มีความสงสัยค่ะ เจอมาเกือบทุกที่ ทุกองค์กร
ในช่วงที่ทำงานอยู่ด้วยกัน เป็นเรื่องธรรมดาที่มักต้องมีปัญหา มีเรื่องขัดแย้งกัน และก็มักต้องมีการวิพากษ์วิจารณ์กัน มีการพูดถึง กล่าวถึงกัน หรือแม้แต่การนินทากัน ซึ่ง ณ ขณะนั้น ทุกคนที่ร่วมวงสนทนา ต่างก็แสดงความคิดของตนเอง บ้างก็ใช้อารมณ์ บ้างก็ใช้เหตุผล
แต่พอเวลาผ่านไป ใครสักคน ที่จะลาจากองค์กรไป ทำไมต้องเอาเรื่องราวในอดีต กลับมาปั่นหัวคนอื่น เอาเรื่องที่อีกคน พูดถึงอีกคน ไปบอก ไปเล่า จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง แล้วคนที่เป็นเหยื่อ ทั้งคนที่ฟัง และคนที่ถูกพูดถึง ก็ต้องอยู่กันแบบเขม่นกัน เข้าหน้ากันไม่ค่อยติด บางคนถึงขั้นทะเลาะกัน ไม่คุยกัน
ทำไมไม่ถามกันไปตรงๆเลย ว่ามันจริงหรือไม่จริง
แล้วคนที่ปั่น ทำเพื่อ??? ทำแบบนั้นกับคนอื่นแล้วชีวิตมันดีขึ้นหรือไง อันนี้ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำเพื่อ???
ก็ทำได้แค่ภาวนา ใครทำสิ่งใด ก็จงได้รับสิ่งนั้น
ทำไมพวกที่จะลาออกจากงาน ถึงชอบปั่น ให้คนอื่นเกลียด ทะเลาะ ไม่ชอบกัน มันเข้าข่าย กุอยู่ไม่ได้ ก็อย่าหวังมีความสุขหรอ
ในช่วงที่ทำงานอยู่ด้วยกัน เป็นเรื่องธรรมดาที่มักต้องมีปัญหา มีเรื่องขัดแย้งกัน และก็มักต้องมีการวิพากษ์วิจารณ์กัน มีการพูดถึง กล่าวถึงกัน หรือแม้แต่การนินทากัน ซึ่ง ณ ขณะนั้น ทุกคนที่ร่วมวงสนทนา ต่างก็แสดงความคิดของตนเอง บ้างก็ใช้อารมณ์ บ้างก็ใช้เหตุผล
แต่พอเวลาผ่านไป ใครสักคน ที่จะลาจากองค์กรไป ทำไมต้องเอาเรื่องราวในอดีต กลับมาปั่นหัวคนอื่น เอาเรื่องที่อีกคน พูดถึงอีกคน ไปบอก ไปเล่า จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง แล้วคนที่เป็นเหยื่อ ทั้งคนที่ฟัง และคนที่ถูกพูดถึง ก็ต้องอยู่กันแบบเขม่นกัน เข้าหน้ากันไม่ค่อยติด บางคนถึงขั้นทะเลาะกัน ไม่คุยกัน
ทำไมไม่ถามกันไปตรงๆเลย ว่ามันจริงหรือไม่จริง
แล้วคนที่ปั่น ทำเพื่อ??? ทำแบบนั้นกับคนอื่นแล้วชีวิตมันดีขึ้นหรือไง อันนี้ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำเพื่อ???
ก็ทำได้แค่ภาวนา ใครทำสิ่งใด ก็จงได้รับสิ่งนั้น