เป็นนายกฯต่ออีก 2 ปี โดยเฉพาะ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ที่แสดงท่าทีชัดเจนว่าจะขอรับช่วงเป็นแคนดิเดตนายกฯต่อ แต่ดูเหมือนว่าบิ๊กตู่คงจะไม่ยอมเหลืออีกครึ่งเทอมก็จะเอาจึงทำให้ลูกพรรคสับสน ตอนนี้ลุงตู่กับลุงป้อมจึงดูเหมือนจะสร้างดาวกันคนละดวง แต่เป็นดวงที่ประชาชนไม่ต้องการแล้วทั้งคู่
น.ส.
นภาพรกล่าวต่อว่า ตอนนี้ชาวบ้านหลายจังหวัดเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสจากภัยน้ำท่วมและต้องการความช่วยเหลือเฉพาะหน้าอย่างเร่งด่วน รวมทั้งการชดเชยเยียวยาจากรัฐบาลแต่กลับต้องผิดหวังเพราะ พล.อ.ประยุทธ์ไม่สามารถสร้างความมั่นใจได้เลยว่าปัญหาของพวกเขาจะได้รับการแก้ไขอย่างไรและเมื่อไร ยังคงใช้สไตล์เดิม 8 ปีไม่เคยเปลี่ยน นั่นคือลงพื้นที่ไปตรวจราชการแต่แฝงการหาเสียงมากกว่าไปแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน ตอนนี้บางจังหวัดน้ำท่วมหนักมาเกือบสองเดือนแล้ว แต่ชาวบ้านก็ไม่เคยเห็นหน้าผู้นำ หรือไม่เคยได้ยินแผนการระบายน้ำอย่างเป็นระบบ นอกจากข่าวการแย่งซีนกันเองของบิ๊กตู่กับบิ๊กป้อม
“พล.อ.ประยุทธ์จึงกลายเป็นผู้นำที่น่าเวทนา ก่อนหน้านี้ก็อ้างนายกฯขาดตอนเพื่ออยู่ต่อ ตอนนี้แม้แต่เป็นนายกฯแค่ 2 ปี หรือครึ่งเทอมก็จะเอา ทั้งๆ ที่ตลอด 8 ปี ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์มีโอกาสมากกว่าอดีตนายกฯคนอื่นๆ ในการใช้อำนาจพิเศษจัดการปัญหาหลายอย่างที่หมักหมมมานาน เช่น การกวาดล้างยาเสพติด หวยเถื่อน หรืออาวุธเถื่อน แต่ พล.อ.ประยุทธ์ก็ปล่อยให้ผ่านไปอย่างน่าเสียดาย
“พอเกิดเหตุการณ์รุนแรงที่หนองบัวลำภูก็ทำเป็นขึงขังเอาจริงเอาจัง จะกวาดล้างยาเสพติดขนานใหญ่เหมือนเพิ่งเข้ามาเป็นนายกฯปีแรก แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถทำได้จริง เพราะปัญหาอยู่ที่ตัวผู้นำไร้วิสัยทัศน์เดินตามก้นระบบราชการ ไร้นโยบายที่ถูกต้องจึงแก้อะไรไม่ได้ นอกจากยาเสพติดจะเพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อยๆ” น.ส.
นภาพรกล่าว
น.ส.
นภาพรกล่าวต่อว่า แม้ศาลรัฐธรรมนูญจะให้ไปต่อ แต่ในทางการเมืองถือว่า พล.อ.
