"เรื่องเล่าจากผู้สูงวัย..ท่านทะเยอทะยาน"
มีเรื่องเล่าเรื่องหนึ่งเล่าสืบเนื่องกันมาในหมู่ผู้สูงวัยที่พากันเกษียณอายุแล้ว ซึ่งเรื่องที่ว่าไม่มีใครยืนยันว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่จริง ลองฟังกันดูครับ
นายทะเยอทะยาน เป็นข้าราชการหนุ่มไฟแรง ทำงานด้วยความเจริญก้าวหน้าในอาชีพอย่างรวดเร็ว ในการพิจารณาความดีความชอบประจำปี เขาแทบจะได้ความดีความชอบประจำปีในการปฏิบัติราชการสองขั้นแทบจะปีเว้นปี (ในอดีต ข้าราชการที่ทำงานครบตามเกณฑ์กำหนด แม้จะเป็นพวกความชั่วไม่มี ความดีไม่ปรากฎ หรือเช้าชามเย็นครึ่งชาม จะได้รับการเลื่อนขั้นเงินเดือนหนึ่งขั้น ยกเว้นพวกกระทำความผิดทางวินัย พวกนี้จะถูกงดความดีความชอบ เรียกว่าแป้กขั้น แต่ถ้าใครผลงานดี ที่สำคัญคือถูกใจนาย จะได้สองขั้นเป็นความชอบพิเศษ ซึ่งเป็นโควต้าพิเศษ มีน้อยมาก)
นายทะเยอทะยานเป็นคนมีความสามารถพิเศษเฉพาะตัว ชนิดที่ไม่มีสถาบันไหนสอน คือเขาจะเป็นคนอ่อนน้อมอย่างยิ่งกับเจ้านายผู้บังคับบัญชาที่อยู่เหนือเขา คำว่า "ใช่ครับพี่ ดีครับผม เหมาะสมครับท่าน" จะเป็นคำพูดที่เขาใช้ติดปากเป็นประจำ ไม่มีขัดใจนาย
เจ้านายผู้บังคับบัญชาคนไหนมีนิสัย มีความชอบในสิ่งใด นายทะเยอทะยานของเรามีความสามารถรู้ได้หมด
เจ้านายคนไหนชอบพระเครื่อง นายทะเยอทะยานจะตั้งตัวเป็นเซียนพระ ถือหนังสือที่เกี่ยวกับพระติดมือมิได้ขาดหลวงพ่อวัดไหนดังทางไหน ประวัติเป็นอย่างไร มีกี่รุ่น นายทะเยอทะยานรู้หมด แน่นอนเขาย่อมมีสิทธิ์เป็นคนสนิทกับเจ้านายสายพระเครื่องโดยง่ายดาย งานในหน้าที่ย่อมไม่สำคัญหากได้รับหน้าที่เป็นมัคนายกผู้แสวงหาพระเครื่องให้เจ้านายแทน
เจ้านายคนไหนมาในมาดชอบเสียงเพลง เขาจะเปลี่ยนลุคเป็น ดี เจ ผู้นิยมชมชอบในเสียงเพลงโดยพลัน กลายเป็นผู้มีดนตรีในหัวใจและชีวิต เสาะหาสถานที่นักร้อง(สวย)ดี ดนตรีไพเราะ พาเจ้านายไปเพลิดเพลินได้ทุกบ่อย
คราวนี้หากเจ้านายชอบเล่นกอล์ฟ ก็จะเห็นนายทะเยอทะยานมีถุงกอ์ลฟติดท้ายรถ เวลาว่างหรือตอนเลิกงานก่อนกลับบ้าน จะเห็นเขาทำท่าพัตต์กอล์ฟ ด้วยวงสวิงที่สวยงามแถวๆที่ว่างหน้าหรือหลังสำนักงานบ่อยๆ งานนี้ไม่พลาดครับ เขาย่อมได้ร่วมก๊วนกับเจ้านายโดยมิต้องออกแรง เสร็จไปอีกหนึ่ง
เอาเป็นว่านายย้ายมาใหม่ มาแบบไหนเขารับได้หมดและที่สำคัญ สำหรับกับเพื่อนฝูงร่วมงาน เขาก็มีส่วนดี คือมาทำงานทุกวันตามหน้าที่ตรงเวลาไม่บกพร่อง, ไม่เอาเปรียบเพื่อน,ไม่เบ่ง, ไม่อวดโม้ แถมเวลาเพื่อนพ้องมีปัญหาใด เขามักจะหาทางคุยกับเจ้านาย ช่วยผ่อนหนักผ่อนเบาให้เสมอ จึงไม่เป็นที่เคืองหูเคืองตาของเพื่อนร่วมงาน และออกจะมีคนรักอยู่ไม่น้อย
