ที่จริงก็ไม่ได้อยากเล่าระบายเรื่องแบบนี้ให้ใครฟัง แต่ตัวเองรู้สึกว่าอึดอัดใจมาก พอนอนหลับตื่นขึ้นมาทีไรก็วนเวียนอยู่ในสมองเหมือนจะกลายเป็นเรื่องที่ฝังใจไปทุกวันทุกปี
เรามีสามีเป็นคนเกาหลี คือ เล่าตอนที่ได้มาครั้งแรกก็ได้มาเยี่ยมเยียนได้มาอยู่พักที่บ้านพ่อแม่ของสามีระยะเวลา3เดือน จากนั้นเราก็กลับไทย เพราะต้องไปทำธุระเกี่ยวกับการอาศัยในประเทศเกาหลี และต่อมาเราก็ได้มาอาศัยในเกาหลีแบบจริงๆจังๆ และแฟนก็ได้ซื้อบ้าน แยกออกมาจากพ่อแม่ เพราะที่ทำงานแฟนอยู่อีกเมือง ไม่ไกลจากบ้านพ่อแม่ เรา2คนย้ายมาอยู่ด้วยกัน เวลามีธุระ เทศกาล หรือวันหยุดว่าง ก็มักจะลงไปหาพ่อแม่ของสามีตลอด เหตุการณ์ก็คือ เวลาเราจะทำอะไรก็ดูขัดหูขัดตาแม่สามีไปซะทุกเรื่อง (เฉพาะแม่สามี) พ่อสามีไม่เคยทำอะไรที่ทำให้เรารู้สึกกังวลใจ มีแค่แม่สามีเท่านั้น ที่เราอึดอัดกับแม่สามีเพราะ "เราไม่รู้ว่าเราผิดอะไร"
ปกติขึ้นมาบ้านแม่สามีทุกครั้งหน้าที่ประจำของเราก็คือมาช่วยเหลืองานครัวยิ่งงานล้างจานของแม่บ้านเกาหลีล้างจนอ่วมเต็มซิงค์เมื่อยแต่ก็ต้องทำเพราะทำอาหารเครื่องเคียงหลายอย่างก็คงไม่แปลกอะไร ทำจนชินมือชินตาเป็นประจำอยู่แล้ว เรารู้นะว่าควรต้องหยิบจับปรุงรสอะไรยังไง เพราะอยู่มา3ปีแล้ว เราก็รู้หน้าที่อาหารงานในครัวพอสมควร ส่วนตัวเราพื้นฐานเป็นคนที่เคารพผู้ใหญ่ไม่กล้าพูดมาก "ไม่ได้เข้าข้างตัวเองนะ" เพราะปฏิกิริยามันออกมาแบบนั้นเองเวลาเจอผู้ใหญ่ ยิ่งมาอยู่ที่เกาหลีวัฒนธรรมประเพณีของผู้ใหญ่ยิ่งต้องเคารพให้ความนับถือเป็นอย่างมาก ยิ่งเราเป็นคนไทยมาอยู่ต่างเมืองยิ่งต้องเจียมตัวเอามากๆๆจริงๆๆ
แม่สามีอายุ75ปีแล้ว แข็งแรงมากๆ แรกๆ เรามาเห็นก็ชื่นชมซื้อหนมมาฝากบ่อยๆ แล้วก็ชมว่าแม่ทำอาหารเก่งมาก ทำอร่อยทำได้หลายอย่างด้วย เราควรจะเอาเป็นแบบอย่างที่ดีไว้ไปใล้ในชีวิตประจำวัน
แต่ยิ่งเวลาผ่านไป ไม่รู้เป็นเพราะอะไร หาสาเหตุไม่เจอ งานในครัวเวลาเราจะหยิบจับหรือช่วยทำอาหาร แม่สามีก็บอกให้เรารอ รอคำสั่งทั้งที่มันก็ไม่ได้ยากอะไร เราทำได้ เพราะเราเก็บประสบการณ์ที่เห็นแล้วทำกินเองมา3ปี ก็รู้ประมาณนึงของอาหารเกาหลี พอบอกให้เราหยุดเราก็หยุดทำ รอคำสั่ง ไม่กล้าเถียง ไม่กล้าพูดมากแม่สามีก็หงุดหงิดว่าเราซะงั้น ว่ายืนอยู่ทำไมทำไมไม่ช่วยทำอาหารให้เสดๆ คือไม่เข้าใจว่าเราผิดอะไร ทำนั่นก็ไม่ได้ พอจะทำก็ว่า พอรอคำสั่งก็ว่า ท้อแท้ใจ วนลูปแบบนี้อยู่3ปี
