เราก็เป็น นร.ญ ธรรมดาคนหนึ่ง
ตอนนี้ก็เรียนอยู่ม.4 ถ้านับดูเเล้วก็เข้าปีที่ 3แล้ว ที่เรียนอยู่รร.แห่งนั้น
และใช่ค่ะเราย้ายรร. ตอนม.2 เเต่เราก้อไม่ได้เกเรหรือมีปัญหาอะไรนะคะ
เราเข้าชมรมวิ่งกรีฑาของครูสอนพลศึกษาคนหนึ่ง ครูเขาวิ่งเร็วมากเเละก้อวิ่งอึดมากด้วย เราโคตรชอบเลยเเละหวังเอาไว้ซักวันว่าจะวิ่งให้ได้แบบครู เพียงเเค่เราเข้าไปเเรกๆครูก็กล่าวชื่นชมว่าเรามีพื้นฐาน เราเคยชนะวิ่งมา
อ้อ! ลืมบอกไปว่าเราเป็นนักวิ่งที่รร.เดิมเคยชนะเลิศวิ่ง1500เมตร เเละวิ่ง600เมตร เหรียญทอง ครูจึงค่อนข้างให้ความสนใจเราพอสมควร จนเพื่อนๆในชมรมเกิดอาการไม่พอใจเเละไม่ชอบเราขึ้นมาตอนเเรกเราก็ไม่รู้ว่าเค้าเป็นอะไรทำไมถึงไม่ชอบเราจนมีเพื่อนมาบอกว่าเขาไม่ชอบเราเพราะครูให้ความสนใจมากกว่าพึ่งเข้ามาใหม่เเท้ๆ เราก้อไม่สนใจเเละอยู่เเบบนั้นต่อไป จนวันที่ครูประจำหอของเราให้เราเลือกว่า จะย้ายหอไปอยู่หอนักกีฬามั้ยจะได้สะดวกซ้อมวิ่งมากกว่านี้ หรือจะอยู่หอเดิมเเต่ต้องออกจากวิ่ง เราคิดหนักมากจนเอาไปปรึกษาครูพละ ครูบอกว่าย้ายหอเลยมันก้อไม่ได้เเย่อะไร หอไหนก้อเหมือนกันนั่นเเหละ เเต่สุดท้ายเราก็ออกจากวิ่งมา เรากะครูเขาก็คุยกันน้อยลงนับเเต่นั้นมา จนครั้งหนึ่งเราติดโควิดกักตัวที่รพ.สนามกับครูเค้า เราก้อคุยกันมากขึ้นโดยเเชทหาเป็นส่วนใหญ่ ยังจำได้ว่าเป็น วันที่4กันยา64
ในระหว่างนี้อาการก้อปกติ แชทปกติพอใกล้ๆสิ้นเดือนหรือใกล้ครบกำหนดกักตัว เราก้อเกิดอาการหัวใจหล่นวูปทุกครั้งตอนเห็นเขามองมา
เกรงทุกครั้งที่เขาเข้ามาใกล้ๆ มีอยู่ครั้งหนึ่งครูให้เขียนป้ายรณรงค์ยาเสพติดวาดรูปหรือตกเเต่งให้สวยงามในกลุ่มจะมี5คน เราเองนี่เเหละที่เป็นคนทำ งานของครูคนอื่นเราก็ค้างไว้โดยเอาป้ายใหญ่ๆนั้นมานั่งวาด นั่งเขียนอยู่คนเดียวกับเพื่อนที่ช่วยระบายสีนิดๆหน่อยๆอีก1คน จนได้เขียนชื่อสมาชิกในกลุ่มส่ง เราไม่รู้ด้วยซํ้าว่าจะเขียนชื่อใครลงไปจึงไปเอาใบรายชื่ออยู่หน้าห้องวิชาการมาเขียนชื่อเพื่อนลงทั้งๆที่เขาไม่ได้ช่วยอะไรในกลุ่มเลย เเต่ในระหว่างที่เขียนอยู่นั้นครูเขาก้อเลยเดินผ่านมาเห็นพอดี เเต่ก้อไม่ได้พูดอะไรเเต่ก้อคงรู้เเหละว่าเราทำอยู่คนเดียว เราจึงเดินตามไปเเละถามว่าให้ส่งไว้ไหนคะ ครูเลยบอกว่าหน้าห้องเลย ในตอนที่เราเดิมกลับมาเราก้อเห็นครูมองเรา เหมือนกับว่ามองเราตั้งเเต่เอาไปส่งจนเดินกลับมาเเล้ว
