JJNY : 5in1 อุ๊งอิ๊งนำทีมช่วยน้ำท่วม│ชนินทร์จวกคนละครึ่ง│เสรีพิศุทธ์ให้ถ้อยคำ│พรุ่งนี้เบนซิน-โซฮอล์ขึ้น│พบโอมิครอนเจน 3

‘อุ๊งอิ๊ง’ นำทีมบรรจุสิ่งของช่วยประชาชนถูกน้ำท่วม-หวั่นกระทบนิคมอุตฯ
https://www.dailynews.co.th/news/1464609/

หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ช่วยน้ำท่วม "อุ๊งอิ๊ง" นำทีมบรรจุสิ่งของอุปโภคแจกประชาชน ประธานสภา กทม.ห่วงนิคมอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบ ขอให้ กทม.ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเปิดประตูระบายน้ำคลองหลักใกล้เคียง เพื่อระบายน้ำไปสู่อุโมงค์พระราม 9
 
 
เมื่อวันที่ 13 ก.ย. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วย นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพมหานคร นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ที่ปรึกษาคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพมหานคร น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. และโฆษกพรรค นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ส.ส.กทม. น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ น.ส.อรุณี กาสยานนท์ รองเลขาธิการพรรค นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรค และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สุรินทร์ นายศิลปวิชญ์ น้อยสมมิตร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. นายประภัสร์ จงสงวน สมาชิกพรรค รวมทั้งทีมส.ก. และอดีตผู้สมัคร ส.ก. พร้อมด้วยสมาชิกครอบครัวเพื่อไทย ร่วมกันบรรจุถุงยังชีพ “ครอบครัวเพื่อไทยร่วมใจช่วยน้ำท่วม” บรรจุของใช้จำเป็นสำหรับการอุปโภค บริโภค เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ข้าวสาร ขนม ยารักษาโรค น้ำเปล่า กว่า 1,000 ชุด พร้อมทั้งสุขาลอย เพื่อนำไปมอบให้กับประชาชนผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วมขัง ผ่านตัวแทน ส.ส.กทม. ส.ก. และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ในเขตที่ประสบภัยน้ำท่วม
 
นางพวงเพ็ชร กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการจัดกิจกรรมดังกล่าวว่า หลังจากที่ทั้ง ส.ก. ส.ส. และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ได้ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และสัมผัสความเดือดร้อนของประชาชน วันนี้จึงได้ระดมกำลังสมาชิกและผู้บริหารพรรคช่วยกันบรรจุสิ่งของ เพื่อนำไปส่งมอบให้กับประชาชนที่เดือดร้อน ในเขตพื้นที่ซึ่งกำลังประสบอุทกภัยในกรุงเทพฯ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในเบื้องต้น
 
ทางด้าน น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ได้ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่มาโดยตลอด รู้สึกเป็นห่วงพี่น้องประชาชนชาว กทม. และทั่วประเทศที่ต้องประสบภาวะยากลำบาก พรรค พท.ขอส่งความห่วงใยไปถึงคนไทยทุกคน จึงขอเป็นส่วนเล็กๆ ที่ช่วยแบ่งเบาความทุกข์ หากมีอะไรที่พรรคเพื่อไทยทำได้ต่อจากนี้ก็พร้อมยินดีให้ความร่วมมือ
 
ขณะที่ น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวว่า น้ำท่วมในพื้นที่ลาดกระบังในขณะนี้สถานการณ์ค่อนข้างหนัก เนื่องจากในพื้นที่เป็นแอ่งกะทะ การระบายน้ำจึงต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายฝ่ายเพื่อหาทางระบายน้ำออกสู่ประตูระบายน้ำ ซึ่งใช้ระยะเวลาในการประสานความร่วมมือทำให้พี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อนจำนวนมาก ที่ผ่านมาได้ขอความร่วมมือไปยังหลายหน่วยงานในการผลักดันน้ำออกจากพื้นที่ โดยได้ส่งหนังสือขอความร่วมมือตามระเบียบของทางราชการ ยอมรับว่าล่าช้าไม่ทันท่วงทีกับเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน
 
ส่วน นายพลภูมิ กล่าวว่า ชุมชนริมคลองในพื้นที่ถูกน้ำท่วมในระดับหัวเข่าเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ตนได้ประสานความร่วมมือกับกรุงเทพฯ และสำนักงานเขต นำเอาสิ่งของช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ทั้งอาหาร น้ำดื่ม กระสอบทราย รวมทั้งรถยนต์ หรือเรือ ในการรับส่งพี่น้องประชาชน สิ่งที่ขาดแคลนในตอนนี้คือสุขาลอย ซึ่งจะได้รับมอบจากพรรคเพื่อไทยส่งเข้าไปช่วยพี่น้องประชาชนต่อไป
 
