เสียดายมากที่รางถูกถอดออกเพราะวัฒนธรรมการครองรถที่เข้ามาในช่วงหลังๆ เมืองหลายๆเมืองถูกทำให้เป็นมิตรกับรถไม่ใช่เป็นมิตรกับผู้คนเดิน
รถรางไทยที่ถูกทอดออกไปเมื่อ พ.ศ. 2511 นี่ก็คือตัวอย่างของความน่าเสียดายมาก เพราะมันสามารถเอาไปพัฒนาต่อเป็นระบบขนส่งหลักของกรุงเทพได้เลย อย่างในยุโรปเขาพัฒนารถไฟรางเบาจากทางรถรางเดิมเป็นขบวนรถสมัยใหม่ๆแบบนี้หมด
ถ้าไทยยังมีรางพวกนี้อยู่อาจทำให้รัฐบาลประหยัดงบในการสร้าง Rapid transit ไปได้อีกเยอะเลย
พวกรถพวกนี้มีข้อดีกว่ารถบัส รถเมล์เพราะมันวิ่งอยู่ในราง ไม่จำเป็นต้องหยุดเมื่อผ่านจราจรไฟเขียวไฟแดง
มีความมั่นคงไม่สั่นเพราะวิ่งบนรางไม่ได้วิ่งบนพื้นถนนที่ระดับไม่เท่ากันเหมือนรถบัส รถเมล์
แทรมสามารถเอาไปวิ่งเป็นรถไฟใต้ดินได้อีกด้วยสร้างความสะดวกเป็น intersection โดยไม่ต้องให้คนเดินสลับสถานีไปมา
หรือจะทำแบบที่ edmonton แคนาดาก็ได้วิ่งผ่านถนนเฉพาะถนนทางข้ามอีกฝั่ง
และก็ทำลงใต้ดินเป็นกึ่งๆรถไฟฟ้าใต้ดินผสมรถราง
นี่คิดว่าถ้าไทยไม่เอาออกแล้วเอาไปพัฒนาต่อการเดินทางอาจจะสะดวกมากขึ้นก็ได้ คนก็ไปใช้รถน้อยลง
รถก็ติดน้อยลงเพราะคนไม่ใช้รถ แต่ไปใช้การขนส่งสาธารณะแทน
สมมุติว่าถ้ากรุงเทพไม่ถอดรางรถราง(แทรม)ออก แต่ไปพัฒนาต่อไปจนเป็นรถไฟรางเบาขบวนยาวๆเหมือนที่ยุโรป จะเป็นยังไงคะ
รถรางไทยที่ถูกทอดออกไปเมื่อ พ.ศ. 2511 นี่ก็คือตัวอย่างของความน่าเสียดายมาก เพราะมันสามารถเอาไปพัฒนาต่อเป็นระบบขนส่งหลักของกรุงเทพได้เลย อย่างในยุโรปเขาพัฒนารถไฟรางเบาจากทางรถรางเดิมเป็นขบวนรถสมัยใหม่ๆแบบนี้หมด
ถ้าไทยยังมีรางพวกนี้อยู่อาจทำให้รัฐบาลประหยัดงบในการสร้าง Rapid transit ไปได้อีกเยอะเลย
พวกรถพวกนี้มีข้อดีกว่ารถบัส รถเมล์เพราะมันวิ่งอยู่ในราง ไม่จำเป็นต้องหยุดเมื่อผ่านจราจรไฟเขียวไฟแดง
มีความมั่นคงไม่สั่นเพราะวิ่งบนรางไม่ได้วิ่งบนพื้นถนนที่ระดับไม่เท่ากันเหมือนรถบัส รถเมล์
แทรมสามารถเอาไปวิ่งเป็นรถไฟใต้ดินได้อีกด้วยสร้างความสะดวกเป็น intersection โดยไม่ต้องให้คนเดินสลับสถานีไปมา
หรือจะทำแบบที่ edmonton แคนาดาก็ได้วิ่งผ่านถนนเฉพาะถนนทางข้ามอีกฝั่ง
และก็ทำลงใต้ดินเป็นกึ่งๆรถไฟฟ้าใต้ดินผสมรถราง
นี่คิดว่าถ้าไทยไม่เอาออกแล้วเอาไปพัฒนาต่อการเดินทางอาจจะสะดวกมากขึ้นก็ได้ คนก็ไปใช้รถน้อยลง
รถก็ติดน้อยลงเพราะคนไม่ใช้รถ แต่ไปใช้การขนส่งสาธารณะแทน