ส่วนเรื่องจุกจิกเล็กน้อยก็มีที่แม่หงุดหงิดเรา เช่น เราจะเวฟข้าวต่อเพราะข้าวไม่ร้อน แม่ก็ไม่ให้เราเวฟ
ถ้าถ่ายรูปอาหารใหม่ๆเราก็ต้องรีบถ่าย แล้วต้องรีบเก็บ
โทรศัพท์ ตอนที่ไปเที่ยว ยิ่งต้องรีบให้สามีถ่ายรูปให้
แม่สามีจะหงุดหงิดจนแสดงอาการออกมาให้เรารู้
สีผมแค่คิดจะทำก็ไม่ให้ทำ เพราะมันจะดูไม่สุภาพ
แล้วล่าสุดเทศกาลอาหารวันไหว้ตอนเช้า แกคงจะเบื่อขี้หน้าเราหรือไง เราจับทำอะไรก็ผิดเหมือนเดิมไปหมด
พอเรารอกำลังถือกล่องผัก รอคำสั่งจะให้เราเอาผักที่หั่นไปเทในหม้อต้มเลยไหม แม่สามีก็หงุดหงิดเอามือมาจิ้มดันหลังเราแรงๆจนเจ็บ ผลักให้ไปทำที่หม้อต้มทำซะ สามีเดินเข้ามาเห็นพอดีก็มาช่วยเราอยู่ที่หม้อต้ม เพราะ เห็นสีหน้าเรสเริ่มไม่ดีแล้ว ตอนนั้นเรารู้สึกจะร้องไห้ออกมาแต่ก็กลั้นน้ำตา จนเตรียมของเสร็จจบพิธีเทศกาลวันไหว้ ที่เราเล่ามาคือมันอึดอัดใจ ท้อแท้ใจ คงเป็นเพราะว่าสะสมสิ่งที่เราเจอแบบนี้วนลูป มาตลอด3ปีก็อาจจะเป็นไปได้ ตกเย็นจากเหตุการณ์ล่าสุด เลยลองเปิดใจคุยกับสามีครั้งแรก ที่เคยเก็บมากลัวสามีจะว่าเรา เพราแม่เค้าเค้าก็รัก เราถึงเก็บความอึดอัดมาจนถึงปัจจุบัน
แต่เราเริ่มจะไม่ไหวเราก็เลยพูดตามที่เราเจอมาโดยตลอดพูดไปน้ำตาก็ไหลซะงั้นมันคงจะอัดอั้นใจมาก พอเราได้พูดให้สามีฟัง สามีก็บอกว่าแม่เค้าอายุเยอะแล้ว คงมีหลงมีลืมกันบ้างว่า พูดหรือสั่งอะไรกับเราไป ใช่เรารู้เราถึงทน แต่เราจะต้องทนกับปัญหาแบบนี้ไปเรื่อยๆเหรอ เราเข้าใจที่สามีพูดปลอบใจ แต่ในอนาคตเราก็คงต้องเจอจนกว่าจะทนไหว หรือไม่ไหวใช่ไหม ทุกอย่างทุกคนคือโอเคกับเราหมด พ่อ สามี พี่ชายสามี ญาติสามี (ยกเว้นแม่สามี) แต่ทำไงได้มาเป็นสามีภรรยากันแล้ว ก็คงต้องปล่อย แต่ที่ปล่อยไม่ได้คือเหตการณ์ซ้ำๆอาการเดิมๆที่ต้องเจอในอนาคตอีกแน่มันเลยทำให้เรารู้สึฝังใจ ตลอด3ปี และเราก็ไม่รู้ว่าอนาคตเราจะทนกับแม่สามีได้อีกนานสักแค่ไหน อึดอัดท้อแท้ใจจริงๆ ขอบคุณสำหรับคนที่อ่านจบเพราะว่าระบายความในใจยาวมากๆๆ 🥺🥺