เล่ากันว่าครั้งหนึ่งนายจะย้ายไปดำรงตำแหน่งใหม่ หลังงานเลี้ยงส่ง เขาเข้าไปพบส่วนตัว กราบลงบนโต๊ะทำงาน กล่าวด้วยน้ำตานองหน้าว่า
"ท่านย้ายไปครั้งนี่ เสมือนร่มโพธิ์ร่มไทรของผมหักสะบั้นหมดกำลังใจที่จะทำงานโดยสิ้นเชิง ผมมิเคยพบผู้บังคับบัญชาที่ดีพร้อม เปี่ยมด้วยเมตตาบารมีเช่นท่านมาก่อนเลย ท่านทำให้ผมมีกำลังใจ ในการทำงานรับใช้ประเทศชาติอย่างเข้มแข็งมาโดยตลอด ท่านย้ายครั้งนี้ ผมหมดสิ้นแล้ว กำลังใจ ชีวิตราชการผมคงจะมืดมนตลอดไป"
ผลปรากฏว่าก่อนย้ายไป นายทิ้งทวนคำสั่งเลื่อนขั้นความดีความชอบให้นายทะเยอทะยาน สองขั้น แซงหน้าเพื่อนฝูงไปอีกตามระเบียบ
ไม่นาน ต่อมา เจ้านายคนใหม่ย้ายมารับตำแหน่ง เสร็จงานเลี้ยงรับ รายงานข่าวเล่าว่านายทะเยอทะยานขอโอกาสเข้าพบ บนโต๊ะทำงานเจ้านายตัวเดิม นายทะเยอทะยานก้มกราบอีกครั้งด้วยน้ำตานองหน้าเช่นเดิม
"ท่านย้ายมารับตำแหน่งคราวนี้ ประดุจชุบชีวิตของกระผม จากที่สิ้นหวัง ท้อแท้ หมดหวังในชีวิตราชการ จนเกือบจะยื่นใบลาออก แต่พอทราบว่าท่านจะย้ายมาเป็นเจ้านายกระผม ทำให้กระผมเกิดความหวังในชีวิตกลับขึ้นมาอีก ท่านมาต่อชีวิต มาเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้กับกระผมโดยแท้ เป็นวาสนาแห่งชีวิตของกระผมอย่างที่สุด กระผมขอสนองพระเดชพระคุณทุกวิถีทางอย่างถวายหัว ครับท่าน"
เขาเล่าว่า ตลอดเวลาทำงานในช่วงเวลากับเจ้านายคนใหม่ นายทะเยอทะยาน ก็ยังทะยานไปข้างหน้าได้สมชื่ออย่างสมใจไร้กังวล
และเขาก็เล่าอีกว่านายทะเยอทะยานเจริญก้าวหน้าในวิถีทางด้วยวิธีของตนเอง จนก้าวเข้าสู่ตำแหน่งที่เขาใฝ่ฝันและปรารถนา ได้ในตอนท้ายของชีวิตการทำงาน
ผู้สันทัดกรณีที่เล่าเรื่องสืบต่อมามิได้ให้รายละเอียดว่า"ท่านทะยาน" เป็นใคร สังกัดกรมไหน กระทรวงอะไร หรือองค์กรใด ทั้งกระซิบว่า เรื่องแบบนี้จริงก็ได้ เท็จก็ได้ ตามแต่ผู้ฟังจะใช้วิจารณญาณ
ที่สำคัญ...นี่ก็ใกล้ฤดูโยกย้าย,ฤดูเกษียณอายุเข้ามาเต็มทีแล้ว ไม่ทราบว่าจะยังมีผู้กล้า ที่สนใจ สืบต่อวรยุทธของท่านทะเยอทะยานต่อไปอีกหรือไม่ หรือหมดเวลาแห่งวรยุทธโบราณแล้ว...เพราะยุคนี้สมัยนี้เป็นยุคของคนรุ่นใหม่ วิทยายุทธ วรยุทธย่อมเปลี่ยนไป ตามบริบทแห่งสังคม
ครับ ก็อ่านกันเล่นๆ ถือเสียว่าฟังนิทานแปลกๆสักเรื่อง ทั้งเป็นการอนุรักษ์เรื่องเล่าสืบเนื่องกันมาก็แล้วกันนะครับ..ขอบคุณครับ
