กระทู้ระบาย! ความมืดมนในจิตใจจนทำให้ชีวิตใกล้พัง

นี่เป็นกระทู้ระบาย ไม่รู้จะไปเล่าที่ไหนให้ใครฟัง เลยมาเล่าในนี้แล้วกัน

เราเป็นวัยรุ่นคนหนึ่งที่เรียนจบ ป.ตรีวิชาชีพมาสักพัก เราเริ่มจากทำงานตามสาขาวิชาชีพที่บริษัทมหาชนแห่งหนึ่ง เงินเดือนอยู่ในระดับกลางๆ เรากับแฟนเริ่มซื้อบ้านซื้อรถ มีอุปกรณ์เครื่องใช้สะดวกสบายหลายอย่าง ถือว่าได้ใช้ชีวิตดีระดับนึงเลย แต่เมื่อทำงานไปเข้าปีที่ 3 เราเกิดมีอาการภาวะซึมเศร้าเนื่องจากเครียดกับงานและรู้ตัวว่าเป็นงานที่ไม่ตอบโจทย์ชีวิตและไม่เหมาะกับตัวเราเลย เราไปหาพบแพทย์ด้วยนะเพราะอยากหาย อยากรู้สาเหตุ มันก็ดีขึ้นเล็กน้อย เพราะพยายามปรับตัวเรื่อยๆ มองข้อดีของงานเข้าไว้ จนไม่ต้องไปพบแพทย์แล้ว อยู่มาวันหนึ่งถึงจุดที่แตกหักที่สุดคือ อยู่ๆเราใจสั่น รู้สึกหน้าชาปากซีดที่โต๊ะทำงาน ไปกินข้าวกับเพื่อนแล้วอยู่ๆน้ำตาก็ไหลออกมาไม่รู้ตัว ตอนนี้เราเดาว่าตอนนั้นเราน่าจะเป็นอาการแพนิค เราทำงานต่อไม่ไหว มันบั่นทอนมากๆ จนคุยกับแฟนว่าจะออก แล้วเราก็เริ่มมองๆธุรกิจส่วนตัวไว้ พอออกมาเราก็เริ่มทำธุรกิจออนไลน์เลยค่ะ ช่วงแรกๆไฟแรงมาก ทำๆๆ จนรู้สึกว่าเราน่าจะทำได้ ผลตอบรับก็โอเค แต่อาการซึมๆก็เป็นๆหายๆ ธุรกิจเริ่มสั่นๆ จนใกล้เจ๊ง เราทำธุรกิจแรกเกือบเจ๊งด้วยเงินเก็บเกือบหมดตัว เราตัดสินใจกู้แบงค์เพื่อมาประคองธุรกิจ จนในที่สุด ใช่ค่ะ เจ๊ง!! เราเริ่มหมดความมั่นใจ แต่ก็ต้องกลับไปทำงานประจำเพื่อใช้หนี้จนหมด ด้วยความทุลักทุเลที่อาการภาวะซึมเศร้ากลับมา ขายของใช้บางส่วนเพื่อมาโปะหนี้ หลังจากออกจากงานประจำรอบสอง เราไปปฎิบัติธรรมเพื่อหวังว่าจิตใจจะสงบขึ้น มีสติแก้ปัญหามากขึ้น กลังจากออกจากวัดเราเริ่มมาลุยธุรกิจอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ขอหยิบยืมเงินแม่มาเสริม และเริ่มทำเดลิเวอร์รี่ที่บ้าน เราคิดว่าเราเป็นคนชอบทำอาหารค่ะ ทำให้แฟนกินแฟนก็บอกอร่อย แต่ไม่แน่ใจว่าตัวเองฝีมือพอทำขายได้ไหม ก็ได้แต่ลอง อาทิตย์แรกขายได้วันละนิดแต่ได้ทุกวัน ใจเราชื้น แต่พอหลังๆเริ่มไม่มีออเดอร์ เงินทุนก็เริ่มหมด เรากลับมาซึมอีกครั้ง พยายามทำให้ตัวเองแอ็คทีฟก็แล้ว เราเริ่มไม่มีเงินจ่ายค่างวดที่กู้มาทำธุรกิจ เริ่มไม่มีสภาพคล่อง ค่าต่างๆที่ก็เริ่มโทรมาทวงถาม ตอนนี้ไฟเราหมดไปโดยไม่กลับมาแล้ว เรารอเงินประกันสังคมเพื่อมาลงทุนต่อ เราไม่อยากกลับไปทำงานประจำ แค่คิดใจก็สั่นกลัวขึ้นสมองแล้ว ตอนนี้แฟนแบกภาระค่างวดบ้านคนเดียว