เมืองทอง ยูไนเต็ดและชลบุรี เอฟซี คุณภาพนักเตะพอๆกัน รูปแบบโครงสร้างของทีมคล้ายกัน แท็กติกวิธีการทำทีมของโค้ชก็คล้ายกัน แต่สิ่งที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดเจน คือ ความเคี่ยวของโค้ช แม้รูปแบบเกมส์จะคล้ายกัน แต่รายละเอียดแท็กติกที่โค้ชเตี้ยใส่ลงไป มีความละเอียด มีความเคี่ยว รวมถึงการแก้เกมส์ที่ดีกว่ามาก เหตุผลมาจากประสบการณ์ทำทีมที่โค้ชเตี้ยมีประสบการณ์ที่สูงกว่ามาก มีความละเอียด ความเข้าใจเกมส์ที่สูงกว่า ทำให้สามารถชนะขาดลอย 1 ประตูต่อ 5 คว้าสามแต้มได้อย่างง่ายดาย
   ส่วนเมืองทอง ยูไนเต็ด เมื่อเจอโค้ชเคี่ยวๆแบบโค้ชเตี้ย เห็นได้ชัดเจนว่า"หมดมุก"ในการแก้เกมส์ อีกทั้งเมืองทอง ยังใช้รูปแบบสไตล์การทำทีมในลักษณะเดียวกันกับฤดูกาลที่แล้ว เน้นครองบอลเคาะบอลชิ่งไปชิ่งมาในแดนกลาง แต่ขาดจังหวะเข้าทำที่เด็ดขาดเหมือนเดิม ที่สำคัญรูปแบบเกมส์ขาดความละเอียด ทำให้คู่แข่งสามารถจับทางได้ทั้งหมด 
   เมืองทอง ยูไนเต็ด โครงสร้างทีมไม่ได้แย่ อยู่ในระดับค่อยข้างดีเลยด้วยซ้ำ แต่สิ่งที่ขาดคือ โค้ชที่มีประสบการณ์ มีความเคี่ยว มีแท็กติกที่ละเอียดสูง โดยดูจากโครงสร้าง รูปแบบการทำทีมในปัจจุบัน เหมาะสมกับสไตล์โค้ชญี่ปุ่น สเปนและฮอลแลนด์มากกว่า 

ยกตัวอย่างโค้ชญี่ปุ่นเช่น กุนซือนักปั้นมือทอง"โทโมฮิโระ คาตาโนะซากะ" โค้ชยอดเยี่ยมแห่งปีเจลีก ปี 2019 อดีตนายเก่านิว ฐิติพันธ์
โค้ช "โทโมฮิโระ คาตาโนะซากะ" วัย 51 ปี กุนซือฝีมือดีนักปั้นผู้เล่นท้องถิ่น  ที่ปัจจุบันพึ่งโดนปลดจากทีมกัมบะ โอซาก้า ในศึกเจลีก1 เป็นโค้ชที่มีแนวทางการทำงานชัดเจน เน้นพัฒนานักเตะท้องถิ่นเป็นหลัก ปั้นนักเตะจนโด่งดังแล้วขาย
อดีตโค้ช "โออิตะ ตรินิตะ" เป็นสโมสรที่ "นิว ฐิติพันธ์"เคยมีโอกาสค้าแข้งในเจลีก 1 รูปแบบการทำทีมเน้นฟุตบอลระบบชัดเจน ประสบความสำเร็จในการทำทีม ทั้งที่ทีมไม่มีสตาร์ดัง และมีงบการทำทีมจำกัด สามารถพาทีมเลื่อนชั้นจากเจลีก 3 ขึ้นสู่ เจลีก 1 ภายใน 3 ปี 
https://ppantip.com/topic/41593999

หากเมืองทอง ยูไนเต็ดยังไม่ปรับเปลี่ยนดูแนวโน้มจาก6เกมส์ที่ผ่านมา รับรองได้เลยว่าหมดลุ้นแชมป์ และจะกลายเป็นทีมระดับกลางตารางอย่างถาวรแน่นอน