ทางด้าน นายวิรัตน์ มีนชัยนันท์ ประธานสภา กทม. กล่าวว่า มีความเป็นห่วงนิคมอุตสาหกรรมหลายแห่งที่อาจได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เช่น นิคมอุตสาหกรรมบางชัน นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง จึงขอให้ กทม.ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเปิดประตูระบายน้ำคลองหลักใกล้เคียง เพื่อระบายน้ำไปสู่อุโมงค์พระราม 9 ในวันพรุ่งนี้ (14 ก.ย.) จะมีเปิดประชุมสภา กทม.สมัยวิสามัญ โดยจะมีการเปิดญัตติด่วนด้วยวาจาเรื่องการบริหารจัดการน้ำท่วมในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังได้รับการร้องเรียนจาก ประชาชนในพื้นที่ ซึ่ง ส.ก.ทุกเขตของเพื่อไทย จะมีการอภิปรายถึงปัญหาที่เกิดขึ้น สำหรับพี่น้องประชาชนชาว กทม.ที่ประสบปัญหาน้ำท่วม หรือต้องการความช่วยเหลือ สามารถแจ้งเหตุมาได้ที่ที่ทำการของ ส.ก.แต่ละเขตของพรรค พท. ได้ทันที.


 
ชนินทร์ จวก 'คนละครึ่ง' พังเละ แนะ 'ธนกร' ลงพื้นที่ฟัง ปชช. อย่าหลับหูหลับตาอวยเกินจริง
https://www.matichon.co.th/politics/news_3559803
 
“ชนินทร์” อัด 8 ปีระบอบ “ประยุทธ์” ฉุด ปชช.ดิ่งจมก้นเหว จวก คนละครึ่งสุดพังวงเงินไม่พอยาไส้ ร้านค้าแห่หนีเหตุโดนภาษีอ่วม เหน็บ “ธนกร” ลงพื้นที่บ้าง อย่าเอาแต่หลับหูหลับตาเชียร์ “บิ๊กตู่” เกินจริ
 
ด้าน นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สุรินทร์ กล่าวถึงกรณีที่นายธนกร วังบุญคงชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) วิพากษ์วิจารณ์การหาเสียงของพรรค พท. และคุยถึงผลงานของพรรค พปชร.ว่า ทุกวันนี้ประชาชนทุกคนเข้าใจและเห็นไปในทิศทางเดียวกันหมดแล้วว่ารัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และพรรค พปชร. ไปต่อไม่ไหว ประเทศตกต่ำจมก้นเหว ผลโพลทุกสำนักก็ออกมาในทิศทางเดียวกันว่าอยากเปลี่ยนตัวผู้นำประเทศ และเห็นว่าพรรค พท. เป็นความหวังในการพลิกฟื้นวิกฤตที่เกิดขึ้นจากฝีมือของรัฐบาลชุดนี้ อยากได้รัฐบาลที่นำโดยพรรค พท.เข้ามาแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่ถูกหมักหมมซุกไว้ใต้พรมเป็นเวลานาน
 
“นายธนกรต้องลงพื้นที่และฟังเสียงประชาชนบ้าง นโยบายหลายอย่างที่โอ้อวดอยู่ตอนนี้เริ่มส่อเค้าลางพังไม่เป็นท่า โครงการคนละครึ่งรอบล่าสุดล้มเหลวโดยสิ้นเชิง ประชาชนบ่นระงมว่าวงเงินที่ได้น้อยเกินไปไม่พอยาไส้ ร้านค้าจำนวนมากแห่ไม่ขอเข้าร่วมโครงการ เพราะโดนรีดเก็บภาษีจากการเข้าร่วมในครั้งก่อน บางร้านที่เข้าร่วมครั้งนี้ก็ปรับราคาขึ้นหลายสิบเปอร์เซ็นต์ โดยให้เหตุผลว่าต้องเตรียมพร้อมสำหรับการเสียภาษีที่จะเพิ่มขึ้น หากรัฐบาลเข้าถึงใจประชาชนดีอย่างที่อวดอ้าง ต้องรู้จักผ่อนคลายมาตรการทางภาษี ให้เศรษฐกิจเดินไปได้ และดึงผู้ค้าเข้าระบบเป็นหลัก อย่ารังแกประชาชนที่ตกอยู่ในภาวะอ่อนแอ อย่าเพิ่งฉวยโอกาสรีดเลือดกับปู จะทำให้เศรษฐกิจตกต่ำย่ำแย่ไปมากกว่าเดิมจากที่พังไม่เป็นท่าอยู่แล้วในปัจจุบัน” นายชนินทร์กล่าว
 