เค้ามีภาระของเค้าซึ่งมีเงินลงทุนของเราอยู่ในนั้นด้วย แฟนเราช่วยเราทุกทางเพื่อประคอง เรารู้สึกสิ้นหวังมากค่ะ อยากหนีออกจากบ้านตัวเองเพราะรู้สึกว่าเป็นภาระของคนรอบตัว อยากไปเริ่มต้นใหม่ตัวคนเดียว ถ้าบอกว่าเราจะหนีปัญหา ไม่รู้ว่าจะพูดยังไง เราไม่สามารถหาเงินมาแก้ปัญหาได้สักพักแล้ว ค่างวดบ้านแฟนก็จ่ายคนเดียวสักพักแล้วค่ะ เราไม่ได้ช่วยอะไรเลย ถึงไม่มีเราเค้าก็คงอยู่ได้ เราคิดอยากจะขายอุปกรณ์ส่วนตัวเพื่อมาใช้หนี้อีกมากมายของเรา เราพูดกับแฟนตลอดว่า ถ้าตัวเองไม่มีเค้า ตัวเองคนไม่ลำบากแบบนี้ เราอยากให้แฟนไปเจอคนที่เค้าสามารถช่วยเหลือแฟนได้ค่ะ เรารู้สึกเราเป็นภาระสำหรับเค้าเกินไป ทั้งอาการซึมเศร้า ทั้งเรื่องการกระทำ คำพูดและจิตใจเราตอนนี้ และอีกปัญหาใหญ่ที่เราบอกแฟนตลอดว่า ถ้าอยู่กับเราต่อไป เธอจะไม่เหลืออะไรเลยนะ ดูเราตอนนี้สิ😢 มันหดหู่มากค่ะ รักมากแต่ก็ไม่อยากให้มาทรมานกับเรา เราคบกันเข้าปีที่ 8 เราสงสารแฟน สงสารคนรอบตัวๆเอง พ่อ แม่ และคนอื่นๆที่สนับสนุนคนโง่ๆแบบเรา เราไม่อยากทำให้เค้าผิดหวัง แต่เราก็ทำให้เค้าผิดหวังซ้ำๆ
หลังๆมานี้เราคิดถึงความตายค่ะ นึกภาพตอนตัวเองทำเหตุการณ์ต่างๆ พร้อมทั้งพูดทำร้ายจิตใจแฟน อยากไปอยู่คนเดียวแบบไม่ติดต่อใคร เรื่องบ้านเราจะโอนให้เป็นชื่อแฟนคนเดียวค่ะถ้าเราไม่ได้อยู่กับเค้าแล้ว แต่ร้ายกว่านั้นคือความคิดว่า ถ้าเราจากไปประกันของบ้านที่ทำไว้ในส่วนของเราคงช่วยให้เค้าแบกภาระน้อยลงเพราะหนี้จะลดลงครึ่งนึง เราคงจะทำเพื่อเค้าและมีประโยชน์เท่านี้ อีกด้านของความคิดก็อยากไปหางานทำที่อื่นไกลๆคนรอบตัวค่ะ อยากช่วยเหลือตัวเองให้มากกว่านี้ มันอาจเป็นเพราะเราได้รับการสนับสนุนมากไปจนเราอ่อนแอ อยากออกไปสู้ด้วยตัวเอง อยากลองไปทำงานประจำอีกสักครั้ง แต่ก็กลัวไปไม่รอด หมดความมั่นใจในตัวเองมากๆจนเหลือศูนย์(สมัยเรียนแม่บอกเราว่าเราเป็นคนมีความมั่นใจมากๆ ณ.ตอนนี้แม่ตกใจมากที่เราเปลี่ยนไปขนาดนี้)


ตอนนี้เราไม่รู้เลยค่ะ ว่าเราเป็นอะไร เป็นใคร ต้องการอะไร ชีวิตว่างเปล่า ไม่อยากเอาอะไรแล้ว นึกถึงวันที่ตัวเองไม่อยู่บ่อยๆ (ก่อนหน้านั้นเราออกกำลังกายและอ่านหนังสือให้ช่วยบรรเทาอาการ) เรานอนจมอยู่ในห้องนอนมาสองสามอาทิตย์แล้วไม่อยากออกไปไหน ไม่อยากทำอะไร

ปล. ก่อนหน้านี้เราไปพบแพทย์หลายรอบแล้วค่ะ เหมือนดีขึ้นแต่เราไม่ได้ไปต่อเพราะหลายๆปัจจัย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่