ลูกสาวได้ขับรถ SUV รุ่่นนึง e-power เมื่อวันเสาร์ที่ 12/9/22 เวลาหัวค่ำ ฝนได้ตกกระหน่ำอย่างหนักเป็นเวลานานมาก และได้แวะทำธุระย่านแยกลำสาลีอยู่สักพักหนึ่งจึงได้ขับรถกลับย่านกรุงเทพกรีฑา โดยระหว่างทางที่ขับกลับบ้านนั้น ฝนก็ยังตกหนักมากอยู่และไม่มีน้ำท่วมขัง โดยมุ่งหน้าไปทางถนนรามคำแหงขาเข้า ปรากฎว่าขับออกจากทำธุระที่แยกลำสาลีมาได้ประมาณ 800-900 เมตร หน้าจอรถก็ขึ้นว่า  e-power มีปัญหา ลูกสาวจึงจอดข้างทางเพื่อลองดับเครื่องยนต์ดูแล้วสตาร์ทใหม่ ปรากฎว่าสตาร์ทไม่ติดแล้วครับท่าน ณ เวลานั้น ประมาณ 1 ทุ่มแล้ว 0 น่าจะปิดบริการกันหมดแล้ว การจะเรียกยานแม่มาเพื่ออุ้มไปเข้า 0 นั้น ไม่น่าจะทำได้เพราะเลยเวลาทำการของ 0 แล้ว 
เข้าวันอาทิตย์รุ่งขึ้นจึงได้ประสานกับยานแม่มาอุ้มน้อง e-power  ไป นอนนิ่งๆใน 0 ก่อน รอเช้าวันจันทร์ติดต่อกับประกันภัย
เมื่อ จนท ประกันมาสำรวจความเสียหาย โดยลูกสาวก็ให้ความตามความเป็นจริง แล้ว จนท ประกันก็ไปสำรวจและลงบันทึกในใบเคลมว่า
-ไม่มีน้ำในก้านวัน นมค, ไม่มีน้ำขังในไฟหน้าหรือไฟตัดหมอก, ไม่มีร่องรอยน้ำที่พัดลมหม้อน้ำ-
-พบน้ำขังจำนวนมากที่พื้นห้องโดยสารทั้งหน้าและหลัง(เคลม เปลี่ยนพรมให้)
-ความเสียหายที่เกิดขึ้นคือ  ecu เครื่องยนต์(อยู่ใต้เบาะ)เสียหาย ซึ่งทางประกันภัยก็เคลมให้
ได้ติดตามความคืบหน้ากับทาง 0 ทาง 0 แจ้งว่าพรม เบิกได้แล้ว กำลังมา แต่ ecu ไม่มีของในสต็อก ต้องรอเดือน 11 นู่น จึงจะมีส่งมาให้ OMG !
ระหว่างรอเกือบๆ 2 เดือนนี่ ต้องจอดรถทิ้งไว้ที่ 0 
โดยทาง 0 ก็พยายามแล้ว พยายามอีก ที่จะยัดเยียดว่า ลูกสาวขับลุยฝ่าน้ำฝนมา จนน้ำเข้าห้องโดยสาร เฮ้อ เหนื่อยใจจริงๆ
คำถามครับ
1)ระยะเวลารอ ecu นานขนาดนี้ ทางผมจะเรียกร้องค่าเสียโอกาสได้ มากน้อยแค่ไหนครับ
2)ผมจะเรียกร้อง เรื่องรถใช้งานระหว่างซ่อมได้หรือไม่ครับ
3)น้ำฝนซึมเข้ามาจากทางไหนได้ครับ ? 
โดยส่วนตัว ผมสันนิษฐานว่าน้ำรั่วซึมเข้ามาทางใต้กระจกบังลมหน้า บริเวณหลังคอนโซล
ถ้ารั่วซึมจุดนี้จริง ผมเอารถไปแดมป์ มันจะช่วยได้หรือไม่ครับ
ขอบคุณมากครับสำหรับคำแนะนำ
และขอเตือนสำหรับท่านที่กำลังจะซื้อรถรุ่นนี้นะครับว่า เลี่ยงได้ก็เลี่ยงเถอะครับ ไม่เคยเจอว่ารถใหม่อายุประมาณ 2 ขวบ ขับฝ่าฝนที่ตกหนักแล้วน้ำเข้าห้องโดยสารได้มากมายขนาดนี้