เกาหลี แม่สามีกับลูกสะใภ้2022
เรามีสามีเป็นคนเกาหลี คือ เล่าตอนที่ได้มาครั้งแรกก็ได้มาเยี่ยมเยียนได้มาอยู่พักที่บ้านพ่อแม่ของสามีระยะเวลา3เดือน จากนั้นเราก็กลับไทย เพราะต้องไปทำธุระเกี่ยวกับการอาศัยในประเทศเกาหลี และต่อมาเราก็ได้มาอาศัยในเกาหลีแบบจริงๆจังๆ และแฟนก็ได้ซื้อบ้าน แยกออกมาจากพ่อแม่ เพราะที่ทำงานแฟนอยู่อีกเมือง ไม่ไกลจากบ้านพ่อแม่ เรา2คนย้ายมาอยู่ด้วยกัน เวลามีธุระ เทศกาล หรือวันหยุดว่าง ก็มักจะลงไปหาพ่อแม่ของสามีตลอด เหตุการณ์ก็คือ เวลาเราจะทำอะไรก็ดูขัดหูขัดตาแม่สามีไปซะทุกเรื่อง (เฉพาะแม่สามี) พ่อสามีไม่เคยทำอะไรที่ทำให้เรารู้สึกกังวลใจ มีแค่แม่สามีเท่านั้น ที่เราอึดอัดกับแม่สามีเพราะ "เราไม่รู้ว่าเราผิดอะไร"
ปกติขึ้นมาบ้านแม่สามีทุกครั้งหน้าที่ประจำของเราก็คือมาช่วยเหลืองานครัวยิ่งงานล้างจานของแม่บ้านเกาหลีล้างจนอ่วมเต็มซิงค์เมื่อยแต่ก็ต้องทำเพราะทำอาหารเครื่องเคียงหลายอย่างก็คงไม่แปลกอะไร ทำจนชินมือชินตาเป็นประจำอยู่แล้ว เรารู้นะว่าควรต้องหยิบจับปรุงรสอะไรยังไง เพราะอยู่มา3ปีแล้ว เราก็รู้หน้าที่อาหารงานในครัวพอสมควร ส่วนตัวเราพื้นฐานเป็นคนที่เคารพผู้ใหญ่ไม่กล้าพูดมาก "ไม่ได้เข้าข้างตัวเองนะ" เพราะปฏิกิริยามันออกมาแบบนั้นเองเวลาเจอผู้ใหญ่ ยิ่งมาอยู่ที่เกาหลีวัฒนธรรมประเพณีของผู้ใหญ่ยิ่งต้องเคารพให้ความนับถือเป็นอย่างมาก ยิ่งเราเป็นคนไทยมาอยู่ต่างเมืองยิ่งต้องเจียมตัวเอามากๆๆจริงๆๆ
แม่สามีอายุ75ปีแล้ว แข็งแรงมากๆ แรกๆ เรามาเห็นก็ชื่นชมซื้อหนมมาฝากบ่อยๆ แล้วก็ชมว่าแม่ทำอาหารเก่งมาก ทำอร่อยทำได้หลายอย่างด้วย เราควรจะเอาเป็นแบบอย่างที่ดีไว้ไปใล้ในชีวิตประจำวัน
แต่ยิ่งเวลาผ่านไป ไม่รู้เป็นเพราะอะไร หาสาเหตุไม่เจอ งานในครัวเวลาเราจะหยิบจับหรือช่วยทำอาหาร แม่สามีก็บอกให้เรารอ รอคำสั่งทั้งที่มันก็ไม่ได้ยากอะไร เราทำได้ เพราะเราเก็บประสบการณ์ที่เห็นแล้วทำกินเองมา3ปี ก็รู้ประมาณนึงของอาหารเกาหลี พอบอกให้เราหยุดเราก็หยุดทำ รอคำสั่ง ไม่กล้าเถียง ไม่กล้าพูดมากแม่สามีก็หงุดหงิดว่าเราซะงั้น ว่ายืนอยู่ทำไมทำไมไม่ช่วยทำอาหารให้เสดๆ คือไม่เข้าใจว่าเราผิดอะไร ทำนั่นก็ไม่ได้ พอจะทำก็ว่า พอรอคำสั่งก็ว่า ท้อแท้ใจ วนลูปแบบนี้อยู่3ปี
