JJNY :แรงงานหมดไฟ! รายได้ลด│พท.จี้สอบปม ส.ว.│‘ก้าวไกล’หวั่นร่างแก้ไขเวนคืนที่ดิน ถูกตีตก│กระแสกดดันหนัก "ลุงป้อม"เอาไง!

แรงงานหมดไฟ! หนี้เยอะ ค่าครองชีพพุ่ง แต่รายได้ลดลง
https://ch3plus.com/news/economy/morning/307750
 
 
 
นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒน์ เปิดเผยภาวะสังคมไทยไตรมาส 2 ของปีนี้ พบว่าการจ้างงานและชั่วโมงการทำงาน ปรับตัวดีขึ้น อัตราการว่างงานลดลง โดยมีผู้ว่างงาน 5.5 แสนคน คิดเป็น 1.37% จากระดับ 6.07 แสนคน ในช่วงไตรมาสก่อน โดยภาคเกษตรกรรม การผลิต ค้าส่งค้าปลีกและการขนส่ง มีอัตราการจ้างงานมากขึ้น ส่วนแรงงานภาคก่อสร้าง โรงแรม-ภัตตาคาร ยังมีอัตราการจ้างงานไม่เต็มที่ เนื่องจากความกังวลกับภาวะเศรษฐกิจที่ยังมีความไม่แน่นอนสูงมาก
 
อย่างไรก็ตาม ที่ยังน่าห่วงและภาครัฐควรให้ความสำคัญ คือ ผลกระทบจากเงินเฟ้อทำให้ค่าจ้างที่แท้จริงลดลง โดยเฉพาะแรงงานที่มีระดับการศึกษาไม่สูง การขาดแคลนแรงงานในภาคการผลิตและการก่อสร้าง และปัญหาการหมดไฟในการทำงาน โดยเฉพาะปัญหาการหมดไฟในการทำงานของพนักงานเอกชน ซึ่งเกิดจากปัญหาหนี้เยอะ ค่าครองชีพสูง แต่รายได้เท่าเดิม และลดลง
 
สะท้อนจากหนี้ครัวเรือน ที่พบว่า ในไตรมาสแรกของปีนี้ มีจำนวน 14.65 ล้านล้านบาท ขยายตัว 3.6% หรือ คิดเป็นสัดส่วนต่อจีดีพี 89.2% โดยหนี้สินเชื่อส่วนบุคคลฯ ขยายตัวสูงถึง 22.6% และสินเชื่อบัตรเครดิตขยายตัว 2.5% สะท้อนว่าครัวเรือน ยังมีปัญหาขาดสภาพคล่องอยู่



อย่าให้เหม็นทั้งข้อง! พท. จี้สอบปม ส.ว.เอี่ยว ส.ต.ท.หญิง เข้าข่ายแต่งตั้งโดยมิชอบ
https://www.khaosod.co.th/politics/news_7232734

ชลน่าน บี้ พรเพชร เร่งสอบปม ส.ว.ฝากคนรับราชการตร. ลั่นปลาเน่าตัวเดียว อย่าให้เหม็นทั้งข้อง จ่อนำเรื่องเข้า กมธ.ปราบโกง เข้าข่ายใช้อำนาจแต่งตั้งบุคคลมิชอบ
 
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 26 ส.ค.2565 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณี ส.ต.ท.หญิง  ทำร้ายร่างกายทหารหญิงรับใช้ยศ ส.ต. และกล่าวอ้างมีความเกี่ยวข้องกับส.ว. รวมถึงส.ว.ใช้อำนาจหน้าที่ฝากคนเป็นข้าราชการตำรวจว่า ต้องทำความจริงให้ปรากฏ ซึ่งเรื่องนี้นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ได้สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบแล้ว และเรื่องดังกล่าวส่งผลกระทบกับระบบโดยรวมเพราะสถาบันนิติบัญญัติ เป็นตัวแทนของประชาชน หากภาพเช่นนี้เกิดขึ้นจะทำให้ความเชื่อมั่น เชื่อถือลดลง โดยเฉพาะช่วงนี้เป็นช่วงเปราะบาง
 
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เรื่องนี้อยากให้ทุกคนช่วยกัน ไม่อยากให้ปลาเน่าตัวเดียว อย่าให้เหม็นทั้งข้อง ต้องพิสูจน์ให้ได้ เรื่องนี้ พรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญ หลังจากเกิดเหตุขึ้น ได้มอบให้นายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ ส.ส.กทม. ตั้งกระทู้ถามสด แต่คำตอบที่ได้รับก็เป็นไปตามระบบ ไม่ได้มีอะไรชัดเจนเกิดขึ้น สิ่งที่ซ่อนลึกอยู่ก็ยังไม่ได้รับการเปิดเผยขึ้นมา
 
นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า ทางที่จะเปิดเผยขึ้นมาได้ในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติคือ คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ซึ่งนายประเดิมชัย คงนำเรื่องนี้เข้ากมธ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ ที่เป็นกมธ.อยู่ เรื่องนี้เกิดขึ้นในลักษณะแต่งตั้งบุคคลมาโดยไม่ชอบ มีการทำหน้าที่ที่ไม่ชอบ ใช้อำนาจหน้าที่แต่งตั้งทหารมารับใช้ ซึ่งถือเป็นการทุจริต หากสอบมาได้ จะคลายปมภาพลบของฝ่ายนิติบัญญัติว่าเราจริงจังจริงใจในการทำหน้าที่นี้
เนื้อหาที่ได้รับการโปรโมต
  
เมื่อถามว่าส.ว.ควรมีกรอบในการสอบเรื่องนี้หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า โดยข้อบังคับไม่มีเรื่องของกรอบเวลา ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง นายพรเพชรและผู้ที่ได้รับมอบหมายแต่งตั้งให้สอบข้อเท็จจริง คงสอบให้เสร็จโดยเร็ว ส่วนจะเร็วแค่ไหนนั้น กลไกอยู่ที่วิธีการปฏิบัติของคณะกรรมการที่แต่งตั้ง หากเรื่องนี้เป็นเรื่องด่วน ประธานคณะกรรมการที่ได้รับแต่งตั้งให้สอบเรื่องนี้ก็มีสิทธิที่จะเรียกประชุมได้ 



‘ก้าวไกล’ หวั่น ร่างแก้ไขเวนคืนที่ดิน ถูกนายกฯ ตีตก หลังตีความเป็นกฎหมายการเงิน
https://www.matichon.co.th/politics/news_3528477

เมื่อเวลา 11.10 น. วันที่ 26 สิงหาคม ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล (ก.ก.) แถลงว่า ในวันนี้ (26 สิงหาคม) ได้มีการประชุมร่วมกันของประธานกรรมาธิการ (กมธ.) 35 คณะ โดยมีนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เป็นประธานในที่ประชุม ซึ่งมีประเด็นที่ตนได้ทำหนังสือคัดค้านตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญว่า เนื่องจากประธานมีคำวินิจฉัยว่า ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขเพิ่มเติมว่าด้วยการเวนคืนที่ดิน ที่พรรค ก.ก. ได้เสนอเข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรนั้น เป็น พ.ร.บ.ว่าด้วยการเงิน
 
นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ร่างที่เราได้เสนอเพิ่มเติมเป็นร่างแก้ไขเพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นผู้มีอำนาจในการริเริ่มกระบวนการในการเวนคืนที่ดินได้ แทนที่จะต้องกระทำผ่านคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยการตราเป็นพระราชกฤษฎีกาเท่านั้น จึงได้นำเรียนว่าร่างที่พวกเราเสนอนั้นไม่ได้หมายความว่า ท้องถิ่นจะต้องเวนคืนที่ดินเองหรือต้องใช้เงินของท้องถิ่นเอง แต่เราต้องการเพิ่มอำนาจให้ท้องถิ่น สามารถอนุมัติโครงการได้เท่านั้น ซึ่งเจ้าของโครงการที่จะทำโครงการต่างๆ อาจจะหน่วยงานของรัฐใดๆ ก็ได้ ที่เป็นเจ้าของงบประมาณนั้น แต่ไม่ต้องไปขออนุมัติที่ ครม.อย่างเดียว สามารถไปขออนุมัติที่ท้องถิ่นก็ได้ ตามหลักการการกระจายอำนาจ
 
“ซึ่งเรื่องนี้พรรค ก.ก. ได้ทำการศึกษาร่วมกับสำนักวิชาการสภา โดยเห็นโมเดลในต่างประเทศ จึงเป็นประเด็นที่ได้ชี้แจงและคัดค้านว่าการอนุมัติการริเริ่มกระบวนการเวนคืนที่ดินนั้น ไม่ได้เป็นภาระทางงบประมาณเพิ่มขึ้น จึงไม่ควรเป็นร่างการเงิน” นายณัฐพงษ์กล่าว
 
นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ผลการลงมติในวันนี้มีผู้เข้าร่วมประชุมทั้งหมด 28 คน โดยไม่นับรวมนายชวน จึงคิดแค่ 27 คน ทั้งนี้ สมาชิก 21 คน ลงความเห็นว่าร่างกฎหมายดังกล่าว เป็นร่างการเงิน และลงความเห็นว่าไม่เป็นร่างการเงินจำนวน 6 คน ซึ่งขั้นตอนต่อไปคือการส่งต่อร่างกฎหมายฉบับนี้ไปที่นายกรัฐมนตรี ว่าจะเห็นชอบหรือไม่ อย่างไรก็ตามตนเสียดาย เพราะเราผลักดันเรื่องการกระจายอำนาจผ่านร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ แต่อาจจะถูกตีตก เหมือนกับร่างกฎหมายที่พรรค ก.ก. เคยเสนอ ที่ทุกครั้งก็จะถูกตีตกโดยนายกฯ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่