ประยุทธ์หมดเวลาแล้วเพราะไม่หลงเหลือความเชื่อถือศรัทธาใดๆ จากประชาชนอีก เช่น การแก้ปัญหาความยากจน วิธีการของรัฐบาลชุดนี้ก็คือทำให้ตัวเลขคนจนเพิ่มขึ้นถึง 20 ล้านคน แล้วบอกว่าเป็นความสำเร็จ หรือการจับกุมคดียาเสพติดให้ได้จำนวนมากแล้วบอกว่าเป็นความสำเร็จของการปราบปราม ทั้งที่มันควรจะหมดไปตั้งแต่ปีแรกที่ พล.อ.ประยุทธ์เป็น คสช.แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ยิ่งอยู่นานชาวบ้านยิ่งยากจน ยาเสพติด หวยใต้ดิน อาชญากรรมจี้ปล้นเกลื่อนเมือง จึงไม่รู้ว่าจะขออยู่ต่อไปทำไมอีก 2 ปี แค่ 8 ปี นอกจากชาวบ้านจะเกินทนแล้ว ตอนนี้แม้แต่ลูกพรรคตัวเองก็คงจะเกินทนเช่นเดียวกัน เพราะมีแต่ข่าวการย้ายพรรคหนี
JJNY : ส.ส.อุบลฯชี้กฎเหล็ก 180 วันไม่ชัด│'นภาพร'อัดตู่กวาดล้างยาเสพติด│ค่าเงินบาทวันนี้ 37.60บาท│ลพบุรีแจ้งเตือนน้ำท่วม
https://www.matichon.co.th/politics/news_3609854
ส.ส.อุบลฯ เพื่อไทย ชี้ กฎเหล็ก 180 วัน กกต. ส.ส. ทำได้แค่มอง ช่วย ปชช.ไม่ได้ หลังประสบน้ำท่วม เกือบหนักสุดในรอบ 44 ปี วอนทุกฝ่ายเร่งช่วย
เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม น.ส.กิตติ์ธัญญา วาจาดี ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า น้ำท่วมใน อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ระดับยังคงท่วมสูงเข้าท่วมพื้นที่บ้านเรือนประชาชนจมมิดหลังคา พื้นที่เศรษฐกิจ ที่ดินทำกินของเกษตรกรถูกน้ำท่วมเสียหาย 100% ถนนที่ใช้สัญจรเข้าออกภายใน อ.วารินชำราบ จากที่มี 4 เส้นทาง เหลือเพียง 1 เส้นทาง หากมีมวลน้ำจากเขื่อนอุบลรัตน์และฝายจาก จ.ศรีสะเกษ เข้ามาเพิ่ม จะทำให้ประชาชนต้องใช้เรือสัญจรแทนรถยนต์ ขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำมูลสูงเกือบเท่าปี 2521 ซึ่งอยู่ที่ 117.76 เมตร แต่วันนี้อยู่ที่ 116.47 เมตร ตำบลที่ไม่เคยถูกน้ำท่วมก็ท่วมเต็มพื้นที่
น.ส.กิตติ์ธัญญากล่าวต่อว่า พี่น้องประชาชนกว่า 1,500 ครอบครัว ต้องอพยพออกจากพื้นที่มาอยู่ที่ศูนย์อพยพชั่วคราว ตอนนี้น้ำท่วมกระจายไปอำเภออื่นๆ แล้ว เจ้าหน้าที่กู้ภัยและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก็กระจายกันเข้าไปให้ความช่วยเหลือ แต่ก็ยังไม่เพียงพอและเต็มไปด้วยความยากลำบาก เพราะกระแสน้ำมาแรงมาก มีความอันตรายและมีความเสี่ยงเช่นกัน
น.ส.กิตติ์ธัญญากล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ ด้วยกฎเหล็ก 180 วันของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทำให้ผู้แทนราษฎร ที่ประชาชนเลือกเข้ามาทำงาน หนักใจมาก เพราะอยากช่วยเหลือแต่ต้องเคารพกติกา ที่ผ่านมาทั้งในสถานการณ์น้ำท่วมในปี 2562 และการระบาดของโควิด-19 ส.ส.ยังสามารถให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้เต็มที่ เช่น นำอาหาร ของใช้จำเป็น ยารักษาโรค รถยนต์ขนคนออกจากพื้นที่ แต่ตอนนี้ไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้ เพราะไม่มีความชัดเจนมากพอว่าสามารถทำได้หรือไม่
