สวัสดีค่ะเพื่อนๆสมาชิกทุกท่าน กระทู้นี้ตั้งขึ้นเพื่อเตือนใจให้ทุกๆท่านดูแลสังเกตุอาการของลูกน้อย โดยเฉพาะลูกที่ยังเล็ก ภูมิต้านทานน้อย ติดเชื้อง่าย และอาการจะหนักกว่าเด็กโตหรือผู้ใหญ่
ลูกชายของ จขกท.อายุ 2 เดือนนิดๆ เวลานอนมีอาการนอนกรน เหมือนมีเสมหะในคอ จากการหาข้อมูลมีหลายๆที่บอกว่าระบบหายใจเด็กยังไม่สมบูรณ์ หรือเป็นอาการ overfeeding ทำให้มีเสียงคล้ายเสียงเสมหะในคอ คล้ายๆเสียงกรน โตขึ้นจะหายไปเอง
วท. 29/10/63 ตอนนอนคืนนั้นรู้สึกเสียงกรมของลูกดังขึ้น ดูอึดอัดหายใจไม่สะดวกจะพาไปหาหมอที่รพ.เเห่งที่ 1 คุณหมอให้ x-rays ปอด และแหย่จมูกเก็บตัวอย่าง ตรวจหาเชื้อไข้หวัดใหญ่ 5 สายพันธุ์ รวมถึง RSV ก็ไม่เจอเชื้ออะไร แต่ผล x-rays พบว่าเป็นเสมหะลงปอด ทำให้ปอดอักเสบ จึงได้ทำการพ่นยา เคาะปอด ดูดเสมหะ และแอดมิท 1 คืน แต่เนื่องจากเป็นช่วงที่ RSV ระบาด ห้องเดี่ยวพิเศษเต็ม คุณหมอจึงให้นอนห้องรวม 4 คน ซึ่งมีเด็กคนอื่นๆ อยู่ก่อนแล้ว
วท. 30/10/63 เมื่อคืนแทบไม่ได้นอน ลูกเราไม่ได้ร้องกวน แต่เด็กเตียงข้างๆ ร้องกันทั้งคืน จึงขอหมอย้ายไปห้องเดี่ยวเเต่ยังไม่มีห้องว่าง จึงเช็คกับรพ.แห่งที่ 2 มีห้องว่าง จึงขอทำเรื่องส่งตัว และย้ายมารพ. แห่งที่ 2 เมื่อมาถึงจึงเอาผลตรวจและผล x-rays ให้คุณหมอดู และแอดมิทต่อ
วท.31/10/62-3/11/63 ลูกจขกท. ต้องเคาะปอด ดูดเสมหะวันละ 1 ครั้ง พ่นยาทุกๆ 6 ชม. ให้น้ำเกลือ ยาฆ่าเชื้อ ยาลดเสมหะ และแก้ไอ ซึ่งมีอาการท้องเสียร่วมด้วยเนื่องจาก เป็นผลข้างเคียงของยาฆ่าเชื้อ ทำให้เชื้อลงไปลำไส้ จึงท้องเสีย
วท. 5/11/63 คุณหมออนุญาตให้กลับบ้านได้ แต่เริ่มสังเกตว่าลูกมีอาการไอ จาม มีน้ำมูกและเสมหะเยอะขึ้น
วท. 7/11/63 คุณหมอนัดมาดูอาการ แต่อาการไม่ดีขึ้น หายใจวี๊ดๆ เหนื่อยหอบ งอแง จาม เสมหะเยอะ น้ำมูกไหล ไอจนอาเจียน จึงแอดมิดอีกรอบ รอบนี้เหมือนเริ่มต้น x-rays ปอดใหม่พบว่ายังมีอาการปอดอักเสบอยู่ ป้ายจมูกตรวจเชื้อใหม่ รอบนี้เจอเชื้อ RSV จ้า ซึ่งจขกท.สันนิษฐานว่าน่าจะติดจากตอนนอนห้องรวมที่รพ.ที่ 1 และครบระยะฟักตัวพอดี จากที่ปอดอักเสบอยู่แล้วและอายุยังน้อย ภูมิต้านทานต่ำ จนเชื้อ RSV จึงลงปอดได้ง่าย ซึ่งห้องรวมเด็กป่วยแบบนี้เสี่ยงมากจากหวัดธรรมดากลายเป็นติดเชื้อ RSV
คุณหมอปรับยาพ่นเป็น 2 ตัว ทึก 4 ชม. และทุก 12 ชม.
