'ตรีชฎา' ฉะ รัฐบาล 'บิ๊กตู่' ฉาว ทั้งนายกฯ-รมต.ถูกศาลสั่งพักงานอื้อ
https://www.matichon.co.th/politics/news_3531535
‘ตรีชฎา’ ฉะ รัฐบาล ‘บิ๊กตู่’ ฉาว ทั้งนายกฯ-รมต.ถูกศาลสั่งพักงานอื้อ เหน็บ ตอนนี้เปลี่ยนมือจากน้องเล็กเป็นพี่ใหญ่ที่ไม่เคยรู้อะไรเลย ถาม จะบริหาร-แก้ปัญหาประเทศได้อย่างไร จวก ผู้คุม กม.กลายเป็นผู้ประทำผิดเอง แนะรีบลาออกเลือกนายกฯ ใหม่
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 28 สิงหาคม ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) น.ส.
ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรค พท. กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ว่า พรรค พท. ขอขอบคุณเสียงส่วนใหญ่ของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่มีคำสั่งให้พล.อ.ประยุทธ์หยุดการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเป็นไปตามคำร้องของพรรคร่วมฝ่ายค้านที่ยื่นข้อเท็จจริง ในระหว่างที่รอกระบวนการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อชี้ชะตาชีวิตคนไทยทั้งประเทศ และตอนนี้ผู้นำรัฐบาลเปลี่ยนมือจากน้องเล็กมาเป็นพี่ใหญ่ที่ดูเหมือนจะไม่เคยรู้อะไรเลย แล้วจะบริหารประเทศอย่างไร จะแก้ปัญหาที่หมักหมมมาตลอด 8 ปีได้หรือไม่ เป็นเรื่องที่น่าห่วงกังวลและสิ้นหวังอย่างยิ่ง
น.ส.
ตรีชฎา กล่าวต่อว่า ทั้งพี่ใหญ่ น้องกลางและน้องเล็กกอดคอร่วมหัวจมท้ายกันมานานกว่า 8 ปี พรรค พท. เห็นว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือรัฐบาล ขณะนี้เปรียบได้กับเป็ดง่อยพิกลพิการ ทำอะไรไม่ได้ องค์ประกอบของครม.ก็ขาดวิ่น มีรูโหว่เต็มไปหมดไม่ต่างจากกระชังก้นรั่ว โดยเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2564 ที่ผ่านมาได้มีการปลดร.อ.
ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) ออกจากรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และปลดนาง
นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ออกจากรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน แล้วก็ปล่อยตำแหน่งรัฐมนตรีให้ว่าง 2 ตำแหน่งมาเกือบปี ปล่อยให้การบริหารราชการแผ่นดินขาดตกบกพร่อง
ทั้งนี้ ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 สิงหาคมนี้ ศาลฎีกามีคำสั่งให้นาง
กนกวรรณ วิลาวัลย์ หยุดปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการอีก และในวันที่ 14 กันยายนนี้ กรณีที่นาย
นิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จะถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นจากรัฐมนตรีหรือไม่ เพราะถูกร้องว่าเคยถูกสั่งให้พ้นจากตำแหน่งนายก อบจ.สงขลา เพราะเกี่ยวพันกับการฮั้วประมูล
“ปัจจุบันเท่ากับว่าตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยของรัฐบาลเป็ดง่อยสภาพเตี้ยอุ้มค่อม ว่างอยู่ 3 ตำแหน่งสำคัญ และรอการพิจารณาว่าจะขาดไปอีก 1 ตำแหน่งหรือไม่ ทั้ง ครม. ที่คัดเลือกมาจากฝีมือของพล.อ.ประยุทธ์ ต่างคนต่างอยู่ ขาดเอกภาพ ไร้ประสิทธิภาพ ประเทศจึงเดินมาถึงจุดที่ไร้เสถียรภาพขั้นสูงสุด ผู้คุมกฎหมายกลายเป็นผู้ประทำผิดเอง จนกลายเป็นบ่อเกิดของระบบอุปถัมภ์ที่เฟื่องฟู การฝากฝังใช้เส้นสายกลายเป็นเครื่องหมายแสดงอำนาจ จนเกิดกรณี ส.ต.ท.หญิง ที่กลายเป็นเรื่องอื้อฉาวในแวดวงสีกากี ลามไปถึงวงการลายพรางในวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ควรเป็นนายกรัฐมนตรีสักวินาทีเดียว เพราะประชาชนไม่ได้เลือกท่านมา แต่สถานการณ์พาไป ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ ยอมรับในกฎหมายที่ตนเองแต่งตั้ง เป็นผู้ร่างกฎหมายขึ้นมาเอง สุดท้ายกฎหมายกลับมาบีบคั้นตัวพล.อ.ประยุทธ์เสียเอง ทางรอดของประเทศอยู่ที่ทางเลือกทางลงของพล.อ.ประยุทธ์ จะเลือกให้ตัวเองรอดหรือจะเลือกให้ประเทศและประชาชนรอดเท่านั้น” น.ส.