นายชนินทร์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ในส่วนมาตรการที่จะเข้ามาช่วยเหลือค่าไฟฟ้าประชาชน หลังจากที่ประกาศปรับราคาค่าไฟ เพิ่มภาระค่าครองชีพมาตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน 2565 ก็ยังไม่อนุมัติงบประมาณในโครงการออกมาเสียที ทั้งที่ควรคิดให้เป็นระบบและปล่อยออกมาพร้อมกันตั้งแต่ประกาศขึ้นราคา เพื่อบรรเทาความทุกข์ใจของผู้มีรายได้น้อย ไม่ใช่ปล่อยประชาชนลอยแพตามยถากรรม ต้องลุ้นกันเองว่าจะมีมาตรการช่วยเหลือออกมาหรือไม่ ทั้งนี้หากรัฐมีการปล่อยมาตรการช่วยเหลือค่าไฟออกมาจริง ก็ขอให้มีการคิดที่รอบคอบ และครอบคลุมผู้มีรายได้น้อยทุกกลุ่มด้วย อย่าใช้เกณฑ์ช่วยเฉพาะครัวเรือนที่ใช้ไฟน้อยเหมือนที่เคยทำมาตลอด เพราะชาวบ้านที่รายได้น้อยจำนวนมากอยู่อาศัยอย่างหนาแน่นในครัวเรือนเดียว รวมทั้งผู้เช่าหอพักต่างๆ ก็จะตกเกณฑ์เข้าไม่ถึงการช่วยเหลือ และต้องรับกรรมจากการบริหารที่ไม่มีความรู้ความเข้าใจประชาชน
 
“การบริหารของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ทำประเทศพังต่อเนื่องมา 8 ปี ส่งผลเสียต่อพี่น้องประชาชนอย่างแสนสาหัส แม้ปัจจุบัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จะเข้ามารับไม้ต่อในช่วงสุญญากาศระหว่างรอการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ก็ไม่ได้ทำให้สถานการณ์ดีขึ้น ประชาชนยังต้องเผชิญกับปัญหาเดิมๆ ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ ปากท้อง คนตกงาน ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข การที่คนในพรรคแกนนำรัฐบาลเองหลับหูหลับตายกยอผลงานของรัฐบาลทั้งที่ความจริงสวนทางกันโดยสิ้นเชิง ยิ่งย่ำยีหัวจิตหัวใจประชาชน” นายชนินทร์กล่าว


 
‘เสรีพิศุทธ์’ ให้ถ้อยคำกกต.ปมแจกกล้วยครอบงำพรรคเล็ก-จี้สรุปส่งศาล
https://www.dailynews.co.th/news/1464450/

“เสรีพิศุทธ์” ให้ถ้อยคำ กกต.ปมแจกกล้วยครอบงำพรรคเล็ก เชื่อส่งศาล รธน.ยุบ 7 พรรคพ่วงตัดสิทธิ “ป้อม-ธรรมนัส-กก.บห.พรรคเล็ก” ไม่วายซัด! "ประยุทธ์" 8 ปีแล้วอย่าตะแบงเลย! “สมชัย” จี้ กกต.เร่งสรุปส่งศาลก่อนเลือกตั้ง ก่อนถูกกล่าวหาช่วยเหลือบางพรรค

เมื่อวันที่ 13 ก.ย. เวลา 12.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวภายหลังเข้าให้ถ้อยคำคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนของ กกต. กรณี 6 พรรคเล็กรับเงินจากพรรคใหญ่ เพื่อแลกกับการโหวตสนับสนุนในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งมีโทษถึงขั้นยุบพรรค ว่าเป็นการให้รายละเอียดเพิ่มเติมจากคำร้องที่ได้ยื่นมาก่อนหน้านี้โดยสรุปคือพรรคเล็กยินยอมให้พรรคพลังประชารัฐเข้าครอบงำ ถือว่า เป็นความผิดทั้งสองฝ่าย โดยพรรคเล็กก่อนหน้านี้ไปอยู่กับฝ่ายค้านก็ไม่ได้เงิน จึงแห่ไปอยู่กับพรรคพลังประชารัฐซึ่งมีการจ่ายเป็นรายเดือน หลักฐานมีครบทั้งการโอนเงิน มีเลขบัญชี มีการเซ็นรับ มีคลิปเสียงผู้ที่รับเงินก็ให้การยอมรับ โชคดีที่เจ้าหน้าที่สอบสวนเป็นตำรวจเก่า ทำให้การให้ถ้อยคำเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
 