“อยากให้ผู้มีอำนาจแคร์ประชาชนบ้าง ประชาชนคือเจ้านายของ ส.ส. แต่วันหนึ่งเมื่อผู้แทนราษฎรจำเป็นต้องหยุดช่วยเหลือเจ้านายตัวเอง ทำได้แค่ยืนมอง คนที่เสียประโยชน์คือพี่น้องประชาชน จึงอยากร้องขอผู้มีอำนาจทุกภาคส่วน ไม่จำเป็นต้องเป็นเพื่อไทยเท่านั้น แต่ใครที่มีองคาพยพ มีของบรรเทาทุกข์ พวกท่านสามารถช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้ทันที ก็อยากให้ทุกคนมาช่วยกัน” น.ส.กิตติ์ธัญญากล่าว
น.ส.กิตติ์ธัญญากล่าวด้วยว่า คนที่น่าสงสารที่สุดคือพี่น้องประชาชนที่นอนกางเต็นท์ อยู่ๆ น้ำมา รองเท้าลอยหายไปกับน้ำ ตอนนี้ลมหนาวพัดเข้ามาแล้ว เข้าใกล้สู่ฤดูหนาว ประชาชนต้องทนทุกข์กับน้ำท่วมและความหนาวในเวลาเดียวกัน อยากให้คนที่มีหน้าที่ตรงนี้มาลองเป็นพี่น้องประชาชนดูว่าพวกเขาลำบากแค่ไหน วันนี้ถ้าเราได้จัดทำตามแผนโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท คงไม่ต้องมีพี่น้องประชาชนทนทุกข์ลำบาก ไม่มีการเปิดรับบริจาคใดๆแล้ว” น.ส.กิตติ์ธัญญากล่าว
ขณะที่ นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรค พท. กล่าวว่า วันนี้ปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นมากกว่าเมื่อวาน (9 ตุลาคม) จึงได้ประสานความร่วมมือกับกรมชลประทานพื้นที่ และได้รับแจ้งมาว่าน้ำจะลดลงภายใน 1-2 วันนี้ แต่เท่าที่ติดตามปริมาณน้ำในพื้นที่รับน้ำใกล้เคียง ทั้งลำน้ำชีและเขื่อนอุบลรัตน์ ยังมีปริมาณน้ำไหลเข้ามาเติมเรื่อยๆ จึงยังต้องจับตาสถานการณ์น้ำท่วมใน จ.อุบลราชธานีอย่างใกล้ชิด อย่าได้วางใจ ที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือ อ.วารินชำราบ ถนนใช้การได้เส้นทางเดียว โดยใช้บิ๊กแบ็คในการกันกระแสน้ำไหลแรง ป้องกันน้ำเชี่ยวกราก ซึ่ง ส.ส.เขต ของพรรค พท. ทุกคนได้ประสานงานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอย่างใกล้ชิด ในการติดตามสถานการณ์ เป็นห่วงก็แต่พี่น้องประชาชนที่ถูกน้ำท่วมต้องทิ้งบ้าน ทิ้งที่นาเอาชีวิตตนเองให้รอดก่อน
'นภาพร' อัดตู่ กวาดล้างยาเสพติด เหมือนนั่งนายกฯปีแรก คนเดือดร้อนน้ำท่วม ผู้นำมัวแข่งแย่งซีน
https://www.matichon.co.th/politics/news_3609873
‘นภาพร’ ชี้เป็นเรื่องตลกเศร้า ‘ประยุทธ์’ เป็นนายกฯขึ้นปีที่ 9 แต่ประกาศกวาดล้างยาเสพติดเหมือนเพิ่งอยู่ปีแรก เย้ย ‘บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม’ สร้างดาวคนละดวง แต่เป็นดวงที่ประชาชนไม่ต้องการแล้วทั้งคู่
เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม น.ส.นภาพร เพ็ชร์จินดา รองหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เปิดเผยว่า เห็นว่ารัฐบาลปรับ ครม.ไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะปัญหาทั้งหมดอยู่ที่ตัว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ถ้าไม่เปลี่ยนผู้นำปัญหาต่างๆ ก็ยังวนเวียนอยู่ที่เดิมเหมือน 8 ปีที่ผ่านมา ตอนนี้แม้แต่ในพรรคร่วมรัฐบาลก็ยังไม่มีใครกล้าพูดว่าจะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ให้เป็นนายกฯต่ออีก 2 ปี โดยเฉพาะ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ที่แสดงท่าทีชัดเจนว่าจะขอรับช่วงเป็นแคนดิเดตนายกฯต่อ แต่ดูเหมือนว่าบิ๊กตู่คงจะไม่ยอมเหลืออีกครึ่งเทอมก็จะเอาจึงทำให้ลูกพรรคสับสน ตอนนี้ลุงตู่กับลุงป้อมจึงดูเหมือนจะสร้างดาวกันคนละดวง แต่เป็นดวงที่ประชาชนไม่ต้องการแล้วทั้งคู่
น.ส.นภาพรกล่าวต่อว่า ตอนนี้ชาวบ้านหลายจังหวัดเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสจากภัยน้ำท่วมและต้องการความช่วยเหลือเฉพาะหน้าอย่างเร่งด่วน รวมทั้งการชดเชยเยียวยาจากรัฐบาลแต่กลับต้องผิดหวังเพราะ พล.อ.ประยุทธ์ไม่สามารถสร้างความมั่นใจได้เลยว่าปัญหาของพวกเขาจะได้รับการแก้ไขอย่างไรและเมื่อไร ยังคงใช้สไตล์เดิม 8 ปีไม่เคยเปลี่ยน นั่นคือลงพื้นที่ไปตรวจราชการแต่แฝงการหาเสียงมากกว่าไปแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน ตอนนี้บางจังหวัดน้ำท่วมหนักมาเกือบสองเดือนแล้ว แต่ชาวบ้านก็ไม่เคยเห็นหน้าผู้นำ หรือไม่เคยได้ยินแผนการระบายน้ำอย่างเป็นระบบ นอกจากข่าวการแย่งซีนกันเองของบิ๊กตู่กับบิ๊กป้อม
“พล.อ.ประยุทธ์จึงกลายเป็นผู้นำที่น่าเวทนา ก่อนหน้านี้ก็อ้างนายกฯขาดตอนเพื่ออยู่ต่อ ตอนนี้แม้แต่เป็นนายกฯแค่ 2 ปี หรือครึ่งเทอมก็จะเอา ทั้งๆ ที่ตลอด 8 ปี ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์มีโอกาสมากกว่าอดีตนายกฯคนอื่นๆ ในการใช้อำนาจพิเศษจัดการปัญหาหลายอย่างที่หมักหมมมานาน เช่น การกวาดล้างยาเสพติด หวยเถื่อน หรืออาวุธเถื่อน แต่ พล.อ.ประยุทธ์ก็ปล่อยให้ผ่านไปอย่างน่าเสียดาย
“พอเกิดเหตุการณ์รุนแรงที่หนองบัวลำภูก็ทำเป็นขึงขังเอาจริงเอาจัง จะกวาดล้างยาเสพติดขนานใหญ่เหมือนเพิ่งเข้ามาเป็นนายกฯปีแรก แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถทำได้จริง เพราะปัญหาอยู่ที่ตัวผู้นำไร้วิสัยทัศน์เดินตามก้นระบบราชการ ไร้นโยบายที่ถูกต้องจึงแก้อะไรไม่ได้ นอกจากยาเสพติดจะเพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อยๆ” น.ส.นภาพรกล่าว
น.ส.นภาพรกล่าวต่อว่า แม้ศาลรัฐธรรมนูญจะให้ไปต่อ แต่ในทางการเมืองถือว่า พล.อ.ประยุทธ์หมดเวลาแล้วเพราะไม่หลงเหลือความเชื่อถือศรัทธาใดๆ จากประชาชนอีก เช่น การแก้ปัญหาความยากจน วิธีการของรัฐบาลชุดนี้ก็คือทำให้ตัวเลขคนจนเพิ่มขึ้นถึง 20 ล้านคน แล้วบอกว่าเป็นความสำเร็จ หรือการจับกุมคดียาเสพติดให้ได้จำนวนมากแล้วบอกว่าเป็นความสำเร็จของการปราบปราม ทั้งที่มันควรจะหมดไปตั้งแต่ปีแรกที่ พล.อ.ประยุทธ์เป็น คสช.แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ยิ่งอยู่นานชาวบ้านยิ่งยากจน ยาเสพติด หวยใต้ดิน อาชญากรรมจี้ปล้นเกลื่อนเมือง จึงไม่รู้ว่าจะขออยู่ต่อไปทำไมอีก 2 ปี แค่ 8 ปี นอกจากชาวบ้านจะเกินทนแล้ว ตอนนี้แม้แต่ลูกพรรคตัวเองก็คงจะเกินทนเช่นเดียวกัน เพราะมีแต่ข่าวการย้ายพรรคหนี