RSV (Respiratory Syncytial Virus) คือ ไวรัสที่ ทำให้เกิด โรคทางระบบทางเดินหายใจที่รุนแรงได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โรคหลอดลมอักเสบ และปอดอักเสบ มักระบาดในช่วงปลายฤดูฝนถึงต้นฤดูหนาว หรือช่วงที่มีอากาศเปลี่ยนแปลง RSV จะติดต่อกันแบบฝอยละอองจากสารคัดหลั่ง น้ำมูก น้ำลาย ผ่านการไอ จาม และการสัมผัสโดยตรง
เมื่อไหร่จะสงสัยว่าติดเชื้อ RSV
อาการเริ่มแรกเหมือนไข้หวัดทั่วไป คือ มีไข้ ไอ จาม น้ำมูกไหล ในรายที่อาการน้อย อาจจะหายได้ภายใน 5-7 วัน แต่ในเด็กเล็กมักมีอาการมากกว่าไข้หวัดธรรมดา คือ มีเสมหะปริมาณมาก เสมหะเหนียว ทำให้ไอเยอะและ น้ำมูกเหนียว ไอมากจนอาเจียน อาจมีหายใจเร็ว แรง หายใจลำบาก หรือหายใจแบบมีเสียงวี๊ด (Wheezing) ได้ในรายที่มีอาการหนัก
วิธีการรักษา โดยหลักเป็นการดูแลทางเดินหายใจและการดูแลอาการทั่วไป
1. การดูแลทางเดินหายใจ เช่น การให้ออกซิเจน พ่นยาขยายหลอดลม พ่นน้ำเกลือเข้มข้นชนิดพิเศษ เพื่อช่วยระบายเสมหะ และลดภาวะหลอดลมหดเกร็งและเสียงวี๊ด(Wheezing) ในเด็กเล็กที่อายุน้อยกว่า 1 ปี หรือมีโรคประจำตัว จะมีความเสี่ยงการเกิดภาวะปอดแฟบและการหายใจล้มเหลว อาจต้องให้การเคาะปอดและดูดเสมหะ
2. การประคับประคองอาการทั่วไป เช่น ให้สารน้ำทางเส้นเลือดดำ
ภาวะแทรกซ้อนที่อาจจะตามมาหลังติด RSV
แม้จะรักษาหายขาดแล้ว ก็มีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้อีก โดยเด็กบางส่วนอาจมีภาวะหลอดลมไวตามมา ทำให้หายใจเหนื่อยง่าย หลังการติดเชื้อทางเดินหายใจรวมถึงมีรายงานเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหอบหืดได้สูงขึ้นทั้งในเด็กที่มี และไม่มีความเสี่ยงของโรคภูมิแพ้ในครอบครัว
การป้องกันไม่ให้ติดเชื้อ RSV
ในปัจจุบัน ยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรค ดังนั้นจึงเน้นการป้องกัน โดยการเพิ่มภูมิต้านทานธรรมชาติ โดยให้เด็กกินนมแม่ หลีกเลี่ยงการพาเด็กไปสถานที่แออัด หรือพาเด็กไปเยี่ยมผู้ป่วย มาตรการสำคัญในการป้องกันการระบาดของโรค คือ การหมั่นล้างมือให้สะอาด หรือใช้เจลแอลกอฮอลล์ล้างมือบ่อยๆ ทำความสะอาดของใช้ และของเล่นเด็ก หากสังสัยว่ามีการติดเชื้อ ให้รีบมาพบแพทย์เพื่อทำการรักษา
RSV ภัยร้ายใกล้ลูกน้อยคุณ