ตรีชฎา กล่าว
ธนาธร ผ่านตัดตัวสุดท้าย จ่อเข้าเส้นชัยพาไทยทีมแรก พิชิตศึกวิ่งเทรล UTMB PTL
https://www.matichon.co.th/sport/news_3531417
ธนาธร ผ่านตัดตัวด่านสุดท้าย จ่อเข้าเส้นชัยพาไทยทีมแรก พิชิตศึกวิ่งเทรล UTMB PTL
นาย
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้าโพสต์เฟซบุ๊ก
Thanathorn Juangroongruangkit ถ่ายทอดเรื่องราวที่เขา และเพื่อนร่วมทีมอีก 2 คน เข้าร่วมการแข่งขัน
UTMB PTL ศึกวิ่งเทรลรายใหญ่ของโลก ซึ่งมีระยะทาง 300 กิโลเมตร ความชันสะสม 25,000 เมตร จำกัดระยะเวลาการแข่งขัน 152.30 ชั่วโมงภายในเทือกเขามองต์ บลังค์ ประเทศฝรั่งเศส
ซึ่ง นาย
ธนาธร ได้ผ่านเวลาในการตัดตัว (Cut off) สุดท้ายสำเร็จแล้ว และเหลือระยะทางอีก 33 กิโลเมตร กับความชัน 2,200 เมตร กับเวลาอีก 14 ชั่วโมง ให้เขา และเพื่อนร่วมทีมจะพิชิตศึกวิ่งเทรลสุดยิ่งใหญ่ ผงาดเข้าเส้นชัยได้สำเร็จในวันพรุ่งนี้ช่วงบ่ายตามเวลาท้องถิ่นของฝรั่งเศส พร้อมจะสร้างประวัติศาสตร์เป็นทีมนักวิ่งเทรลไทยทีมแรกที่จบการแข่งขันในรายการ UTMB PTL ได้สำเร็จ
นาย
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ โพสต์ข้อความระบุว่า
“หนี cutoff สุดท้ายสำเร็จแล้ว – เหลือสิ่งเดียวที่ต้องทำคือเข้าเส้นชัย”
“ผม แอลวิน และซึง เข้าสถานีสุดท้ายก่อนเวลาตัดตัว 90 นาที”
“ช่วงเย็นวันนี้เราหลงทาง ทำให้เราเสียเวลาไปสองชั่วโมง และพลังงานไปอีกมาก จากเดิมเวลาที่เคยมีหลวมๆ เราต้องวิ่งหนีเวลาตัดตัว”
“เรารู้ตัวว่าหลงทางเมื่อตอนสองทุ่ม ต้องวิ่งระยะทาง 11 กิโลเมตร ความชัน 1,500 เมตร เพื่อถึงสถานีก่อนตีสาม เมื่อมาได้ถึงครึ่งทางผมง่วงมาก ขอเพื่อนหลับข้างทางด้วยกัน”
“เรานอนท่ามกลางความหนาวได้อยู่ครึ่งชั่วโมง จึงลุกมาวิ่งกันต่อ แอลวินลากเรา ผมวิ่งตามหลับๆ ตื่นๆ ก่อนเข้าสถานีตัดตัวสุดท้าย ที่กิโลเมตร 266 ของการแข่ง ที่เวลา 01.30 น.”