จนพี่ๆในหอถามว่าทำไมได้ทำคนเดียว แล้วของครูอะไร เราจึงตอบพี่เค้าไป เค้าเลยถามว่าทุกวันเห็นเเต่ทำป้ายนะ วิชาอื่นไม่มีหรอทำไมให้ความสำคัญวิชานี้เยอะจัง หน่วยกิตก็น้อย ครูก็ให้คะเเนนง่ายจะตายไป
สอบไม่ผ่านยังได้เกรด4 เลย มันก็จริงนะเเล้วทำไมต้องทำถึงขนาดนี้ด้วย หน่วยกิตก็น้อยเเต่เราก็ทำจนเสร็จ เราคิดตลอดเลยว่าอยากได้คำชม อยากเห็นเขาชื่นชมผลงานเรา
อยากให้เขาสนใจ อยากเห็นเขามีความสุข อยากให้เขารู้ อยากให้เขามอง อยากให้เห็นผลงาน
เค้าชอบมองมาเวลาที่เราไม่ได้ตั้งตัวพอเราเห็นเขาก้อหลบหน้า เเต่บางครั้งก้อสบตากันเลย เเละเป็นเราเองที่ต้องหลบหน้า เเต่บางครั้งก้อเเอบสังเกตว่าเขากลืนนํ้าลาย เราก็แอบกลืนนํ้าลายนะเวลาเห็นเขา เราเองก็ตอบตัวเองไม่ได้ว่ารู้สึกยังไงกันเเน่ตอนนี้ก้อผ่านไป1ปีเเล้วความรู้สึกเราก็ยังเหมือนเดิม มันเรียกว่ารัก หรือหลงกันเเน่คะ
ถ้าจบม.6 เเล้วเราควรบอกความรู้สึกกับเขาดีมั้ย เก็บมานานเหลือเกิน เเต่ก้อกลัวเหมือนกันว่าถ้าเขามีครอบครัวเเล้วหล่ะ จะเป็นเรื่องน่าอายมั้ยถ้าหากเราจะบรรยายความรู้สึกของเราออกไปให้เขารับรู้เเบบนั้นได้ เขาก็33ปีแล้วถ้าไม่มีครอบครัวก็คงจะเเปลกดี
ชอบครู ช ไม่รู้เเน่ชัด รักหรือหลง!!
ตอนนี้ก็เรียนอยู่ม.4 ถ้านับดูเเล้วก็เข้าปีที่ 3แล้ว ที่เรียนอยู่รร.แห่งนั้น
และใช่ค่ะเราย้ายรร. ตอนม.2 เเต่เราก้อไม่ได้เกเรหรือมีปัญหาอะไรนะคะ
เราเข้าชมรมวิ่งกรีฑาของครูสอนพลศึกษาคนหนึ่ง ครูเขาวิ่งเร็วมากเเละก้อวิ่งอึดมากด้วย เราโคตรชอบเลยเเละหวังเอาไว้ซักวันว่าจะวิ่งให้ได้แบบครู เพียงเเค่เราเข้าไปเเรกๆครูก็กล่าวชื่นชมว่าเรามีพื้นฐาน เราเคยชนะวิ่งมา
อ้อ! ลืมบอกไปว่าเราเป็นนักวิ่งที่รร.เดิมเคยชนะเลิศวิ่ง1500เมตร เเละวิ่ง600เมตร เหรียญทอง ครูจึงค่อนข้างให้ความสนใจเราพอสมควร จนเพื่อนๆในชมรมเกิดอาการไม่พอใจเเละไม่ชอบเราขึ้นมาตอนเเรกเราก็ไม่รู้ว่าเค้าเป็นอะไรทำไมถึงไม่ชอบเราจนมีเพื่อนมาบอกว่าเขาไม่ชอบเราเพราะครูให้ความสนใจมากกว่าพึ่งเข้ามาใหม่เเท้ๆ เราก้อไม่สนใจเเละอยู่เเบบนั้นต่อไป จนวันที่ครูประจำหอของเราให้เราเลือกว่า จะย้ายหอไปอยู่หอนักกีฬามั้ยจะได้สะดวกซ้อมวิ่งมากกว่านี้ หรือจะอยู่หอเดิมเเต่ต้องออกจากวิ่ง เราคิดหนักมากจนเอาไปปรึกษาครูพละ ครูบอกว่าย้ายหอเลยมันก้อไม่ได้เเย่อะไร หอไหนก้อเหมือนกันนั่นเเหละ เเต่สุดท้ายเราก็ออกจากวิ่งมา เรากะครูเขาก็คุยกันน้อยลงนับเเต่นั้นมา จนครั้งหนึ่งเราติดโควิดกักตัวที่รพ.สนามกับครูเค้า เราก้อคุยกันมากขึ้นโดยเเชทหาเป็นส่วนใหญ่ ยังจำได้ว่าเป็น วันที่4กันยา64