เริ่องเล่าจากผู้สูงวัย"นายทะเยอทะยาน"
มีเรื่องเล่าเรื่องหนึ่งเล่าสืบเนื่องกันมาในหมู่ผู้สูงวัยที่พากันเกษียณอายุแล้ว ซึ่งเรื่องที่ว่าไม่มีใครยืนยันว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่จริง ลองฟังกันดูครับ
นายทะเยอทะยาน เป็นข้าราชการหนุ่มไฟแรง ทำงานด้วยความเจริญก้าวหน้าในอาชีพอย่างรวดเร็ว ในการพิจารณาความดีความชอบประจำปี เขาแทบจะได้ความดีความชอบประจำปีในการปฏิบัติราชการสองขั้นแทบจะปีเว้นปี (ในอดีต ข้าราชการที่ทำงานครบตามเกณฑ์กำหนด แม้จะเป็นพวกความชั่วไม่มี ความดีไม่ปรากฎ หรือเช้าชามเย็นครึ่งชาม จะได้รับการเลื่อนขั้นเงินเดือนหนึ่งขั้น ยกเว้นพวกกระทำความผิดทางวินัย พวกนี้จะถูกงดความดีความชอบ เรียกว่าแป้กขั้น แต่ถ้าใครผลงานดี ที่สำคัญคือถูกใจนาย จะได้สองขั้นเป็นความชอบพิเศษ ซึ่งเป็นโควต้าพิเศษ มีน้อยมาก)
นายทะเยอทะยานเป็นคนมีความสามารถพิเศษเฉพาะตัว ชนิดที่ไม่มีสถาบันไหนสอน คือเขาจะเป็นคนอ่อนน้อมอย่างยิ่งกับเจ้านายผู้บังคับบัญชาที่อยู่เหนือเขา คำว่า "ใช่ครับพี่ ดีครับผม เหมาะสมครับท่าน" จะเป็นคำพูดที่เขาใช้ติดปากเป็นประจำ ไม่มีขัดใจนาย
เจ้านายผู้บังคับบัญชาคนไหนมีนิสัย มีความชอบในสิ่งใด นายทะเยอทะยานของเรามีความสามารถรู้ได้หมด
เจ้านายคนไหนชอบพระเครื่อง นายทะเยอทะยานจะตั้งตัวเป็นเซียนพระ ถือหนังสือที่เกี่ยวกับพระติดมือมิได้ขาดหลวงพ่อวัดไหนดังทางไหน ประวัติเป็นอย่างไร มีกี่รุ่น นายทะเยอทะยานรู้หมด แน่นอนเขาย่อมมีสิทธิ์เป็นคนสนิทกับเจ้านายสายพระเครื่องโดยง่ายดาย งานในหน้าที่ย่อมไม่สำคัญหากได้รับหน้าที่เป็นมัคนายกผู้แสวงหาพระเครื่องให้เจ้านายแทน
เจ้านายคนไหนมาในมาดชอบเสียงเพลง เขาจะเปลี่ยนลุคเป็น ดี เจ ผู้นิยมชมชอบในเสียงเพลงโดยพลัน กลายเป็นผู้มีดนตรีในหัวใจและชีวิต เสาะหาสถานที่นักร้อง(สวย)ดี ดนตรีไพเราะ พาเจ้านายไปเพลิดเพลินได้ทุกบ่อย
คราวนี้หากเจ้านายชอบเล่นกอล์ฟ ก็จะเห็นนายทะเยอทะยานมีถุงกอ์ลฟติดท้ายรถ เวลาว่างหรือตอนเลิกงานก่อนกลับบ้าน จะเห็นเขาทำท่าพัตต์กอล์ฟ ด้วยวงสวิงที่สวยงามแถวๆที่ว่างหน้าหรือหลังสำนักงานบ่อยๆ งานนี้ไม่พลาดครับ เขาย่อมได้ร่วมก๊วนกับเจ้านายโดยมิต้องออกแรง เสร็จไปอีกหนึ่ง
เอาเป็นว่านายย้ายมาใหม่ มาแบบไหนเขารับได้หมดและที่สำคัญ สำหรับกับเพื่อนฝูงร่วมงาน เขาก็มีส่วนดี คือมาทำงานทุกวันตามหน้าที่ตรงเวลาไม่บกพร่อง, ไม่เอาเปรียบเพื่อน,ไม่เบ่ง, ไม่อวดโม้ แถมเวลาเพื่อนพ้องมีปัญหาใด เขามักจะหาทางคุยกับเจ้านาย ช่วยผ่อนหนักผ่อนเบาให้เสมอ จึงไม่เป็นที่เคืองหูเคืองตาของเพื่อนร่วมงาน และออกจะมีคนรักอยู่ไม่น้อย