“ภาพที่เห็นคือภาพที่เรานั่งทานอาหารกันก่อนจะออกเดินทาง”
“วิ่งสนาม UTMB PTL มา 5 วัน 266 กิโลเมตร นอนวันละเฉลี่ย 2 ชั่วโมง ยืนยันได้ว่านี่คือสนามที่ยากที่สุดในโลก”
“อีก 33 กิโลเมตร กับความชัน 2,200 เมตร กับเวลา 14 ชั่วโมง ไม่มีอะไรขวางเรากับเส้นชัยอีกแล้ว พรุ่งนี้ช่วงบ่ายเวลาฝรั่งเศส เราจะเข้าเส้นชัย ในฐานะทีมไทยทีมแรกที่จบรายการ PTL สำเร็จ”
5 ปัจจัยเสี่ยงยานยนต์ไทย "สงคราม-ขาดชิป" ฉุดยอดผลิตปีนี้ 5 หมื่นคัน
https://www.bangkokbiznews.com/auto/1023393
ส.อ.ท.ชี้ปัจจัย "สงคราม-ขาดแคลนชิป" กระทบยอดผลิตรถยนต์ในไทย ลดเป้าทั้งปีลง 5 หมื่นคัน ห่วงปัจจัยเงินเฟ้อต่างประเทศกระทบกำลังซื้อฉุดตลาดส่งออก
กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ปรับประมาณการการผลิตรถยนต์ของสมาชิกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ฯ ในปี 2565 จาก 1.80 ล้านคัน เป็น 1.75 ล้านคัน ลดลง 50,000 คัน
ในจำนวนดังกล่าวปรับเป้าผลิตส่งออกลงจาก 1.0 ล้านคัน เป็น 900,000 คัน และปรับเป้าผลิตขายในประเทศขึ้นจาก 800,000 คัน เป็น 850,000 คัน โดยมีปัจจัยของการปรับยอดผลิตเพื่อส่งออกลดลง ดังนี้
1.สงครามยูเครน-รัสเซีย ที่เกิดขี้นปลายเดือน ก.พ.2565 คงยืดเยื้อนาน ทำให้การขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ที่มีมาตั้งแต่ต้นปีที่แล้วขาดแคลนมากขึ้น เพราะทั้งสองประเทศส่งออกรายใหญ่ก๊าซนีออนที่เป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งในการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ โดยผลจากสงครามยูเครน-รัสเซีย ทำให้การส่งออกรถยนต์ไปทั้งสองประเทศลดลงกว่า 20,000 คัน
2.การล็อกดาวน์เซี่ยงไฮ้ในเดือน เม.ย.-พ.ค.2565 ทำให้ขาดแคลนชิ้นส่วนและเซมิคอนดักเตอร์เพิ่มขึ้น เพราะโรงงานผลิตเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่อยู่ที่เซี่ยงไฮ้
3.ประเทศเมียนมาประกาศห้ามนำเข้ารถยนต์ เมื่อปลายเดือน ก.ค.2565 ทำให้ส่งออกรถยนต์ลดลงกว่า 2,000 คัน
4.ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ เช่น ไต้หวัน ตะวันออกกลาง เป็นต้น
5.อัตราเงินเฟ้อที่สูงมากและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ของประเทศชั้นนำของโลกอาจทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง ปัจจัยของการปรับยอดผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศเพิ่มขึ้น
สำหรับปัจจัยของการปรับยอดผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศเพิ่มขึ้น ประกอบด้วย
1.รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการการเข้าประเทศ ของนักท่องเที่ยวและนักลงทุนจากต่างประเทศสะดวกขึ้น ทำให้มีนักท่องเที่ยวและนักลงทุนเดินทางเข้าประเทศหลายล้านคน
2.การส่งออกยังคงเติบโตจากปีที่แล้ว ที่มูลค่าส่งออกทำสถิติสูงสุด ทำให้ประชาชนมีงานทำ มีรายได้เพิ่มขึ้น
3.รัฐบาลประกันรายได้สินค้าเกษตร รวม 5 ชนิด
4.รัฐบาลกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น เราเที่ยวด้วยกัน คนละครึ่ง การลดภาษีเงินได้นิติบุคคลด้วยการเพิ่มค่าใช้จ่ายการประชุม การจัดสัมมนา เป็นต้น
5.การผ่อนคลายการล็อกดาวน์เรื่องโควิด-19 ทำให้มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากขึ้น ประชาชนมีรายได้มากขึ้น และมีการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่
สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดง ประเภท BEV ในเดือน ม.ค.-ก.ค.2565 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้าจดทะเบียนใหม่สะสมมี 8,784 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 187.53% แบ่งเป็น
รถยนต์นั่ง รถประเภทต่างๆ และรถกระบะรถแวน มีทั้งสิ้น 3,618 คัน เพิ่มขึ้น 254.36% ส่วนใหญ่เป็นรถยนต์นั่ง รองลงมาเป็นรถกระบะและรถแวน รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คน และรถยนต์บริการธุรกิจ
รถยนต์สามล้อรับจ้างมีทั้งสิ้น 136 คัน เพิ่มขึ้น 312.12% ส่วนใหญ่เป็นรถยนต์รับจ้างสามล้อ รองลงมาเป็นรถยนต์สามล้อส่วนบุคคล
รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 4,963 คัน เพิ่มขึ้น 148.65% ส่วนใหญ่เป็นรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล รองลงมาเป็นรถจักรยานยนต์สาธารณะ
ส่วนยานยนต์ไฟฟ้าประเภท HEV ในเดือน ม.ค.-ก.ค.2565 จดทะเบียนใหม่สะสม 37,265 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันกับปีที่แล้ว 60.91% แบ่งเป็น
รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 37,023 คัน เพิ่มขึ้น 68.70% รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 242 คัน ลดลง 80.05%
ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท PHEV จดทะเบียนใหม่สะสมเดือน ม.ค.-ก.ค.2565 จำนวน 6,722 คัน เพิ่มขึ้น 63% โดยเป็นรถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ
ณ วันที่ 31 ก.ค.2565 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท HEV มีจำนวน 233,369 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 26.74% โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้
รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 224,539 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปีที่แล้ว 27.76% โดยส่วนใหญ่เป็นรถยนต์นั่ง 223,923 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปีที่แล้ว 27.92%
ส่วนยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท PHEV ณ วันที่ 31 ก.ค.2565 มีจำนวนทั้งสิ้น 37,842 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 34.09% โดยส่วนใหญ่เป็นรถยนต์นั่งมีจำนวน 37,779 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปีที่แล้ว 34.17%
JJNY : 'ตรีชฎา'ฉะรบ.ถูกศาลสั่งพักงานอื้อ│ธนาธรผ่านตัดตัวสุดท้ายวิ่งเทรล│5ปัจจัยเสี่ยงยานยนต์ไทย│รัสเซียลั่นไม่ยุติสงคราม
https://www.matichon.co.th/politics/news_3531535
‘ตรีชฎา’ ฉะ รัฐบาล ‘บิ๊กตู่’ ฉาว ทั้งนายกฯ-รมต.ถูกศาลสั่งพักงานอื้อ เหน็บ ตอนนี้เปลี่ยนมือจากน้องเล็กเป็นพี่ใหญ่ที่ไม่เคยรู้อะไรเลย ถาม จะบริหาร-แก้ปัญหาประเทศได้อย่างไร จวก ผู้คุม กม.กลายเป็นผู้ประทำผิดเอง แนะรีบลาออกเลือกนายกฯ ใหม่
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 28 สิงหาคม ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรค พท. กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ว่า พรรค พท. ขอขอบคุณเสียงส่วนใหญ่ของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่มีคำสั่งให้พล.อ.ประยุทธ์หยุดการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเป็นไปตามคำร้องของพรรคร่วมฝ่ายค้านที่ยื่นข้อเท็จจริง ในระหว่างที่รอกระบวนการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อชี้ชะตาชีวิตคนไทยทั้งประเทศ และตอนนี้ผู้นำรัฐบาลเปลี่ยนมือจากน้องเล็กมาเป็นพี่ใหญ่ที่ดูเหมือนจะไม่เคยรู้อะไรเลย แล้วจะบริหารประเทศอย่างไร จะแก้ปัญหาที่หมักหมมมาตลอด 8 ปีได้หรือไม่ เป็นเรื่องที่น่าห่วงกังวลและสิ้นหวังอย่างยิ่ง