“ส.ส.พรรคเล็กพวกนี้วันๆ ไม่ทำงาน 6-7 คนที่มีชื่อรับเงิน ไม่เคยเห็นอภิปรายในสภาเลย มีแค่หมอระวี (นพ.ระวี มาศฉมาดล ) ที่เคยอภิปราย แต่มีชื่อว่ารับเงินเขาเหมือนกัน จะมาปฏิเสธว่าที่เซ็นนั้นเป็นเอกสารประชุมก็ไม่ใช่ หรือจะมาบอกว่าเขาจ่ายเงินเพื่อให้ลงไปดูแลพื้นที่ ไม่ได้เป็น ส.ส.เขตจะมีพื้นที่ให้ดูแลได้อย่างไร และการรับเงินไม่ต้องเป็นแสนแค่เกิน 3,000 บาท ก็ผิดแล้ว เรื่องนี้พรรคเสรีรวมไทยได้ยื่นเรื่องกับ ป.ป.ชไปแล้ว” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวและว่า การจ่ายเงินพรรคเล็กเกิดขึ้นที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ ดังนั้นเป็นไปไม่ได้ที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รักษาการนายกรัฐมนตรี จะไม่รู้เห็น แต่ทั้งนี้มั่นใจในคณะกรรมการสอบสวนและ กกต. เพราะเป็นผู้ที่เข้าใจกฎหมายพรรคการเมือง และกฎหมายเลือกตั้งมากกว่าตน เชื่อว่า กกต.จะส่งเรื่องนี้ไปยังศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณายุบ 6 พรรคเล็ก และ 1 พรรคใหญ่ รวมทั้งตัดสิทธิทางการเมืองกรรมการบริหารพรรค ซึ่งในจำนวนนั้นมี พล.อ.ประวิตร หัวหน้าพรรค และร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค ในขณะนั้น
 
ทางด้าน นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบายพรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า วันนี้เป็นการเรียกบุคคลที่เป็นผู้ร้องสอบกรณีพรรคใหญ่ครอบงำพรรคเล็ก ซึ่งเป็นการเรียกในฝั่งของผู้ร้อง ทั้ง 2 รายคือ นายศรีสุวรรณ จรรยา และ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ทั้งนี้เท่าที่ดูบรรยากาศการพูดคุย ทางพนักงานสอบสวนค่อนข้างที่จะมีรายละเอียดต่างๆพอสมควร ทั้งสำนวนการร้อง และหลักฐานต่างๆ ถือว่ามีข้อมูลเพียงพอที่จะดำเนินการต่อ คงจะต้องเรียกให้ผู้ถูกร้องมาให้ปากคำด้วยในโอกาสถัดไป เพราะในส่วนของผู้ร้องจบแล้ว เหลือในส่วนของผู้ถูกร้องที่จะต้องเชิญมาอีกทีหนึ่ง แต่หากเชิญมาแล้วไม่มาก็ถือว่าท่านไม่ใช้สิทธิในการที่จะชี้แจงข้อเท็จจริง ส่วนการตรวจสอบหมายเลขบัญชีธนาคารนั้น กกต.ได้ส่งจดหมายไปยังธนาคารต่างๆที่เกี่ยวข้อง ว่าหมายเลขบัญชีดังกล่าวมีเงินเข้าจำนวนเท่าไหร่ กี่ครั้ง ต่อเนื่องกันอย่างไร จากบัญชีของใครบ้าง ซึ่งจดหมายจาก กกต.ดังกล่าวมีการส่งไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทั้งนี้เรื่องที่ยังล่าช้าอยู่เพราะเรื่องไปอยู่ที่ฝ่ายนายทะเบียนพรรคการเมือง คือเลขาธิการ กกต. ประมาณเกือบเดือน หลังจากนั้นจึงส่งมาที่ฝ่ายสืบสวนสอบสวน ซึ่งฝ่ายสืบสวนสอบสวนถือว่าทำได้รวดเร็วแล้ว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่