เล่ากันว่าครั้งหนึ่งนายจะย้ายไปดำรงตำแหน่งใหม่ หลังงานเลี้ยงส่ง เขาเข้าไปพบส่วนตัว กราบลงบนโต๊ะทำงาน กล่าวด้วยน้ำตานองหน้าว่า
"ท่านย้ายไปครั้งนี่ เสมือนร่มโพธิ์ร่มไทรของผมหักสะบั้นหมดกำลังใจที่จะทำงานโดยสิ้นเชิง ผมมิเคยพบผู้บังคับบัญชาที่ดีพร้อม เปี่ยมด้วยเมตตาบารมีเช่นท่านมาก่อนเลย ท่านทำให้ผมมีกำลังใจ ในการทำงานรับใช้ประเทศชาติอย่างเข้มแข็งมาโดยตลอด ท่านย้ายครั้งนี้ ผมหมดสิ้นแล้ว กำลังใจ ชีวิตราชการผมคงจะมืดมนตลอดไป"
ผลปรากฏว่าก่อนย้ายไป นายทิ้งทวนคำสั่งเลื่อนขั้นความดีความชอบให้นายทะเยอทะยาน สองขั้น แซงหน้าเพื่อนฝูงไปอีกตามระเบียบ
ไม่นาน ต่อมา เจ้านายคนใหม่ย้ายมารับตำแหน่ง เสร็จงานเลี้ยงรับ รายงานข่าวเล่าว่านายทะเยอทะยานขอโอกาสเข้าพบ บนโต๊ะทำงานเจ้านายตัวเดิม นายทะเยอทะยานก้มกราบอีกครั้งด้วยน้ำตานองหน้าเช่นเดิม
"ท่านย้ายมารับตำแหน่งคราวนี้ ประดุจชุบชีวิตของกระผม จากที่สิ้นหวัง ท้อแท้ หมดหวังในชีวิตราชการ จนเกือบจะยื่นใบลาออก แต่พอทราบว่าท่านจะย้ายมาเป็นเจ้านายกระผม ทำให้กระผมเกิดความหวังในชีวิตกลับขึ้นมาอีก ท่านมาต่อชีวิต มาเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้กับกระผมโดยแท้ เป็นวาสนาแห่งชีวิตของกระผมอย่างที่สุด กระผมขอสนองพระเดชพระคุณทุกวิถีทางอย่างถวายหัว ครับท่าน"
เขาเล่าว่า ตลอดเวลาทำงานในช่วงเวลากับเจ้านายคนใหม่ นายทะเยอทะยาน ก็ยังทะยานไปข้างหน้าได้สมชื่ออย่างสมใจไร้กังวล
และเขาก็เล่าอีกว่านายทะเยอทะยานเจริญก้าวหน้าในวิถีทางด้วยวิธีของตนเอง จนก้าวเข้าสู่ตำแหน่งที่เขาใฝ่ฝันและปรารถนา ได้ในตอนท้ายของชีวิตการทำงาน
ผู้สันทัดกรณีที่เล่าเรื่องสืบต่อมามิได้ให้รายละเอียดว่า"ท่านทะยาน" เป็นใคร สังกัดกรมไหน กระทรวงอะไร หรือองค์กรใด ทั้งกระซิบว่า เรื่องแบบนี้จริงก็ได้ เท็จก็ได้ ตามแต่ผู้ฟังจะใช้วิจารณญาณ
ที่สำคัญ...นี่ก็ใกล้ฤดูโยกย้าย,ฤดูเกษียณอายุเข้ามาเต็มทีแล้ว ไม่ทราบว่าจะยังมีผู้กล้า ที่สนใจ สืบต่อวรยุทธของท่านทะเยอทะยานต่อไปอีกหรือไม่ หรือหมดเวลาแห่งวรยุทธโบราณแล้ว...เพราะยุคนี้สมัยนี้เป็นยุคของคนรุ่นใหม่ วิทยายุทธ วรยุทธย่อมเปลี่ยนไป ตามบริบทแห่งสังคม
ครับ ก็อ่านกันเล่นๆ ถือเสียว่าฟังนิทานแปลกๆสักเรื่อง ทั้งเป็นการอนุรักษ์เรื่องเล่าสืบเนื่องกันมาก็แล้วกันนะครับ..ขอบคุณครับ