น.ส.ตรีชฎา กล่าวต่อว่า ทั้งพี่ใหญ่ น้องกลางและน้องเล็กกอดคอร่วมหัวจมท้ายกันมานานกว่า 8 ปี พรรค พท. เห็นว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือรัฐบาล ขณะนี้เปรียบได้กับเป็ดง่อยพิกลพิการ ทำอะไรไม่ได้ องค์ประกอบของครม.ก็ขาดวิ่น มีรูโหว่เต็มไปหมดไม่ต่างจากกระชังก้นรั่ว โดยเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2564 ที่ผ่านมาได้มีการปลดร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) ออกจากรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และปลดนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ออกจากรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน แล้วก็ปล่อยตำแหน่งรัฐมนตรีให้ว่าง 2 ตำแหน่งมาเกือบปี ปล่อยให้การบริหารราชการแผ่นดินขาดตกบกพร่อง
ทั้งนี้ ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 สิงหาคมนี้ ศาลฎีกามีคำสั่งให้นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ หยุดปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการอีก และในวันที่ 14 กันยายนนี้ กรณีที่นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จะถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นจากรัฐมนตรีหรือไม่ เพราะถูกร้องว่าเคยถูกสั่งให้พ้นจากตำแหน่งนายก อบจ.สงขลา เพราะเกี่ยวพันกับการฮั้วประมูล
“ปัจจุบันเท่ากับว่าตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยของรัฐบาลเป็ดง่อยสภาพเตี้ยอุ้มค่อม ว่างอยู่ 3 ตำแหน่งสำคัญ และรอการพิจารณาว่าจะขาดไปอีก 1 ตำแหน่งหรือไม่ ทั้ง ครม. ที่คัดเลือกมาจากฝีมือของพล.อ.ประยุทธ์ ต่างคนต่างอยู่ ขาดเอกภาพ ไร้ประสิทธิภาพ ประเทศจึงเดินมาถึงจุดที่ไร้เสถียรภาพขั้นสูงสุด ผู้คุมกฎหมายกลายเป็นผู้ประทำผิดเอง จนกลายเป็นบ่อเกิดของระบบอุปถัมภ์ที่เฟื่องฟู การฝากฝังใช้เส้นสายกลายเป็นเครื่องหมายแสดงอำนาจ จนเกิดกรณี ส.ต.ท.หญิง ที่กลายเป็นเรื่องอื้อฉาวในแวดวงสีกากี ลามไปถึงวงการลายพรางในวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ควรเป็นนายกรัฐมนตรีสักวินาทีเดียว เพราะประชาชนไม่ได้เลือกท่านมา แต่สถานการณ์พาไป ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ ยอมรับในกฎหมายที่ตนเองแต่งตั้ง เป็นผู้ร่างกฎหมายขึ้นมาเอง สุดท้ายกฎหมายกลับมาบีบคั้นตัวพล.อ.ประยุทธ์เสียเอง ทางรอดของประเทศอยู่ที่ทางเลือกทางลงของพล.อ.ประยุทธ์ จะเลือกให้ตัวเองรอดหรือจะเลือกให้ประเทศและประชาชนรอดเท่านั้น” น.ส.ตรีชฎา กล่าว
ธนาธร ผ่านตัดตัวสุดท้าย จ่อเข้าเส้นชัยพาไทยทีมแรก พิชิตศึกวิ่งเทรล UTMB PTL
https://www.matichon.co.th/sport/news_3531417
ธนาธร ผ่านตัดตัวด่านสุดท้าย จ่อเข้าเส้นชัยพาไทยทีมแรก พิชิตศึกวิ่งเทรล UTMB PTL
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้าโพสต์เฟซบุ๊ก Thanathorn Juangroongruangkit ถ่ายทอดเรื่องราวที่เขา และเพื่อนร่วมทีมอีก 2 คน เข้าร่วมการแข่งขัน UTMB PTL ศึกวิ่งเทรลรายใหญ่ของโลก ซึ่งมีระยะทาง 300 กิโลเมตร ความชันสะสม 25,000 เมตร จำกัดระยะเวลาการแข่งขัน 152.30 ชั่วโมงภายในเทือกเขามองต์ บลังค์ ประเทศฝรั่งเศส