ส่วนเรื่องจุกจิกเล็กน้อยก็มีที่แม่หงุดหงิดเรา เช่น เราจะเวฟข้าวต่อเพราะข้าวไม่ร้อน แม่ก็ไม่ให้เราเวฟ
ถ้าถ่ายรูปอาหารใหม่ๆเราก็ต้องรีบถ่าย แล้วต้องรีบเก็บ
โทรศัพท์ ตอนที่ไปเที่ยว ยิ่งต้องรีบให้สามีถ่ายรูปให้
แม่สามีจะหงุดหงิดจนแสดงอาการออกมาให้เรารู้
สีผมแค่คิดจะทำก็ไม่ให้ทำ เพราะมันจะดูไม่สุภาพ
แล้วล่าสุดเทศกาลอาหารวันไหว้ตอนเช้า แกคงจะเบื่อขี้หน้าเราหรือไง เราจับทำอะไรก็ผิดเหมือนเดิมไปหมด
พอเรารอกำลังถือกล่องผัก รอคำสั่งจะให้เราเอาผักที่หั่นไปเทในหม้อต้มเลยไหม แม่สามีก็หงุดหงิดเอามือมาจิ้มดันหลังเราแรงๆจนเจ็บ ผลักให้ไปทำที่หม้อต้มทำซะ สามีเดินเข้ามาเห็นพอดีก็มาช่วยเราอยู่ที่หม้อต้ม เพราะ เห็นสีหน้าเรสเริ่มไม่ดีแล้ว ตอนนั้นเรารู้สึกจะร้องไห้ออกมาแต่ก็กลั้นน้ำตา จนเตรียมของเสร็จจบพิธีเทศกาลวันไหว้ ที่เราเล่ามาคือมันอึดอัดใจ ท้อแท้ใจ คงเป็นเพราะว่าสะสมสิ่งที่เราเจอแบบนี้วนลูป มาตลอด3ปีก็อาจจะเป็นไปได้ ตกเย็นจากเหตุการณ์ล่าสุด เลยลองเปิดใจคุยกับสามีครั้งแรก ที่เคยเก็บมากลัวสามีจะว่าเรา เพราแม่เค้าเค้าก็รัก เราถึงเก็บความอึดอัดมาจนถึงปัจจุบัน
แต่เราเริ่มจะไม่ไหวเราก็เลยพูดตามที่เราเจอมาโดยตลอดพูดไปน้ำตาก็ไหลซะงั้นมันคงจะอัดอั้นใจมาก พอเราได้พูดให้สามีฟัง สามีก็บอกว่าแม่เค้าอายุเยอะแล้ว คงมีหลงมีลืมกันบ้างว่า พูดหรือสั่งอะไรกับเราไป ใช่เรารู้เราถึงทน แต่เราจะต้องทนกับปัญหาแบบนี้ไปเรื่อยๆเหรอ เราเข้าใจที่สามีพูดปลอบใจ แต่ในอนาคตเราก็คงต้องเจอจนกว่าจะทนไหว หรือไม่ไหวใช่ไหม ทุกอย่างทุกคนคือโอเคกับเราหมด พ่อ สามี พี่ชายสามี ญาติสามี (ยกเว้นแม่สามี) แต่ทำไงได้มาเป็นสามีภรรยากันแล้ว ก็คงต้องปล่อย แต่ที่ปล่อยไม่ได้คือเหตการณ์ซ้ำๆอาการเดิมๆที่ต้องเจอในอนาคตอีกแน่มันเลยทำให้เรารู้สึฝังใจ ตลอด3ปี และเราก็ไม่รู้ว่าอนาคตเราจะทนกับแม่สามีได้อีกนานสักแค่ไหน อึดอัดท้อแท้ใจจริงๆ ขอบคุณสำหรับคนที่อ่านจบเพราะว่าระบายความในใจยาวมากๆๆ 🥺🥺