ในระหว่างนี้อาการก้อปกติ แชทปกติพอใกล้ๆสิ้นเดือนหรือใกล้ครบกำหนดกักตัว เราก้อเกิดอาการหัวใจหล่นวูปทุกครั้งตอนเห็นเขามองมา
เกรงทุกครั้งที่เขาเข้ามาใกล้ๆ มีอยู่ครั้งหนึ่งครูให้เขียนป้ายรณรงค์ยาเสพติดวาดรูปหรือตกเเต่งให้สวยงามในกลุ่มจะมี5คน เราเองนี่เเหละที่เป็นคนทำ งานของครูคนอื่นเราก็ค้างไว้โดยเอาป้ายใหญ่ๆนั้นมานั่งวาด นั่งเขียนอยู่คนเดียวกับเพื่อนที่ช่วยระบายสีนิดๆหน่อยๆอีก1คน จนได้เขียนชื่อสมาชิกในกลุ่มส่ง เราไม่รู้ด้วยซํ้าว่าจะเขียนชื่อใครลงไปจึงไปเอาใบรายชื่ออยู่หน้าห้องวิชาการมาเขียนชื่อเพื่อนลงทั้งๆที่เขาไม่ได้ช่วยอะไรในกลุ่มเลย เเต่ในระหว่างที่เขียนอยู่นั้นครูเขาก้อเลยเดินผ่านมาเห็นพอดี เเต่ก้อไม่ได้พูดอะไรเเต่ก้อคงรู้เเหละว่าเราทำอยู่คนเดียว เราจึงเดินตามไปเเละถามว่าให้ส่งไว้ไหนคะ ครูเลยบอกว่าหน้าห้องเลย ในตอนที่เราเดิมกลับมาเราก้อเห็นครูมองเรา เหมือนกับว่ามองเราตั้งเเต่เอาไปส่งจนเดินกลับมาเเล้ว
จนพี่ๆในหอถามว่าทำไมได้ทำคนเดียว แล้วของครูอะไร เราจึงตอบพี่เค้าไป เค้าเลยถามว่าทุกวันเห็นเเต่ทำป้ายนะ วิชาอื่นไม่มีหรอทำไมให้ความสำคัญวิชานี้เยอะจัง หน่วยกิตก็น้อย ครูก็ให้คะเเนนง่ายจะตายไป
สอบไม่ผ่านยังได้เกรด4 เลย มันก็จริงนะเเล้วทำไมต้องทำถึงขนาดนี้ด้วย หน่วยกิตก็น้อยเเต่เราก็ทำจนเสร็จ เราคิดตลอดเลยว่าอยากได้คำชม อยากเห็นเขาชื่นชมผลงานเรา
อยากให้เขาสนใจ อยากเห็นเขามีความสุข อยากให้เขารู้ อยากให้เขามอง อยากให้เห็นผลงาน
เค้าชอบมองมาเวลาที่เราไม่ได้ตั้งตัวพอเราเห็นเขาก้อหลบหน้า เเต่บางครั้งก้อสบตากันเลย เเละเป็นเราเองที่ต้องหลบหน้า เเต่บางครั้งก้อเเอบสังเกตว่าเขากลืนนํ้าลาย เราก็แอบกลืนนํ้าลายนะเวลาเห็นเขา เราเองก็ตอบตัวเองไม่ได้ว่ารู้สึกยังไงกันเเน่ตอนนี้ก้อผ่านไป1ปีเเล้วความรู้สึกเราก็ยังเหมือนเดิม มันเรียกว่ารัก หรือหลงกันเเน่คะ
ถ้าจบม.6 เเล้วเราควรบอกความรู้สึกกับเขาดีมั้ย เก็บมานานเหลือเกิน เเต่ก้อกลัวเหมือนกันว่าถ้าเขามีครอบครัวเเล้วหล่ะ จะเป็นเรื่องน่าอายมั้ยถ้าหากเราจะบรรยายความรู้สึกของเราออกไปให้เขารับรู้เเบบนั้นได้ เขาก็33ปีแล้วถ้าไม่มีครอบครัวก็คงจะเเปลกดี