ซึ่ง นายธนาธร ได้ผ่านเวลาในการตัดตัว (Cut off) สุดท้ายสำเร็จแล้ว และเหลือระยะทางอีก 33 กิโลเมตร กับความชัน 2,200 เมตร กับเวลาอีก 14 ชั่วโมง ให้เขา และเพื่อนร่วมทีมจะพิชิตศึกวิ่งเทรลสุดยิ่งใหญ่ ผงาดเข้าเส้นชัยได้สำเร็จในวันพรุ่งนี้ช่วงบ่ายตามเวลาท้องถิ่นของฝรั่งเศส พร้อมจะสร้างประวัติศาสตร์เป็นทีมนักวิ่งเทรลไทยทีมแรกที่จบการแข่งขันในรายการ UTMB PTL ได้สำเร็จ
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ โพสต์ข้อความระบุว่า
“หนี cutoff สุดท้ายสำเร็จแล้ว – เหลือสิ่งเดียวที่ต้องทำคือเข้าเส้นชัย”
“ผม แอลวิน และซึง เข้าสถานีสุดท้ายก่อนเวลาตัดตัว 90 นาที”
“ช่วงเย็นวันนี้เราหลงทาง ทำให้เราเสียเวลาไปสองชั่วโมง และพลังงานไปอีกมาก จากเดิมเวลาที่เคยมีหลวมๆ เราต้องวิ่งหนีเวลาตัดตัว”
“เรารู้ตัวว่าหลงทางเมื่อตอนสองทุ่ม ต้องวิ่งระยะทาง 11 กิโลเมตร ความชัน 1,500 เมตร เพื่อถึงสถานีก่อนตีสาม เมื่อมาได้ถึงครึ่งทางผมง่วงมาก ขอเพื่อนหลับข้างทางด้วยกัน”
“เรานอนท่ามกลางความหนาวได้อยู่ครึ่งชั่วโมง จึงลุกมาวิ่งกันต่อ แอลวินลากเรา ผมวิ่งตามหลับๆ ตื่นๆ ก่อนเข้าสถานีตัดตัวสุดท้าย ที่กิโลเมตร 266 ของการแข่ง ที่เวลา 01.30 น.”
“ภาพที่เห็นคือภาพที่เรานั่งทานอาหารกันก่อนจะออกเดินทาง”
“วิ่งสนาม UTMB PTL มา 5 วัน 266 กิโลเมตร นอนวันละเฉลี่ย 2 ชั่วโมง ยืนยันได้ว่านี่คือสนามที่ยากที่สุดในโลก”
“อีก 33 กิโลเมตร กับความชัน 2,200 เมตร กับเวลา 14 ชั่วโมง ไม่มีอะไรขวางเรากับเส้นชัยอีกแล้ว พรุ่งนี้ช่วงบ่ายเวลาฝรั่งเศส เราจะเข้าเส้นชัย ในฐานะทีมไทยทีมแรกที่จบรายการ PTL สำเร็จ”
5 ปัจจัยเสี่ยงยานยนต์ไทย "สงคราม-ขาดชิป" ฉุดยอดผลิตปีนี้ 5 หมื่นคัน
https://www.bangkokbiznews.com/auto/1023393
ส.อ.ท.ชี้ปัจจัย "สงคราม-ขาดแคลนชิป" กระทบยอดผลิตรถยนต์ในไทย ลดเป้าทั้งปีลง 5 หมื่นคัน ห่วงปัจจัยเงินเฟ้อต่างประเทศกระทบกำลังซื้อฉุดตลาดส่งออก
กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ปรับประมาณการการผลิตรถยนต์ของสมาชิกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ฯ ในปี 2565 จาก 1.80 ล้านคัน เป็น 1.75 ล้านคัน ลดลง 50,000 คัน
ในจำนวนดังกล่าวปรับเป้าผลิตส่งออกลงจาก 1.0 ล้านคัน เป็น 900,000 คัน และปรับเป้าผลิตขายในประเทศขึ้นจาก 800,000 คัน เป็น 850,000 คัน โดยมีปัจจัยของการปรับยอดผลิตเพื่อส่งออกลดลง ดังนี้
1.สงครามยูเครน-รัสเซีย ที่เกิดขี้นปลายเดือน ก.พ.2565 คงยืดเยื้อนาน ทำให้การขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ที่มีมาตั้งแต่ต้นปีที่แล้วขาดแคลนมากขึ้น เพราะทั้งสองประเทศส่งออกรายใหญ่ก๊าซนีออนที่เป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งในการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ โดยผลจากสงครามยูเครน-รัสเซีย ทำให้การส่งออกรถยนต์ไปทั้งสองประเทศลดลงกว่า 20,000 คัน
2.การล็อกดาวน์เซี่ยงไฮ้ในเดือน เม.ย.-พ.ค.2565 ทำให้ขาดแคลนชิ้นส่วนและเซมิคอนดักเตอร์เพิ่มขึ้น เพราะโรงงานผลิตเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่อยู่ที่เซี่ยงไฮ้
3.ประเทศเมียนมาประกาศห้ามนำเข้ารถยนต์ เมื่อปลายเดือน ก.ค.2565 ทำให้ส่งออกรถยนต์ลดลงกว่า 2,000 คัน
4.ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ เช่น ไต้หวัน ตะวันออกกลาง เป็นต้น
5.อัตราเงินเฟ้อที่สูงมากและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ของประเทศชั้นนำของโลกอาจทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง ปัจจัยของการปรับยอดผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศเพิ่มขึ้น
สำหรับปัจจัยของการปรับยอดผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศเพิ่มขึ้น ประกอบด้วย
1.รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการการเข้าประเทศ ของนักท่องเที่ยวและนักลงทุนจากต่างประเทศสะดวกขึ้น ทำให้มีนักท่องเที่ยวและนักลงทุนเดินทางเข้าประเทศหลายล้านคน
2.การส่งออกยังคงเติบโตจากปีที่แล้ว ที่มูลค่าส่งออกทำสถิติสูงสุด ทำให้ประชาชนมีงานทำ มีรายได้เพิ่มขึ้น
3.รัฐบาลประกันรายได้สินค้าเกษตร รวม 5 ชนิด
4.รัฐบาลกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น เราเที่ยวด้วยกัน คนละครึ่ง การลดภาษีเงินได้นิติบุคคลด้วยการเพิ่มค่าใช้จ่ายการประชุม การจัดสัมมนา เป็นต้น
5.การผ่อนคลายการล็อกดาวน์เรื่องโควิด-19 ทำให้มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากขึ้น ประชาชนมีรายได้มากขึ้น และมีการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่
สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดง ประเภท BEV ในเดือน ม.ค.-ก.ค.2565 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้าจดทะเบียนใหม่สะสมมี 8,784 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 187.53% แบ่งเป็น
รถยนต์นั่ง รถประเภทต่างๆ และรถกระบะรถแวน มีทั้งสิ้น 3,618 คัน เพิ่มขึ้น 254.36% ส่วนใหญ่เป็นรถยนต์นั่ง รองลงมาเป็นรถกระบะและรถแวน รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คน และรถยนต์บริการธุรกิจ
รถยนต์สามล้อรับจ้างมีทั้งสิ้น 136 คัน เพิ่มขึ้น 312.12% ส่วนใหญ่เป็นรถยนต์รับจ้างสามล้อ รองลงมาเป็นรถยนต์สามล้อส่วนบุคคล
รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 4,963 คัน เพิ่มขึ้น 148.65% ส่วนใหญ่เป็นรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล รองลงมาเป็นรถจักรยานยนต์สาธารณะ
ส่วนยานยนต์ไฟฟ้าประเภท HEV ในเดือน ม.ค.-ก.ค.2565 จดทะเบียนใหม่สะสม 37,265 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันกับปีที่แล้ว 60.91% แบ่งเป็น
รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 37,023 คัน เพิ่มขึ้น 68.70% รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 242 คัน ลดลง 80.05%
ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท PHEV จดทะเบียนใหม่สะสมเดือน ม.ค.-ก.ค.2565 จำนวน 6,722 คัน เพิ่มขึ้น 63% โดยเป็นรถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ
ณ วันที่ 31 ก.ค.2565 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท HEV มีจำนวน 233,369 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 26.74% โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้
รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 224,539 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปีที่แล้ว 27.76% โดยส่วนใหญ่เป็นรถยนต์นั่ง 223,923 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปีที่แล้ว 27.92%
ส่วนยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท PHEV ณ วันที่ 31 ก.ค.2565 มีจำนวนทั้งสิ้น 37,842 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 34.09% โดยส่วนใหญ่เป็นรถยนต์นั่งมีจำนวน 37,779 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปีที่แล้ว 34.17%