ตอนนี้น้ำมูกกับเสมหะเยอะมากต้องให้คุณพยาบาลมาล้างจมูก และดูดน้ำมูกออก ซึ่งจขกท.ต้องคอยสังเกตอาการ ถ้าเหนื่อยหอบ หรือหายใจแรงก็ต้องดูดอีก
พรุ่งนี้มาอัพเดทอาการ ต่อนะคะ
RSV ไม่มียารักษาคงต้องรักษาตามอาการ จนกว่าจะหายระหว่างเฝ้าลูก เวลาลูกหลับจขกท.จึงมาตั้งกระทู้เพื่อใหทุกพ่อแม่ทุกคนตระหนักในความร้ายกาจของเชื้อ แต่ไม่ตระหนกวิตกกังวลจนเกินไป ซึ่งจริงๆแล้วจขกท.ก็กังวล ภาวนาจอให้เป็นหวัดธรรมดาทั่วไป แต่เมื่อผลตรวจออกมาว่าเป็น RSV และลูกก็อยู่ในมือคุณหมอแล้ว จขกท.ก็เบาใจลงได้
ลูกเจ็บแม่อยากเจ็บแทน ป่วยแทนได้แม่ก็ขอป่วยแทนนะครับลูกน้อยดวงใจของแม่
เมื่อลูกน้อยดวงใจของแม่ อายุ 2 เดือน ติดเชื้อ RSV
ลูกชายของ จขกท.อายุ 2 เดือนนิดๆ เวลานอนมีอาการนอนกรน เหมือนมีเสมหะในคอ จากการหาข้อมูลมีหลายๆที่บอกว่าระบบหายใจเด็กยังไม่สมบูรณ์ หรือเป็นอาการ overfeeding ทำให้มีเสียงคล้ายเสียงเสมหะในคอ คล้ายๆเสียงกรน โตขึ้นจะหายไปเอง
วท. 29/10/63 ตอนนอนคืนนั้นรู้สึกเสียงกรมของลูกดังขึ้น ดูอึดอัดหายใจไม่สะดวกจะพาไปหาหมอที่รพ.เเห่งที่ 1 คุณหมอให้ x-rays ปอด และแหย่จมูกเก็บตัวอย่าง ตรวจหาเชื้อไข้หวัดใหญ่ 5 สายพันธุ์ รวมถึง RSV ก็ไม่เจอเชื้ออะไร แต่ผล x-rays พบว่าเป็นเสมหะลงปอด ทำให้ปอดอักเสบ จึงได้ทำการพ่นยา เคาะปอด ดูดเสมหะ และแอดมิท 1 คืน แต่เนื่องจากเป็นช่วงที่ RSV ระบาด ห้องเดี่ยวพิเศษเต็ม คุณหมอจึงให้นอนห้องรวม 4 คน ซึ่งมีเด็กคนอื่นๆ อยู่ก่อนแล้ว
วท. 30/10/63 เมื่อคืนแทบไม่ได้นอน ลูกเราไม่ได้ร้องกวน แต่เด็กเตียงข้างๆ ร้องกันทั้งคืน จึงขอหมอย้ายไปห้องเดี่ยวเเต่ยังไม่มีห้องว่าง จึงเช็คกับรพ.แห่งที่ 2 มีห้องว่าง จึงขอทำเรื่องส่งตัว และย้ายมารพ. แห่งที่ 2 เมื่อมาถึงจึงเอาผลตรวจและผล x-rays ให้คุณหมอดู และแอดมิทต่อ
วท.31/10/62-3/11/63 ลูกจขกท. ต้องเคาะปอด ดูดเสมหะวันละ 1 ครั้ง พ่นยาทุกๆ 6 ชม. ให้น้ำเกลือ ยาฆ่าเชื้อ ยาลดเสมหะ และแก้ไอ ซึ่งมีอาการท้องเสียร่วมด้วยเนื่องจาก เป็นผลข้างเคียงของยาฆ่าเชื้อ ทำให้เชื้อลงไปลำไส้ จึงท้องเสีย
วท. 5/11/63 คุณหมออนุญาตให้กลับบ้านได้ แต่เริ่มสังเกตว่าลูกมีอาการไอ จาม มีน้ำมูกและเสมหะเยอะขึ้น
วท. 7/11/63 คุณหมอนัดมาดูอาการ แต่อาการไม่ดีขึ้น หายใจวี๊ดๆ เหนื่อยหอบ งอแง จาม เสมหะเยอะ น้ำมูกไหล ไอจนอาเจียน จึงแอดมิดอีกรอบ รอบนี้เหมือนเริ่มต้น x-rays ปอดใหม่พบว่ายังมีอาการปอดอักเสบอยู่ ป้ายจมูกตรวจเชื้อใหม่ รอบนี้เจอเชื้อ RSV จ้า ซึ่งจขกท.สันนิษฐานว่าน่าจะติดจากตอนนอนห้องรวมที่รพ.ที่ 1 และครบระยะฟักตัวพอดี จากที่ปอดอักเสบอยู่แล้วและอายุยังน้อย ภูมิต้านทานต่ำ จนเชื้อ RSV จึงลงปอดได้ง่าย ซึ่งห้องรวมเด็กป่วยแบบนี้เสี่ยงมากจากหวัดธรรมดากลายเป็นติดเชื้อ RSV
คุณหมอปรับยาพ่นเป็น 2 ตัว ทึก 4 ชม. และทุก 12 ชม.
ตอนนี้น้ำมูกกับเสมหะเยอะมากต้องให้คุณพยาบาลมาล้างจมูก และดูดน้ำมูกออก ซึ่งจขกท.ต้องคอยสังเกตอาการ ถ้าเหนื่อยหอบ หรือหายใจแรงก็ต้องดูดอีก
พรุ่งนี้มาอัพเดทอาการ ต่อนะคะ
RSV ไม่มียารักษาคงต้องรักษาตามอาการ จนกว่าจะหายระหว่างเฝ้าลูก เวลาลูกหลับจขกท.จึงมาตั้งกระทู้เพื่อใหทุกพ่อแม่ทุกคนตระหนักในความร้ายกาจของเชื้อ แต่ไม่ตระหนกวิตกกังวลจนเกินไป ซึ่งจริงๆแล้วจขกท.ก็กังวล ภาวนาจอให้เป็นหวัดธรรมดาทั่วไป แต่เมื่อผลตรวจออกมาว่าเป็น RSV และลูกก็อยู่ในมือคุณหมอแล้ว จขกท.ก็เบาใจลงได้
ลูกเจ็บแม่อยากเจ็บแทน ป่วยแทนได้แม่ก็ขอป่วยแทนนะครับลูกน้อยดวงใจของแม่